จากมติชนออนไลน์
อัพเดตข่าวนะค่ะ
ครอบครัวอัศวโสภณได้ออกแถลงการณ์ให้แก่สื่อมวลชนที่ไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพของนายชัชวาลอัศวโสภณเจ้าของห้างดนตรีย่งเส็ง ที่วัดเทพศิรินทราวาส มีเนื้อหาดังนี้
เรียนสื่อมวลชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง
ตามที่สื่อมวลชนหลายฉบับได้เสนอข่าวกรณีนายชัชวาล อัศวโสภณ เสียชีวิต โดยออกข่าวในลักษณะเป็นการกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตายนั้น ขณะนั้นยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ในเรื่องดังกล่าว ทางครอบครัวอัศวโสภณขอเรียนชี้แจงข่าวดังกล่าว ดังนี้
- นายชัชวาล อัศวโสภณ มีอาการเครียดจากการถูกเวนคืนที่ดินบริเวณที่ประกอบการค้าจริง ประกอบกับมีอาการป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจและความดันโลหิตอยู่แล้ว
- นายชัชวาล อัศวโสภณ มักจะเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลเจ้าจีจินเกาะอยู่เป็นประจำ และจากหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดพบว่าวันดังกล่าว นายชัชวาล อัศวโสภณ ได้เดินทางไปสถานที่ดังกล่าวจริงและมานั่งพักที่ท่าเรือ เนื่องจากท่าเรือเวลาเรือวิ่งแล้วจะมีคลื่นมา ทำให้ท่าเรือโคลงเคลง อาจทำให้นายชัชวาลเสียการทรงตัวลื่นไถลจมน้ำ โดยมีคุณลุงผู้เห็นเหตุการณ์เป็นพยานเห็นชัดว่านายชัชวาลได้ลื่นไถลลงน้ำ และไปแจ้งพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำศาลเจ้าว่ามีชายวัยกลางคนจมน้ำ ทั้งนี้เจ้าพนักงานได้ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากการจมน้ำ
ดังนั้นครอบครัวอัศวโสภณขอความร่วมมือมายังท่าน โปรดกรุณาชี้แจงให้สาธารณชนได้ทราบในข้อเท็จจริงดังกล่าวและข่าวสารที่ถูกต้องด้วย จักเป็นพระคุณอย่างสูง
ขอแสดงความนับถือ
ครอบครัวอัศวโสภณ
หลังจากรุ่งเช้าของวันนี้ (14 พ.ค. 2557) เจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ่งรับแจ้งพบศพชายลอยมาติดท่าน้ำวัดระฆังโฆสิตาราม และตรวจสอบกับญาติ คือ นาย ชัชวาล อัศวโสภณ หรือเฮียโต เจ้าของบริษัทย่งเส็งวัฒนาเทรดดิ้ง จำกัด หรือ “ห้างดนตรีย่งเส็ง” ย่านเวิ้งนาครเขษม ซอย 1 (เจริญกรุงซอย 8) ซึ่งญาติคาดว่ามาจากสาเหตุความเครียดจากการเวนคืนที่ดิน “เวิ้งนาครเขษม”ทีมข่าวมติชนออนไลน์ย้อนรอยเหตุการณ์การเวนคืนที่ดิน ซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุการฆ่าตัวตายครั้งนี้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2555 การประมูลซื้อขายที่ดินย่านเวิ้งนาคารเขษม ซึ่งแต่เดิมเป็นของ “ราชสกุลบริพัตร” ได้ขายที่ดินจำนวน 14 ไร่ 1 งาน 9 ตารางวา ให้กับนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ด้วยราคา 4,500 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางวาละ 804,800 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ไทย และมีผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 187 ราย ต้องหาเช่าที่ดินใหม่และย้ายออกไป ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2555
