[Review] สุราษฯ 6 วัน 5 คืน เต็มอิ่มจริงๆ

นี่เป็นการรีวิวท่องเที่ยวครั้งแรกของผมเลยครับ
สำหรับรีวิวแรกนี้ คิดจะทำขึ้นมาเพราะอยากจะแชร์ให้ทุกคนได้เห็นว่าประเทศไทยสวยขนาดไหน
เพราะตอนที่ไปเที่ยวรู้สึกมันสวยจนอยากจะมาบอกต่อจริงๆ



เอาล่ะมัวลีลา จะเล่าละน่ะ...

***************  วันที่ 1 "เขื่อนรัชชประภา กุ้ยหลินเมืองไทย"   ********************

เนื่องจากบ้านผมอยู่อยุธยา การจะไปสุราษฏ์ต้องใช้เวลามากถึง 10 ชม ตอนแรกก็คิดว่าชิวๆ
ไกลกว่าเชียงใหม่นิดหน่อยเอง สบายมาก..  เราออกจากบ้าน ตี 4 ครับ เพราะต้องรีบไปให้ถึงหน้าเขื่อนก่อนบ่ายสอง
เพราะว่าเราจองแพคเกจค้างคืน บนแพ ในเขื่อนฯ แล้วเค้าจะเอาเรือเรามารับเราเวลานั้น ถ้าเราไปสายกว่านั้น
ต้องเหมาเรือไปที่แพเอง ซึ่งมัน "แพง หู ฉี่"

         ระหว่างทางตอนแรกที่คิดว่าชิวๆ ที่ไหนได้ละ การนั่งรถ 10 ชม นี่มัน "โครต ทรมานนนนนน"
แถมถนนสายภาคใต้ โดยเฉพาะช่วง ชุมพร สุราษฏ์ มันโหดเหลือเกินครับ อย่างกับโลกพระจันทร์
พอซักใกล้ๆบ่ายสอง ยังอยู่แถวชุมพรอยู่เลย เลยโทรไปถามกับแพว่า คงไปไม่ทัน ให้คนขับเรือรอได้ไหม
อ่อลืมบอกไปว่า แพที่ผมจะไปพักชื่อแพ "พันวารีย์" นะครับ โชคดีมากที่ เรือรอบที่เราจะไปมีแต่กลุ่มเราเท่านั้น
เขาเลยรอเราได้  เราเลยขับไปแบบไม่ต้องซิ่งมากนัก
         หลังจากทนนั่งรถกระดกจนเหมือนขี่ม้ามานานจนตูดช้ำ
พอเลี้ยวเข้า ถนน สายสุราษฯ-ภูเก็ต อยากจะบอกว่า ทางดีเว่ออออ  แถมพอใกล้ๆถึง ทัศนียภาพ วิวสวยมากๆ
ภูเขาหินปูนสูงๆ ถนนโค้งๆ ขึ้นลงเนินเตี้ยๆ ร่มรื่นมากๆครับ  เราขับเข้ามาเรื่อยๆ ผ่านป้อมทหาร จนมาถึงสันเขื่อน
เนื่องจากเรามาเลทแล้ว เลยกะว่าค่อยไปถ่ายรูปกับป้ายเขื่อนขากลับละกัน ไปท่าเรือกันก่อน

          พอรถเราโค้งเข้ามาทางไปท่าเรือเท่านั้นแหละครับ ทุกคนในรถร้องพร้อมกันเลย
"เฮ้ย น้ำมันสีเขียว"  มันเป็นสีเขียวจริงๆครับ ไม่ใช่เขียวแบบน้ำเน่านะครับ มันเขียวแบบมรกต สีเหมือนน้ำทะเล
แถบอันดามันอย่างนั้นเลย สงสัยเหมือนกันว่า เป็นน้ำจืดแท้ๆ ทำไมน้ำถึงสีเขียวสวยขนาดนี้

และแล้วเราก็มาถึงท่าเรือครับ



ขนสำภาระลงเรียบร้อยก็ลงเรือกันเลย เรือจากท่าเรือไปถึงแพเป็นเรือหางยาวนะครับ
ระหว่างนั่งไปก็ชมน้ำสีเขียวน้ำทะเลไป พอเข้าไปลึกขึ้นๆ ก็จะเห็นวิวภูเขาแบบนี้ครับ


ยิ่งเข้าไปลึก น้ำยิ่งใสขึ้น เขียวขึ้นสวยขึ้น ภูเขาหินปูนก็เข้ากันจริงๆ


นั่งเรือมาซักประมาณ 40 นาที ก็เริ่มเห็นที่พักของเราไกลๆแล้วครับ "แพพันวารีย์"


