เครดิต ภาพสวยๆ จาก googel
บทนำ
http://ppantip.com/topic/32020852
ตอนที่ 1 เจ้าสาวมืออาชีพ
แทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือบุษบาบัน นันทปภากร เลขาหน้าห้องแสนเฉย ที่สวมแว่นตาอันโต แต่งตัวราวกับคุณป้าหรือไม่ก็เอาเสื้อผ้าสมัยคุณแม่ของเธอมาสวมใส่ จนเขาชอบเรียกเธอจนติดปากว่าว่าคุณป้าเลขา เธอเป็นเลขาที่ทำงานร่วมกับเขามาเกือบจะสิบปีและเขาจ้างเธอมาเป็นเจ้าสาวกำมะลอก็เพราะเห็นว่าเธอดูเป็นผู้ใหญ่พอน่าจะเข้ากับครอบครัวเขาได้ แถมยังไม่ติดพันธะเพราเธอยังโสด ส่วนสดหรือเปล่าเขาไม่รู้เพราะไม่เคยสนใจ แต่พอรู้ว่าเธอมีเสน่ห์ปลายจวักทำอาหารเก่งก็บ้านเธอมีร้านขนมไทยชื่ออะไรสักอย่างที่คนอย่างเขาไม่คิดจะใส่ใจแต่ได้ยินคนในบริษัทพูดกันบ่อยๆ ว่าอร่อยมาก และที่สำคัญเธอถือศีลห้าทุกวันพระตรงตามที่มารดาของเขาคุณชลัมพร อัครเดชโภคิน มหาเศรษฐีนีผู้ดีเก่าต้องการทุกข้อเพราะฉะนั้นเธอเหมาะกับตำแหน่งเมียบังหน้าของเขาที่สุด
ชลลัมพีรู้สึกทึ่งเขาไม่คิดว่ายัยป้าเลขาจะสวยได้มากมายน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัววันนี้เธอดูเหมือนอายุ ยี่สิบสามมากกว่าสามสิบสองหลังจากถอดไอ้แว่นตาอาลาเล่อออกไป
“วันนี้คุณสวยจนผมจำไม่ได้เลยนะคุณป้าเลขาไม่เจอกันสองสัปดาห์คุณแม่ผมคงพาคุณไปชุบตัวที่ยันฮีมาล่ะสิท่า” ชลลัมพีชมออกมาจากใจแต่คงไม่เข้าหูเจ้าสาวของเขาสักเท่าไหร่ หลังจากขาให้เธอหยุดงานถึงสองสัปดาห์ตามคำขอร้องมารดาเพื่อเตรียมตัวแต่งงานและมารดาของเขาก็เข้ามากำกับเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่งงานรวมถึงจับเจ้าสาวไปเข้าคอร์สเจ้าสาวผลปรากฏออกมามันทำให้เขาทึ่งไม่น้อย
“ขอบคุณค่ะหากนั่นคือคำชมจากใจ”
วันนี้เจ้าสาวของเขาสวมชุดไทยจักรพรรดิ สีชมพูกลีบบัวขับผิวขาวเนียนละเอียด ท่อนบนเป็นเสื้อเปิดไหล่ ซิ่นเป็นผ้าทอมือแบบมีเชิงงดงาม จีบยกหน้านางแบบมีชายพกทาบทับด้วยสไบสีชมพูดูสวยหวานแลดูขับผิวขาวของบุษบาบันมาก ชลลัมพีเหลือบเห็นสร้อยจี้ระย้า เข็มขัด และตั่งหูเข้าชุดกันนั่นทำให้เขาชำเรืองมองอย่างสนใจใคร่รู้เพราะจำได้ว่านั่นมันทับทรวงโบราณเครื่องประดับที่ทำจากทองคำแท้พร้อมต่างหูระย้า และเข็มขัดเข้าชุดกันซึ่งมันเป็นชุดเดียวกับเครื่องประดับที่มารดาใช้ในงานแต่งงานเป็นของเก่าแก่ราคาไม่ต้องพูดถึง
“เธอไปเอาเครื่องประดับพวกนั้นมาจากไหน”เขาเอียงคอมาใกล้ใบหน้าสวยที่วันนี้เกล้าผมมวยสวมรัดเกล้าไว้ด้านหลังจะว่าไปวันนี้บุษบาบันเธอสวยราวกับนางวรรณคดีหลุดออกมาก็ไม่ปาน ทำเอาเสียงที่แข็งกร้าวชอบเอ็ดใส่เลขาของตนในเวลานี้ฟังดูอ่อนลง
บุษบาบันถอนหายใจคิดไว้แล้วว่าต้องถูกถาม“คุณหญิงบังคับให้ฉันนำมาสวมใส่ในวันงานค่ะ เสร็จพิธีฉันจะรีบส่งคืนคุณหญิงท่านทันที”
“ดีมากที่ไม่คิดทึกทักเอาเป็นของตัวเอง เพราะที่ผมให้คุณไปมันก็มากพอแล้วอย่าหลงดีใจว่าได้เป็นสะใภ้โปรดของท่านจริงๆ ล่ะเพราะนี่มันก็แค่งานแต่งงานกำมะลอ” เขากระซิบกรอกหูเธอถึงเขาไม่บอกเธอก็จำได้แม่น แต่ท่าทางแนบเนียนสายตาและรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากไม่ได้ดูขัดเขินเขาวางท่าทางทำกับว่าเขาเป็นเจ้าบ่าวแสนดีของเธอจริงๆ ทั้งที่มันคือการแสดงแทบทั้งสิ้นและมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน
