เมื่อเช้านี้เรากำลังจะชงกาแฟกินตามปกติในตอนเช้า แต่ด้วยเหตุบังเอิญและอะไรหลายๆอย่างทำให้แก้วใบหนึ่งในบรรดาแก้วที่ใช้ประจำมันตกแตกที่พื้นครัวหลังบ้าน เราเสียดาย แต่ก็ได้แต่มอง แก้วใบนั้นเป็นแค่แก้วกาแฟธรรมดาๆใบนึงที่ไม่มีลวดลายอะไร แต่เราชอบมันนะ... มันเรียบง่ายไม่ให้ความรู้สึกขัดแย้งแต่ให้ความรู้สึกง่ายๆในตอนเช้าของเมืองชนบทที่ไม่ได้เร่งรีบอะไร
เราเดินไปเอากล้องที่ใช้ประจำมาถ่ายไว้ เพราะปกติไม่ชอบใช้กล้องจากมือถือ ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน ความคิดนึงแว๊บเข้ามาในหัว ''ลองทำให้มันกลับมาเป็นแบบเดิมดีมั๊ย'' เรากดชัตเตอร์ถ่ายรูปแก้วใบที่แตก จากนั้นก็นำกาวตราช้างมา กะว่าจะลองต่อดูแล้วเอาไปโพสในfacebookอวดเพื่อนว่า เป็นไง ทำแก้วที่แตกกลับมาได้เหมือนเดิม เฟตเฟ่!!! แต่ความคิดนั้นก็แตกโพล๊ะเหมือนคนเอาเข็มมาทิ่มบอลลูนความคิด เมื่อเราลองเอาเทปกาวมาประกอบดู มันอาจจะรูปทรงเหมือนเดิม แต่ยังมีเศษเล็กเศษน้อยที่มันหลุดออกมาและหาไม่เจอ มันเล็กมากจนเหมือนกับว่ามันสาบสูญไปทันทีที่แก้วกระทบพื้น เรานั่งมองมันซักพักและถอนหายใน ''กูมันโง่อะไรเนี่ย ทำเรื่องแบบนี้เสียเวลาสุดๆ''
เรามันคนว่างงาน เลยคิดอะไรเพ้อๆได้เป็เวลานานๆในตอนเช้าเพราะไอเดียความคิดเรื่องงานของเรามันมักจะพุ่งกระฉูดในช่วงดึกๆมากกว่า เรานึกถึงคนๆนึงที่เพิ่งจะเลิกรากันไปไม่นา เหมือนกับบางครั้งเค้าก็เหมือนกับแก้วไบนี้ ไม่ได้มีอะไรสะดุดตา เราหลงรักเค้าครั้งแรกก็เพราะความเรียบง่ายของเค้า เจอเค้าครั้งแรกเพราะเค้าใส่เสื้อสีขาว ต่างจากคนอื่นๆ แต่พอมาตอนนี้กลับต่างออกไป เราไม่ได้รู้สึกเสียใจที่เค้าจากไป เราโพสขึ้น facebookด่าเค้า อาจจะถือว่าไม่แรง แต่บรรทัดสุดท้ายเราเขียนว่า 'ถ้าหากจะเลิกก็จงหายไป อย่าได้มาพูดลา จะถือว่าการหายไปนั้นเป็นการบอกเลิก' จากนั้นเค้าก็หายไป เราเองก็หายไปจากชีวิตเค้า ทุกอย่างมันเรียบง่ายเหมือนตัวเค้านั่นแหละ ถ้าหากจะกลับไปรักอีกครั้งอย่างเคย ความรู้สึกเราคงจะไม่เหมือนเดิม มันก็คงเหมือนเศษแก้วที่ตัวเราไม่สามารถเอามาประกอบกลับคืนมาใหม่ให้เหมือนแก้วอย่างปกติ เราได้แก้วใบนั้นมาตอนป.6 เราใช้มันเสมอๆพลัดกับกับใบอื่นๆบ้างในบางวัน ส่วนเค้าคนนั้น เราคบกันมา4ปี เราก็ชอบคนอื่นบ้างในบางครั้ง มันช่างเหมือนกันเหลือเกิน
