เขียนชื่อกระทู้ผิดอ่า.... เที่ยวหลีเป๊ะ 4 วัน 3 คืน เดินทางด้วยตัวเอง เอารูปสวยๆมาฝากจ้า
การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นจากการช่วงสงกรานต์มาเที่ยวลังกาวีแล้วไกด์ที่ลังกาวีเล่าว่า หลีเป๊ะสวยมาก... ประกอบกับว่า เดือนพฤษภาคม มีช่วงหยุดยาว แถมตั๋วเครื่องบินจองก่อนล่วงหน้าประมาณ 2 อาทิตย์ ได้ราคาถูกมากๆ... ก็เลยตั้งใจว่าต้องมาให้ได้ วางแผนครั้งแรก กะแค่ว่า จะเที่ยวแค่ 3 วัน 2 คืน แต่พอคำนวณระยะการเดินทาง.. ประกอบกับว่า มาหลีเป๊ะต้องมาดำน้ำ ทั้งรอบใน รอบนอก... แค่ 3 วัน 2 คืน คงไม่พอ... ก็เลยตัดสินใจว่า งั้น 4 วัน 3 คืนแล้วกัน (หลังจากเที่ยวแล้ว ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ กลับมาแล้วอยากทำรีวิวแรกในชีวิตเลย ฮ๋าๆ ) จากนั้นก็ยัดเสื้อผ้าพับใส่กระเป๋าและแบกเป้ พร้อมเดินทาง
วันแรก ( วันที่ 2 พฤษภาคม) เดินทางด้วยเครื่องบินสายการบินนกแอร์ ปรากฏว่า ตอนราวตีห้าครึ่ง ทางสายการบินโทรมาบอกว่า ไฟท์ถูกยกเลิก เนื่องจากเครื่องเสีย... ฮื่อๆ ก็เลยได้บินไฟท์ถัดมาแทนตอน 9:20 มาถึง หาดใหญ่ราว 10:45 น. ผิดแผนไปหมด... เพราะตอนแรกตั้งใจว่า จะมาหาดใหญ่แล้วจะไปปากบาราให้ทันเรือรอบแรก (11:00)
พอลงเครื่องเสร็จ ก็เดินออกจากสนามบินหาดใหญ่ มองตรงไป จะเจอคิวรถ สองแถวสีน้ำเงิน เป็นสองแถวสำหรับเข้าเมือง
เราจะไปต่อรถตู้ไปท่าเรือปากบารา ต้องไปที่คิวรถตู้ หน้าตลาดเกษตร ค่ารถสองแถว 30 บาท ค่ารถตู้ 100 บาท วิ่งสุดสายที่ท่าเรือปากบาราเลย... ( ปกติถ้าจองรถตู้มารับส่งที่ สนามบินหาดใหญ่- ท่าเรือปากบารา ราคาก็อยู่ราวๆ 200-300 บาทต่อเที่ยว ขึ้นอยู่กับบริษัททัวร์ที่สนใจ ) แต่เราเน้นถูก ก็เลยไปแบบนี้ พอดีที่ซื้อตั๋ว พนักงานถามว่า เราไปเที่ยวเกาะหรอ ซื้อทัวร์เรือ รึยัง เค้าขายเราให้ราคา 1,100 บาท (ค่าเรือสปีดโบ๊ท 900, ค่ารถไปกลับท่าเรือปากบารา-หาดใหญ่ 200) ซึ่งถือว่าเป็นราคาปกติ เราขี้เกียจไปเดินหาเรือที่ท่าเรือปากบารา ก็เลยโอเค เป็นทัวร์ของบริษัท Satun C.P.S.Travel
รถตู้ของ บขส. ที่นั่งมาจากหาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา รอบ 11:30 รถเต็มก็ออก ภายในรถเต็มไปด้วยของและคน เต็มคันรถ แวะส่งของ ส่งคนตลอดทางเลยจ้า... ฮามากๆ เรานั่งเบาะหลังสุดเลยจ้า... เป็นเบาะที่นั่งสี่คน อึดอัดมว้ากๆ ฝนตกมาเกือบตลอดทางด้วย พอถือท่าเรือ ฝนหยุดตก ค่อยโล่งใจหน่อย
อันนี้คือต่อแถวซื้อตั๋ว จ้า...