โอโห มันสวยจริงๆครับวิวตรงนี้  น้ำในเขื่อนสีสวยมาก ตัดกับสีไม้ขอแพสวยมาก แถมภูเขาหินปูนด้านหลังก็สุดบรรยาย


เราได้ที่พักที่อยู่หลังไกลสุดเลย ซึ่งมันเป็นข้อดีครับ เพราะติดกับภูเขา ได้บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ
ภาพถ่ายจากหลังแพครับ


อย่าสงสัยว่าลงเรือแล้วมาที่แพได้ยังไงครับ เพราะเขาทำทางเดินไว้ปลอดภัยทีเดียว


เล่าเรื่องที่พักซะหน่อย เป็นห้องแอร์ครับ มีสองชั้น ห้องน้ำบนแพครับ  เรียกว่าสะดวกสุดๆหล่ะ
เพราะคุณป้ามาด้วยเลยหาที่พักดีๆหน่อย ป้าแกขาไม่ค่อยดีแล้ว เพราะแพอื่นจะไม่มีห้องน้ำในตัว
ต้องเดินไปใช้ห้องน้ำรวมบนฝั่ง ซึ่งป้าผมไม่สะดวกแน่ อีกอย่างไฟฟ้าครับ แพอื่นๆพอถึงประมาณสี่ทุ่ม
จะไม่มีไฟฟ้าใช้แล้ว  แต่แพเรามีทั้งคืนจนถึงเช้า เริ่มใช้ไฟได้ตอน 5 โมงเย็น เหยแพเราหรูอยู่นะ
ไปดูรูปกันต่อดีกว่า

นี่คือวิวที่มองเห็นได้ด้วยตาจากหน้าแพครับ สวย มาก ๆ ๆ ๆ


ป้าผมทนไม่ไหว น้ำใสน่าเล่นมาก ลงน้ำเลยครับ เสื้อชูชีพก็มีให้ เรือคายัคก็มีให้
มีบันไดลงน้ำให้ด้วย



จะบอกว่า น้ำไสมาก แต่น้ำไม่เย็นครับ น้ำอุ่นๆ ว่ายออกไปไกลๆได้แต่ห้ามเกินไม้ที่เขากั้นไว้
ใส่เสื้อชูชีพนอนหงายลอยอยู่ในน้ำ มองขึ้นบนฟ้าก็จะเห็น ภูเขาสูงลิบ ตัดกับท้องฟ้า สวยมากๆ
ผมเล่นน้ำอยู่ซักพัก มองไปตรงภูเขา "เฮ้ย นกเงือก" ร้องบอกป้า พากันดูใหญ่ นกเงือกนี่ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆนะครับ
แสดงว่าที่นี่มันอุดมสมบูรณ์จริงๆ

พอขึ้นจากน้ำมาก็เริ่มเย็นๆครับ แสงอาทิตย์กระทบกับภูเขาสะท้อนกับน้ำสวยจริงๆ
ตกเย็นเริ่มไม่มีใครเล่นน้ำแล้ว น้ำเลยนิ่งเป็นกระจกที่ดีมากๆเลยครับ


มาดูสีน้ำรอบๆแพอีกที ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ ตอนเล่นน้ำ ผมแอบชิมน้ำด้วย อยากรู้ว่าน้ำจืดจริงป่าว 555




ถ่ายจากในห้องมั่ง


ตกเย็นเราก็เตรียมมากินข้าว เดินมาตรงแพหลัก ตรงที่ลงเรือ วิวตรงนี้ก็สวยสุดๆเหมือนกัน
เลยถ่ายพาโนราม่าซะเลย (อยากลงรูปใหญ่ๆกว่านี้จัง มันย่อให้เหลือแค่นี้อ่ะ)


เรือหางยาวกับแพเข้ากันจริงๆ


พอค่ำลงอีก ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี เป็นม่วงๆ แดงๆ จัดพาโนราม่าอีกรูป


มาละ อาหารที่รอคอย ปลาทอดของโปรดดดดดด


กินอิ่มแล้ว ก็กลับแพเรา ทางเดินกลางคืนก็สวยดีเหมือนกัน


กินเสร็จ เราก็นอนกันเลยครับ 5555 จะไม่ให้อ้วนได้ไง แต่ตอนก่อนนอนเจอหิ่งห้อยบินด้วย
แล้วเราก็นอนกัน ตื่นมาตอนหกโมงเช้า