“เข้าใจดีค่ะ ฉันมีความเป็นมืออาชีพพอค่ะ ระลึกอยู่ตลอดทุกลมหายใจว่านี่คืองานและงานของฉันฉันก็คือทำให้คนในครอบครัวของคุณคิดว่าเรารักกันจริงๆ”
“ดีมาก ที่ไม่ลืมว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร” เขากระแทกเสียงใส่เบาๆ ในขณะที่มุมปากยังมีรอยยิ้มปรากฏนอกจากเขาจะเป็นผู้บริหารที่เก่งและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล บุษบันคิดว่าเขาเป็นดาราได้สบายเพราะตีบทแตก
“ไม่ลืมค่ะ” เจ้าสาวแสนสวยในชุดแต่งงานงดงามยกมือไปวางทาบบนมือที่หนากว่ามากซึ่งวางแหมะอยู่ที่สะโพกของเธอขณะที่นั่งบนตั่งเพื่อรอรดน้ำสังข์
“คุณเองก็ด้วย อย่าลืมสิคะว่าดิฉันเป็นแค่ภรรยากำมะลอของคุณช่วยเอามือของคุณออกจากสะโพกของดิฉันด้วยค่ะ ดิฉันยังไม่ชินและเราไม่จำเป็นต้องใกล้ชิดกันขนาดนี้ก็ได้”
ชลลัมพีจึงรีบเอามือออก “อย่าคิดว่าผมพิศสวาทอะไรในตัวคุณนะป้าเลขา ที่ผมทำไปเพราะอยากให้คนในงานเห็นว่าเราดูสนิทสนมสมเป็นคู่รักกัน คุณก็รู้ว่ามีหลายคนสงสัยรวมถึงคุณแม่ และมีหูตามากมายของคุณแม่คอยจับตาดูเราอยู่มันก็ต้องมีจับนิดจับหน่อยจะได้แนบเนียนไง ถ้าเป็นมืออาชีพจริงเรื่องแค่นี้ก็อย่าได้คิดมาก”
ก็แน่ล่ะสิเป็นใครบ้างจะไม่สงสัยเมื่อวันดีคืนดีชลลัมพีคาสโนว่าอันดับต้นๆ ของเมืองไทยผู้เพียบพร้อมไปด้วยเงินทอง เกียรติและความสามารถอย่างเขาประกาศสายฟ้าแลบว่าคบหาดูใจกับเลขาหน้าห้องมานานหลายปีทั้งที่มีข่าวควงดาราคนนี้ นางแบบคนนั้นอยู่ตลอดเวลาและประกาศลั่นระฆังวิวาห์อย่างเร่งด่วนมันเป็นเรื่องที่ทำให้คนในวันนี้มีนักข่าวมากมายที่มาทำข่าวและพรุ่งนี้คงไม่แคล้วจะอยู่บนหน้าหนึ่ง
แขกเหรื่อภายในงาน รวมทั้งนักข่าวแทบทุกสำนักพิมพ์เดินกันให้ขวักไขว่บนพื้นที่ของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯที่คุณหญิงชลลัมพีคัดเลือกให้เป็นสถานที่แต่งงานของบ่าวสาวในวันนี้
“เมื่อไหร่จะเริ่มลดน้ำสังข์ให้เสร็จๆ ไปสักทีผมเมื่อยจะแย่อยู่แล้ว”
“เก้าโมงเก้านาทีค่ะ” บุษบาบันตอบเขาและเห็นสีหน้าที่ปั้นยากของเขา
“งานแต่งงานมันน่าเบื่อจะตายไปไม่เข้าใจทำไมคนถึงดิ้นรนอยากจะผูกมัดตัวเองกันนักคุณว่าจริงไหม”
จะมีใครหนอต้องมานั่งทนฟังเจ้าบ่าวของตนเองบ่นเบื่องานแต่งงาน บุษบาบันบอตัวเองว่าอย่าได้คิดน้อยใจเพราะนี่คืองานชิ้นนึง
“ทนเอาหน่อยเถอะค่ะ ไม่เกินสิบเอ็ดโมงพิธีเช้าคงจะเสร็จแล้วจากนั้นคุณก็จะได้ไปพัก ส่วนพิธีฉลองสมรสเริ่มตั้งแต่ หกโมงเย็นไปจนถึงสี่ทุ่ม”
“จะบ้าตายนี่ต้องทนเมื่อยทนฉีกยิ้มไปจนถึงสี่ทุ่มเชียวหรือคุณ คืนนี้สงสัยผมคงต้องไปให้ริต้านวดให้เสียหน่อย”
“ฉันว่าคืนนี้คงไม่เหมาะนะคะคืนนี้คุณต้องเข้าห้องหอนะคะ ประเพณีไทยเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวต้องอยู่ในหอด้วยกันตลอดคืนห้ามออกจากห้อง”เธอเชื่อว่าเขารู้ดีอายุจะเข้าเลขสี่แล้วแม้ใบหน้าหล่อเหลาของชลลัมพีมักทำให้ใครต่อใครคิดว่าอายุเขาไม่น่าจะเกินสามสิบสองปี
“นั่นเป็นเรื่องบ้าที่สุดนี่คุณไม่ต้องเล่นตามบทตลอดเวลาก็ได้ อีกอย่างคุณไม่พูดผมไม่พูดใครจะรู้ล่ะว่าเจ้าบ่าวของคุณไม่ได้อยู่ในห้องหอตลอดทั้งคืนจริงไหม”
