ผมได้อ่านหนังสือ บันได 9 ขั้นสูความมั่งคั่งทางการเงิน
บทที่ 1 เขาได้พูดถึงว่า คนเราทุกคนย่อมมีเรื่องราวในวัยเด็กที่เกี่ยวข้องเงิน ทำให้เรามีนิสัย หรือ มุมมองบางอย่างที่ไม่ดี โดยมีเงินเป็นส่วนเกี่ยวข้อง เขาลองให้เราทบทวนเรื่องราวชีวิตของเราดู
ผมลองทำตาม... ไม่น่าเชื่อ เรื่องราวเหล่านั้น มันได้ปลูกฝังอยู่ในความคิด และในตัวตนของเราจริงๆ และที่สำคัญ "ผมไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลย"
และนี่คือเรื่องราวของผม ...
ตอนผมเกิดมานั้น ครอบครัวของผมค่อนข้างมีฐานะดี มีหน้ามีตาในหมู่ญาติพี่น้องทีเดียว เรามีธุรกิจ เรามีบ้าน เรามีรถ และเหนือสิ่งใด เรามีครอบครัวที่อบอุ่น แต่แล้ววันนึง ผมอายุได้ 10 ขวบ สิ่งดีๆเหล่านี้ก็หายไป ธุรกิจเราล่ม เราต้องขายบ้าน ขายรถ จนไม่เหลือทรัพย์สินใดๆทั้งสิ้น และที่เลวร้าย คือ เราไม่มีเงินอีกแล้ว สุดท้าย พ่อแม่ก็แยกทางกันอยู่ พี่น้อง ก็อยู่กันคนละที่คนละทาง คำว่าครอบครัว ไม่มีอีกแล้ว และจากวันนั้น ผมไม่เคยเห็นแม่มีความสุขอย่างแท้จริงอีกเลย ... และนี่คือเรื่องราวแรกที่การไม่มีเงินได้พรากความสุข และสิ่งที่ผมรักไป
เรื่องราวที่สองนั้น เป็นเรื่องความรัก ผมเจอเธอครั้งแรกตอนอยู่ ม.6 และผมก็ได้คบกับเธอ ผมยอมรับเลยว่าการเข้ามาในขีวิตของเธอนั้น ทำให้หลายๆอย่างชีวิตผมดีขึ้นมาก การได้พบเธอ คือของขวัญชิ้นสำคัญ ที่ขาดหายไปนาน เราเข้ากันได้ดีมาก เราไม่เคยนอกใจกันสักครั้ง เราคบกันได้ 5 ปี แต่แล้วมันก็จบลง เพราะเธอได้เจอคนใหม่ที่มีฐานะดีกว่า อีกครั้งการที่ไม่มีเงิน ได้พรากความรัก และความสุขของผมไป ....
ตอนผมอายุได้ 24 ปี ผมตัดสินใจเลิกเรียนกลางคัน ออกจากบ้าน วิ่งตามความฝัน โดยมีความสำเร็จอยู่ที่ ความมั่งคั่งทางการเงิน ผมยอมไม่ได้อีกแล้ว กับการสูญเสีย การถูกทอดทิ้ง การไม่เห็นคุณแม่มีความสุขในชีวิต ตัดสินใจแล้ว มันต้องจบลง...
ผ่านมา 2 ปีแล้วนับจากวันที่ผมออกเดินทาง ตลอดเส้นทางที่ผมก้าวผ่านมานั้น ผมยอมรับ ผมลืมบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม "แม่" ไม่ใช่ผมเลิกรักท่าน แต่ด้วยเหตุการณ์ฝังใจในวัยเด็ก ทำให้ผมปลูกทัศนะคติโง่ๆว่า การจะนำความสุขของแม่กลับมาได้นั้น ผมต้องนำสิ่งที่ครอบครัวเราเคยมีกลับคืนมา ... บ้าน รถ เงินทอง คนรับใช้ ชีวิตที่มั่งคั่ง ผมคิดผิด แท้จริงแล้วคนเป็นแม่ต้องการอยู่กลับลูก ต้องการได้ยินเสียงลูก แต่น้อยครั้งเหลือเกินที่ผมจะเป็นฝ่ายโทรไปถามความเป็นอยู่ของท่าน แต่ที่ทำคือ ผมพยายามหาเงินมาแลกความสุขให้แม่แต่ผมไม่รู้เคยรู้ตัวมาก่อนเลย ...