ตั๋วรถตู้จ้า ได้นั่งหลังสุด เบาสุดท้ายเบย... เราขึ้นบุ๊บรถออกพอดี
คนแน่นคันรถ แถมของแน่นรถ คนขับแวะส่งของตลอดทาง ฮ๋าๆ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ฝนตกตลอดทาง... ลุ้นแทบแย่... ถ้าไปถึงท่าเรือ แล้วฝนตก คงเศร้า... แต่ตกแค่ระหว่างเดินทางมาค่ะ
อะจ๊ากกก.... ตัวอะไรก็ไม่รู้ในรถตู้... มันอยู่หน้าเรา... จะปัดก็ไม่กล้า... นั่งจ้องมันไปจนถึงปากบารา... ฮื่อๆ มันก็คงเกร็งไม่แพ้เรา...
ถึงแล้ว... ภาพวิวก่อนถึงท่าเรือปากบารา
รถตู้จอดหน้าบริษัททัวร์เลยจ้า.... ข้างๆมีเซเว่น
ถึงท่าเรือราวๆ 13:30 จอดหน้าบริษัททัวร์ที่เราซื้อมาเลย บริษัท Satun C.P.S.Travel ข้างๆมี 7-11 ด้วย เจ้าหน้าที่น่ารักมาก อธิบายทุกอย่างโอเค เรือที่ไปเกาะหลีเป๊ะ ในหนึ่งวันจะมีเรือ 2 รอบ คือ รอบ 11:00 และ 15:00 ทางบริษัททัวร์ที่เราไปถึงเค้าจะทำการ Check-in กับบริษัททัวร์ที่เป็นโควกันอยู่ เราก็จะได้รับบัตรคิวสำหรับขึ้นเรือมา เป็นบัตรเคลือบแข็ง ไว้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตอนขึ้นเรือ
ตั๋วขึ้นเรือ สปีดโบ๊ท บันดาหยา
อีกนานเลยกว่าจะขึ้นเรือ ก็เลยไปทานข้าวร้านฝั่งเดียวกับ 7-11 ชื่อร้านบังวร เป็นร้านอาหารตามสั่ง และอิสลามนะจ๊ะ เราสั่งข้าวราดปลาหมึกทอดกระเทียมไข่ดาว กับราดหน้าทะเล อร่อยดี... ปลาหมึกสดมากๆ
จากนั้นอิ่มท้องแล้วก็เดินทางไปขึ้นเรือ โดยกระเป๋าจะมีพนักงานรับไปส่งลงเรือให้ก่อนแล้ว เราถือเพียงของใช้ส่วนตัวและของมีค่าติดตัวไปขึ้นเรือ ที่ท่าเรือต้องเสียค่าธรรมเนียมท่าเรือด้วยนะจ๊ะ 20 บาท
เรือที่เราไปชื่อเรือบันดาหยา นั่งได้ราวๆ 80-100 ที่ ช่วงบ่ายคนไม่แน่นเรือเลย... ต้องขึ้นเรือตามเลขบัตรคิวที่เรียกนะจ๊ะ ใครเช็คอินก่อน ได้ขึ้นเรือก่อน อ๋อ… นั่งเรือค่อนข้างนานอยู๋ อย่าลืมถือน้ำและขนมติดไม้ติดมือไปด้วย หรือซื้อขนมทุกอย่างจากเซเว่นที่ท่าเรือปากบาราไว้เยอะๆๆๆๆ ก่อนเลย เพราะบนเกาะมีเซเว่นก็จริง แต่ราคาคูณสองเท่า เกือบทุกอย่าง อยู่บนเรือ หลับไปได้เลยจ้า....
