วันประกาศรัฐประหาร
-------------------------
ค่าแท๊กซี่ 120 บาทจากหน้าซอยประดิพัทธิ์ 17 นั่งมาได้แค่ ก่อนซอยอารีย์ ผมตัดสินใจลงต่อรถไฟฟ้า แต่รถไฟฟ้าก็อัดแน่นหลายคันกว่าจะได้ขึ้น มากทั้งคนรอ มากทั้งคนอยู่ในรถ มักมีสิ่งดีดีในเวลาที่เลวร้ายเสมอชีวิตเรา ชายหนุ่มคนเดียวผู้ไม่ใส่ใจสมาร์ทโฟนบนรถไฟฟ้าแต่ใส่ใจเพื่อนมนุษย์ หันมามองผมอยู่หลายครั้งพร้อมกับลุกและเรียกให้ผมนั่ง อาจเพราะเห็นสัมภาระที่หนักอึ้งบนร่างกายที่ผมหอบหิ้ว ผมปฏิเสธหนุ่มน้อยวัยทำงานหน้าตาเนิร์สเนิร์สแบบเกรงใจ
.
แต่สายไป..!! ขณะผมขอบคุณน้องคนนั้นอยู่และกำลังพยายามเบียดตัวลงนั่ง เพราะมีหญิงสาวผู้ไม่ละสายตา
จากสมาร์ทโฟน เสียบก้นลงไปแทนแล้ว
.
ชายหนุมกับชายใหญ่ยืนมองหน้ากัน...
ลงสยามแค่เบียดออกจากรถไฟยังยากเลย พยายามเบียดตัวเองเพื่อนั่งกลับไปขึ้นต้นสายที่สนามกีฬา เพราะสยามไม่มีพื้นที่ยืน คงไม่ใช่แค่เราที่คิดและทำเช่นนั้น
.
ณ สถานีสนามกีฬา เสียงประกาศถี่ๆจาก จนท.รถไฟฟ้าว่า รถไฟฟ้าจะให้บริการถึงแค่ 3 ทุ่ม ตอนนี้จะ 2 ทุ่มแล้วทั้งด้านบนและล่างสถานี ผู้คนเบียดเสียกันจนไม่มีที่จะยืนไม่ต้องพูดถึงสถานีสยาม 3 ทุ่มจะหมดหรือ ซึ่งตอนที่นั่งแท๊กซี่จากประดิพัทธิ์เสียงประกาศทางวิทยุ ก่อนที่จะโดนควบคุมการออกอากาศบอกว่าเคอร์ฟิวส์แค่ 4 ทุ่ม
.
รถไฟฟ้าหนักอึ้งโยกเยกไปมาจนถึงบางหว้า ทุกสถานีระหว่างทางจะมีคนผิดหวังระหว่างการขอขึ้นและขอลง หลายคนจึงต้องติดขบวนมาด้วย
.
พื้นที่ด้านล่างของการรอเดินทางต่อ ทั้งแท๊กซี่และรถประจำทาง สัมภาระเยอะขนาดนี้ อีกชั่วโมงก็คงไม่ได้ขึ้น หลังทักทายคุณวสันต์จักรยานโบราณ ที่เคยพูดคุยกันทางเฟชบุ๊ค ผมเบียดผู้คนเดินย่นระยะทางมาทางซีคอน บางแค ได้สักสองป้ายพอหายใจออกบ้าง แต่ก็นั่นแหละแท๊กซี่คันแล้วคันเล่า ก็จะถูกคนที่คิดเหมือนผมแต่มายืนดักหน้าผม(มาทีหลัง) เรียกก่อน
.
ร่วมหนึ่งชั่วโมงผ่านไปก็มีแท๊กซี่ที่ผมเห็นจอดปฏิเสธมาหลายคน ผมโบกแบบขวางๆพร้อมเปิดประตูขึ้นรถอย่างทุลักทุเล...
โดยไม่ให้คนขับได้ทันปฏิเสธ
.
ผม. ไปเพชรเกษม 69 หนองแขม
คนขับ. ผมกำลังจะเข้าบ้านครับพี่ กลัวไม่ทัน 4 ทุ่ม คนขับที่ใส่เสื้อยืดเก่าๆไม่สวมเสื้อสีฟ้าตามระเบียบผู้ขับรถสาธารณะตอบ
ผม. ดีดี ไปด้วยกัน
.