ช่วงนี้ผมได้มีโอกาสพบและเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีฐานะดีมากทีเดียว บางคนก็อายุพอๆกับผม บางคนก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ บางคนก็เป็นคนแก่ที่น่าเอ็นดู และผมรับรู้ได้ พวกเคาก็เอ็นดูผมเช่นกัน และที่สำคัญพวกเขาเป็นคนดี ผมยอมรับ ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา แต่ตลอดเวลาผมพยายามไม่ทำตัวชิดใกล้ ผมรักษาระยะ และวางตัวโดยให้เกียรพวกเขาเสมอ ทั้งคำพูดและการกระทำ แต่พอนึกดูดีๆ ผมไม่ได้สร้างระยะอะไรหรอก สิ่งทีผมสร้างคือ กำแพง เพราะลึกๆแล้วผมคิดว่า ผมยังไม่คู่ควรที่จะสนิทกับพวกเขา ผมต้องมีฐานะใกล้เคียงกับพวกเขาก่อน เราถึงจะสนิทกันได้ เป็นอีกครั้งที่ผมพยายามหาเงินมาแลกกับการมีความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ผมคิดผิด และผมไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลย...
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมได้ชื่อมาคนมีน้ำใจ ถ้าเกี่ยวกับเงินๆแล้ว ผมไม่เคยหวง ไม่ว่ากับเพื่อน กับแฟน กับคนรู้จัก ผมจะใจสปอตร์เสมอ กับทุกคน ซึ่งผมมาคิดๆดูอีกที อาจจะเป็นเพราะปมด้อยในชีวิตผมก็ได้มั้ง ว่าการให้เงินหรือสิ่งของกับคนอื่น จะทำให้คนรอบตัวทุกๆคนรักผม อย่างที่ผมบอก ตอนที่ครอบครัวผมล้มละลาย ญาติมิตร เพื่อนฝูง ครอบครัว ทิ้งเราไปหมด ผมเกียจการถูกทิ้ง เป็นอีกครั้งที่ผมพยายามเอาเงินแลกความรัก ผมคิดผิด และที่สำคัญ ผมไม่รู้ตัวมาก่อนเลย...
ถึงตอนนี้ผมยอมรับตรงๆเลย ตลอดเวลาที่ผมไล่ล่าสิ่งที่เรียกว่าเงินผมไม่เคยมีความสุขเลย และผมคิดว่า ชั่งมัน กูอดทนได้ เพราะเมื่อไหร่กูมีเงิน กูมีความสุขแน่นอน แต่เอาจริงๆถ้าวันนั้นมาถึง ผมคงกลายเป็นลูกที่ห่วยแตกกับแม่ เป็นคนที่ไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น กลายเป็นคนที่มีแต่เพื่อนหรือคนรัก ที่รักผมที่เงิน แต่ไม่ได้รักผมที่ตัวผมเอง และเมื่อผมมีความมั่งคั่งขึ้นมาจริงๆ ผมจะมีความสุขอย่างที่คิดได้อย่างไร
หลังจากทบทวนชีวิตที่มีเงินมาข้องเกี่ยวกับผมแล้ว ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนะคติใหม่เกี่ยวกับเงิน ไม่ใช่ผมเริ่มไม่ชอบมัน กลับกัน ผมรักมัน และผมอยากมีมันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ผมจะไม่ให้เงินคือทุกๆสิ่งของชีวิต ผมตระหนักได้ว่า ถึงแม้เงินจะเป็นเป้าหมายที่อยู่สุดทางก็จริง แต่ชีวิตคนเราเกิดขึ้นระหว่างเส้นทางแห่งการเดินทางต่างหาก เพราะฉะนั้นผมจะเปลี่ยนให้กระบวนการหาเงินของผมนั้นอบอวลไปด้วยความสุข เต็มไปด้วยความห่วงใหญ่คนรอบข้าง ใส่ใจคนรอบตัว และการช่วยเหลือผู้อื่น ความมั่งคั่งยังคงเป็นความฝัน ที่ผมจะต้องไขว่คว้ามาให้ได้ แต่การดำเนินชีวิตให้มีความสุขตลอดเส้นทางการเดินทาง คือเป้าหมายสูงสุดของชีวิต
ผมไม่รู้ว่ากระทู้ผมควรจัดอยู่ในหมวดไหน ผมขอแท็กเฉพาะห้องที่ผมชอบเล่นละกันนะครับ
ทบทวนอดีต ~ เงินเคยมีอิธิพลกับชีวิตเราอย่างไรในวัยเด็ก และมันได้ปลูกฝังทัศนะคติ หรืออุปนิสัยบางอย่างให้เราแบบไม่รู้ตัว
บทที่ 1 เขาได้พูดถึงว่า คนเราทุกคนย่อมมีเรื่องราวในวัยเด็กที่เกี่ยวข้องเงิน ทำให้เรามีนิสัย หรือ มุมมองบางอย่างที่ไม่ดี โดยมีเงินเป็นส่วนเกี่ยวข้อง เขาลองให้เราทบทวนเรื่องราวชีวิตของเราดู
ผมลองทำตาม... ไม่น่าเชื่อ เรื่องราวเหล่านั้น มันได้ปลูกฝังอยู่ในความคิด และในตัวตนของเราจริงๆ และที่สำคัญ "ผมไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลย"
และนี่คือเรื่องราวของผม ...