นั่งชมวิวเย็นๆไปเลยจ้า ราว 2 ชั่วโมง... ถึงจะถึงหลีเป๊ะจ้า
ผ่านไป 1:30 ชั่วโมง
และแล้วเรือก็พาไปแวะ เกาะไข่จ้าาาาา ราว 20 นาที ครึ้มฟ้า ครึ้มฝนนิดหน่อย แต่ะทะเลงามมาก
ให้เราได้ชักภาพตามอัทธยาศัย งดงามดีจ้า... หาดทรายขาว วันที่ไป แดดไม่ค่อยร้อนเท่าไร บรรยากาศโอเคเลย
ขึ้นเรือต่อไปที่โป๊ะหน้าเกาะหลีเป๊ะจ้า ปกติแล้วโป๊ะหน้าเกาะ สำหรับจอดเรือรับส่งคน ถ้าเป็นช่วง high season จะอยู่หน้าหาดพัทยา แต่ช่วงที่เราไปเพิ่งเข้าหน้า low season โป๊ะจะย้ายมาอยู่หาดซันไรท์ หรือ หาดชาวเลจ้า พอขึ้นโป๊ะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเกาะหลีเป๊ะ 20 บาทและค่าเรือหางยาวสำหรับเข้าเกาะคนละ 50 บาท ถามเค้าเหมือนกันนะ ว่าทำไมไม่ให้สปีดโบ๊ทเข้าไปส่งที่ฝั่งเลย เค้าบอกว่า ถือเป็นรายได้ให้กับคนท้องถิ่นที่นั่น ซึ่งเราว่าก็โอเคนะ...
ต่อคิวซื้อตั๋วเข้าเกาะ
คุณลุงเรือหางยาวจ้า
ขึ้นมาบนหาดชาวเลแล้วจ้า... มีโรงเรียนเกาะอาดัง อยู่ใกล้ๆหน้าหาดเลย... มีรถของโรงแรมมารอรับ แล้วก็มีแทกซี่บนเกาะจ้า แท็กซี่นี่เป็นรถสามล้อนะค๊า เค้าคิดค่าบริการต่อคนต่อเที่ยว 50 บาทจ้า โรงแรมที่เราไปพักวันแรกไม่มีจ้า... ฮ่าๆ ต้องเดินไป... ดีเลยได้ทำความรู้จักกับเกาะ... เดินประมาณ 10 นาที ระหว่างทางเจอบ้านชาวบ้าน ร้านอาหาร อนามัย สถานีตำรวจ เราก็จำๆๆ แล้วเดินๆไป ถามนู้นนี่ชาวบ้านไปตลอดทาง ที่พักเราอยู่แถวถนน Walking Street จ้า ในที่สุดก็ถึงที่พัก
ทางเข้าที่พักจ้าาาา
ราวๆ 17:45 ที่พักคืนแรก ชื่อ Gecko Resort จองผ่าน Agoda จ้า เจ้าของเป็นฝรั่งนะจ๊ะ หากโทรมาสอบถาม Please speak in english ที่พักเดินขึ้นเนินจาก Walking Street มาประมาณ 20 เมตร ทางเข้าที่พักร่มรื่นมากเพราะเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เหมือนอยู่กลางป่า ที่พักจัดคล้ายๆโอมสเตย์ อารมณ์แบบเป็นเถียงนาน้อยๆ ที่อยู่กลางป่า บรรยากาศมันใช่อ่ะ.... แล้วที่ต้องห้ามลืมเด็ดขาดเลยสำหรับการพักที่หลีเป๊ะ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามคือโลชั่นกันยุง ก.ย.15 ซอฟเฟล ตะไคร้หอม อะไรก็ตามแต่ ลืมไม่ได้เลยจ้า... เพราะยุงสามารถหามท่านได้เลยทีเดียว ยุงทะเลมันดุมว้าก... ที่พักนอนมุ้งนะคะ น้ำจืดมีให้อาบ เพราะมีประปาบนเกาะจ้า มีไฟฟ้าใช้ เพราะมีบริษัทเดียวกับที่เกาะพีพีที่ปั่นไฟขายจ้า (ชาวบ้านบอกมาว่า น้ำไฟที่นี่ต้องประหยัดนะจ๊ะ เพราะต้นทุนเค้าสูงมากเลย น้ำก็แพง ไฟก็แพง ไฟหน่วยละ 25 บาทเลยทีเดียวเชียว) เราแบบว่าอารมณ์นักท่องเที่ยวอะเนอะ บางที่พักเป็นคีย์การ์ดไรงี้ ก็แอบแกะกุญแจแล้วคาคีย์การ์ดไว้ จะบอกว่า... มาที่นี่ก็สงสารเค้านิดนึงเถอะค่ะ ทุกอย่างแพง อะไรช่วยเค้าได้ก็ช่วยเถอะ ปิดน้ำ ปิดไฟ ประหยัดๆ จ้า
เราเอาข้าวของเก็บเรียบร้อยก็ไปเดิน Walking Street เลยจ้า... เดินชิลๆ ทะลุไปหาดพัทยา... พระอาทิตย์ตกยามเย็น สวยมาก...