ดูเอาเถอะถึงมันเป็นการแต่งงานจอมปลอมก็เถอะนะแต่คืนส่งตัวเจ้าบ่าว เขาก็คิดจะหนีเจ้าสาวไปหาผู้หญิงอื่นมันน่าอดสูนัก ไม่ใช่ว่าเธออยากเข้าห้องหอกับเขาหรอกนะก็รู้อยู่แก่ใจที่ทำไปทั้งหมดก็คืองานก็เพื่อเงิน แต่ถ้าเขาหายไปจากห้องหอและมีคนเห็นเอาไปบอกคุณหญิงชลัมพรเธอจะต้องเหนื่อยในการหาข้อแก้ตัวหากถูจับได้แค่ไหนนะ
“แล้วถ้าคุณหญิงรู้ล่ะคะ”
“คุณรับเงินผมไปแล้วเพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องของคุณ ป่านนี้ริต้าคงจะนอนร้องไห้โฮผมจะต้องไปเคลียร์กับเธอให้เข้าใจ โอยพลอยชมพูก็อีกคนสงสัยจะต้องพาไปรับขวัญที่ญี่ปุ่นสักหน่อย ยังไงหลังงานแต่งงานของเราคุณว่างๆ แล้วก็ช่วยเช็คคิวให้ผมหน่อยว่าช่วงไหนผมว่างพอจะพาสาวๆ ของผมไปตากอากาศที่เมืองนอกได้บ้าง
เป็นคนอื่นเจอเจ้าบ่าวสั่งให้จัดคิวเขากับคู่ขาไปเริงรักกันถึงต่างประเทศคงได้ลุกขึ้นมาแหวกอกเจ้าบ่าวแล้ว แต่นี่คือบุษบาบัน
“ทราบแล้วค่ะเจ้านายหายยุ่งแล้วฉันจะเช็กคิวของคุณให้ว่าช่วงไหนพอจะว่างไปต่างประเทศได้ ว่าแต่คุณจะไปกับใครก็ช่วยบอกด้วยฉันจะได้จัดคิวให้ถูก”
ชลลัมพียิ้มกว้างอย่างเปิดเผยและกระซิบเบาๆ “คุณนี่เป็นยอดเลขา และยอดภรรยาของผมจริงๆ ผมนี่ตาถึงชะมัด” เขากระซิบกระซาบพร้อมอมยิ้มชลลัมพีเพิ่งรู้ว่าบุษบาตัวหอมมากเขาเพิ่งจะใกล้ชิดกับเธอมากๆ ก็วันนี้เอง มีแต่บุษบาบันเท่านั้นที่วางหน้าเรียบเฉย
คุณหญิงชลัมพรในชุดผ้าไหมราคาแพงสีโอรสตัดเย็บด้วยแบบบเรียบหรูแต่ดูทันสมัยงดงามรับกับเรือนร่างอวบอิ่มกำลังยกมือไหว้และทักทายกับคุณหญิงโฉมศรีภรรยาท่านฑูตประจำประเทศสเปนที่มาร่วมงานและกล่าวเชื้อเชิญให้แขกเข้าไปในงาน หลังคุณหญิงโฉมศรีเดินผ่านไป คุณหญิงชลัมพรก็มองไปที่บุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั่งน้ำสังข์และลูกสะใภ้คนสวย
“เป็นอย่างไรล่ะคุณสุดท้ายก็เอาเจ้าลูกชายตัวดีใส่ตระกร้าล้างน้ำขายได้สำเร็จ” ท่านนายพล ชลกร สามีของคุณหญิงชลัมพรกล่าวพร้อมมองไปที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวในงานที่กำลังคุยกันกระหนุงกระหนิง
“ถามจริงๆ คุณเชื่อเหรอว่าเจ้าพีมันแอบหลงรักเลขาของมันมาหลายปีจนคุณบังคับมันให้แต่งงานมันถึงเลือกหนูบุษบาบันคนนี้มาเป็นสะใภ้ให้คุณ”
คุณหญิงกระซิบตอบสามีเบาๆ “ไม่เชื่อหรอกค่ะ ฉันเป็นแม่ตาพีนะคะทำไมฉันจะมองไม่ออกว่าเจ้าลูกชายตัวดีที่ได้เชื้อพ่อไม่ทิ้งแถว จะแขวนนวมความเจ้าชู้ง่ายๆ”
ท่านนายพลหันมามองหน้าคุณหญิงด้วยแววตายากที่จะเข้าใจ “คุณหญิงหมายความว่ายังไง”
“จะต้องให้ฉันอธิบายอีกเหรอคะคุณ ว่าไอ้เจ้าลูกชายตัวดีมันก็เล่นละครยอมแต่งงานตามที่เราบังคับ แต่ไม่สิ้นลายง่ายๆ หรอก”
“แล้วทำไมคุณถึงได้ยอมล่ะ”
“ก็บังเอิญว่าคนที่นายพีบอกจะแต่งงานด้วย คือหนูบุษบาบันคนที่ฉันแอบเลือกเอาไว้ในใจว่าอยากได้มาเป็นศรีสะใภ้นะสิคะคุณขา” คุณหญิงหัวเราะเบาๆ หน้าตาระรื่นก่อนจะยกพัดลายสวยขึ้นพัดเบาๆ อย่างสบายใจและเดินแยกออกไปรับแขกอีกทาง ปล่อยให้ท่านนายพลยืนอึ้งอยู่คนเดียว อย่างไม่เข้าใจทั้งศรีภรรยาและลูกชายเพียงคนเดียวของท่านว่าทั้งสองคนกำลังเล่นเกมอะไรกันแน่