เป็นเวลากว่า 2 ปี ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2555 จนถึงปัจจุบันที่ร้านขายเครื่องดนตรีชื่อดังของเมืองไทยที่มีอายุกว่า 100 ปีอย่าง ห้างดนตรีย่งเส็ง ของนายชัชวาล อัศวโสภณ ที่ต้องปรับตัวด้วยการย้ายไปเช่าที่ใหม่ซึ่งไม่ห่างจากร้านเดิมมากนัก และลงทุนหลายสิบร้าน แต่กลับพบว่าที่ดินร้านในปัจจุบันก็กำลังจะถูกกว้านซื้อและเวนคืน โดยบริษัททีซีซีกรุ๊ป ของนายเจริญ เช่นกัน การสูญเสียที่ทำกินซ้ำสองนี่เอง ที่นายพลกร อัศวโสภณ บุตรชายของนายชัชวาล อัศวโสภณ เชื่อว่า เป็นสาเหตุให้พ่อของตนตัดสินใจกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาฆ่าตัวตายในที่สุด
จากวังเก่าตลาดโจรโรงหนังแห่งแรกของไทยสู่ โมเดิรน์เทรดแบบใหม่
จากคำบอกเล่าของคนเก่าคนแก่ใน “เวิ้งนาครเขษม” แต่เดิมที่ตรงนี้เป็นที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้ขุดสระขนาดใหญ่ และทำเป็นสวนสำหรับคนทั่วไป เรียกว่า วังน้ำทิพย์ ใกล้บริเวณนั้นเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวจีนแต้จิ๋ว และต่อมาทรงพระราชทานที่ดังกล่าวให้สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงจัดการดูแล สมเด็จฯ เจ้าฟ้า กรมพระนครสวรรค์วรพินิตทรงเห็นว่าบริเวณนี้มีชุมชนเกิดขึ้นแล้ว จึงได้ถมที่บริเวณวังน้ำทิพย์จนกลายเป็นที่โล่งกว้างใหญ่ ตั้งชื่อว่าเวิ้งนาครเขษม หมายถึงเวิ้งอันเป็นที่รื่นรมย์ของชาวเมือง ต่อมาเรียกเพี้ยนไปเป็น เวิ้งนครเกษม
ต่อมาสมัยหลังจากการเลิกทาสแล้ว คนที่อยู่ในวังที่พ้นจากการเป็นทาส เมื่อย้ายออกจากวังมักได้รับทรัพย์สินสิ่งของจากนายมาบ้าง บางคนอาจขโมยมาบ้าง ได้นำของมาขายในบริเวณนี้ ชาวตะวันตกก็นำของที่ใช้แล้วมาแลกเปลี่ยน จึงเกิดเป็นตลาดค้าของเก่าขึ้น ต่อมาจึงสร้างเป็นศูนย์การค้าขนาดย่อม และเป็นแห่งแรกที่มีโรงภาพยนตร์ ชื่อว่า โรงภาพยนตร์นาครเขษม
หลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ความนิยมตะวันตกเพิ่มขึ้น กระแสดนตรีตะวันตกก็เพิ่มขึ้นด้วย เวิ้งนาครเกษม เป็นแหล่งแรกที่นำเครื่องดนตรีตะวันตกเข้ามาขาย ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีชั้นดี ที่นี้จึงเป็นทั้งแหล่งค้าของเก่า เครื่องดนตรี หนังสือเก่า เครื่องทองเหลือง ปัจจุบันที่ดินบริเวณนี้เป็นสมบัติในกองมรดกรวมของตระกูล 5 ตระกูล คือ กิติยากร, สวัสดิวัตน์, เทวกุล, โสณกุล และบุณยะปานะ ซึ่งสืบสายจากพระธิดาทั้ง 5 ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต และในปีพ.ศ. 2555 จึงตัดสินใจขายต่อให้กับบริษัททีซีซีกรุ๊ป ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
และแม้ว่ากระแสร้อนแรงในช่วงปี พ.ศ. 2555 ชาวชุมชน “เวิ้งนาครเขษม” ที่รวมตัวกันจัดตั้งบริษัท เวิ้งนาครเขษม จำกัด เพื่อระดมเงินในการประมูลซื้อที่ดินดังกล่าว โดยเสนอที่ราคา 4,800 ล้านบาท ให้กับสำนักงานบริพัตร แต่ก็ถูกปฏิเสธ ด้วยการตั้งราคาสูงขึ้นไปกว่า 5,500 ล้านบาท และถูกซื้อจริงในราคา 4,500 ล้านบาทในเวลาต่อมา
ปัจจุบันผู้เช่าเดิมกว่า 200 รายนั้น บริษัททีซีซีกำหนดให้ย้ายออกโซนแรก ในเดือนกันยายน 2557 แต่ผู้เช่าที่เหลือขอเลื่อนไปเป็นช่วงต้นปี 2558 โดยที่ดินตรงนี้ทางบริษัทจะพัฒนาโครงการในรูปแบบเชิงพาณิชย์มากขึ้น คล้ายรูปแบบโมเดิร์นเทรดสมัยใหม่ โดยเปิดให้เช่าพื้นที่ เช่นเดียวกับ เสือป่าพล่าซ่า เมก้าพลาซ่า วังบูรพา ซึ่งมีลักษณะคล้ายอาคารพาณิชย์สูง ติดแอร์ มีฟู้ดคอร์ท และให้เปิดให้เช่าเป็นร้านค้าต่างๆ
อันนี่เป็นคลิปนำเสนอ
รู้จัก "เวิ้งนาครเขษม" กับสาเหตุการฆ่าตัวตาย เจ้าของห้างดนตรีย่งเส็ง!?
