เมื่อต้นเดือนพค.นี้ จขกท.ซึ่งตามปกติอยู่ประเทศญี่ปุ่น (จ.มิยะกิ) ได้ไปเที่ยวบริเวณตอนใต้ของเมืองเซนได จังหวัดมิยะกิ ในแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกว่าเป็นpower spotทางธรรมชาติ จึงขอนำโปรแกรมเที่ยวนี้มาเขียนเล่าค่ะ เผื่อใครสนใจจะนำไปใช้เที่ยวกัน
คำว่า Power spot เป็นคำฮิตของการท่องเที่ยวคำหนึ่งในญี่ปุ่นมาได้ในช่วงหลังๆนี้ หมายความถึงสถานที่ที่ไปแล้วได้รับพลังธรรมชาติหรือพลังเหนือธรรมชาติกลับมาอะไรทำนองนี้ จึงมักจะเป็นที่เที่ยวที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ธรรมชาติยังบริสุทธิ์อยู่ มีศาลมีวัดเก่าๆอยู่ด้วย
จขกท.ซื้อทัวร์จากบริษัททัวร์“Sendai Bus Tour”ค่ะ (ชื่อธรรมดามากกก..) แต่ตั้งชื่อทัวร์ซึ่งพอจะแปลเป็นไทยได้ว่า “วนเที่ยวPower spotที่ฮิตสำหรับสาวๆบนเส้นทางนิยายปรัมปราและดอกไม้ที่บานสะพรั่งแห่งดินแดนมิชิโนะกุ” (โอ้โฮ ชื่อไม่ธรรมดาเลย) เป็นทัวร์ไปเช้าเย็นกลับ ราคา 4980 เยนต่อคน  เดินทางด้วยรถทัวร์ของบริษัท

หากพวกเราจะเที่ยวตามโปรแกรมนี้ก็จะต้องวางแผนขับรถกันเองล่ะค่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ยากนัก เพราะสามารถใช้ Google Map หาเส้นทางได้
แค่พิมพ์ที่อยู่ของจุดเริ่มต้นและที่อยู่ที่ต้องการไปเข้าไปในช่องที่มีให้กรอก จากนั้นโปรแกรมก็จะทำงานหาแผนที่และเส้นทางไปให้เอง
จขกท.ได้ทำที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ(บางที่ก็เป็นภาษาญี่ปุ่น)ในวงเล็บ ไว้ให้ผู้อ่าน copy ไป paste ลงใน Google map  แล้วค่ะ

หากจะเช่ารถขับ บริษัท Toyota Rent a Car มีรถเช่าติดจีพีเอสภาษาอังกฤษค่ะ จองล่วงหน้าได้ที่ https://rent.toyota.co.jp/en/index.html
เอาล่ะนะคะ โปรแกรมตระเวณทัวร์ Power spot คร่าวๆเป็นตามข้างล่างก่อน กระทู้ต่อไปจะเป็นรูปและรายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ

ออกเดินทางจากเซนได
↓
ศาลเจ้า Manzo Inari (6 Batozan, Shiroishi-shi, Miyagi)
(ศาลเจ้าเก่าแก่บนภูเขาในป่า มีจุดเด่นคือเสาโทรีสีแดง 150 ต้นที่ทอดเป็นทางสู่ตัวศาล)
↓
เขื่อน Shichigashuku →(52−40 Kiritoshi, Shichigashuku, Katta district, Miyagi or 七ヶ宿ダム, 〒989-0536)
(เขื่อนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดมิยะกิค่ะ ตรงกลางเขื่อนจะมีน้ำพุ่งความสูง 77 ม.ให้ดูวันละ 4 ครั้งๆละ 25 นาที การพุ่งจะเปลี่ยนรูปทรงเป็นแนวตั้งบ้างแนวนอนบ้างทุกๆ 5 นาที เลียบเขื่อนเป็นสวนสาธารณะใหญ่ปลูกซะกุระและต้นไม้ใหญ่ที่ออกดอกสวย)
↓
อาหารกลางวัน (บนทางหลวงสาย 113 ที่ผ่าน Shichigashuku มีช่วงหนึ่งเรียกว่าถนนสายโซบะ (Soba-kaido) เพราะมีร้านขายโซบะอาหารท้องถิ่นของที่นี้หลายๆร้านตั้งอยู่ มีบ้านแบบโบราณหลังคามุงด้วยหญ้าหนาๆยังคงให้เห็นหลายหลัง จขกท.แวะเข้าร้าน Yamazato no Soba Maruichi: 13-1 Tanaka-michishita, Shichigashuku, Katta district, Miyagi, Tel. 0224-37-3327)
↓
ชมทุ่งดอก Mizubasho (Mizubasho-gun-seichi, Tamanoki-bara, Shichikashuku, Katta District, Miyagi หรือ原水芭蕉群生地, 宮城県七ケ宿町玉ノ木原地内)
(บริเวณหุบเขาที่มีทุ่งดอก Mizubasho ขึ้นในหนองน้ำ มีทางเป็นสะพานไม้ให้เข้าไปเดินดูเล่น ความยาวร่วม 2 กม. Mizubasho มีดอกสีขาว บานปลายเมย.-ต้นพค. จะขึ้นตรงที่มีน้ำสะอาดๆเย็นๆไหลค่ะ)
↓
น้ำตก Nametsu & ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน (Nametsu, Shichikashuku, Katta District, Miyagi)
(เป็นน้ำตกที่แปลกเพราะความกว้าง(30 ม.)มากกว่าความสูง(10 ม.) กล่าวคือแม่น้ำทั้งสายได้กลายเป็นน้ำตก มีจุดให้ชมจากข้างบนและทางเดินบันไดให้ลงไปชมใกล้ๆข้างล่าง ตรงข้างหน้าเป็นร้านค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นค่ะ)
↓
ทะเลสาบ Choro (Choro, Shichikashuku, Katta District, Miyagi)
(ทะเลสาบที่น้ำใสมากจนสะท้อนเงาภูเขาให้เห็นบนพื้นน้ำ มีทางเดินเล่นเลียบริม มีเรือให้เช่าพายเล่น บางคนก็มาตกปลาค่ะ ทัวร์ที่ผู้เขียนไปไม่ได้แวะลง ได้แต่ชมความงามจากบนรถ)
↓
สะพานแขวน Yamabiko (Yokokawa, Shichigashuku)
(สะพานแขวนที่ยาวที่สุดของภูมิภาคโทโฮะกุ(120 ม.)ค่ะ แขวนสูงเหนือน้ำ 20 ม.จากกลางสะพานมองเห็นวิวภูเขาได้สวยชัด มีทางเดินถึงทะเลสาบ Choro   15 นาที หากเดินใช้เวลา 15 นาที)
↓
ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นระหว่างทาง Michi no Eki Murata (Kitashionai-41 Murata, Shibata district, Miyagi)
( Michi no eki คือจุดพักตามถนนสายใหญ่นอกเมือง เป็นศูนย์รวมขายของท้องถิ่นและให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในบริเวณนั้นๆ)
↓
กลับเข้าเซนได

เป็นอย่างไรบ้างคะ พอได้ไอเดียกันไหมเอ่ย