First Review : Away Resort 3D, 2N
ตอนที่ 2 ตามนี้เลยครับ
http://www.ppantip.com/topic/32059766

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิป
นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกผิดพลาดยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ^^

วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ ชิวๆ ณ เกาะกูด ที่ Away Resort (จังหวัด ตราด)
เนื่องจากว่า แฟนของผมไปอ่านคอลัมน์ท่องเที่ยวในเว็บๆ หนึ่งซึ่งบรรยายเกี่ยวกับเกาะกูด
แล้วเกิดอยากจะไปเที่ยวขึ้นมา พวกเราจึงได้หาข้อมูลกันว่าจะไปพักที่ไหนดี
จนในที่สุด ก็เลือกมาได้ 3 ที่ คือ Away, Cham's House และ Peter Pan
พอลองดูแพคเกจแล้ว ต้องขอบอกก่อนเลยว่าไม่เน้นดำน้ำ
เน้นพักผ่อน เพราะ แฟนผมกลัวปลา =*= เลยตัด Peter Pan ออกไปก่อนเลยเพราะในแพคเกจเค้ามีดำน้ำ
ต่อมาก็ Cham's House ที่คิดแล้วว่าน่าจะเกินงบไปนิดนึง =*= เลยอดครับ
สุดท้ายก็เลยมาจบลงที่ Away Resort

แพคเกจของ Away หลังจากได้โทรไปสอบถามแล้ว ทางรีสอร์ทระบุว่าต้องไป 2 ท่าน (ถึงจะได้ราคาตามแพคเกจ)
โดย ราคาตามแพคเกจนี้ รวมค่าอาหาร 6 มื้อ (วันแรก - มื้อกลางวัน + เย็น, วันที่สอง - มื้อเช้า + กลางวัน + เย็น, วันที่สาม - มื้อเช้า)
รวมค่าห้องพักแบบ Bungalow Duplex สำหรับ 2 ท่าน
ซึ่งจริงๆ ห้องนี้สามารถพักได้ 4 คนเพราะมีเตียงใหญ่ 1 เตียง เตียงเล็กอีก 2 เตียงครับ แต่ถ้าจะอยู่ 4 คน ก็ต้องจ่ายเพิ่มตามธรรมเนียม
และแพคเกจนี้ยังรวมค่าเรือข้ามฝากทั้งไป-กลับ ของบริษัท Ko Kut Express ไว้แล้วด้วย
ที่พวกเราจะต้องออกกันเองเพิ่มเติม ก็มีแค่ค่ารถตู้จากกรุงเทพไปตราดเท่านั้นครับ ^^
ส่วนท่านใดที่อยากขับรถไปเอง ก็ได้ครับแต่ต้องจอดรถไว้ที่ท่าเรือเพราะไม่สามารถนำเรือข้ามไปได้ โดยค่าที่จอดก็คืนละ 50 บาท

เริ่มออกเดินทางกันเลยครับ โดยพวกเราจะไปขึ้นรถที่อนุเสาวรีย์ ตรงฝั่งท่าพญาไท
ซึ่งรถตู้รอบแรก กรุงเทพ-ตราด ออกตอนตีห้าครึ่ง แนะนำให้มาสักตีห้าครับผม
แต่ตอนผมไปผมไปนี่ตี 4 เพราะผมเข้าใจผิดคิดว่ามีรถรอบแรกออกตอนตี 4 ครับ 55
ถ้าใครจะไปโดยรถตู้แนะนำให้ศึกษาเรื่องเวลา และ โทรจองกับท่ารถก่อนเลยครับ จะได้ไม่ต้องมานั่งรอแบบผม =*=

หลังจากหลับๆ ตื่นๆ บนรถตู้ไป ก็มาถึงตัวเมืองตราดแล้วครับ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

จากที่นี่ใครจะไปท่าเรือเอง จะมีรถสองแถวรอบริการอยู่ครับ น่าจะประมาณคนละ 50 บาท
แต่ผมกับแฟนจองมาเป็นแบบแพคเกจก็เลยจะมีรถจากบริษัทเรือ Ko Kut Express มารับครับ
นั่งรอรถมารับกันไปประมาณครึ่งชั่วโมงครับ เพราะรถของทางบริษัทจะมารับเวลาประมาณ 10.30-11.30

