สังคมหน้ากาก

หนังสือที่เราอ่านเพื่อความมบันเทิงหลายเล่มแอบแฝงแง่คิดการใช้ชีวิตเอาไว้หลายบทหลายตอน วันนี้อยากขอยกตัวอย่างวรรณกรรมไทยที่พอบอกชื่ออย่างหัวขโมยบารามอส หลายคนที่เป็นหนอนหนังสือคงร้องอ๋อกันทีเดียว เพราะมีทั้งความฮา ความบ้าและความซึ้งเรียกว่าครบรสเลยทีเดียว

    ในเรื่องมีวิชาหนึ่งที่เรารู้สึกชื่นชอบเป็นพิเศษ นั่นคือวิชาหน้ากากฟาโรห์ วิชาที่ตลอดชั่วโมงห้ามพูดหรือแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ยิ่งใครโกหกได้เนียนไม่มีคนจับได้มากเท่าไหร่ ยิ่งได้คะแนนดีเท่านั้น ฟังดูเหมือนมันไม่ดีเนาะ แต่นี่ล่ะคือโลกความเป็นจริง

    โลกความเป็นจริงที่เราต้องสวมหน้ากากเอาไว้คอยซ่อนใบหน้าที่แท้จริงของตัวเอง บางคนทำเป็นยิ้มร่าเริง บอกใครต่อใครว่าเราไม่เป็นไร ทั้งที่เจอปัญหาต่างๆรุมเร้า เพียงเพราะกลัวว่าคนอื่นจะหัวเราะเยาะและซ้ำเติมให้สภาพจิตใจย้ำแย่ลงไป หรือบางคนแสร้งทำตัวน่าสงสารให้คนอื่นเห็นอกเห็นใจ จะได้ร้องขอความช่วยเหลือใครต่อใครได้ง่ายขึ้น ตัวเองจะได้ไม่ต้องทำงานนั้น เอาเวลาไปหาเดินซ็อปปิ้ง กินข้าว ดูหนังสบายใจ  ส่วนบางคนก็ยิ้มแย้มให้กันทั้งที่ในใจกำลังด่าทออีกฝ่ายอย่างเสียๆหายๆ และหน้ากากอีกมากมายที่เราหยิบขึ้นมาสวมในสถานการณ์ต่างๆ

    หลายคนอาจปฏิเสธว่าไม่จริ๊ง ไม่จริงงง.. โลกเราไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เรายังมีความจริงใจให้กันอยู่มาก แต่คำถามคือความจริงใจของคุณมีให้ใครบ้างล่ะ

    เราไม่ได้ห้ามไม่ให้คุณใส่หน้ากาก แต่เราอยากให้คุณเป็นคนเลือกว่าจะใส่หน้ากากหรือไม่ใส่หน้ากากกับใครบ้าง อย่าซ่อนหน้าแท้จริงไว้จนกลายเป็นความเคยชิน ปลดหน้ากากลงบ้างเมื่อมีคนจริงใจกับคุณ ยิ้มหรือร้องไห้กับคนที่รักคุณอย่างจริงใจ แล้วคุณจะรู้ว่าการมีคนคอยอยู่เคียงข้างมันรู้สึกดีแค่ไหน


ปล. ความเห็นส่วนตัวจากที่เคยประสบมาเท่านั้น...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่