คือทำงานโรงแรมคะ
แล้วเจอกับปัญหาที่ลูกค้าโดนคนขับตุ๊กๆ หรือ แท็กซี่ หลอกไปซื้อสูทบ้างหล่ะ
ซื้อจิวเวอรี่บ้างหล่ะ ที่แย่ที่สุดคือการโดนหลอกซื้อแพ็กเก็จทัวร์ แล้วลูกค้ามารู้ตัวทีหลังว่าโดนหลอก
เพราะจ่ายสูงเกินไป....เจอแบบนี้บ่อยมากค่ะ แล้วลูกค้าอยากจะขอเงินคืน..

คือหนักสุดเมื่อวานเลยค่ะ เอเจนท์หนึ่งโหดมาก...

เรื่องมีอยู่ว่า ลูกค้าซื้อแพ็กเก็ตทัวร์ตอนเช้า มารู้ตัวตอนบ่ายๆ ทั้งกลัว ทั้งโกรธ แล้วตัดสินใจโทรไปขอเงินคืน
แต่ทางเอเจนซี่บอกว่าคืนเงินได้แค่ 40% จาก 100% ที่จ่าย ทางเราแค่รู้สึกว่ามันมากเกินไปหรือเปล่า?
แล้วอีกอย่าลูกค้าก็เป็นต่างชาติ พวกเค้าเป็นแขกบ้าน แขกเมือง ทำไมคนไทยถึงทำกับเค้าได้ขนาดนี้
ทำไมไม่ซื้อสัตย์กับอาชีพ เข้าใจค่ะว่าทุกธุรกิจต่างก็แสวงหาผลกำไรจากการประกอบธุรกิจทั้งนั้น
แต่มันก็ไม่ควรเกินคำว่าน่าเกลียด !! แล้วเรื่องราวโกงๆเห็นได้ชัดโจ่งแจ้งแบบนี้ เพราะความเป็นจริงคือเค้าโกงจริงๆ เข้าข่ายหลอกลวงลูกค้าเพราะว่าลูกค้าที่เคยซื้อมาก่อน
เค้ามาบอกเล่าประสบการณ์ที่น่าผิดหวังให้ทราบ บวกกับพฤติกรรมที่หลวกลวงกันเป็นขบวนการตั้งแต่หลอกนักท่องเที่ยวที่เดินไปเดินมาตามถนน
หรือหลอกเค้าว่าวัดพระแก้วปิดแล้วพาลูกค้าไปที่อื่น ทำให้วันทั้งวันของนักท่องเที่ยวหมดไปกับการขี้โกงของคนพวกนี้
แล้วพอลูกค้ารู้ทัน(อาจจะช้าไปหน่อย)ก็มาอ้างเรื่องกฎขี้โกงๆ ที่ใช้เป็นข้องอ้างแถไปเรื่อย...แล้วตำรวจท่องเที่ยวทำอะไรไม่ได้เลย แทบจะไม่ทำอะไรเลย
ทั้งๆที่รู้ว่ามันคือการหลอกลวงนักท่องเที่ยวก็ตาม ก็ไม่ทราบว่าใครมีส่วนได้ส่วนเสียหรือผลประโยชน์กับรายได้ทำนองนี้หรือเปล่า??

เจอเรื่องนี้บ่อยมากจนรู้สึกว่าคนไทยที่ทำมาหากินกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะ คนขับตุ๊กๆ แท็กซี่ ร้านทัวร์ โดยสังเขป
ที่ไม่ละอายกับการประกอบอาชีพ ไม่ละอายกับช่องทางการทำมาหากินของตัวเอง จนทำให้วงการท่องเที่ยวของประเทศติดลบ
ในสายตานักท่องเที่ยว แทบจะไม่มีมุมมองดีๆให้นักท่องเที่ยวได้ซึมซับ ได้จดจำอีกเลย ไม่มีความภูมิใจให้เชิดหน้าชูตาอีกต่อไป
ที่เหลืออยู่...คือคำด่าท้อจากลูกค้าเกี่ยวกับพฤติกรรมแย่ๆที่โดนรีดไถ่จากคนที่มีพฤติกรรมเถื่อนๆ นิสัยถ่อยๆพวกนี้...

วงในเรื่องการท่องเที่ยวมันเน่าเกินคำบรรยายจริงๆค่ะ ไม่แปลกที่ทำไมนักท่องเที่ยวปัจจุบันเค้าถึงระแวงอะไรต่างๆในเมืองไทย
เพราะคนบ้านเราที่อยู่รอบๆตัวนักท่องเที่ยว ปลูกฝังเรื่องราว ประสบการณ์แย่ๆ สืบต่อมาเรื่อย...
ที่น่าตกใจคือเรื่องราวพวกนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าจนแทบจะกลายเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ..ในปัจจุบัน.
แต่ไม่มีใครใส่ใจ ไม่มีการปกป้องนักท่องเที่ยวให้อุ่นใจ ไม่มีมาตราการเด็ดขาด ไม่มีการปราบปราม จากหน่วยงานมี่เกี่ยวข้อง
ไม่มี..ไม่ทำอะไรเลย....ทำไม?

ถ้าความเป็นจริงแบบนี้ที่เกิดขึ้น นักท่องเที่ยวเค้าสามารถยกเลิก แล้วขอคืนเงินได้แค่ไหนค่ะ ?
ถ้าเอเจนซี่ไม่ยอมคืนเงิน เค้าสามารถร้องเรียน ขอความเป็นธรรมได้จากหน่วยงานไหนบ้างค่ะ?
มีที่พึ่งไหนที่ให้ความเป็นธรรมนักทองเที่ยวได้บ้างค่ะ?
เห็นจนเริ่มจะเครียดแล้ว ขอคำแน่ะนำจากผู้รู้ด้วยน่ะคะ. ขอบคุณค่ะ.