ตอนนั้นอากาศค่อนข้างร้อนจึงจัดน้ำแดงเย็นๆ ร้านป้าแถวนั้นมา 1 แก้วครับ

รอไป รอมา รถที่จะมารับก็มาถึงแล้วครับ

เมื่อมาถึงที่ท่าเรือก็ต้องไปลงทะเบียนรับตั๋วเรือ ซึ่งคนเยอะใช้ได้เลย
ที่นั่งก็เต็มทั้งหมดครับ ใครมาแบบไม่ได้จองระวังจะพลาดเรือนะครับ

หน้าตาตั๋วเรือครับ

หลังจากนั้นพอถึงเวลาใกล้เรือจะออก ทางบริษัทก็จะให้รถไปส่งตรงที่เรือจอดครับ
นั่งเรือไปเกือบๆ 2 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วครับเกาะกูดในฝัน

น้ำทะเลสีสวย และแดดแรงมากครับ

จากนั้นรถของ Ko Kut Express ก็จะพาเราไปส่งที่หน้ารีสอร์ท

และแล้ว ก็มาถึง Away Resort วิวแรกที่เห็น สวยงาม ตื่นตา ตื่นใจมากครับ

อดไม่ได้ที่จะเก็บรูปวิวสวยๆ

เนื่องจากที่ตั้งของ AWAY อยู่บริเวณปากอ่าวครับ ทำให้สามารถมองเห็นทั้งคลองเจ้า และชายหาดไปพร้อมๆกัน

ชื่นชมบรรยากาศกันพอสมควร ก็เดินตามทางนี้เพื่อไป Check In ที่ล็อบบี้ครับ


พอมาถึงพี่พนักงานก็นำเวลคั่มดริ้งมาเสริฟครับ น้ำอะไรไม่รู้ (รู้มาทีหลังว่ามันคือน้ำพั๊นซ์) แต่สดชื่นมากกก

อันนี้ก็เป็นตารางกิจกรรมต่างๆของทางรีสอร์ทครับ

เนื่องจากเดินทางมาไกล ละนี่ก็เกือบบ่ายสามละครับ ทางรีสอร์ทเลยให้ไปรับประทานอาหารกลางวันกันก่อน
นี่คือที่นั่งรับประทานอาหารของเราครับ

รูปข้างล่างผมรออาหารไม่ไหวละครับ หิวววววว เลยหั่นแฟนกินซะเลย ^^

ในที่สุดอาหารก็มาครับ สำหรับแพคเกจอาหารสามารถเติมข้าวสวยได้ตลอดครับ
จานแรกแกงเขียวหวานทะเล (หวานสมชื่อเลยครับ)

จานนี้ไก่ทอดกระเทียม (รสชาติโอเค แต่ไก่แข็งไปนิดครับ)

จานสุดท้ายคะน้าผัดกุ้ง อันนี้อร่อยใช่ได้เลยครับ

ส่วนของหวานก็เป็นไอติมหวานๆ เย็นๆ อร่อยครับ

ระหว่างนั่งทาน พี่พนักงานก็นำกุญแจห้องมาให้ครับ


เมื่อทานอาหารกันอิ่มเรียบร้อยก็นำสัมภาระไปเก็บกัน
นี่คือหน้าตาที่พักที่เราจะอยู่กันตลอดทริปนี่ครับ


เข้ามาถึงก็แปลกใจครับ มีทีวีด้วย เนื่องจากที่ศึกษามาในตอนแรกเค้าบอกว่าไม่มีครับ

ในห้องพักก็จะมีเตียง

ตู้เสื้อผ้า

โซฟานั่งพักผ่อน

มินิบาร์

โคมไฟ

ผ้าขนหนู 2 ผืนครับ

อันนี้ตระกร้า ผ้าขนหนูสำรองสำหรับไปเล่นน้ำครับ

อ่างล้างหน้าซึ่งอยู่ระหว่างห้องอาบน้ำและห้องน้ำ

ส่วนห้องอาบน้ำก็มีเครื่องทำน้ำร้อนครับ แต่สบู่ ยาสระผมไม่ค่อยโอเท่าไรครับผมว่า พกมากันเองจะดีกว่า

อันนี้ห้องน้ำครับ

อันที่จริงห้องพักห้องนี้มีชั้น 2 ด้วยครับ บนชั้น 2 จะมีเตียงเล็กอยู่ 2 เตียงครับ (พอดีแฟนผมไม่ได้ถ่ายมา)

