เรื่องมีอยู่ว่า..
นู๋แดงของผม สปาร์ค นาโน(คาร์บูเรเตอร์)..อัตราทดสเตอร์หน้า-หลัง เดิมๆ 14-35(2.3333) ปลายอยู่ที่ 110 กม./ชม(ไมล์ติดรถ)...แล้วผมก็เปลี่ยนหลัง ลงไป 1 ฟัน เป็น 14 - 34(2.2667) ปลายไหลไปที่ 120 กม./ชม.(ไมล์ติดรถเช่นกัน)..อัตราเร่งไม่ต่างจากเดิมมากนัก
ผลดีอีกอย่างคือ ขับขี่ทางไกลประหยัดน้ำมันได้มากกว่าสเตอร์หลัง 35 มาก...ซึ่งผมพอใจ
....ก็เลยมโน(เอาเอง)ต่อ....
จับน้องครีม ดรีม 110i ซูปเปอร์คับ(หัวฉีด) เปลี่ยนสเตอร์...เผื่อมันจะประหยัดกว่าเดิมบ้าง...สเตอร์รถดรีม หน้า-หลัง 14-37 (2.6426) คราวนี้ผมเปลี่ยนสเตอร์หน้าตัวเดียว(เอาง่าย..ขี้เกียจรื้อล้อหลัง)เป็น 15-37(2.4667) ซึ่งอัตราทดก็ยังสูงกว่าของนาโนที่เปลี่ยนสเตอร์หลังแล้ว อาการสับเกียร์ 1 แล้วโดดเลย..แบบสเตอร์ติดรถ..หายไป เหมาะกับผู้หญิงขับขี่มากขึ้น แต่เมื่อใช้งานไป..ต้นหายไปนิดหน่อยแน่นอน..อันนี้เข้าใจ
..แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมรู้สึกว่ามันไม่ได้ประหยัดกว่ากันเท่าไร...ปริมาณน้ำมันเต็มถังเหมือนกัน..ขับขี่ใช้งานเหมือนเดิม..แต่วันใช้งานแทบไม่ต่างกัน
ถึงบางอ้อ...เมื่อไปหาสเปค แรงบิด ของรถทั้ง 2 คันมาดู(เว็บเปิดในเมืองไทยไม่ต้องหา..ไม่มี)
สเปค สปาร์ค นาโน(ซิริอุส เวียดนาม)
http://product.marenacorp.com/index.php/Motorcycle/YAMAHA-Sirius-RC
สเปค ซูปเปอร์คับ(EX5 มาเลย์)
http://www.bzmotors.com.my/honda-ex5-dream-110/
ได้ข้อสรุปแว่.....ว่า
สปาร์ค นาโน
Horsepower:.................6.6kW (8,000 rpm)
Max Torque:.................9.0Nm (5,000 rpm)
ซูเปอร์คับ
Maximum House Power...5.64kW (7.67PS) / 7500rpm
Maximum Torque...........8.32N.m (0.85kgf.m) / 3500rpm
แรงบิดของนาโนที่เป็นเครื่อง คาร์บู...มากกว่า..การลดสเตอร์หลังลงมาเพียงเล็กน้อย..จึงไม่มีผลต่อการนำแรงบิดมาใช้งาน และทำให้รอบเครื่องใช้งานต่ำกว่าเดิมที่ความเร็วปลาย
เครื่องหัวฉีดของซูเปอร์คับ(เน้นประหยัด แรงบิดมาที่รอบต่ำกว่า..)..ผลเลยออกมาว่า แม้จะลดอัตราทดลงไป(รอบเครื่องทำงานลดลง..ที่ความเร็วเท่ากัน) และอัตราทดสูงกว่าอีกคัน แต่กลับเป็นการสูญเสียแรงบิดในการขับเคลื่อน ทำให้เราต้องบิดคันเร่ง(จ่ายเชื้อเพลิง)มากกว่าเดิม แต่ที่อัตราการกินน้ำมันไม่กินแตกต่างจากเดิมหรือไม่กินกว่าเดิม เพราะรอบเครื่องทำงานลดลงจากเดิมนั่นเอง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....
การเปลี่ยนอัตราทด ต้องสัมพันธ์กับแรงบิดที่จะนำมาใช้งาน และไม่ควรลดอัตราทดลงมาเกิน 0.1 ของอัตราทดสุดท้ายจากโรงงาน
และ...อย่ามานม..อย่ามโน...ไปเองครับ
อัตราทดสุดท้าย....