พอรถออกก็ร่ายเรื่องการเมืองขึ้นมาเลยยาวเหยียด พร้อมประโยคคำถามตอนท้ายว่า สิ้นเดือนจะจบไหม?
.
ผมไม่ตอบหรอกครับ เพราะผมควรเก็บแรงไว้หายใจจากความเหน็ดเหนื่อยดีกว่า
ถึงจะใช้เวลานานแค่ไหนจากบางหว้ามาหนองแขม เพราะรถติดไม่ต่างจากในเมือง แต่ผมก็พาตัวเองและสัมภาระกลับมาจนถึงบ้านได้ ผมว่าผมยังโชคดีกว่าอีกหลายคนแน่ๆ
.....................................................................
ผมเรียกแท็กซี่จากประดิพัทธิ์เพื่อไปสนามกีฬา หลังเหตุการณ์เพื่อนๆหลายคนถามผมว่า ทำไมถึงขึ้นแท๊กซี่ล่ะก็รู้ว่ารถมันติด ผมตอบว่าหลังเสร็จงานผมเหนื่อยจริงๆเพราะสัมภาระมันเยอะเกินไป ผมหอบหิ้วสัมภาระเกี่ยวกับการถ่ายทำพร้อมเสื้อผ้าออกจากบ้านมาสองวัน เพื่อมาถ่ายทำวีดิโอและภาพนิ่ง รวมถึงการเป็นพี่เลี้ยงการอบรมการเขียนแผนเพื่อรับทุนของชุมชนสุขภาวะร้อยกว่าชุมชนทั่วประเทศ ของ สสส. ฟรีๆพร้อมกับน้องๆที่มีเงินเดือนทุกคน
.
ผมบอกตัวเองเบาๆหลังทิ้งตัวลงบนที่นอนด้วยความอ่อนล้า “ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายนะวีโนโน่”
ก่อนเสียงของ ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์
ที่เคยให้โอวาทพวกเราทีมชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จะก้องเข้ามาในหัว
”ให้คิดว่าพวกเราทำเพื่อชาตินะ”
[CR] วันประกาศรัฐประหาร
วันประกาศรัฐประหาร
-------------------------
ค่าแท๊กซี่ 120 บาทจากหน้าซอยประดิพัทธิ์ 17 นั่งมาได้แค่ ก่อนซอยอารีย์ ผมตัดสินใจลงต่อรถไฟฟ้า แต่รถไฟฟ้าก็อัดแน่นหลายคันกว่าจะได้ขึ้น มากทั้งคนรอ มากทั้งคนอยู่ในรถ มักมีสิ่งดีดีในเวลาที่เลวร้ายเสมอชีวิตเรา ชายหนุ่มคนเดียวผู้ไม่ใส่ใจสมาร์ทโฟนบนรถไฟฟ้าแต่ใส่ใจเพื่อนมนุษย์ หันมามองผมอยู่หลายครั้งพร้อมกับลุกและเรียกให้ผมนั่ง อาจเพราะเห็นสัมภาระที่หนักอึ้งบนร่างกายที่ผมหอบหิ้ว ผมปฏิเสธหนุ่มน้อยวัยทำงานหน้าตาเนิร์สเนิร์สแบบเกรงใจ
.
แต่สายไป..!! ขณะผมขอบคุณน้องคนนั้นอยู่และกำลังพยายามเบียดตัวลงนั่ง เพราะมีหญิงสาวผู้ไม่ละสายตา
จากสมาร์ทโฟน เสียบก้นลงไปแทนแล้ว
.
ชายหนุมกับชายใหญ่ยืนมองหน้ากัน...
ลงสยามแค่เบียดออกจากรถไฟยังยากเลย พยายามเบียดตัวเองเพื่อนั่งกลับไปขึ้นต้นสายที่สนามกีฬา เพราะสยามไม่มีพื้นที่ยืน คงไม่ใช่แค่เราที่คิดและทำเช่นนั้น
.