************ วันที่สอง ออกจากเขื่อน มุ่งหน้าสู่ เกาะสมุย *****************

พอตื่นนอน ลงบันไดมา พระเจ้า !!!!!!!!!! คนที่มาเช้ากลับเย็นไม่มีวันได้เห็นครับ
เชื่อผมสิครับว่าถ้าคุณเห็นด้วยตามันจะสุดยอดกว่านี้อีก
ภาพของภูเขา หมอก น้ำ ที่ตื่นมาก็เจอเลย อย่างกับภาพวาด ดูเอาเองว่าสวยแค่ไหน


เอาไปอีกหลายๆรูป



ขอโทษทีที่ไม่ได้ถ่ายพาโนมา เพราะว่างัวเงียมาก ถ่ายเบี้ยว

เดินมาถ่ายรูปตรงแพใหญ่ ตอนตะวันกำลังจะพ้นภูเขา




อาหารเช้าเป็นข้าวต้มครับ อร่อยดี
กินอิ่มก็ถ่ายพาโนราม่าหน้าแพใหญ่อีกรูป สวยไหมครับ ผมชอบรูปนี้สุดแล้ว


เดินไปหลังแพใหญ่ ไปให้อาหารปลาครับ ปลาเป็นฝูงเลย น้ำใสจนเห็นปลาทั้งตัว



ตามกำหนดการเขาให้มาเชคเอ้า 7 โมงครึ่งครับ เพราะจะพาไปเที่ยวรอบๆเขื่อนก่อน แล้วก็ไปส่งเราที่ท่าเรือเลย
ลูกค้าคนอื่นก็ไปกันก่อน เราไปอีกลำนึง ซึ่งมีแต่ครอบครัวเรา


บ๊ายบายแพพันวารีย์ ผมให้ 10 เต็ม 10 เลย ที่พักดี ทำเลดี บริการดี อาหารอร่อย
และแล้วก็ออกเดินทางจากแพพันวารีย์

อันนี้รูปพาโนจากเรือของเรา


เจอภูเขาหินแปลกๆเลยถ่ายรูปมา น่าจะเกิดจากลม


ระหว่างทาง


สวยมะ




เอาละ จะถึงละ เขาสามเกลอ จริงๆเขาเรียกตรงนี้อะว่ากุ้ยหลินเมืองไทย
แต่ผมว่าทั้งเขื่อนนี่แหละมันคือกุ้ยหลินเมืองไทย




มาแล้วก็ต้องถ่ายรูป แชะๆ ถ่ายให้คนอื่นดีๆทั้งนั้น คนอื่นถ่ายให้เราไม่มีดีๆเลย


นั่งเรืออีกครึ่ง ชม ก็มาถึงท่าเรือ ขนของขึ้นรถ แล้วก็แวะไปถ่ายรูปสันเขื่อน ก่อนกลับ



ตามจริงกำหนดการของวันนี้คือ ไปเกาะสมุย ถึงเกาะตอนบ่ายแก่ๆ แล้วไปเที่ยววัดบนเกาะ แล้วกลับที่พัก
แต่เจอปัญหาครับ  เนื่องจากตรงกับวันเทศกาล เราจะไปใช้บริการเรือข้ามฟากจากสุราษ ไปที่เกาะสมุย
แต่คนเยอะมากกกกกกกก ไปรอคิวเอารถลงเรือ ตั้งแต่บ่ายสอง ได้ขึ้นเรือห้าโมง เพลียสุดๆ

เอาภาพในเรือมาฝากครับ


พอถึงเกาะสมุยเราก็ลงไปนั่งในรถเราแล้วก็ขับออกจากท้องเรือขึ้นฝั่งเลย นี่ภาพรถในท้องเรือนะ


จบไปครับวันที่สอง ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เพราะกว่าจะถึงเกาะสมุยก็หกโมงแล้ว ขับรถกลับที่พัก
ที่พักเราอยู่หาดเฉวงครับ ถนนเลียบหาดคึกคักสุดๆ คึกคักเกิ๊นน  เราไปพักที่ซีสเคปรีสอรต
ก่อนอื่นขอชมก่อนว่าทำเลดี สภาพห้องดีแค่นั้นละ เพราะจะด่าละ 555  ที่นี่ยุงเยอะมากกกกกกกกก
เปิดแอร์แล้วปิดประตูก็สนิท ทำไมยังมียุงในห้องบินว่อน อาบน้ำไปพรางๆก็ได้ยินเสียงตุ๊กแก
ได้ยินแต่เสียงไกลๆนะไม่เห็นตัว ผมไม่ค่อยกลัว คนกลัวก็หลอนกันไป เสร็จกิจเราก็นอนครับ

เดี๋ยวมาต่อนะครับ....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่