+++++++++++++++++++++++++++++
ท่ามกลางงานแต่งงานที่งดงามเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้เหนือสไตล์ล้านนาเพราะคุณหญิงชลัมพรชอบบรรยากาศแต่งงานแบบภาคเหนือเป็นพิเศษเมื่อเป็นแม่งานธีมของงานจึงเป็นไปตามใจนางแต่ทางโรงแรมก็จัดได้งดงามสมกับเป็นงานแต่งงานของลูกค้าระดับวีไอพีเพราะงบประมาณไม่จำกัดเมื่อได้ฤกษ์รดน้ำสังข์บ่าวสาว คุณหญิงชลัมพรเคียงคู่มากับท่านนายพลอย่างสง่างามเป็นคู่แรก คุณหญิงชลัมพรรดน้ำสังข์ให้ลูกชายตัวดีและรดน้ำสังข์ให้บุษบาบันพร้อมกับกำชับฝากบุษบาบันดูแลชลลัมพีให้ดี
“ตาพีเราน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้วอายุก็ไม่น้อยแม่ดีใจที่เราเลือกผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาได้เหมาะสมดี บุษบาบันน่ะแม่เห็นเขามาแต่ไหนแต่ไรทั้งกิริยามารยาท ทั้งนิสัยใจคอแม่เชื่อว่าเขาจะเป็นภรรยาและแม่ที่ดีได้อย่างแน่นอน หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน”
“ครับคุณแม่ ผมน่ะรักษุษบาบันมากไม่เช่นนั้นผมจะแต่งงานด้วยเหรอครับ” ลูกชายตัวดีหันมายิ้มและตอบมารดาอย่างสุภาพยิ้มเผื่อแพร่ไปถึงเจ้าสาว แต่มีหรือคุณชลัมพรจะดูไม่ออกใต้แววตาเข้มคมของลูกชายนั้นหลอกใครก็ได้แต่หลอกคนเป็นแม่ไม่ได้หลอก ที่วางเฉยและยอมรับเมื่อชลลัมพีมาบอกว่าเขาจะเลือกบุษบาบันมาเป็นคู่ครองนางแสนจะแปลกใจแต่ก็พอใจอยู่ในทีจึงปล่อยไปตามน้ำอย่างมีแผนการในใจอยู่เช่นกัน
“บุษบาบัน เราก็เช่นกันต้องหนักแน่นนะอยู่กับคนแบบนายพีต้องอดทนเราทำงานกับเขามานานก็น่าจะรู้ดีว่าเขาเป็นเช่นไร ยังไงร่วมหัวจมท้ายกันแล้วหนักนิดเบาหน่อยก็ต้องอภัยให้กันนะหนักแน่นเข้าไว้” ราวกับคุณหญิงจะสื่ออะไรบางอย่างกับลูกสะใภ้
“ค่ะคุณหญิง” บุษบาบันก้มไหว้อย่างงดงาม
“ต่อไปนี้เธอคือลูกสะใภ้ของฉันต่อไปอย่าเรียกฉันว่าคุณหญิงอีกเข้าใจไหมต้องเรียกว่าแม่”
“ค่ะคุณแม่”
ชลลัมพีลอบมองพลางนึกในใจเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยสมแล้วที่เขาจ้างบุษบาบันมารับหน้าที่นี้ แต่ใจลึกๆ ก็นึกกลัววันใดคุณหญิงแม่ของเขาสงสัยขึ้นมาคาดคั้นบุษบาบันเธอจะหลุดปากบอกความลับระหว่างเขากับเธอหรือเปล่า แต่ถ้าหลุดปากมาวันใดเขาจะเล่นงานเธอให้สาสมเลยเชียวค่าตัวเธอมันแพงถึงสิบล้านหากทำงานพลาดล่ะก็เขาจะเรียกค่าเสียหายทั้งต้นทั้งดอกเลยเชียว เขารู้ว่าเธอไม่มีปัญญาหามาคืนเขาแน่เงินค่าจ้างนั่นหมดไปกับการปรับปรุงโรงแรมขนาดเล็กริมชายหาดที่มีสภาพเก่าทรุดโทรมให้ดูสวยทันสมัยเพราะฉะนั้นบุษบาบันต้องทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
เมื่อถึงคิวที่ทั้งพ่อและแม่ของบุษบาบันต้องรดน้ำสังข์ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก นางดุสิตา อยากจะหนีไปให้ไกล ใครไม่รู้แต่นางรู้หัวอกคนเป็นแม่วันนี้หากบุษบบันกลายเป็นลูกสะใภ้อภิมหาเศรษฐีเพราะเกิดจากความรักนางจะยินดีปรีดาและหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติกว่าใครในงานแต่นางรู้ดีบุษบาบันแต่งงานเพราะอะไรน้ำตาที่ไหลนั้นจึงเกิดจากความสงสารในความอาภัพอับโชคของบุตรสาวมากกว่า