ตอนผมเกิดมานั้น ครอบครัวของผมค่อนข้างมีฐานะดี มีหน้ามีตาในหมู่ญาติพี่น้องทีเดียว เรามีธุรกิจ เรามีบ้าน เรามีรถ และเหนือสิ่งใด เรามีครอบครัวที่อบอุ่น แต่แล้ววันนึง ผมอายุได้ 10 ขวบ สิ่งดีๆเหล่านี้ก็หายไป ธุรกิจเราล่ม เราต้องขายบ้าน ขายรถ จนไม่เหลือทรัพย์สินใดๆทั้งสิ้น และที่เลวร้าย คือ เราไม่มีเงินอีกแล้ว สุดท้าย พ่อแม่ก็แยกทางกันอยู่ พี่น้อง ก็อยู่กันคนละที่คนละทาง คำว่าครอบครัว ไม่มีอีกแล้ว และจากวันนั้น ผมไม่เคยเห็นแม่มีความสุขอย่างแท้จริงอีกเลย ... และนี่คือเรื่องราวแรกที่การไม่มีเงินได้พรากความสุข และสิ่งที่ผมรักไป
เรื่องราวที่สองนั้น เป็นเรื่องความรัก ผมเจอเธอครั้งแรกตอนอยู่ ม.6 และผมก็ได้คบกับเธอ ผมยอมรับเลยว่าการเข้ามาในขีวิตของเธอนั้น ทำให้หลายๆอย่างชีวิตผมดีขึ้นมาก การได้พบเธอ คือของขวัญชิ้นสำคัญ ที่ขาดหายไปนาน เราเข้ากันได้ดีมาก เราไม่เคยนอกใจกันสักครั้ง เราคบกันได้ 5 ปี แต่แล้วมันก็จบลง เพราะเธอได้เจอคนใหม่ที่มีฐานะดีกว่า อีกครั้งการที่ไม่มีเงิน ได้พรากความรัก และความสุขของผมไป ....
ตอนผมอายุได้ 24 ปี ผมตัดสินใจเลิกเรียนกลางคัน ออกจากบ้าน วิ่งตามความฝัน โดยมีความสำเร็จอยู่ที่ ความมั่งคั่งทางการเงิน ผมยอมไม่ได้อีกแล้ว กับการสูญเสีย การถูกทอดทิ้ง การไม่เห็นคุณแม่มีความสุขในชีวิต ตัดสินใจแล้ว มันต้องจบลง...
ผ่านมา 2 ปีแล้วนับจากวันที่ผมออกเดินทาง ตลอดเส้นทางที่ผมก้าวผ่านมานั้น ผมยอมรับ ผมลืมบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม "แม่" ไม่ใช่ผมเลิกรักท่าน แต่ด้วยเหตุการณ์ฝังใจในวัยเด็ก ทำให้ผมปลูกทัศนะคติโง่ๆว่า การจะนำความสุขของแม่กลับมาได้นั้น ผมต้องนำสิ่งที่ครอบครัวเราเคยมีกลับคืนมา ... บ้าน รถ เงินทอง คนรับใช้ ชีวิตที่มั่งคั่ง ผมคิดผิด แท้จริงแล้วคนเป็นแม่ต้องการอยู่กลับลูก ต้องการได้ยินเสียงลูก แต่น้อยครั้งเหลือเกินที่ผมจะเป็นฝ่ายโทรไปถามความเป็นอยู่ของท่าน แต่ที่ทำคือ ผมพยายามหาเงินมาแลกความสุขให้แม่แต่ผมไม่รู้เคยรู้ตัวมาก่อนเลย ...