อัพเดตข่าวนะค่ะ
ครอบครัวอัศวโสภณได้ออกแถลงการณ์ให้แก่สื่อมวลชนที่ไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพของนายชัชวาลอัศวโสภณเจ้าของห้างดนตรีย่งเส็ง ที่วัดเทพศิรินทราวาส มีเนื้อหาดังนี้
เรียนสื่อมวลชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง
ตามที่สื่อมวลชนหลายฉบับได้เสนอข่าวกรณีนายชัชวาล อัศวโสภณ เสียชีวิต โดยออกข่าวในลักษณะเป็นการกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตายนั้น ขณะนั้นยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ในเรื่องดังกล่าว ทางครอบครัวอัศวโสภณขอเรียนชี้แจงข่าวดังกล่าว ดังนี้
- นายชัชวาล อัศวโสภณ มีอาการเครียดจากการถูกเวนคืนที่ดินบริเวณที่ประกอบการค้าจริง ประกอบกับมีอาการป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจและความดันโลหิตอยู่แล้ว
- นายชัชวาล อัศวโสภณ มักจะเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลเจ้าจีจินเกาะอยู่เป็นประจำ และจากหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดพบว่าวันดังกล่าว นายชัชวาล อัศวโสภณ ได้เดินทางไปสถานที่ดังกล่าวจริงและมานั่งพักที่ท่าเรือ เนื่องจากท่าเรือเวลาเรือวิ่งแล้วจะมีคลื่นมา ทำให้ท่าเรือโคลงเคลง อาจทำให้นายชัชวาลเสียการทรงตัวลื่นไถลจมน้ำ โดยมีคุณลุงผู้เห็นเหตุการณ์เป็นพยานเห็นชัดว่านายชัชวาลได้ลื่นไถลลงน้ำ และไปแจ้งพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำศาลเจ้าว่ามีชายวัยกลางคนจมน้ำ ทั้งนี้เจ้าพนักงานได้ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากการจมน้ำ
ดังนั้นครอบครัวอัศวโสภณขอความร่วมมือมายังท่าน โปรดกรุณาชี้แจงให้สาธารณชนได้ทราบในข้อเท็จจริงดังกล่าวและข่าวสารที่ถูกต้องด้วย จักเป็นพระคุณอย่างสูง
ขอแสดงความนับถือ
ครอบครัวอัศวโสภณ
หลังจากรุ่งเช้าของวันนี้ (14 พ.ค. 2557) เจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ่งรับแจ้งพบศพชายลอยมาติดท่าน้ำวัดระฆังโฆสิตาราม และตรวจสอบกับญาติ คือ นาย ชัชวาล อัศวโสภณ หรือเฮียโต เจ้าของบริษัทย่งเส็งวัฒนาเทรดดิ้ง จำกัด หรือ “ห้างดนตรีย่งเส็ง” ย่านเวิ้งนาครเขษม ซอย 1 (เจริญกรุงซอย 8) ซึ่งญาติคาดว่ามาจากสาเหตุความเครียดจากการเวนคืนที่ดิน “เวิ้งนาครเขษม”ทีมข่าวมติชนออนไลน์ย้อนรอยเหตุการณ์การเวนคืนที่ดิน ซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุการฆ่าตัวตายครั้งนี้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2555 การประมูลซื้อขายที่ดินย่านเวิ้งนาคารเขษม ซึ่งแต่เดิมเป็นของ “ราชสกุลบริพัตร” ได้ขายที่ดินจำนวน 14 ไร่ 1 งาน 9 ตารางวา ให้กับนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ด้วยราคา 4,500 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางวาละ 804,800 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ไทย และมีผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 187 ราย ต้องหาเช่าที่ดินใหม่และย้ายออกไป ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2555