แล้วเจอเจ้าถิ่น
จากนั้น หาทัวร์ดำน้ำ หากมาช่วงเทศกาล อย่าประมาท!! ไม่จองทัวร์ดำน้ำก่อนไม่ได้เลยนะจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็นแบบเหมาหรือจอยกรุ๊ป.. เราเดินถามประมาณ 10 ร้านได้ บอกเต็มหมด T_T เศร้ามาก จนมาเจอบริษัททัวร์เทพบุตร... อันนี้ตั้งเอง ประหนึ่งนางฟ้ามาโปรด... บริษัท Thai Beach Travellers อยู่ต้นๆ หาดพัทยา เดินมาทาง Walking Steet สัก 20 เมตร อยู่ทางซ้ายมือ ดีใจสุดๆ เค้าบอกว่า... เหลือเรือลำนึง แต่ต้องเหมานะ เราโอเคเลย ราคาอยู่ที่ 1,800 บาท และค่าเช่าสน็อคเกิ้ล อีก 100 บาท รวม 1,900 บาท อันนี้ไม่รวมค่าข้าวกลางวันนะค่ะ ต้องเตรียมไปเองต่างหาก โดยหาซื้อตามร้านตามสั่งทั่วไปได้ ในราคา 60-100 บาท และน้ำดื่มก็ต้องเตรียมไปเอง (น้ำดื่มขวดเล็กราคา 18-20 บาท ขวดใหญ่ราคา 28-30 บาท) พี่ที่แนะนำทัวร์เป็นผู้ชาย แนะนำดีมากๆ พูดเพราะ ตลก ชอบๆ เลยไปกับบริษัทนี้สองวันเลยค่ะ
สำหรับอาหารเย็นวันแรก.. เดินหาอยู่หลายร้าน... แต่ไม่ได้ไปทานร้านชื่อดังของที่เกาะเลย เช่น ร้านรักษ์เล ร้านชาวเล เพราะคนเยอะ.. และดูอึดอัด... เลยไปหาร้านแถวกลางเกาะ ชื่อร้าน “คอนเนอร์ฟู๊ด” ตรงข้ามร้านพิซซ่าชื่อดังของเกาะ ร้านนี้มีอาหารไทยตามสั่ง ส้มตำ มีปูปลาร้าด้วย รวมถึงอาหารทะเล... เราสั่ง.. ต้มยำทะเล ผัดขี้เมาเนื้อ และปลาหมึกย่าง กับข้าวเปล่า น้ำอัดลม น้ำเปล่า ค่าเสียหาย 440 บาท ก็ถือว่าโอเค
คืนนั้นกลับไปนอนพักผ่อนแต่หัววัน หลังจากเดินทางมาทั้งวัน... เหนื่อยมาก... นานมากแล้วที่ไม่นอนห้องพัดลม... แถมต้องกางมุ้งอีกตั้งหาก... ตกดึกมีเสียงตุ๊บๆ บนหลังคาเป็นระยะๆ เนื่องจากต้นไม้เยอะ และลูกขนุนลูกเล็กๆ ตกทั้งคืน... เสียงจิ้งหลีด.. เสียงนกร้อง เสียงแมวเดิน..
