วอนช่วย ASTV ชี้ระงับออกอากาศเท่ากับถูกปิดถาวร- ส่งผลกระทบการหารายได้เลี้ยงองค์กรและพนักงานกว่า 600 ชีวิต

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000057612
“ปานเทพ” เผย คสช. สั่งห้ามเอเอสทีวีออกอากาศ ส่งผลกระทบการหารายได้เลี้ยงองค์กรและพนักงานกว่า 600 ชีวิต การระงับสัญญาณอย่างไม่มีกำหนด อาจส่งผลถึงปิดกิจการถาวร วอนสนับสนุนสินค้าหรือช่วยบริจาค หากยังต้องการให้เอเอสทีวีทำหน้าที่ต่อไป ด้านแฟนประจำบุกชูป้ายหน้าสถานีเรียกร้องกลับมาออกอากาศ
       
       วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.58 น. ที่ผ่านมา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่นที่ 2 และพิธีกรเอเอสทีวี ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในหัวข้อ “มาช่วยรักษา ASTV ในภาวะวิกฤต” ว่า ลำพังในภาวะปกติ ASTV ก็อยู่ได้ยากอยู่แล้วในทางธุรกิจที่ต้องทำอาชีพสื่อมวลชนที่รายงานความจริงโดยปราศจากการครอบงำ หรือมีอิทธิพลจากพรรคการเมืองใด หรือกลุ่มทุนทางธุรกิจใด โดยมีจุดยืนอยู่บนผลประโยชน์ของชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชน มาโดยตลอดเป็นที่ประจักษ์
       
       ASTV จึงย่อมไม่ใช่อุปสรรคใดๆ หากการรัฐประหารในครั้งนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชน ในทางตรงกันข้าม ASTV กลับจะเป็นแนวร่วมของกองทัพได้ในการรายงานความจริงเพื่อเอาชนะความเท็จ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทยได้อย่างแท้จริง เพราะเราเชื่อว่าความเท็จไม่สามารถเอาชนะด้วยความเงียบและปิดกั้นคนทุกกลุ่มได้ แต่ความเท็จต้องเอาชนะด้วยความจริงเท่านั้น สังคมจึงจะเกิดความสงบและเป็นปกติสุขบนความคิดที่แตกต่างกันได้
       
       แต่เมื่อคณะรัฐประหารที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตัดสินใจระงับการถ่ายทอดออกอากาศสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV อย่างไม่มีกำหนดระยะเวลา แม้ ASTV จะให้ความร่วมมือระงับการถ่ายทอดออกอากาศมาตลอดตั้งแต่การประกาศกฎอัยการศึกก็ตาม แต่ ASTV ก็เป็นองค์กรที่ไม่ได้มีสายป่านยาวที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนทางการเมืองใด ต่างจากสื่อที่ก่อตั้งเพื่อเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองและนักการเมือง การระงับสัญญาณครั้งนี้จึงทำให้ ASTV ไม่สามารถดำเนินกิจการและหารายได้เพื่อหล่อเลี้ยงองค์กรและพนักงานกว่า 600 ชีวิตได้ ย่อมได้รับความเสียหายต่อรายได้และสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรงจนถึงอาจต้องปิดกิจการลงในที่สุด การระงับการออกอากาศอย่างไม่มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ หรือแม้กระทั่งไม่ตอบสนองการปรับผังรายการที่ ASTV เสนอการระงับการวิเคราะห์วิจารณ์ทางการเมือง หากสถานการณ์เช่นนี้ยังคงดำรงอยู่ต่อไปก็เท่ากับเป็นการปิดกิจการ ASTV ให้ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ทางธุรกิจอย่างถาวรนั่นเอง
       
       “ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนยังคงต้องการสนับสนุนเพื่อรักษาอุดมการณ์ของ ASTV รักษาคนทำงานที่มีอุดมการณ์ใน ASTV ให้สามารถอยู่รอดได้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ต่อไป ขอความกรุณาทุกท่านช่วยกันสนับสนุนสินค้าของ ASTV หรือบริจาคเงินช่วย ASTV ให้ดำรงอยู่รอดและฝ่าฟันวิกฤตในช่วงเวลานี้ให้ได้ และหากพี่น้องประชาชนสนับสนุนเราต่อไป ก็เชื่อมั่นว่า ASTV จะสามารถฝ่าฟันวิกฤตครั้งที่ร้ายแรงที่สุดครั้งนี้ได้อีกคราหนึ่ง แต่หากเราไม่สามารถที่จะฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปได้ก็อาจถึงคราวจำเป็นที่ ASTV ต้องยุติลงอันเป็นผลจากคำสั่งจากรัฐประหารครั้งนี้ ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้โอกาสเรามาตลอดและไม่มีอะไรต้องเสียใจเพราะเราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว” นายปานเทพระบุ
       
       อนึ่ง วันนี้ ได้มีแฟนประจำของเอเอสทีวีเดินทางมาเรียกร้องให้เอเอสทีวีได้ออกอากาศตามปกติ พร้อมวางป้ายที่หน้าสำนักงานเอเอสทีวี บ้านเจ้าพระยา ข้อความว่า “จะกี่ร้อยเก้าสิบสามวัน หรือนับหมื่นพันแสนปี ไม่มีผู้จงรักภักดียิ่งกว่านี้ “สนธิ ยามเฝ้าราชบัลลังก์””
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่