ตัวผมเองมีประสพการณ์จากการอาบน้ำอุ่นแล้วผิวแห้งมากจนผิวหนังแตก,ลอกเป็นขุยและเป็นสะเก็ดแผลจากการเกาเพราะเป็นผื่นคัน
เนื่องจากเป็นผู้ชายจึงไม่ชอบทาครีมเพราะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ  เสียเงินซื้อยามารักษาหลายครั้งก็เป็นๆหายๆอยู่อย่างนั้น จึงเลิกอาบน้ำอุ่นเปลี่ยนมาอาบน้ำเย็น(อุณหภูมิห้อง,ไม่ผ่านการอุ่นจากเครื่องทำน้ำอุ่น)ก็ดีขึ้นจนหาย จึงมโนไปเองว่าน้ำเย็นเนี่ยแหละที่ทำให้ผิวไม่แห้งและก็อดทนอาบทั้งๆที่ไม่ชอบ(เป็นคนขี้หนาว)และรู้สึกลำบากใจทุกครั้งที่จะเอาตัวเข้าไปโดนน้ำโดยเฉพาะหน้าหนาว
ประเด็นที่ต้องมาตั้งคำถามมีอยู่ว่า แฟนผมไม่เชื่อและไม่ยอมทำตาม แต่เค้าไม่มีปัญหาเรื่องผิวแห้งแบบผมเพราะเค้าทาครีม แต่ด้วยความที่ผมเป็นห่วงและมองว่าแทนที่จะใช้ครีมช่วยอย่างเดียว ทำไมไม่อาบน้ำให้มันเย็นลงเพื่อไม่เป็นการทำร้ายผิวไปด้วยอีกต่อนึง แต่***เธอคิดว่าคนญี่ปุ่นมีผิวดีสวยและละเอียดแทบจะที่สุดในโลก และที่เค้ามีผิวสวยเพราะชอบอาบน้ำร้อนแบบญี่ปุ่นคือ “ออนเซ็น (Onsen)”*** จึงทำให้เธอปักใจเชื่อและอาบน้ำอุ่น-ค่อนข้างร้อนมากทุกครั้งเพื่อเลียนแบบการอาบน้ำร้อนแบบญี่ปุ่น
แต่สิ่งที่ผมสังเกตได้คือหลังอาบน้ำผิวเธอจะเป็นจ้ำๆแดงๆและผิวไม่ค่อยละเอียด ก็อุตส่าห์เตือน เธอก็ตอกผมมาอีกว่าเพราะผมเป็นคนเหนือเลยขาวและผิวดีกว่าเธอ ...กลายเป็นเราไปข่มอีก - -"
สรุปคำถามคือ ตกลงความเชื่อหรือมโนของใครที่ถูกต้องครับ? แล้วทำไมคนญี่ปุ่นจึงอาบน้ำร้อนมากๆ,แช่กันเป็นวันๆแล้วจึงผิวดีครับ?