จากภาคแรกในกระทู้ด้านขวา ===>
http://ppantip.com/topic/32020048
ผมขอส่งภาคต่อที่รับปากครับ แต่วันนี้กลับดึกหน่อย ถึงจะง่วงแต่ก็พยายามพิมพ์ คืนนี้คงเสร็จส่งให้อ่านได้แค่อีก 1 บริษัทก่อนนะครับ เริ่มกันเลย
LPN
บริษัทนี้จะแตกต่างจากบริษัทใหญ่อื่นอย่างชัดเจน คือเป็นบริษัทที่เก่งเฉพาะด้านจริงๆซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างยิ่ง พูดง่ายๆก็คือเป็นบริษัทที่เก่งในการทำโครงการคอนโดได้ราคาถูกที่สุด ไม่มีบริษัทไหนสู้ได้ สามารถทำต้นทุนค่าก่อสร้างได้ถูกที่สุดในตลาด แม้แต่ PS หรือ SPALI ก็สู้ในเรื่องต้นทุนค่าก่อสร้างอาคารและความเร็วไม่ได้ แต่ด้วยความเก่งเพียงด้านเดียวก็กำลังจะเป็นจุดอ่อนของ LPN
ในภาวะที่ตลาดคอนโดกำลังถดถอยเนื่องจาก สินค้าล้นตลาด การเก็งกำไรมาก ลูกค้าไม่ผ่านสินเชื่อเริ่มทิ้งดาวน์ การเมืองมีปัญหายืดเยื้อ เศรษฐกิจเริ่มมีปัญหาและเหมือนเคราะห์ซ้ำ เกิดแผ่นดินไหว ทำให้เกิดความกังวลในคอนโดกับการรับมือแผ่นดินไหว เมื่อตลาดคอนโดเปลี่ยน Trend เป็นขาลง มาดูกันว่าจะมีผลกระทบกับ LPN ยังไงบ้าง
LPN ทำเป็นแต่คอนโดระดับล่าง ส่วนคอนโดระดับกลางและบน กลับไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีความชำนาญ จึงไม่ได้ทำเหมือนบริษัทอื่น ซึ่งลูกค้าระดับล่างจะมีปัญหาในการซื้อและขอสินเชื่อแบงค์มากกว่าระดับบนในภาวะที่เศรษฐกิจมีปัญหา LPN จะเริ่มมีปัญหารายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หลังตึกเสร็จในครึ่งหลังของปีนี้โดยจะลดลงอย่างต่อเนื่องไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่สามารถเติบโตได้เหมือนในอดีต ส่วนยอดขายใหม่ก็จะลดลงส่งผลถึงรายได้ในปีหน้า
ในขณะที่โครงการแนวราบได้แก่บ้านและทาวน์เฮ้าส์มีการลดลงน้อยกว่าโครงการคอนโด แต่ LPN กลับยังไม่สามารถตั้งไข่ในโครงการแนวราบได้ โดยที่ผ่านมาโครงการทาวน์เฮ้าส์ที่ LPN ทำนั้นไม่ได้เกิดจากความตั้งใจว่าจะซื้อที่ดินมาเพื่อทำทาวน์เฮ้าส์แต่แรก แต่เป็นที่ดินที่ซื้อมาเพื่อทำโครงการคอนโดแต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากไม่ผ่าน EIA ก็จำเป็นต้องระบายที่ดินทิ้ง ก็ต้องมาทำทาวน์เฮ้าส์แทน แต่ด้วยราคาที่ดินที่สูงไม่เหมาะจะทำทาวน์เฮ้าส์ จึงทำให้ราคาขายทาวน์เฮ้าส์ต้องขายราคาสูง ทั้งๆที่แทบไม่เหลือกำไร
