เมื่อตกอยู่ ในอารมณ์ ที่มัวหมอง
แม้อรุณ เห็นฟ้าทอง ไร้ผ่องใส
จิตไฝ่หา คร่ำครวญคิด ผิดอันใด
หรือปราศรัย มากไป ไร้แก่นเกิน
ย้อนดูคำ ยามพบ ประสบพูด
อ่านแล้ว ดึงดูดใจ ให้พร่ำเผลอ
วนอาวรณ์ คิดถึง เพียงแต่เธอ
คำห่วงน้อย คล้อยทำเพ้อ พาเหม่อลอย
คิดถึงเธอ เธอรู้ อยู่ในจิต
แลบางครั้ง รู้ควรคิด ใจเผื่อเก้อ
อดีตฉัน เคยมีช้ำ ย้ำจนเบลอ
หากพลั้งเผลอ อีกครั้ง คงปางตาย
พลั้งเผลอ เผลอพลั้ง ระวังจิต
เผลอคิดเพ้อ ตามใจนัก ยากหักได้
บอกตัวเอง อย่าคาดหวัง กลัวพังทะลาย
เตือนตัวเอง ข่มหัวใจอย่าให้เพลิน
เตือนตัว เตือนตน เตือนดวงจิต
เตือนให้คิด หวังมาก อาจพลาดได้
หากวันนึง บอกเปล่ารัก จักทำไง
ต้องประคอง ป้องหัวใจ ให้แข็งแรง
.....................................
ปกติก่อนหน้านี้ไม่ค่อยแต่งกลอนค่ะ แม้จะอ่านเฉยๆก็ไม่บ่อย นานๆทีถึงจะค่อยสนใจบ้าง
แต่มาพักหลัง ที่รู้สึกจิตใจค่อนข้างไร้ที่ยึดเหนี่ยว
ในบางครั้งก็ฟุ้งซ่านเกินไป
เรื่องที่ควรจะคิดให้ดีกลับคิดดีไม่ได้ เรื่องที่ไม่ควรคิดมากไป ก็กลับคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
แต่แล้ววันนึงในขณะที่ครุ่นคิดอยู่กับเรื่องที่หาสาระได้น้อยนั้น
พลันก็รู้สึกว่า ในความคิดที่ฟุ้งซ่านและพร่ำเพ้อ เหมือนมันจะไหลเรียงเป็นบทกลอนเองตลอด
เมื่อลองเรียบเรียง เขียนออกมา จึงเห็นว่ามันช่างพรั่งพรูและหลั่งไหลออกมาได้แทบไม่ขาดสาย
บางครั้งก็ได้บทกลอนที่ดีบ้าง บางครั้งก็เป็นกลอนที่ไม่ได้ความ >//<
แรกๆรู้สึกแปลกใจ ทั้งที่กลอนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน
แต่ทำไมกลับรู้สึกมีความสุขได้อย่างน่าประหลาด หลังจากได้ร้อยเรียงมันออกมา
แต่ตอนนี้รู้แล้วค่ะ ว่าเพราะอะไร
เพราะเราได้ระบาย 'ได้ปลอดปล่อยอารมณ์ในเบื้องลึกออกมา' นั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แอบใส่ credit ด้วยค่ะ >.<
ขอบคุณ...กลอนดีๆและไพเราะ พร้อมกับมิตรภาพและจิตใจอ่อนโยน ในห้องแต่งกลอนที่นี่
ทีมีให้เราอ่าน สามารถปลอบประโลม และขัดเกลาจิตใจเราได้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ
เรารู้สึกว่าตัวเอง นั่งอยู่ในหมู่มวลภาษาดอกไม้ทุกครั้งที่แวะเข้ามา
ที่นี่ เป็นสังคมที่ดีจังเลยนะคะ
^^
กลอน ปลดปล่อยอารมณ์
แม้อรุณ เห็นฟ้าทอง ไร้ผ่องใส
จิตไฝ่หา คร่ำครวญคิด ผิดอันใด
หรือปราศรัย มากไป ไร้แก่นเกิน
ย้อนดูคำ ยามพบ ประสบพูด
อ่านแล้ว ดึงดูดใจ ให้พร่ำเผลอ
วนอาวรณ์ คิดถึง เพียงแต่เธอ
คำห่วงน้อย คล้อยทำเพ้อ พาเหม่อลอย
คิดถึงเธอ เธอรู้ อยู่ในจิต
แลบางครั้ง รู้ควรคิด ใจเผื่อเก้อ
อดีตฉัน เคยมีช้ำ ย้ำจนเบลอ
หากพลั้งเผลอ อีกครั้ง คงปางตาย
พลั้งเผลอ เผลอพลั้ง ระวังจิต
เผลอคิดเพ้อ ตามใจนัก ยากหักได้
บอกตัวเอง อย่าคาดหวัง กลัวพังทะลาย
เตือนตัวเอง ข่มหัวใจอย่าให้เพลิน
เตือนตัว เตือนตน เตือนดวงจิต
เตือนให้คิด หวังมาก อาจพลาดได้
หากวันนึง บอกเปล่ารัก จักทำไง
ต้องประคอง ป้องหัวใจ ให้แข็งแรง
.....................................
ปกติก่อนหน้านี้ไม่ค่อยแต่งกลอนค่ะ แม้จะอ่านเฉยๆก็ไม่บ่อย นานๆทีถึงจะค่อยสนใจบ้าง
แต่มาพักหลัง ที่รู้สึกจิตใจค่อนข้างไร้ที่ยึดเหนี่ยว
ในบางครั้งก็ฟุ้งซ่านเกินไป
เรื่องที่ควรจะคิดให้ดีกลับคิดดีไม่ได้ เรื่องที่ไม่ควรคิดมากไป ก็กลับคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
แต่แล้ววันนึงในขณะที่ครุ่นคิดอยู่กับเรื่องที่หาสาระได้น้อยนั้น
พลันก็รู้สึกว่า ในความคิดที่ฟุ้งซ่านและพร่ำเพ้อ เหมือนมันจะไหลเรียงเป็นบทกลอนเองตลอด
เมื่อลองเรียบเรียง เขียนออกมา จึงเห็นว่ามันช่างพรั่งพรูและหลั่งไหลออกมาได้แทบไม่ขาดสาย
บางครั้งก็ได้บทกลอนที่ดีบ้าง บางครั้งก็เป็นกลอนที่ไม่ได้ความ >//<
แรกๆรู้สึกแปลกใจ ทั้งที่กลอนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน
แต่ทำไมกลับรู้สึกมีความสุขได้อย่างน่าประหลาด หลังจากได้ร้อยเรียงมันออกมา
แต่ตอนนี้รู้แล้วค่ะ ว่าเพราะอะไร
เพราะเราได้ระบาย 'ได้ปลอดปล่อยอารมณ์ในเบื้องลึกออกมา' นั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณ...กลอนดีๆและไพเราะ พร้อมกับมิตรภาพและจิตใจอ่อนโยน ในห้องแต่งกลอนที่นี่
ทีมีให้เราอ่าน สามารถปลอบประโลม และขัดเกลาจิตใจเราได้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ
เรารู้สึกว่าตัวเอง นั่งอยู่ในหมู่มวลภาษาดอกไม้ทุกครั้งที่แวะเข้ามา
ที่นี่ เป็นสังคมที่ดีจังเลยนะคะ
^^