สุดท้ายก็กลับไปจุดเดิม แก้วเกิดมาจากฝุ่นผง ซักวันก็ต้องกลับไปเป็นฝุ่นผง ขึ้นอยู่กับการรักษาของตัวเรา ความรักก็เช่นเดียวกัน มันเกิดจากไม่มีอะไรเลย จนก่อตัว สุดท้ายแล้วซักวันก็ต้องกลับไปเป็น 'ไม่มีอะไรเลย' เหมือนดังเดิม แม้ว่าวันนึงเราจะเคยชอบมันมาก แต่สุดท้ายซักวันมันก็ต้องกลับสู่จุดเดิม แต่รู้รึป่าวว่า เราอาจจะหาซื้อแก้วใบใหม่ได้แต่เราจะหาแก้วใบใหม่ที่มีรูปร่างคล้ายๆกับของเดิมโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เพราะจิตสำนึกเรา ยังเรียกหาสิ่งเดิมให้กลับมาอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าจะเอามาเป็นตัวแทน อาจจะอีกสองวัน สองสัปดาห์ สองเดือน สองปี หรืออาจจะนานกว่านั้นที่เราจะซื้อแก้วใบใหม่ หรือบางครั้งเราอาจจะหันไปใช้แก้วใบอื่นๆในบ้านแล้วมันก็กลายเป็นแก้วใบโปรดของเราแทน
ความจริงคือ คนเราไม่ได้มีแก้วใบเดียวในบ้าน เพียงแต่แก้วใบนั้นเรารักมันมากที่สุดก็เท่านั้นเอง คนเราเองก็เหมือนกัน มีคนรักเรามากมายรอบข้าง เพียงแต่เรารักคนนั้นมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเอง ทำให้คิดไปเองว่ามันสำคัญและควรรักษาไว้ แก้วใบอื่นในบ้านจะหายไปหรือเข้ามาใหม่ก็ไม่ได้ใส่ใจ บางคนอาจจะพยายามปะติดปะต่อแก้วใบที่แตกขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่ลืมว่ามันเคยแตกมาครั้งนึงแล้ว และจะไม่เหมือนเดิม บางคนก็ใช้แก้วที่แตกไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งๆที่รู้ว่าเสี่ยงที่แก้วจะบาดปากเอาได้ ..... แต่เราคงไม่กลับไปใช้มันแล้วแหละ เราไม่กล้าเสี่ยงที่จะให้มันมาบาดมือ แม้แต่ตอนที่เราพยายามจะต่อให้เหมือนเดิม มันยังบาดมือเราเลย...................
แก้วใบโปรดแตก... ความรู้สึกของฉันที่พยายามประกอบมันขึ้นมาใหม่
เราเดินไปเอากล้องที่ใช้ประจำมาถ่ายไว้ เพราะปกติไม่ชอบใช้กล้องจากมือถือ ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน ความคิดนึงแว๊บเข้ามาในหัว ''ลองทำให้มันกลับมาเป็นแบบเดิมดีมั๊ย'' เรากดชัตเตอร์ถ่ายรูปแก้วใบที่แตก จากนั้นก็นำกาวตราช้างมา กะว่าจะลองต่อดูแล้วเอาไปโพสในfacebookอวดเพื่อนว่า เป็นไง ทำแก้วที่แตกกลับมาได้เหมือนเดิม เฟตเฟ่!!! แต่ความคิดนั้นก็แตกโพล๊ะเหมือนคนเอาเข็มมาทิ่มบอลลูนความคิด เมื่อเราลองเอาเทปกาวมาประกอบดู มันอาจจะรูปทรงเหมือนเดิม แต่ยังมีเศษเล็กเศษน้อยที่มันหลุดออกมาและหาไม่เจอ มันเล็กมากจนเหมือนกับว่ามันสาบสูญไปทันทีที่แก้วกระทบพื้น เรานั่งมองมันซักพักและถอนหายใน ''กูมันโง่อะไรเนี่ย ทำเรื่องแบบนี้เสียเวลาสุดๆ''