เป็นเวลากว่า 2 ปี ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2555 จนถึงปัจจุบันที่ร้านขายเครื่องดนตรีชื่อดังของเมืองไทยที่มีอายุกว่า 100 ปีอย่าง ห้างดนตรีย่งเส็ง ของนายชัชวาล อัศวโสภณ ที่ต้องปรับตัวด้วยการย้ายไปเช่าที่ใหม่ซึ่งไม่ห่างจากร้านเดิมมากนัก และลงทุนหลายสิบร้าน แต่กลับพบว่าที่ดินร้านในปัจจุบันก็กำลังจะถูกกว้านซื้อและเวนคืน โดยบริษัททีซีซีกรุ๊ป ของนายเจริญ เช่นกัน การสูญเสียที่ทำกินซ้ำสองนี่เอง ที่นายพลกร อัศวโสภณ บุตรชายของนายชัชวาล อัศวโสภณ เชื่อว่า เป็นสาเหตุให้พ่อของตนตัดสินใจกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาฆ่าตัวตายในที่สุด
จากวังเก่าตลาดโจรโรงหนังแห่งแรกของไทยสู่ โมเดิรน์เทรดแบบใหม่
จากคำบอกเล่าของคนเก่าคนแก่ใน “เวิ้งนาครเขษม” แต่เดิมที่ตรงนี้เป็นที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้ขุดสระขนาดใหญ่ และทำเป็นสวนสำหรับคนทั่วไป เรียกว่า วังน้ำทิพย์ ใกล้บริเวณนั้นเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวจีนแต้จิ๋ว และต่อมาทรงพระราชทานที่ดังกล่าวให้สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงจัดการดูแล สมเด็จฯ เจ้าฟ้า กรมพระนครสวรรค์วรพินิตทรงเห็นว่าบริเวณนี้มีชุมชนเกิดขึ้นแล้ว จึงได้ถมที่บริเวณวังน้ำทิพย์จนกลายเป็นที่โล่งกว้างใหญ่ ตั้งชื่อว่าเวิ้งนาครเขษม หมายถึงเวิ้งอันเป็นที่รื่นรมย์ของชาวเมือง ต่อมาเรียกเพี้ยนไปเป็น เวิ้งนครเกษม
ต่อมาสมัยหลังจากการเลิกทาสแล้ว คนที่อยู่ในวังที่พ้นจากการเป็นทาส เมื่อย้ายออกจากวังมักได้รับทรัพย์สินสิ่งของจากนายมาบ้าง บางคนอาจขโมยมาบ้าง ได้นำของมาขายในบริเวณนี้ ชาวตะวันตกก็นำของที่ใช้แล้วมาแลกเปลี่ยน จึงเกิดเป็นตลาดค้าของเก่าขึ้น ต่อมาจึงสร้างเป็นศูนย์การค้าขนาดย่อม และเป็นแห่งแรกที่มีโรงภาพยนตร์ ชื่อว่า โรงภาพยนตร์นาครเขษม
หลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ความนิยมตะวันตกเพิ่มขึ้น กระแสดนตรีตะวันตกก็เพิ่มขึ้นด้วย เวิ้งนาครเกษม เป็นแหล่งแรกที่นำเครื่องดนตรีตะวันตกเข้ามาขาย ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีชั้นดี ที่นี้จึงเป็นทั้งแหล่งค้าของเก่า เครื่องดนตรี หนังสือเก่า เครื่องทองเหลือง ปัจจุบันที่ดินบริเวณนี้เป็นสมบัติในกองมรดกรวมของตระกูล 5 ตระกูล คือ กิติยากร, สวัสดิวัตน์, เทวกุล, โสณกุล และบุณยะปานะ ซึ่งสืบสายจากพระธิดาทั้ง 5 ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต และในปีพ.ศ. 2555 จึงตัดสินใจขายต่อให้กับบริษัททีซีซีกรุ๊ป ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
และแม้ว่ากระแสร้อนแรงในช่วงปี พ.ศ. 2555 ชาวชุมชน “เวิ้งนาครเขษม” ที่รวมตัวกันจัดตั้งบริษัท เวิ้งนาครเขษม จำกัด เพื่อระดมเงินในการประมูลซื้อที่ดินดังกล่าว โดยเสนอที่ราคา 4,800 ล้านบาท ให้กับสำนักงานบริพัตร แต่ก็ถูกปฏิเสธ ด้วยการตั้งราคาสูงขึ้นไปกว่า 5,500 ล้านบาท และถูกซื้อจริงในราคา 4,500 ล้านบาทในเวลาต่อมา
ปัจจุบันผู้เช่าเดิมกว่า 200 รายนั้น บริษัททีซีซีกำหนดให้ย้ายออกโซนแรก ในเดือนกันยายน 2557 แต่ผู้เช่าที่เหลือขอเลื่อนไปเป็นช่วงต้นปี 2558 โดยที่ดินตรงนี้ทางบริษัทจะพัฒนาโครงการในรูปแบบเชิงพาณิชย์มากขึ้น คล้ายรูปแบบโมเดิร์นเทรดสมัยใหม่ โดยเปิดให้เช่าพื้นที่ เช่นเดียวกับ เสือป่าพล่าซ่า เมก้าพลาซ่า วังบูรพา ซึ่งมีลักษณะคล้ายอาคารพาณิชย์สูง ติดแอร์ มีฟู้ดคอร์ท และให้เปิดให้เช่าเป็นร้านค้าต่างๆ
อันนี่เป็นคลิปนำเสนอ