ณ สถานีสนามกีฬา เสียงประกาศถี่ๆจาก จนท.รถไฟฟ้าว่า รถไฟฟ้าจะให้บริการถึงแค่ 3 ทุ่ม ตอนนี้จะ 2 ทุ่มแล้วทั้งด้านบนและล่างสถานี ผู้คนเบียดเสียกันจนไม่มีที่จะยืนไม่ต้องพูดถึงสถานีสยาม 3 ทุ่มจะหมดหรือ ซึ่งตอนที่นั่งแท๊กซี่จากประดิพัทธิ์เสียงประกาศทางวิทยุ ก่อนที่จะโดนควบคุมการออกอากาศบอกว่าเคอร์ฟิวส์แค่ 4 ทุ่ม
.
รถไฟฟ้าหนักอึ้งโยกเยกไปมาจนถึงบางหว้า ทุกสถานีระหว่างทางจะมีคนผิดหวังระหว่างการขอขึ้นและขอลง หลายคนจึงต้องติดขบวนมาด้วย
.
พื้นที่ด้านล่างของการรอเดินทางต่อ ทั้งแท๊กซี่และรถประจำทาง สัมภาระเยอะขนาดนี้ อีกชั่วโมงก็คงไม่ได้ขึ้น หลังทักทายคุณวสันต์จักรยานโบราณ ที่เคยพูดคุยกันทางเฟชบุ๊ค ผมเบียดผู้คนเดินย่นระยะทางมาทางซีคอน บางแค ได้สักสองป้ายพอหายใจออกบ้าง แต่ก็นั่นแหละแท๊กซี่คันแล้วคันเล่า ก็จะถูกคนที่คิดเหมือนผมแต่มายืนดักหน้าผม(มาทีหลัง) เรียกก่อน
.
ร่วมหนึ่งชั่วโมงผ่านไปก็มีแท๊กซี่ที่ผมเห็นจอดปฏิเสธมาหลายคน ผมโบกแบบขวางๆพร้อมเปิดประตูขึ้นรถอย่างทุลักทุเล...
โดยไม่ให้คนขับได้ทันปฏิเสธ
.
ผม. ไปเพชรเกษม 69 หนองแขม
คนขับ. ผมกำลังจะเข้าบ้านครับพี่ กลัวไม่ทัน 4 ทุ่ม คนขับที่ใส่เสื้อยืดเก่าๆไม่สวมเสื้อสีฟ้าตามระเบียบผู้ขับรถสาธารณะตอบ
ผม. ดีดี ไปด้วยกัน
.
พอรถออกก็ร่ายเรื่องการเมืองขึ้นมาเลยยาวเหยียด พร้อมประโยคคำถามตอนท้ายว่า สิ้นเดือนจะจบไหม?
.
ผมไม่ตอบหรอกครับ เพราะผมควรเก็บแรงไว้หายใจจากความเหน็ดเหนื่อยดีกว่า
ถึงจะใช้เวลานานแค่ไหนจากบางหว้ามาหนองแขม เพราะรถติดไม่ต่างจากในเมือง แต่ผมก็พาตัวเองและสัมภาระกลับมาจนถึงบ้านได้ ผมว่าผมยังโชคดีกว่าอีกหลายคนแน่ๆ
.....................................................................
ผมเรียกแท็กซี่จากประดิพัทธิ์เพื่อไปสนามกีฬา หลังเหตุการณ์เพื่อนๆหลายคนถามผมว่า ทำไมถึงขึ้นแท๊กซี่ล่ะก็รู้ว่ารถมันติด ผมตอบว่าหลังเสร็จงานผมเหนื่อยจริงๆเพราะสัมภาระมันเยอะเกินไป ผมหอบหิ้วสัมภาระเกี่ยวกับการถ่ายทำพร้อมเสื้อผ้าออกจากบ้านมาสองวัน เพื่อมาถ่ายทำวีดิโอและภาพนิ่ง รวมถึงการเป็นพี่เลี้ยงการอบรมการเขียนแผนเพื่อรับทุนของชุมชนสุขภาวะร้อยกว่าชุมชนทั่วประเทศ ของ สสส. ฟรีๆพร้อมกับน้องๆที่มีเงินเดือนทุกคน
.
ผมบอกตัวเองเบาๆหลังทิ้งตัวลงบนที่นอนด้วยความอ่อนล้า “ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายนะวีโนโน่”
ก่อนเสียงของ ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์
ที่เคยให้โอวาทพวกเราทีมชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จะก้องเข้ามาในหัว
”ให้คิดว่าพวกเราทำเพื่อชาตินะ”