ภาพรวมของห้องพักครับ

ด้านหน้าห้องพักมีโต๊ะนั่งครับ

ดูห้องกันพอหอมปากหอมคอ ก็ได้เวลาออกไปทำกิจกรรมอื่นๆบ้าง
ที่นี่มีกิจกรรม ค่อนข้างหลากหลายเลยครับ มีทั้งดำน้ำ ดูหิ่งห้อย หรือจะเช่ามอไซด์ ขับวนรอบเกาะก็ชิวดีครับ
แต่กิจกรรมที่พวกเราสนใจคือพายเรือคายัค เพราะฟรีครับ

ที่นี่มีสอนการพายเบื้องต้น สำหรับคนที่ไม่เคยพายด้วยครับ ผมแนะนำไปคุยกับพี่คนนี้เลยครับ อย่างฮาครับขอบอก

และเส้นทางที่สามารถจะพายไปได้ ก็มีสองเส้นทางครับ คือทะเลหน้าหาด กับ คลองเจ้า
ซึ่งพวกผมเลือกที่ จะพายไปตามหาดต่างๆก่อน

แล้วค่อยวกกลับมาพายเข้าคลองเจ้าครับ สองข้างทางก็จะเป็นต้นโกงกาง ธรรมชาติมากๆ

บอกได้เลยครับ ว่าถ้าบ้าพลังพายใส่เต็มแต่แรกแบบผม ภาระ ตอนหลังจะตกอยู่ที่แฟนคุณทันทีครับ 55
และช่วงเวลาที่แนะนำให้พายคือตอนประมาณ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป
เพราะถ้าพายก่อนหน้านี้จะ ร้อนมากกก แต่ข้อดีคือ เราจะมีเรือให้พายแน่นอนครับ

หลังจากพายกันมาเหนื่อยๆ ก็กลับมาอาบน้ำ และได้เวลาทานข้าวเย็นกันครับ
จานแรกของคืนนี้ ปูม้าผัดผงกระหรี่

จานที่สอง ต้มข่าทะเล (ออกหวานเหมือนเดิม)

จานที่สามเบสิกครับ ผัดผัก (อร่อยเลยครับจานนี้)

และจานสุดท้าย ลาบปลาทอด (ปลาทอดจะค่อนข้างแข็งครับ)

และตบท้ายของหวาน กล้วยบวชชี

หน้าตาอาหารทั้งหมด เต็มโต๊ะมาก นี่คือทานกัน 2 คนนะครับ


อาหารที่ทางรีสอร์ทจัดจะสอบถามเวลาที่เราจะมาทานและแจ้งเมนูก่อนทุกครั้ง
เพื่อมีอะไรที่เราทานไม่ได้ก็สามารถเปลี่ยนได้ครับ ส่วนพวกเราทานได้ทุกอย่างครับ
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ กิจกรรมยามค่ำคืนก็คือไปดูหิ่งห้อยกันครับ
ซึ่งตอนแรกผมก็นึกว่าไปกับทางรีสอร์ท แต่เขาให้เราไปกับชาวบ้านที่มีเรือแถวนั้น เหมือนที่นี่เขาช่วยกันทำมาหากินครับ
โดยที่ชาวบ้านจะนำมอไซด์มารับเราไปลงเรือที่บ้านเขาซึ่งเป็น Home Stay ครับ

พอลงเรือเสร็จ เรือก็ค่อยๆ แล่นไปตามคลองเจ้าจนเกือบจะสุดสาย ผมก็ยังไม่เห็นหิ่งห้อยสักตัวครับ
สงสัยโชคไม่ค่อยดี และเป็นคืนเดือนหงายด้วย แต่พี่ที่พาไปก็พยายามเต็มที่ครับ
จนในที่สุดก็เจอ เราก็เจอหิ้งห้อย อยู่กันตั้ง สาม … ตัวครับ =*=
แต่ไม่เป็นไรครับเพราะได้มานั่งเรือตากลม ชมวิวก็โรแมนติกดีแล้วครับ
เนื่องจากมันมืดมาก เลยไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ชมกันได้
แต่บอกได้เลยครับว่าบรรกาศดีมากๆ เชิญชวนมาสัมผัสกันครับ
อันนี้พยายามถ่ายกันมาก ไฟที่เห็นคือที่พักของ Peter Pan ครับ

สงสัยจะลงไม่พอในกระทู้เดียวแล้วละครับ
กิจกรรมอื่นๆ ในวันถัดไปขออัพเป็นอีกกระทู้แล้วกันนะครับ

สำหรับพาร์ทแรกวันนี้มีอะไรผิดพลาดยังไง ก็อย่าลืมต