[CR] เที่ยวหลีเป๊ะ 4 วัน 2 คืน เดินทางด้วยตัวเอง เอารูปสวยๆมาฝากจ้า
การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นจากการช่วงสงกรานต์มาเที่ยวลังกาวีแล้วไกด์ที่ลังกาวีเล่าว่า หลีเป๊ะสวยมาก... ประกอบกับว่า เดือนพฤษภาคม มีช่วงหยุดยาว แถมตั๋วเครื่องบินจองก่อนล่วงหน้าประมาณ 2 อาทิตย์ ได้ราคาถูกมากๆ... ก็เลยตั้งใจว่าต้องมาให้ได้ วางแผนครั้งแรก กะแค่ว่า จะเที่ยวแค่ 3 วัน 2 คืน แต่พอคำนวณระยะการเดินทาง.. ประกอบกับว่า มาหลีเป๊ะต้องมาดำน้ำ ทั้งรอบใน รอบนอก... แค่ 3 วัน 2 คืน คงไม่พอ... ก็เลยตัดสินใจว่า งั้น 4 วัน 3 คืนแล้วกัน (หลังจากเที่ยวแล้ว ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ กลับมาแล้วอยากทำรีวิวแรกในชีวิตเลย ฮ๋าๆ ) จากนั้นก็ยัดเสื้อผ้าพับใส่กระเป๋าและแบกเป้ พร้อมเดินทาง
วันแรก ( วันที่ 2 พฤษภาคม) เดินทางด้วยเครื่องบินสายการบินนกแอร์ ปรากฏว่า ตอนราวตีห้าครึ่ง ทางสายการบินโทรมาบอกว่า ไฟท์ถูกยกเลิก เนื่องจากเครื่องเสีย... ฮื่อๆ ก็เลยได้บินไฟท์ถัดมาแทนตอน 9:20 มาถึง หาดใหญ่ราว 10:45 น. ผิดแผนไปหมด... เพราะตอนแรกตั้งใจว่า จะมาหาดใหญ่แล้วจะไปปากบาราให้ทันเรือรอบแรก (11:00)
พอลงเครื่องเสร็จ ก็เดินออกจากสนามบินหาดใหญ่ มองตรงไป จะเจอคิวรถ สองแถวสีน้ำเงิน เป็นสองแถวสำหรับเข้าเมือง
เราจะไปต่อรถตู้ไปท่าเรือปากบารา ต้องไปที่คิวรถตู้ หน้าตลาดเกษตร ค่ารถสองแถว 30 บาท ค่ารถตู้ 100 บาท วิ่งสุดสายที่ท่าเรือปากบาราเลย... ( ปกติถ้าจองรถตู้มารับส่งที่ สนามบินหาดใหญ่- ท่าเรือปากบารา ราคาก็อยู่ราวๆ 200-300 บาทต่อเที่ยว ขึ้นอยู่กับบริษัททัวร์ที่สนใจ ) แต่เราเน้นถูก ก็เลยไปแบบนี้ พอดีที่ซื้อตั๋ว พนักงานถามว่า เราไปเที่ยวเกาะหรอ ซื้อทัวร์เรือ รึยัง เค้าขายเราให้ราคา 1,100 บาท (ค่าเรือสปีดโบ๊ท 900, ค่ารถไปกลับท่าเรือปากบารา-หาดใหญ่ 200) ซึ่งถือว่าเป็นราคาปกติ เราขี้เกียจไปเดินหาเรือที่ท่าเรือปากบารา ก็เลยโอเค เป็นทัวร์ของบริษัท Satun C.P.S.Travel
รถตู้ของ บขส. ที่นั่งมาจากหาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา รอบ 11:30 รถเต็มก็ออก ภายในรถเต็มไปด้วยของและคน เต็มคันรถ แวะส่งของ ส่งคนตลอดทางเลยจ้า... ฮามากๆ เรานั่งเบาะหลังสุดเลยจ้า... เป็นเบาะที่นั่งสี่คน อึดอัดมว้ากๆ ฝนตกมาเกือบตลอดทางด้วย พอถือท่าเรือ ฝนหยุดตก ค่อยโล่งใจหน่อย
อันนี้คือต่อแถวซื้อตั๋ว จ้า...