ช่วงนี้ผมได้มีโอกาสพบและเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีฐานะดีมากทีเดียว บางคนก็อายุพอๆกับผม บางคนก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ บางคนก็เป็นคนแก่ที่น่าเอ็นดู และผมรับรู้ได้ พวกเคาก็เอ็นดูผมเช่นกัน และที่สำคัญพวกเขาเป็นคนดี ผมยอมรับ ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา แต่ตลอดเวลาผมพยายามไม่ทำตัวชิดใกล้ ผมรักษาระยะ และวางตัวโดยให้เกียรพวกเขาเสมอ ทั้งคำพูดและการกระทำ แต่พอนึกดูดีๆ ผมไม่ได้สร้างระยะอะไรหรอก สิ่งทีผมสร้างคือ กำแพง เพราะลึกๆแล้วผมคิดว่า ผมยังไม่คู่ควรที่จะสนิทกับพวกเขา ผมต้องมีฐานะใกล้เคียงกับพวกเขาก่อน เราถึงจะสนิทกันได้ เป็นอีกครั้งที่ผมพยายามหาเงินมาแลกกับการมีความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ผมคิดผิด และผมไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลย...
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมได้ชื่อมาคนมีน้ำใจ ถ้าเกี่ยวกับเงินๆแล้ว ผมไม่เคยหวง ไม่ว่ากับเพื่อน กับแฟน กับคนรู้จัก ผมจะใจสปอตร์เสมอ กับทุกคน ซึ่งผมมาคิดๆดูอีกที อาจจะเป็นเพราะปมด้อยในชีวิตผมก็ได้มั้ง ว่าการให้เงินหรือสิ่งของกับคนอื่น จะทำให้คนรอบตัวทุกๆคนรักผม อย่างที่ผมบอก ตอนที่ครอบครัวผมล้มละลาย ญาติมิตร เพื่อนฝูง ครอบครัว ทิ้งเราไปหมด ผมเกียจการถูกทิ้ง เป็นอีกครั้งที่ผมพยายามเอาเงินแลกความรัก ผมคิดผิด และที่สำคัญ ผมไม่รู้ตัวมาก่อนเลย...
ถึงตอนนี้ผมยอมรับตรงๆเลย ตลอดเวลาที่ผมไล่ล่าสิ่งที่เรียกว่าเงินผมไม่เคยมีความสุขเลย และผมคิดว่า ชั่งมัน กูอดทนได้ เพราะเมื่อไหร่กูมีเงิน กูมีความสุขแน่นอน แต่เอาจริงๆถ้าวันนั้นมาถึง ผมคงกลายเป็นลูกที่ห่วยแตกกับแม่ เป็นคนที่ไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น กลายเป็นคนที่มีแต่เพื่อนหรือคนรัก ที่รักผมที่เงิน แต่ไม่ได้รักผมที่ตัวผมเอง และเมื่อผมมีความมั่งคั่งขึ้นมาจริงๆ ผมจะมีความสุขอย่างที่คิดได้อย่างไร
หลังจากทบทวนชีวิตที่มีเงินมาข้องเกี่ยวกับผมแล้ว ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนะคติใหม่เกี่ยวกับเงิน ไม่ใช่ผมเริ่มไม่ชอบมัน กลับกัน ผมรักมัน และผมอยากมีมันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ผมจะไม่ให้เงินคือทุกๆสิ่งของชีวิต ผมตระหนักได้ว่า ถึงแม้เงินจะเป็นเป้าหมายที่อยู่สุดทางก็จริง แต่ชีวิตคนเราเกิดขึ้นระหว่างเส้นทางแห่งการเดินทางต่างหาก เพราะฉะนั้นผมจะเปลี่ยนให้กระบวนการหาเงินของผมนั้นอบอวลไปด้วยความสุข เต็มไปด้วยความห่วงใหญ่คนรอบข้าง ใส่ใจคนรอบตัว และการช่วยเหลือผู้อื่น ความมั่งคั่งยังคงเป็นความฝัน ที่ผมจะต้องไขว่คว้ามาให้ได้ แต่การดำเนินชีวิตให้มีความสุขตลอดเส้นทางการเดินทาง คือเป้าหมายสูงสุดของชีวิต
ผมไม่รู้ว่ากระทู้ผมควรจัดอยู่ในหมวดไหน ผมขอแท็กเฉพาะห้องที่ผมชอบเล่นละกันนะครับ