อุบายร้ายพ่ายเสน่หา (ตอนที่ 1 เจ้าสาวมืออาชีพ 50%)
เครดิต ภาพสวยๆ จาก googel
บทนำ
http://ppantip.com/topic/32020852
ตอนที่ 1 เจ้าสาวมืออาชีพ
แทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือบุษบาบัน นันทปภากร เลขาหน้าห้องแสนเฉย ที่สวมแว่นตาอันโต แต่งตัวราวกับคุณป้าหรือไม่ก็เอาเสื้อผ้าสมัยคุณแม่ของเธอมาสวมใส่ จนเขาชอบเรียกเธอจนติดปากว่าว่าคุณป้าเลขา เธอเป็นเลขาที่ทำงานร่วมกับเขามาเกือบจะสิบปีและเขาจ้างเธอมาเป็นเจ้าสาวกำมะลอก็เพราะเห็นว่าเธอดูเป็นผู้ใหญ่พอน่าจะเข้ากับครอบครัวเขาได้ แถมยังไม่ติดพันธะเพราเธอยังโสด ส่วนสดหรือเปล่าเขาไม่รู้เพราะไม่เคยสนใจ แต่พอรู้ว่าเธอมีเสน่ห์ปลายจวักทำอาหารเก่งก็บ้านเธอมีร้านขนมไทยชื่ออะไรสักอย่างที่คนอย่างเขาไม่คิดจะใส่ใจแต่ได้ยินคนในบริษัทพูดกันบ่อยๆ ว่าอร่อยมาก และที่สำคัญเธอถือศีลห้าทุกวันพระตรงตามที่มารดาของเขาคุณชลัมพร อัครเดชโภคิน มหาเศรษฐีนีผู้ดีเก่าต้องการทุกข้อเพราะฉะนั้นเธอเหมาะกับตำแหน่งเมียบังหน้าของเขาที่สุด
ชลลัมพีรู้สึกทึ่งเขาไม่คิดว่ายัยป้าเลขาจะสวยได้มากมายน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัววันนี้เธอดูเหมือนอายุ ยี่สิบสามมากกว่าสามสิบสองหลังจากถอดไอ้แว่นตาอาลาเล่อออกไป
“วันนี้คุณสวยจนผมจำไม่ได้เลยนะคุณป้าเลขาไม่เจอกันสองสัปดาห์คุณแม่ผมคงพาคุณไปชุบตัวที่ยันฮีมาล่ะสิท่า” ชลลัมพีชมออกมาจากใจแต่คงไม่เข้าหูเจ้าสาวของเขาสักเท่าไหร่ หลังจากขาให้เธอหยุดงานถึงสองสัปดาห์ตามคำขอร้องมารดาเพื่อเตรียมตัวแต่งงานและมารดาของเขาก็เข้ามากำกับเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่งงานรวมถึงจับเจ้าสาวไปเข้าคอร์สเจ้าสาวผลปรากฏออกมามันทำให้เขาทึ่งไม่น้อย
“ขอบคุณค่ะหากนั่นคือคำชมจากใจ”
วันนี้เจ้าสาวของเขาสวมชุดไทยจักรพรรดิ สีชมพูกลีบบัวขับผิวขาวเนียนละเอียด ท่อนบนเป็นเสื้อเปิดไหล่ ซิ่นเป็นผ้าทอมือแบบมีเชิงงดงาม จีบยกหน้านางแบบมีชายพกทาบทับด้วยสไบสีชมพูดูสวยหวานแลดูขับผิวขาวของบุษบาบันมาก ชลลัมพีเหลือบเห็นสร้อยจี้ระย้า เข็มขัด และตั่งหูเข้าชุดกันนั่นทำให้เขาชำเรืองมองอย่างสนใจใคร่รู้เพราะจำได้ว่านั่นมันทับทรวงโบราณเครื่องประดับที่ทำจากทองคำแท้พร้อมต่างหูระย้า และเข็มขัดเข้าชุดกันซึ่งมันเป็นชุดเดียวกับเครื่องประดับที่มารดาใช้ในงานแต่งงานเป็นของเก่าแก่ราคาไม่ต้องพูดถึง
“เธอไปเอาเครื่องประดับพวกนั้นมาจากไหน”เขาเอียงคอมาใกล้ใบหน้าสวยที่วันนี้เกล้าผมมวยสวมรัดเกล้าไว้ด้านหลังจะว่าไปวันนี้บุษบาบันเธอสวยราวกับนางวรรณคดีหลุดออกมาก็ไม่ปาน ทำเอาเสียงที่แข็งกร้าวชอบเอ็ดใส่เลขาของตนในเวลานี้ฟังดูอ่อนลง
บุษบาบันถอนหายใจคิดไว้แล้วว่าต้องถูกถาม“คุณหญิงบังคับให้ฉันนำมาสวมใส่ในวันงานค่ะ เสร็จพิธีฉันจะรีบส่งคืนคุณหญิงท่านทันที”
“ดีมากที่ไม่คิดทึกทักเอาเป็นของตัวเอง เพราะที่ผมให้คุณไปมันก็มากพอแล้วอย่าหลงดีใจว่าได้เป็นสะใภ้โปรดของท่านจริงๆ ล่ะเพราะนี่มันก็แค่งานแต่งงานกำมะลอ” เขากระซิบกรอกหูเธอถึงเขาไม่บอกเธอก็จำได้แม่น แต่ท่าทางแนบเนียนสายตาและรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากไม่ได้ดูขัดเขินเขาวางท่าทางทำกับว่าเขาเป็นเจ้าบ่าวแสนดีของเธอจริงๆ ทั้งที่มันคือการแสดงแทบทั้งสิ้นและมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน
“เข้าใจดีค่ะ ฉันมีความเป็นมืออาชีพพอค่ะ ระลึกอยู่ตลอดทุกลมหายใจว่านี่คืองานและงานของฉันฉันก็คือทำให้คนในครอบครัวของคุณคิดว่าเรารักกันจริงๆ”
“ดีมาก ที่ไม่ลืมว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร” เขากระแทกเสียงใส่เบาๆ ในขณะที่มุมปากยังมีรอยยิ้มปรากฏนอกจากเขาจะเป็นผู้บริหารที่เก่งและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล บุษบันคิดว่าเขาเป็นดาราได้สบายเพราะตีบทแตก
“ไม่ลืมค่ะ” เจ้าสาวแสนสวยในชุดแต่งงานงดงามยกมือไปวางทาบบนมือที่หนากว่ามากซึ่งวางแหมะอยู่ที่สะโพกของเธอขณะที่นั่งบนตั่งเพื่อรอรดน้ำสังข์
“คุณเองก็ด้วย อย่าลืมสิคะว่าดิฉันเป็นแค่ภรรยากำมะลอของคุณช่วยเอามือของคุณออกจากสะโพกของดิฉันด้วยค่ะ ดิฉันยังไม่ชินและเราไม่จำเป็นต้องใกล้ชิดกันขนาดนี้ก็ได้”
ชลลัมพีจึงรีบเอามือออก “อย่าคิดว่าผมพิศสวาทอะไรในตัวคุณนะป้าเลขา ที่ผมทำไปเพราะอยากให้คนในงานเห็นว่าเราดูสนิทสนมสมเป็นคู่รักกัน คุณก็รู้ว่ามีหลายคนสงสัยรวมถึงคุณแม่ และมีหูตามากมายของคุณแม่คอยจับตาดูเราอยู่มันก็ต้องมีจับนิดจับหน่อยจะได้แนบเนียนไง ถ้าเป็นมืออาชีพจริงเรื่องแค่นี้ก็อย่าได้คิดมาก”
ก็แน่ล่ะสิเป็นใครบ้างจะไม่สงสัยเมื่อวันดีคืนดีชลลัมพีคาสโนว่าอันดับต้นๆ ของเมืองไทยผู้เพียบพร้อมไปด้วยเงินทอง เกียรติและความสามารถอย่างเขาประกาศสายฟ้าแลบว่าคบหาดูใจกับเลขาหน้าห้องมานานหลายปีทั้งที่มีข่าวควงดาราคนนี้ นางแบบคนนั้นอยู่ตลอดเวลาและประกาศลั่นระฆังวิวาห์อย่างเร่งด่วนมันเป็นเรื่องที่ทำให้คนในวันนี้มีนักข่าวมากมายที่มาทำข่าวและพรุ่งนี้คงไม่แคล้วจะอยู่บนหน้าหนึ่ง
แขกเหรื่อภายในงาน รวมทั้งนักข่าวแทบทุกสำนักพิมพ์เดินกันให้ขวักไขว่บนพื้นที่ของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯที่คุณหญิงชลลัมพีคัดเลือกให้เป็นสถานที่แต่งงานของบ่าวสาวในวันนี้
“เมื่อไหร่จะเริ่มลดน้ำสังข์ให้เสร็จๆ ไปสักทีผมเมื่อยจะแย่อยู่แล้ว”
“เก้าโมงเก้านาทีค่ะ” บุษบาบันตอบเขาและเห็นสีหน้าที่ปั้นยากของเขา
“งานแต่งงานมันน่าเบื่อจะตายไปไม่เข้าใจทำไมคนถึงดิ้นรนอยากจะผูกมัดตัวเองกันนักคุณว่าจริงไหม”
จะมีใครหนอต้องมานั่งทนฟังเจ้าบ่าวของตนเองบ่นเบื่องานแต่งงาน บุษบาบันบอตัวเองว่าอย่าได้คิดน้อยใจเพราะนี่คืองานชิ้นนึง
“ทนเอาหน่อยเถอะค่ะ ไม่เกินสิบเอ็ดโมงพิธีเช้าคงจะเสร็จแล้วจากนั้นคุณก็จะได้ไปพัก ส่วนพิธีฉลองสมรสเริ่มตั้งแต่ หกโมงเย็นไปจนถึงสี่ทุ่ม”
“จะบ้าตายนี่ต้องทนเมื่อยทนฉีกยิ้มไปจนถึงสี่ทุ่มเชียวหรือคุณ คืนนี้สงสัยผมคงต้องไปให้ริต้านวดให้เสียหน่อย”
“ฉันว่าคืนนี้คงไม่เหมาะนะคะคืนนี้คุณต้องเข้าห้องหอนะคะ ประเพณีไทยเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวต้องอยู่ในหอด้วยกันตลอดคืนห้ามออกจากห้อง”เธอเชื่อว่าเขารู้ดีอายุจะเข้าเลขสี่แล้วแม้ใบหน้าหล่อเหลาของชลลัมพีมักทำให้ใครต่อใครคิดว่าอายุเขาไม่น่าจะเกินสามสิบสองปี