นู๋แดงของผม สปาร์ค นาโน(คาร์บูเรเตอร์)..อัตราทดสเตอร์หน้า-หลัง เดิมๆ 14-35(2.3333) ปลายอยู่ที่ 110 กม./ชม(ไมล์ติดรถ)...แล้วผมก็เปลี่ยนหลัง ลงไป 1 ฟัน เป็น 14 - 34(2.2667) ปลายไหลไปที่ 120 กม./ชม.(ไมล์ติดรถเช่นกัน)..อัตราเร่งไม่ต่างจากเดิมมากนัก
ผลดีอีกอย่างคือ ขับขี่ทางไกลประหยัดน้ำมันได้มากกว่าสเตอร์หลัง 35 มาก...ซึ่งผมพอใจ
....ก็เลยมโน(เอาเอง)ต่อ....
จับน้องครีม ดรีม 110i ซูปเปอร์คับ(หัวฉีด) เปลี่ยนสเตอร์...เผื่อมันจะประหยัดกว่าเดิมบ้าง...สเตอร์รถดรีม หน้า-หลัง 14-37 (2.6426) คราวนี้ผมเปลี่ยนสเตอร์หน้าตัวเดียว(เอาง่าย..ขี้เกียจรื้อล้อหลัง)เป็น 15-37(2.4667) ซึ่งอัตราทดก็ยังสูงกว่าของนาโนที่เปลี่ยนสเตอร์หลังแล้ว อาการสับเกียร์ 1 แล้วโดดเลย..แบบสเตอร์ติดรถ..หายไป เหมาะกับผู้หญิงขับขี่มากขึ้น แต่เมื่อใช้งานไป..ต้นหายไปนิดหน่อยแน่นอน..อันนี้เข้าใจ
..แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมรู้สึกว่ามันไม่ได้ประหยัดกว่ากันเท่าไร...ปริมาณน้ำมันเต็มถังเหมือนกัน..ขับขี่ใช้งานเหมือนเดิม..แต่วันใช้งานแทบไม่ต่างกัน
ถึงบางอ้อ...เมื่อไปหาสเปค แรงบิด ของรถทั้ง 2 คันมาดู(เว็บเปิดในเมืองไทยไม่ต้องหา..ไม่มี)
สเปค สปาร์ค นาโน(ซิริอุส เวียดนาม)
http://product.marenacorp.com/index.php/Motorcycle/YAMAHA-Sirius-RC
สเปค ซูปเปอร์คับ(EX5 มาเลย์)
http://www.bzmotors.com.my/honda-ex5-dream-110/
ได้ข้อสรุปแว่.....ว่า
สปาร์ค นาโน
Horsepower:.................6.6kW (8,000 rpm)
Max Torque:.................9.0Nm (5,000 rpm)
ซูเปอร์คับ
Maximum House Power...5.64kW (7.67PS) / 7500rpm
Maximum Torque...........8.32N.m (0.85kgf.m) / 3500rpm
แรงบิดของนาโนที่เป็นเครื่อง คาร์บู...มากกว่า..การลดสเตอร์หลังลงมาเพียงเล็กน้อย..จึงไม่มีผลต่อการนำแรงบิดมาใช้งาน และทำให้รอบเครื่องใช้งานต่ำกว่าเดิมที่ความเร็วปลาย
เครื่องหัวฉีดของซูเปอร์คับ(เน้นประหยัด แรงบิดมาที่รอบต่ำกว่า..)..ผลเลยออกมาว่า แม้จะลดอัตราทดลงไป(รอบเครื่องทำงานลดลง..ที่ความเร็วเท่ากัน) และอัตราทดสูงกว่าอีกคัน แต่กลับเป็นการสูญเสียแรงบิดในการขับเคลื่อน ทำให้เราต้องบิดคันเร่ง(จ่ายเชื้อเพลิง)มากกว่าเดิม แต่ที่อัตราการกินน้ำมันไม่กินแตกต่างจากเดิมหรือไม่กินกว่าเดิม เพราะรอบเครื่องทำงานลดลงจากเดิมนั่นเอง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....
การเปลี่ยนอัตราทด ต้องสัมพันธ์กับแรงบิดที่จะนำมาใช้งาน และไม่ควรลดอัตราทดลงมาเกิน 0.1 ของอัตราทดสุดท้ายจากโรงงาน
และ...อย่ามานม..อย่ามโน...ไปเองครับ