คือสงสัยว่า  "แต่ละวิกฤติ จะเปลี่ยนเทรนด์/ค่านิยมของคนไทย ได้หรือเปล่า??"

ก่อนต้มยำกุ้ง  แน่นอน คนไทยรุ้สึกว่า มนุษย์เงินเดือน ดูปลอดภัย สุขสบาย แต่งตัวดีๆเท่ห์ๆ มั่นคง

ตอนต้มยำกุ้ง  กิจการขนาดใหญ่ล้ม  พาปลดคนงาน   ทำให้หนุ่มสาวออฟฟิศ ต้องไป"เปิดท้ายขายของ" เกิดเทรนด์ใหม่ให้ผู้มีการศึกษาระดับนึงไปทำกิจการย่อยๆ  ...คำว่า SME ก็เป็นที่จับตามอง  เพราะเกิดขึ้นมากมายจนส่งผลต่อ GDP อย่างมีนัยสำคัญ .....ค่านิยมเจ้าของ SME เกิดขึ้นตรงนี้เป็นทวีคูณ

ตอนต้มยำกุ้งนั้น  คนกลุ่มนึง กลับไปทำไร่ไถนา  เป็นแรงงาน (เพราะโรงงานลอยแพพนักงานเป็นจำนวนมาก)

จนเศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อยๆ  ...พร้อมกับ Gen Y ที่มาด้วยค่านิยมใหม่ "การเป็นนายของตัวเอง"  ยิ่งทำให้ แรงงาน/พนักงานไทย เป็นเรื่องที่หายากมาก ..... กลับมีแต่คนค้าขาย เล็กๆน้อยๆ เจ๊งๆรอดๆ   จนมีคนขาย มากกว่าคนซื้อ  ..ภาวะวัตถุนิยมพุ่งสูง ให้คนจับจ่ายใช้สอยเป็นหนี้  ก็ยิ่งส่งเสริมให้มีคนขายมากขึ้นเรื่อยๆ

เจ้าของกิจการ SME ก็เลยต้องบ่นกันมายาวนานว่า  หาคนงานไทยไม่ได้เลย  ต้องไปพึ่งต่างด้าวแทน (ทั้งที่ต้องจ่ายแพงเท่าคนไทย)

แต่ตอนนี้ เศรษฐกิจตกต่ำแล้ว  ...กิจการย่อยๆ เริ่มย่อย(ยับ) ลงไป   อีกสัก6เดือน คงล้มตายกันเป็นเบือ
เราคงมีคนที่เดือดร้อน กับหนี้สินท่วมหัว , ค่าใช้จ่ายรายวัน, ไม่มีงาน(ค้าขาย)เดิมอีก

....แล้วเหตุนี้  เทรนด์/ค่านิยม จะเปลี่ยนไปไหมคะ????  
เราจะมีแรงงานไทยกลับเข้าระบบเสียที  กว่านี้ไหมคะ???
เมื่อคนมีประสบการณ์ฝังใจว่า "การค้าขาย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ  เป็นความเสี่ยงที่มากกว่าการกินเงินเดือน"
ค่านิยมกลับมาเป็นแรงงาน/พนักงาน จุดประกายอีกครั้ง...เพื่อนๆ คิดว่ายังไง???


ปล. ถ้าอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกไม่ดี ....เบามือกับ จขกท.หน่อยนะคะ