คืออตอนแรกน้าชายของฉันไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็ง จนเมื่อสงกราน์ปี56ที่ผ่านมา มีอาการปวดท้องขั้นรุนแรง ตัวเหลือง น้ำหนักลดลงถึง10โลในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ และถ่ายเป็นสีขาว พอเราเห็นอาการน้าชายฉันเป็นแบบนี้ก็ตกใจมาก จึงรีบพาน้าชายไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตอนแรกหมอหาสาเหตุไม่พบ จึงแค่ให้ยากลับมากินที่บ้าน พอน้าชายเฉันกินไปในสัปดาห์ที่2 อาการยังไม่ดีขึ้นจึงกลับไปหาหมออีกรอบ ซึ่งรอบนี้หมอแนะนำให้ส่องกล้องทั้งกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ ผลตรวจที่ออกมายังไม่พบสาเหตุอีก คุณหมอเลยให้ทำ CT/SCANช่องท้อง ผลออกมารอบนี้ทำน้าชายกับครอบครัวฉันตกใจมาก เพราะเจอก้อนเนื้องอก 5.5เซนอยู่ที่หัวตับอ่อนติดเส้นเลือดใหญ่ คุณหมอวินิจฉัยว่า90%เป็นโรคมะเร็งตับอ่อน ทำให้ฉันช็อคมาก น้าชายฉันถึงกับเข่าอ่อนน้ำตาไหล เพราะน้าชายฉันไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่กับครอบครัวของฉัน น้าชายเหมือนทั้งพี่และพ่อ ฉันสงสารน้าชายมาก จึงรีบถามคุณหมอว่าต้องทำการรักษาอย่างไงต่อ คุณหมอเลยบอกว่า เคสแบบนี้ร้ายแรงมากเพราะก้อนเนื้ออยู่ติดกับเส้นเลือดใหญ่ไม่สามารถผ่าตัดเอาเนื้อร้ายนี้ออกได้ ถือได้ว่าเป็นเจ้าแห่งโรคมะเร็งเลยก็ว่าได้ ไม่ตอบสนองกับการรักษาแบบเคมีบำบัดและฉายรังสี และบอกว่าน้าชายอยู่กับเราได้เพียง3-6เดือน พวกเรายิ่งเศร้าใจมากและทำอะไรไม่ถูกตามๆกัน แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้กับโรคร้ายนี้ ฉันเลยหาข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เน็ต และเห็นในเว็บไซต์นึงคล้ายๆกับเคสน้าชายฉัน เป็นประสบการณ์ในการรักษาที่โรงพยาบาลฟูด้าประเทศจีน และการรักษาค่อนข้างมีผลตอบรับที่ดี ณ วินาทีนี้เราไม่มีทางเลือกทางไหนเลย เราต้องลองทุกทาง ฉันเลยโทรไปปรึกษาสำนักงานโรงพยาบาลฟูด้าที่ประเทศไทย และทางสำนักงานแนะนำว่าทางโรงพยาบาลฟูด้าสามารถใช้ความเย็นรักษาได้ จึงพาน้าชายฉันเข้าไปปรึกษาที่สำนักงานกับหมอโดยตรง คุณหมอบอกว่าสามารถรักษาได้โดยการใช้ความเย็นในการรักษา แต่ไม่รับประกันว่าจะหายหรือเปล่า ถึงแม้ว่าจะรักษาหายหรือไม่หาย อย่างน้อยก็ยังมีทางเลือกในการรักษา น้าชายฉันเลยตัดสินใจที่จะทำการรักษาที่โรงพยาบาลฟูด้าที่จีน วันแรกที่ไปถึงโรงพยาบาลฟูด้า ทางคุณหมอให้น้าชายฉันตรวจร่างกายก่อน พอผลตรวจออกมาคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลประชุมกันเพื่อวางแผนทำการรักษา ซึ่งผลการสรุปในการรักษาคือ ใช้ความเย็นจี้และฝั่งแร่ด้วย น้าฉันเริ่มทำการรักษา เข้าห้องผ่าตัดทำการรักษา2ชั่วโมงและหลังจากนั้นคืนแรกก็นอนที่ห้องไอซียู1คืน พอวันต่อมาถึงย้ายมาพักที่ห้องผู้ป่วยธรรมดา จากนั้นก็เฝ้ารอดูผลการรักษา อาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ คุณหมอเลยให้คีโมเฉพาะจุดต่อเนื่องเพื่อจัดการกับเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่ คีโมเฉพาะจุดที่นี่ดีมากค่ะ ผลข้างเคียงน้อย หลังจากที่อาการน้าชายดีขึ้นเรื่อยๆคุณหมออนุญาตพากลับมาที่เมืองไทย และแนะนำว่าหลังจาก1เดือนให้ไปตรวจผลที่โรงพยาบาลฟูด้าอีกรอบ ผลประกฎว่าตรวจพบว่าก้อนมะเร็งตายไป80% ค่ามะเร็งลดลง CA 19-9 เกือบปกติ พอเห็นผลแค่นั้นแหละ พวกเราดีใจกันมาก อาการปวดท้องหายไป ตัวไม่เหลือง ถ่ายปกติ และกินอาหารได้มากขึ้น อย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากรักษาทางโรงพยาบาลฟูด้าครั้งแรก คุณหมอแนะนำว่าให้กลับไปรับคีโมอีก2ครั้ง ถึงจะจบการรักษา เพื่อที่ว่าไม่ให้กลับมาเป็นก้อนเนื้อใหญ่อีก และต้องกลับไปฉีดวัดซีนป้องกันมะเร็งทุกๆ6เดือน ผลตอนนี้ผ่านมาแล้วเกือบปีกว่าๆ น้าชายเราก็ยังอยู่กับเรา และยังใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข เพราะกำลังใจจากครอบครัวก็เป็นสิ่งนึงที่สำคัญที่สุด ทั้งนี้เราต้องขอบคุณเพื่อนที่แชร์ประสบการณ์ทำให้เราได้รู้จักโรงพยาบาลฟูด้า และต้องขอบคุณทางโรงพยาบาลฟูด้าและคณะแพทย์ทุกๆคน โดยเฉพาะคุณหมอหนิวที่ทำการรักษาทำความเย็นอย่างดีและคอยดูแลตลอดระยะเวลาในการรักษา ทั้งนี้ฉันจึงอยากขอแชร์ประสบการณ์ต่อ เผื่อเพื่อนๆคนไหนกำลังต่อสู้กับโรคร้ายนี้ และอาจเจอปัญหาเดียวกับน้าชายเรา