ตั๋วรถตู้จ้า ได้นั่งหลังสุด เบาสุดท้ายเบย... เราขึ้นบุ๊บรถออกพอดี
คนแน่นคันรถ แถมของแน่นรถ คนขับแวะส่งของตลอดทาง ฮ๋าๆ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ฝนตกตลอดทาง... ลุ้นแทบแย่... ถ้าไปถึงท่าเรือ แล้วฝนตก คงเศร้า... แต่ตกแค่ระหว่างเดินทางมาค่ะ
อะจ๊ากกก.... ตัวอะไรก็ไม่รู้ในรถตู้... มันอยู่หน้าเรา... จะปัดก็ไม่กล้า... นั่งจ้องมันไปจนถึงปากบารา... ฮื่อๆ มันก็คงเกร็งไม่แพ้เรา...
ถึงแล้ว... ภาพวิวก่อนถึงท่าเรือปากบารา
รถตู้จอดหน้าบริษัททัวร์เลยจ้า.... ข้างๆมีเซเว่น
ถึงท่าเรือราวๆ 13:30 จอดหน้าบริษัททัวร์ที่เราซื้อมาเลย บริษัท Satun C.P.S.Travel ข้างๆมี 7-11 ด้วย เจ้าหน้าที่น่ารักมาก อธิบายทุกอย่างโอเค เรือที่ไปเกาะหลีเป๊ะ ในหนึ่งวันจะมีเรือ 2 รอบ คือ รอบ 11:00 และ 15:00 ทางบริษัททัวร์ที่เราไปถึงเค้าจะทำการ Check-in กับบริษัททัวร์ที่เป็นโควกันอยู่ เราก็จะได้รับบัตรคิวสำหรับขึ้นเรือมา เป็นบัตรเคลือบแข็ง ไว้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตอนขึ้นเรือ
ตั๋วขึ้นเรือ สปีดโบ๊ท บันดาหยา
อีกนานเลยกว่าจะขึ้นเรือ ก็เลยไปทานข้าวร้านฝั่งเดียวกับ 7-11 ชื่อร้านบังวร เป็นร้านอาหารตามสั่ง และอิสลามนะจ๊ะ เราสั่งข้าวราดปลาหมึกทอดกระเทียมไข่ดาว กับราดหน้าทะเล อร่อยดี... ปลาหมึกสดมากๆ
จากนั้นอิ่มท้องแล้วก็เดินทางไปขึ้นเรือ โดยกระเป๋าจะมีพนักงานรับไปส่งลงเรือให้ก่อนแล้ว เราถือเพียงของใช้ส่วนตัวและของมีค่าติดตัวไปขึ้นเรือ ที่ท่าเรือต้องเสียค่าธรรมเนียมท่าเรือด้วยนะจ๊ะ 20 บาท
เรือที่เราไปชื่อเรือบันดาหยา นั่งได้ราวๆ 80-100 ที่ ช่วงบ่ายคนไม่แน่นเรือเลย... ต้องขึ้นเรือตามเลขบัตรคิวที่เรียกนะจ๊ะ ใครเช็คอินก่อน ได้ขึ้นเรือก่อน อ๋อ… นั่งเรือค่อนข้างนานอยู๋ อย่าลืมถือน้ำและขนมติดไม้ติดมือไปด้วย หรือซื้อขนมทุกอย่างจากเซเว่นที่ท่าเรือปากบาราไว้เยอะๆๆๆๆ ก่อนเลย เพราะบนเกาะมีเซเว่นก็จริง แต่ราคาคูณสองเท่า เกือบทุกอย่าง อยู่บนเรือ หลับไปได้เลยจ้า....