สำหรับโครงการประเภทบ้านเดี่วนั้น LPN ก็ไม่คิดที่จะทำเพราะไม่มีความถนัดและขาดผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน ไม่เหมือนกับคอนโด หลังจากที่ต้องทำโครงการทาวน์เฮ้าส์แบบไม่มีทางเลือก ภายหลังบริษัทเองอยากจะเริ่มประเดิมทำโครงการทาวน์เฮ้าส์ด้วยการซื้อที่ดินใหม่เพื่อการทำโครงการทาวน์เฮ้าส์อย่างจงใจเป็นโครงการแรก และได้ทีมบริหารโครงการที่ย้ายมาจาก SIRI เพื่อมาทำทาวน์เฮ้าส์อย่างจริงจัง แต่ด้วยความที่ทีมบริหารที่ได้มาจาก SIRI นั้นยังอ่อนประสบการณ์ ทำให้ไปเลือกซื้อที่ดินแถวสวนหลวง ร.9 มา หารู้ไม่ว่าที่ดินแปลงนี้ด้วยข้อกำหนดทางกฎหมายไม่สามารถทำโครงการทาวน์เฮ้าส์ได้ ทำได้แต่โครงการบ้านเดี่ยวเท่านั้น
งานเข้า LPN อีกครั้ง เนื่องจากไม่เคยได้ทำโครงการบ้านเดี่ยว กลับต้องมาติดกับดักอันใหม่ ต้องกล้ำกลืนทำโครงการบ้านเดี่ยว ซึ่งราคาที่ดินที่ซื้อก็สูงไม่ค่อยเหมาะทำโครงการบ้านเดี่ยว แต่ก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เลยทำให้วงการสงสัยทำไมอยู่ดีๆ LPN ถึงมาทำโครงการบ้านเดี่ยวราคาแพง
โดยสรุป ถ้าการเมืองยังยืดเยื้อ เศรษฐกิจก็จะมีปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ LPN จะถูกกระทบหนักกว่าบริษัทอื่น เพราะทำแต่โครงการคอนโดระดับล่าง
ขอจบเรื่องเล่าสำหรับLPN เท่านี้ก่อน ยังมีต่อภาค 2 เร็วๆนี้ครับ
*********** แนะนำหุ้น Turn Around แห่งปี ของกลุ่มอสังหาฯ (ภาคต่อ)************
ผมขอส่งภาคต่อที่รับปากครับ แต่วันนี้กลับดึกหน่อย ถึงจะง่วงแต่ก็พยายามพิมพ์ คืนนี้คงเสร็จส่งให้อ่านได้แค่อีก 1 บริษัทก่อนนะครับ เริ่มกันเลย
LPN
บริษัทนี้จะแตกต่างจากบริษัทใหญ่อื่นอย่างชัดเจน คือเป็นบริษัทที่เก่งเฉพาะด้านจริงๆซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างยิ่ง พูดง่ายๆก็คือเป็นบริษัทที่เก่งในการทำโครงการคอนโดได้ราคาถูกที่สุด ไม่มีบริษัทไหนสู้ได้ สามารถทำต้นทุนค่าก่อสร้างได้ถูกที่สุดในตลาด แม้แต่ PS หรือ SPALI ก็สู้ในเรื่องต้นทุนค่าก่อสร้างอาคารและความเร็วไม่ได้ แต่ด้วยความเก่งเพียงด้านเดียวก็กำลังจะเป็นจุดอ่อนของ LPN
ในภาวะที่ตลาดคอนโดกำลังถดถอยเนื่องจาก สินค้าล้นตลาด การเก็งกำไรมาก ลูกค้าไม่ผ่านสินเชื่อเริ่มทิ้งดาวน์ การเมืองมีปัญหายืดเยื้อ เศรษฐกิจเริ่มมีปัญหาและเหมือนเคราะห์ซ้ำ เกิดแผ่นดินไหว ทำให้เกิดความกังวลในคอนโดกับการรับมือแผ่นดินไหว เมื่อตลาดคอนโดเปลี่ยน Trend เป็นขาลง มาดูกันว่าจะมีผลกระทบกับ LPN ยังไงบ้าง
