เรื่องเพิ่งเกิดสดๆร้อนๆวันนี้เลยค่ะ เราเรียกแท๊กซี่จากหน้าตึกซีพีที่สีลม เวลาบ่ายสามโมงค่ะ ไปที่แถวนราธิวาส ขึ้นแท๊กซี่สีเขียวเหลือง

ระหว่างทางก็ปกติดีค่ะไม่มีอะไรที่บ่งบอกได้ว่าการนั่งแท๊กซี่ครั้งนี้จะโดนโกง พอใกล้ถึงที่หมายในซอยที่เราไปนั้นรถติดค่ะ เราก็โทรคุยกับเพื่อนว่าจะถึงแล้วรถติดอยู่กลางซอยเพื่อนเราที่รออยู่ก็เร่งเราเพราะร้อน รอนานแล้ว เราก็บอกเพื่อนค่ะว่าใกล้ถึงแล้วกำลังรีบอยู่ แล้วก็วางไปค่ะ ซึ่งคนขับก็ต้องได้ยินบทสนทนาที่เราคุยกับเพื่อนค่ะ

พอใกล้ถึงที่หมายถึงเพื่อนเราก็โทรตามอีก พอถึงค่าแท็กซี่ทั้งหมด 67บาทค่ะด้วยความที่กำลังรีบและคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่ด้วยจึงไม่ได้มองแบงค์ที่จ่ายไปค่ะ(ตรงนี้โทษว่าเป็นความไม่รอบคอบของเราเอง) คิดว่าจ่ายแบงค์100ไปค่ะ รับเงินทอนมา 30บาทแล้วก็รีบไปหาเพื่อนค่ะ

เรามารู้ตัวอีกทีตอนเย็นว่าแบงค์ 500 ในกระเป๋าหายไปเหลือแต่แบงค์ร้อยซึ่งแบงค์ร้อยนั้นอยู่ครบทุกใบ นั่นก็หมายความว่าตอนจ่ายเงินค่าแท็กซี่นั้นเราจ่ายแบงค์500 ไปไม่ใช่แบงค์ร้อยอย่างที่เราคิดและแท็กซี่ก็ทอนเงินให้เราไม่ครบค่ะขาดไป 400บาท โดนไม่มีการทักท้วงใดๆจากแท็กซี่หรือการบอกว่าเรารับเงินทอนไม่ครบเลยค่ะ เขาขับออกไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราคิดว่าเค้าน่าจะเห็นว่าเรารีบและหากเรารู้ตัวตอนนั้นคงจะบอกแค่เพียงว่าขอโทษหรือดูแบงค์ผิดแต่ถ้าหากเราไม่ทันเช็คแบบครั้งนี้เค้าก็จะได้ค่าแท็กซี่ไปถึง 470บาท ในระยะทางแค่ไม่กี่กิโลเมตร เรารู้ตัวช้ามากและด้วยความที่เห็นว่าเป็นตอนกลางวันจึงไม่ได้จดเลขทะเบียนไว้

อยากจะเตือนให้เพื่อนๆรอบคอบ ตรวจเช็คเงินทอนให้ดีอย่ารีบรับแล้วมายัดใส่กระเป๋าส่งๆแบบเรา ตอนเรารู้ตัวเราโกรธมากค่ะทั้งโกรธตัวเอง โกรธแท็กซี่ โกรธไปหมด คนในสังคมเดี๋ยวนี้จ้องจะฉวยโอกาสกันมาก เข้าใจว่าเงินทองหายากค่ะแต่การมาฉวยโอกาสหาช่องว่างโกงกับคนอื่นนี่ก็เป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายมาก เราคิดว่าเราคงไม่เหยื่อคนเดียวแน่ๆ ยังไงก็ระวังกันด้วยนะคะ ไม่ได้เหมารวมนะคะแท็กซี่ดีๆก็มีอยู่มากแต่เพียงแค่วันนี้เราเจอไม่ดีค่ะ