นั่งชมวิวเย็นๆไปเลยจ้า ราว 2 ชั่วโมง... ถึงจะถึงหลีเป๊ะจ้า
ผ่านไป 1:30 ชั่วโมง
และแล้วเรือก็พาไปแวะ เกาะไข่จ้าาาาา ราว 20 นาที ครึ้มฟ้า ครึ้มฝนนิดหน่อย แต่ะทะเลงามมาก
ให้เราได้ชักภาพตามอัทธยาศัย งดงามดีจ้า... หาดทรายขาว วันที่ไป แดดไม่ค่อยร้อนเท่าไร บรรยากาศโอเคเลย
ขึ้นเรือต่อไปที่โป๊ะหน้าเกาะหลีเป๊ะจ้า ปกติแล้วโป๊ะหน้าเกาะ สำหรับจอดเรือรับส่งคน ถ้าเป็นช่วง high season จะอยู่หน้าหาดพัทยา แต่ช่วงที่เราไปเพิ่งเข้าหน้า low season โป๊ะจะย้ายมาอยู่หาดซันไรท์ หรือ หาดชาวเลจ้า พอขึ้นโป๊ะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเกาะหลีเป๊ะ 20 บาทและค่าเรือหางยาวสำหรับเข้าเกาะคนละ 50 บาท ถามเค้าเหมือนกันนะ ว่าทำไมไม่ให้สปีดโบ๊ทเข้าไปส่งที่ฝั่งเลย เค้าบอกว่า ถือเป็นรายได้ให้กับคนท้องถิ่นที่นั่น ซึ่งเราว่าก็โอเคนะ...
ต่อคิวซื้อตั๋วเข้าเกาะ
คุณลุงเรือหางยาวจ้า
ขึ้นมาบนหาดชาวเลแล้วจ้า... มีโรงเรียนเกาะอาดัง อยู่ใกล้ๆหน้าหาดเลย... มีรถของโรงแรมมารอรับ แล้วก็มีแทกซี่บนเกาะจ้า แท็กซี่นี่เป็นรถสามล้อนะค๊า เค้าคิดค่าบริการต่อคนต่อเที่ยว 50 บาทจ้า โรงแรมที่เราไปพักวันแรกไม่มีจ้า... ฮ่าๆ ต้องเดินไป... ดีเลยได้ทำความรู้จักกับเกาะ... เดินประมาณ 10 นาที ระหว่างทางเจอบ้านชาวบ้าน ร้านอาหาร อนามัย สถานีตำรวจ เราก็จำๆๆ แล้วเดินๆไป ถามนู้นนี่ชาวบ้านไปตลอดทาง ที่พักเราอยู่แถวถนน Walking Street จ้า ในที่สุดก็ถึงที่พัก
ทางเข้าที่พักจ้าาาา
ราวๆ 17:45 ที่พักคืนแรก ชื่อ Gecko Resort จองผ่าน Agoda จ้า เจ้าของเป็นฝรั่งนะจ๊ะ หากโทรมาสอบถาม Please speak in english ที่พักเดินขึ้นเนินจาก Walking Street มาประมาณ 20 เมตร ทางเข้าที่พักร่มรื่นมากเพราะเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เหมือนอยู่กลางป่า ที่พักจัดคล้ายๆโอมสเตย์ อารมณ์แบบเป็นเถียงนาน้อยๆ ที่อยู่กลางป่า บรรยากาศมันใช่อ่ะ.... แล้วที่ต้องห้ามลืมเด็ดขาดเลยสำหรับการพักที่หลีเป๊ะ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามคือโลชั่นกันยุง ก.ย.15 ซอฟเฟล ตะไคร้หอม อะไรก็ตามแต่ ลืมไม่ได้เลยจ้า... เพราะยุงสามารถหามท่านได้เลยทีเดียว ยุงทะเลมันดุมว้าก... ที่พักนอนมุ้งนะคะ น้ำจืดมีให้อาบ เพราะมีประปาบนเกาะจ้า มีไฟฟ้าใช้ เพราะมีบริษัทเดียวกับที่เกาะพีพีที่ปั่นไฟขายจ้า (ชาวบ้านบอกมาว่า น้ำไฟที่นี่ต้องประหยัดนะจ๊ะ เพราะต้นทุนเค้าสูงมากเลย น้ำก็แพง ไฟก็แพง ไฟหน่วยละ 25 บาทเลยทีเดียวเชียว) เราแบบว่าอารมณ์นักท่องเที่ยวอะเนอะ บางที่พักเป็นคีย์การ์ดไรงี้ ก็แอบแกะกุญแจแล้วคาคีย์การ์ดไว้ จะบอกว่า... มาที่นี่ก็สงสารเค้านิดนึงเถอะค่ะ ทุกอย่างแพง อะไรช่วยเค้าได้ก็ช่วยเถอะ ปิดน้ำ ปิดไฟ ประหยัดๆ จ้า
เราเอาข้าวของเก็บเรียบร้อยก็ไปเดิน Walking Street เลยจ้า... เดินชิลๆ ทะลุไปหาดพัทยา... พระอาทิตย์ตกยามเย็น สวยมาก...