“นั่นเป็นเรื่องบ้าที่สุดนี่คุณไม่ต้องเล่นตามบทตลอดเวลาก็ได้ อีกอย่างคุณไม่พูดผมไม่พูดใครจะรู้ล่ะว่าเจ้าบ่าวของคุณไม่ได้อยู่ในห้องหอตลอดทั้งคืนจริงไหม”
ดูเอาเถอะถึงมันเป็นการแต่งงานจอมปลอมก็เถอะนะแต่คืนส่งตัวเจ้าบ่าว เขาก็คิดจะหนีเจ้าสาวไปหาผู้หญิงอื่นมันน่าอดสูนัก ไม่ใช่ว่าเธออยากเข้าห้องหอกับเขาหรอกนะก็รู้อยู่แก่ใจที่ทำไปทั้งหมดก็คืองานก็เพื่อเงิน แต่ถ้าเขาหายไปจากห้องหอและมีคนเห็นเอาไปบอกคุณหญิงชลัมพรเธอจะต้องเหนื่อยในการหาข้อแก้ตัวหากถูจับได้แค่ไหนนะ
“แล้วถ้าคุณหญิงรู้ล่ะคะ”
“คุณรับเงินผมไปแล้วเพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องของคุณ ป่านนี้ริต้าคงจะนอนร้องไห้โฮผมจะต้องไปเคลียร์กับเธอให้เข้าใจ โอยพลอยชมพูก็อีกคนสงสัยจะต้องพาไปรับขวัญที่ญี่ปุ่นสักหน่อย ยังไงหลังงานแต่งงานของเราคุณว่างๆ แล้วก็ช่วยเช็คคิวให้ผมหน่อยว่าช่วงไหนผมว่างพอจะพาสาวๆ ของผมไปตากอากาศที่เมืองนอกได้บ้าง
เป็นคนอื่นเจอเจ้าบ่าวสั่งให้จัดคิวเขากับคู่ขาไปเริงรักกันถึงต่างประเทศคงได้ลุกขึ้นมาแหวกอกเจ้าบ่าวแล้ว แต่นี่คือบุษบาบัน
“ทราบแล้วค่ะเจ้านายหายยุ่งแล้วฉันจะเช็กคิวของคุณให้ว่าช่วงไหนพอจะว่างไปต่างประเทศได้ ว่าแต่คุณจะไปกับใครก็ช่วยบอกด้วยฉันจะได้จัดคิวให้ถูก”
ชลลัมพียิ้มกว้างอย่างเปิดเผยและกระซิบเบาๆ “คุณนี่เป็นยอดเลขา และยอดภรรยาของผมจริงๆ ผมนี่ตาถึงชะมัด” เขากระซิบกระซาบพร้อมอมยิ้มชลลัมพีเพิ่งรู้ว่าบุษบาตัวหอมมากเขาเพิ่งจะใกล้ชิดกับเธอมากๆ ก็วันนี้เอง มีแต่บุษบาบันเท่านั้นที่วางหน้าเรียบเฉย
คุณหญิงชลัมพรในชุดผ้าไหมราคาแพงสีโอรสตัดเย็บด้วยแบบบเรียบหรูแต่ดูทันสมัยงดงามรับกับเรือนร่างอวบอิ่มกำลังยกมือไหว้และทักทายกับคุณหญิงโฉมศรีภรรยาท่านฑูตประจำประเทศสเปนที่มาร่วมงานและกล่าวเชื้อเชิญให้แขกเข้าไปในงาน หลังคุณหญิงโฉมศรีเดินผ่านไป คุณหญิงชลัมพรก็มองไปที่บุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั่งน้ำสังข์และลูกสะใภ้คนสวย
“เป็นอย่างไรล่ะคุณสุดท้ายก็เอาเจ้าลูกชายตัวดีใส่ตระกร้าล้างน้ำขายได้สำเร็จ” ท่านนายพล ชลกร สามีของคุณหญิงชลัมพรกล่าวพร้อมมองไปที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวในงานที่กำลังคุยกันกระหนุงกระหนิง
“ถามจริงๆ คุณเชื่อเหรอว่าเจ้าพีมันแอบหลงรักเลขาของมันมาหลายปีจนคุณบังคับมันให้แต่งงานมันถึงเลือกหนูบุษบาบันคนนี้มาเป็นสะใภ้ให้คุณ”
คุณหญิงกระซิบตอบสามีเบาๆ “ไม่เชื่อหรอกค่ะ ฉันเป็นแม่ตาพีนะคะทำไมฉันจะมองไม่ออกว่าเจ้าลูกชายตัวดีที่ได้เชื้อพ่อไม่ทิ้งแถว จะแขวนนวมความเจ้าชู้ง่ายๆ”
ท่านนายพลหันมามองหน้าคุณหญิงด้วยแววตายากที่จะเข้าใจ “คุณหญิงหมายความว่ายังไง”
“จะต้องให้ฉันอธิบายอีกเหรอคะคุณ ว่าไอ้เจ้าลูกชายตัวดีมันก็เล่นละครยอมแต่งงานตามที่เราบังคับ แต่ไม่สิ้นลายง่ายๆ หรอก”
“แล้วทำไมคุณถึงได้ยอมล่ะ”
“ก็บังเอิญว่าคนที่นายพีบอกจะแต่งงานด้วย คือหนูบุษบาบันคนที่ฉันแอบเลือกเอาไว้ในใจว่าอยากได้มาเป็นศรีสะใภ้นะสิคะคุณขา” คุณหญิงหัวเราะเบาๆ หน้าตาระรื่นก่อนจะยกพัดลายสวยขึ้นพัดเบาๆ อย่างสบายใจและเดินแยกออกไปรับแขกอีกทาง ปล่อยให้ท่านนายพลยืนอึ้งอยู่คนเดียว อย่างไม่เข้าใจทั้งศรีภรรยาและลูกชายเพียงคนเดียวของท่านว่าทั้งสองคนกำลังเล่นเกมอะไรกันแน่