LPN ทำเป็นแต่คอนโดระดับล่าง ส่วนคอนโดระดับกลางและบน กลับไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีความชำนาญ จึงไม่ได้ทำเหมือนบริษัทอื่น ซึ่งลูกค้าระดับล่างจะมีปัญหาในการซื้อและขอสินเชื่อแบงค์มากกว่าระดับบนในภาวะที่เศรษฐกิจมีปัญหา LPN จะเริ่มมีปัญหารายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หลังตึกเสร็จในครึ่งหลังของปีนี้โดยจะลดลงอย่างต่อเนื่องไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่สามารถเติบโตได้เหมือนในอดีต ส่วนยอดขายใหม่ก็จะลดลงส่งผลถึงรายได้ในปีหน้า
ในขณะที่โครงการแนวราบได้แก่บ้านและทาวน์เฮ้าส์มีการลดลงน้อยกว่าโครงการคอนโด แต่ LPN กลับยังไม่สามารถตั้งไข่ในโครงการแนวราบได้ โดยที่ผ่านมาโครงการทาวน์เฮ้าส์ที่ LPN ทำนั้นไม่ได้เกิดจากความตั้งใจว่าจะซื้อที่ดินมาเพื่อทำทาวน์เฮ้าส์แต่แรก แต่เป็นที่ดินที่ซื้อมาเพื่อทำโครงการคอนโดแต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากไม่ผ่าน EIA ก็จำเป็นต้องระบายที่ดินทิ้ง ก็ต้องมาทำทาวน์เฮ้าส์แทน แต่ด้วยราคาที่ดินที่สูงไม่เหมาะจะทำทาวน์เฮ้าส์ จึงทำให้ราคาขายทาวน์เฮ้าส์ต้องขายราคาสูง ทั้งๆที่แทบไม่เหลือกำไร
สำหรับโครงการประเภทบ้านเดี่วนั้น LPN ก็ไม่คิดที่จะทำเพราะไม่มีความถนัดและขาดผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน ไม่เหมือนกับคอนโด หลังจากที่ต้องทำโครงการทาวน์เฮ้าส์แบบไม่มีทางเลือก ภายหลังบริษัทเองอยากจะเริ่มประเดิมทำโครงการทาวน์เฮ้าส์ด้วยการซื้อที่ดินใหม่เพื่อการทำโครงการทาวน์เฮ้าส์อย่างจงใจเป็นโครงการแรก และได้ทีมบริหารโครงการที่ย้ายมาจาก SIRI เพื่อมาทำทาวน์เฮ้าส์อย่างจริงจัง แต่ด้วยความที่ทีมบริหารที่ได้มาจาก SIRI นั้นยังอ่อนประสบการณ์ ทำให้ไปเลือกซื้อที่ดินแถวสวนหลวง ร.9 มา หารู้ไม่ว่าที่ดินแปลงนี้ด้วยข้อกำหนดทางกฎหมายไม่สามารถทำโครงการทาวน์เฮ้าส์ได้ ทำได้แต่โครงการบ้านเดี่ยวเท่านั้น
งานเข้า LPN อีกครั้ง เนื่องจากไม่เคยได้ทำโครงการบ้านเดี่ยว กลับต้องมาติดกับดักอันใหม่ ต้องกล้ำกลืนทำโครงการบ้านเดี่ยว ซึ่งราคาที่ดินที่ซื้อก็สูงไม่ค่อยเหมาะทำโครงการบ้านเดี่ยว แต่ก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เลยทำให้วงการสงสัยทำไมอยู่ดีๆ LPN ถึงมาทำโครงการบ้านเดี่ยวราคาแพง
โดยสรุป ถ้าการเมืองยังยืดเยื้อ เศรษฐกิจก็จะมีปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ LPN จะถูกกระทบหนักกว่าบริษัทอื่น เพราะทำแต่โครงการคอนโดระดับล่าง
ขอจบเรื่องเล่าสำหรับLPN เท่านี้ก่อน ยังมีต่อภาค 2 เร็วๆนี้ครับ