แล้วเจอเจ้าถิ่น
จากนั้น หาทัวร์ดำน้ำ หากมาช่วงเทศกาล อย่าประมาท!! ไม่จองทัวร์ดำน้ำก่อนไม่ได้เลยนะจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็นแบบเหมาหรือจอยกรุ๊ป.. เราเดินถามประมาณ 10 ร้านได้ บอกเต็มหมด T_T เศร้ามาก จนมาเจอบริษัททัวร์เทพบุตร... อันนี้ตั้งเอง ประหนึ่งนางฟ้ามาโปรด... บริษัท Thai Beach Travellers อยู่ต้นๆ หาดพัทยา เดินมาทาง Walking Steet สัก 20 เมตร อยู่ทางซ้ายมือ ดีใจสุดๆ เค้าบอกว่า... เหลือเรือลำนึง แต่ต้องเหมานะ เราโอเคเลย ราคาอยู่ที่ 1,800 บาท และค่าเช่าสน็อคเกิ้ล อีก 100 บาท รวม 1,900 บาท อันนี้ไม่รวมค่าข้าวกลางวันนะค่ะ ต้องเตรียมไปเองต่างหาก โดยหาซื้อตามร้านตามสั่งทั่วไปได้ ในราคา 60-100 บาท และน้ำดื่มก็ต้องเตรียมไปเอง (น้ำดื่มขวดเล็กราคา 18-20 บาท ขวดใหญ่ราคา 28-30 บาท) พี่ที่แนะนำทัวร์เป็นผู้ชาย แนะนำดีมากๆ พูดเพราะ ตลก ชอบๆ เลยไปกับบริษัทนี้สองวันเลยค่ะ
สำหรับอาหารเย็นวันแรก.. เดินหาอยู่หลายร้าน... แต่ไม่ได้ไปทานร้านชื่อดังของที่เกาะเลย เช่น ร้านรักษ์เล ร้านชาวเล เพราะคนเยอะ.. และดูอึดอัด... เลยไปหาร้านแถวกลางเกาะ ชื่อร้าน “คอนเนอร์ฟู๊ด” ตรงข้ามร้านพิซซ่าชื่อดังของเกาะ ร้านนี้มีอาหารไทยตามสั่ง ส้มตำ มีปูปลาร้าด้วย รวมถึงอาหารทะเล... เราสั่ง.. ต้มยำทะเล ผัดขี้เมาเนื้อ และปลาหมึกย่าง กับข้าวเปล่า น้ำอัดลม น้ำเปล่า ค่าเสียหาย 440 บาท ก็ถือว่าโอเค
คืนนั้นกลับไปนอนพักผ่อนแต่หัววัน หลังจากเดินทางมาทั้งวัน... เหนื่อยมาก... นานมากแล้วที่ไม่นอนห้องพัดลม... แถมต้องกางมุ้งอีกตั้งหาก... ตกดึกมีเสียงตุ๊บๆ บนหลังคาเป็นระยะๆ เนื่องจากต้นไม้เยอะ และลูกขนุนลูกเล็กๆ ตกทั้งคืน... เสียงจิ้งหลีด.. เสียงนกร้อง เสียงแมวเดิน..
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น