+++++++++++++++++++++++++++++
ท่ามกลางงานแต่งงานที่งดงามเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้เหนือสไตล์ล้านนาเพราะคุณหญิงชลัมพรชอบบรรยากาศแต่งงานแบบภาคเหนือเป็นพิเศษเมื่อเป็นแม่งานธีมของงานจึงเป็นไปตามใจนางแต่ทางโรงแรมก็จัดได้งดงามสมกับเป็นงานแต่งงานของลูกค้าระดับวีไอพีเพราะงบประมาณไม่จำกัดเมื่อได้ฤกษ์รดน้ำสังข์บ่าวสาว คุณหญิงชลัมพรเคียงคู่มากับท่านนายพลอย่างสง่างามเป็นคู่แรก คุณหญิงชลัมพรรดน้ำสังข์ให้ลูกชายตัวดีและรดน้ำสังข์ให้บุษบาบันพร้อมกับกำชับฝากบุษบาบันดูแลชลลัมพีให้ดี
“ตาพีเราน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้วอายุก็ไม่น้อยแม่ดีใจที่เราเลือกผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาได้เหมาะสมดี บุษบาบันน่ะแม่เห็นเขามาแต่ไหนแต่ไรทั้งกิริยามารยาท ทั้งนิสัยใจคอแม่เชื่อว่าเขาจะเป็นภรรยาและแม่ที่ดีได้อย่างแน่นอน หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน”
“ครับคุณแม่ ผมน่ะรักษุษบาบันมากไม่เช่นนั้นผมจะแต่งงานด้วยเหรอครับ” ลูกชายตัวดีหันมายิ้มและตอบมารดาอย่างสุภาพยิ้มเผื่อแพร่ไปถึงเจ้าสาว แต่มีหรือคุณชลัมพรจะดูไม่ออกใต้แววตาเข้มคมของลูกชายนั้นหลอกใครก็ได้แต่หลอกคนเป็นแม่ไม่ได้หลอก ที่วางเฉยและยอมรับเมื่อชลลัมพีมาบอกว่าเขาจะเลือกบุษบาบันมาเป็นคู่ครองนางแสนจะแปลกใจแต่ก็พอใจอยู่ในทีจึงปล่อยไปตามน้ำอย่างมีแผนการในใจอยู่เช่นกัน
“บุษบาบัน เราก็เช่นกันต้องหนักแน่นนะอยู่กับคนแบบนายพีต้องอดทนเราทำงานกับเขามานานก็น่าจะรู้ดีว่าเขาเป็นเช่นไร ยังไงร่วมหัวจมท้ายกันแล้วหนักนิดเบาหน่อยก็ต้องอภัยให้กันนะหนักแน่นเข้าไว้” ราวกับคุณหญิงจะสื่ออะไรบางอย่างกับลูกสะใภ้
“ค่ะคุณหญิง” บุษบาบันก้มไหว้อย่างงดงาม
“ต่อไปนี้เธอคือลูกสะใภ้ของฉันต่อไปอย่าเรียกฉันว่าคุณหญิงอีกเข้าใจไหมต้องเรียกว่าแม่”
“ค่ะคุณแม่”
ชลลัมพีลอบมองพลางนึกในใจเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยสมแล้วที่เขาจ้างบุษบาบันมารับหน้าที่นี้ แต่ใจลึกๆ ก็นึกกลัววันใดคุณหญิงแม่ของเขาสงสัยขึ้นมาคาดคั้นบุษบาบันเธอจะหลุดปากบอกความลับระหว่างเขากับเธอหรือเปล่า แต่ถ้าหลุดปากมาวันใดเขาจะเล่นงานเธอให้สาสมเลยเชียวค่าตัวเธอมันแพงถึงสิบล้านหากทำงานพลาดล่ะก็เขาจะเรียกค่าเสียหายทั้งต้นทั้งดอกเลยเชียว เขารู้ว่าเธอไม่มีปัญญาหามาคืนเขาแน่เงินค่าจ้างนั่นหมดไปกับการปรับปรุงโรงแรมขนาดเล็กริมชายหาดที่มีสภาพเก่าทรุดโทรมให้ดูสวยทันสมัยเพราะฉะนั้นบุษบาบันต้องทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
เมื่อถึงคิวที่ทั้งพ่อและแม่ของบุษบาบันต้องรดน้ำสังข์ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก นางดุสิตา อยากจะหนีไปให้ไกล ใครไม่รู้แต่นางรู้หัวอกคนเป็นแม่วันนี้หากบุษบบันกลายเป็นลูกสะใภ้อภิมหาเศรษฐีเพราะเกิดจากความรักนางจะยินดีปรีดาและหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติกว่าใครในงานแต่นางรู้ดีบุษบาบันแต่งงานเพราะอะไรน้ำตาที่ไหลนั้นจึงเกิดจากความสงสารในความอาภัพอับโชคของบุตรสาวมากกว่า