เรามันคนว่างงาน เลยคิดอะไรเพ้อๆได้เป็เวลานานๆในตอนเช้าเพราะไอเดียความคิดเรื่องงานของเรามันมักจะพุ่งกระฉูดในช่วงดึกๆมากกว่า เรานึกถึงคนๆนึงที่เพิ่งจะเลิกรากันไปไม่นา เหมือนกับบางครั้งเค้าก็เหมือนกับแก้วไบนี้ ไม่ได้มีอะไรสะดุดตา เราหลงรักเค้าครั้งแรกก็เพราะความเรียบง่ายของเค้า เจอเค้าครั้งแรกเพราะเค้าใส่เสื้อสีขาว ต่างจากคนอื่นๆ แต่พอมาตอนนี้กลับต่างออกไป เราไม่ได้รู้สึกเสียใจที่เค้าจากไป เราโพสขึ้น facebookด่าเค้า อาจจะถือว่าไม่แรง แต่บรรทัดสุดท้ายเราเขียนว่า 'ถ้าหากจะเลิกก็จงหายไป อย่าได้มาพูดลา จะถือว่าการหายไปนั้นเป็นการบอกเลิก' จากนั้นเค้าก็หายไป เราเองก็หายไปจากชีวิตเค้า ทุกอย่างมันเรียบง่ายเหมือนตัวเค้านั่นแหละ ถ้าหากจะกลับไปรักอีกครั้งอย่างเคย ความรู้สึกเราคงจะไม่เหมือนเดิม มันก็คงเหมือนเศษแก้วที่ตัวเราไม่สามารถเอามาประกอบกลับคืนมาใหม่ให้เหมือนแก้วอย่างปกติ เราได้แก้วใบนั้นมาตอนป.6 เราใช้มันเสมอๆพลัดกับกับใบอื่นๆบ้างในบางวัน ส่วนเค้าคนนั้น เราคบกันมา4ปี เราก็ชอบคนอื่นบ้างในบางครั้ง มันช่างเหมือนกันเหลือเกิน
สุดท้ายก็กลับไปจุดเดิม แก้วเกิดมาจากฝุ่นผง ซักวันก็ต้องกลับไปเป็นฝุ่นผง ขึ้นอยู่กับการรักษาของตัวเรา ความรักก็เช่นเดียวกัน มันเกิดจากไม่มีอะไรเลย จนก่อตัว สุดท้ายแล้วซักวันก็ต้องกลับไปเป็น 'ไม่มีอะไรเลย' เหมือนดังเดิม แม้ว่าวันนึงเราจะเคยชอบมันมาก แต่สุดท้ายซักวันมันก็ต้องกลับสู่จุดเดิม แต่รู้รึป่าวว่า เราอาจจะหาซื้อแก้วใบใหม่ได้แต่เราจะหาแก้วใบใหม่ที่มีรูปร่างคล้ายๆกับของเดิมโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เพราะจิตสำนึกเรา ยังเรียกหาสิ่งเดิมให้กลับมาอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าจะเอามาเป็นตัวแทน อาจจะอีกสองวัน สองสัปดาห์ สองเดือน สองปี หรืออาจจะนานกว่านั้นที่เราจะซื้อแก้วใบใหม่ หรือบางครั้งเราอาจจะหันไปใช้แก้วใบอื่นๆในบ้านแล้วมันก็กลายเป็นแก้วใบโปรดของเราแทน
ความจริงคือ คนเราไม่ได้มีแก้วใบเดียวในบ้าน เพียงแต่แก้วใบนั้นเรารักมันมากที่สุดก็เท่านั้นเอง คนเราเองก็เหมือนกัน มีคนรักเรามากมายรอบข้าง เพียงแต่เรารักคนนั้นมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเอง ทำให้คิดไปเองว่ามันสำคัญและควรรักษาไว้ แก้วใบอื่นในบ้านจะหายไปหรือเข้ามาใหม่ก็ไม่ได้ใส่ใจ บางคนอาจจะพยายามปะติดปะต่อแก้วใบที่แตกขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่ลืมว่ามันเคยแตกมาครั้งนึงแล้ว และจะไม่เหมือนเดิม บางคนก็ใช้แก้วที่แตกไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งๆที่รู้ว่าเสี่ยงที่แก้วจะบาดปากเอาได้ ..... แต่เราคงไม่กลับไปใช้มันแล้วแหละ เราไม่กล้าเสี่ยงที่จะให้มันมาบาดมือ แม้แต่ตอนที่เราพยายามจะต่อให้เหมือนเดิม มันยังบาดมือเราเลย...................