ใครยังไม่มีที่เรียนมาระบายความรู้สึกกันดีกว่า!!!!!~

สวัสดีค่ะเพื่อนๆเด็กแอดมิชชั่น57 และทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ


เราเป็นหนึ่งในคนที่ยังไม่มีมหาวิทยาลัยเรียนเลยอ่าา
เรารู้สึกแย่แล้วก้เสียใจอ่ะ เวลามีญาติๆ หรือคนรู้จัก เค้ามาถามว่า เรียนที่ไหน เรียนคณะอะไร มีที่เรียนยัง?
เราเริ่มเรียนพิเศษมาตั้งแต่ม.4นะคะ ไปเข้าค่ายสานฝัน ค่ายBorn to be ค่ายวิชาการต่างๆมาก็เยอะแยะ ไปสอบมาก็หลายสนามแล้วอ่ะ เศร้า
พอประกาศผลสอบไม่มีชื่อเราเลย T^T เรารู้สึกแย่อ่ะ ตอนนี้เราก้รู้สึกชิน
สนามแรกของเราคือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (รอบโควต้าภาคเหนือค่ะ) เราเลือก เภสัช,พยาบาล เราไปสอบก็ไม่ติดทั้งสองอัน
แต่เราเลือก ม.ร่วม  เป็นคณะภาษาและวัฒนธรรมจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ กับ เภสัช มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผลออกมาเรา สอบติด คณะภาษาและวัฒนธรรมจีน (ไปรายงานตัวมาแล้วด้วย)
แต่ที่บ้านไม่ให้เรียน เพราะมันเป็นเอกชน ที่บ้านไม่อยากให้เข้าเพราะค่าใช้จ่ายเยอะ (ปี3ต้องไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่จีน1ปี) เค้าไม่ให้เราไปเรียน
ต่อมาเราไปสอบคณะศิลปศาสตร์ภาษาอังกฤษกับภาษาจีน ม.ราชภัฏสวนดุสิต (รอบแรก) ก็ไม่ติดอีก
เราก็เครียดมากอ่ะ วันนั้นคือร้องไห้เลย กลับมาบ้านป๊าม้าก็ด่า T^T เค้าว่าเราโง่ สอบอะไรก็ไม่ติด
การเลือกคณะรับตรงพลาดหลายๆครั้งที่ผ่านมาทำให้กระจ่างเลย
แต่เราไม่รู้จะโทษใครอ่า นอกจากตัวเราเอง แต่จะโทษตัวเองไป มันก็ทำให้หดหู่ไปเปล่าๆ T^T
ตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่หรอก เรากลัวเราหลุดแอดมากกว่าคือถ้าหลุดแอด เราก็ไม่มีที่เรียนเครียดมากกว่าอีก
เราต้องยื่นแอด แล้วเราต้องเลือกคณะรองลงมา ซึ่งไม่ได้อยากเรียนเลย
ป๊าม้าเราเค้าแป้วกับเรามาไม่รู้กี่ครั้งแล้วกับการเข้ามหาลัย T^T
ป๊าม้าซื้อของ ส่งเรียนพิเศษตั้งมากมาย ยังต้องส่งเสียเราเรียนเอกชนอีก (ถ้าไม่ติดจริงๆ) คือมันรู้สึกแย่อะ


ตอนนี้เรากำลังทำร้ายจิตใจตัวเองมากเลย!!!

ตอนเก็บของนะ นั่งเก็บหนังสือใส่ตู้ หนังสือมากมายในห้อง บางเล่มไม่เคยเปิดอ่าน บางเล่มก็เคยให้คนอื่นยืม
มันคือเงินของป๊าม้าอ่ะ เราเห็นแล้วมันหดหู่ คิดว่า "ฉันมีหนังสือเยอะขนาดนี้ทำไมฉันยังไม่มีที่เรียนล่ะ" T___T
เราไม่อยากจะให้ความหวังของป๊าม้าไปกองอยู่ก้นขวดอ่ะ อยากให้ป๊าม้าเอาเราไปอวดคนอื่นบ้าง
มองมาอีกด้านนึง...ละทำไมบางคนมันเพอร์เฟ็คจัง!!!
ไม่อ่านหนังสือ แต่มีที่เรียน เล่นๆ ขำๆ นอนๆ รวยๆเชิดๆ ยังยิ้มติด คณะดีๆอีก
บางคน...พ่อแม่รวย ลูกเรียนดี ยังจะติดคณะดีจบมาทำงานดีๆ ไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกกู T^T (ขอโทษที่หยาบคายนะ)

ครูเราเคยพูดคำนึงว่า "มีแต่คนอื่นติดนู่นติดนี่ ครูไม่ต้องการไปคุยอวดเค้าหรอกนะ แค่ขอให้ฟิวมีที่เรียนก็พอ"
มันเจ็บอะ คือเราลดระดับตัวเองไม่พอ ครูยังต้องลดความหวังในตัวเราด้วยอ่ะ เหมือนเค้าจะปลงๆทำใจยอมรับ ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ เศร้า
ครูเราก็บอกอีกว่า "ชีวิตคนเราถ้าไม่ได้ทำตามความฝัน แก่ไปจะเหงาและโหยหาอดีตมาก ลูกอย่าเลิกไล่ทำตามความฝัน เพียงเพราะมันใช้เวลากว่าจะสำเร็จยังไงเวลาก็ผ่านไปอยู่ดี"


ตอนแรกเราอยากเรียน "เภสัช" เพราะที่บ้านเราเค้าบังคับเราเรียนสายวิทย์มาแต่แรกแล้ว ที่บ้านเราไม่มีใครฟังเลยว่าเราอยากเรียนศิลป์จีน
T^T เค้ามองแค่ว่าสายวิทย์เรียนแล้วเลือกเรียนได้เยอะ เรียนแล้วหางานทำได้ง่าย
เค้ามองว่าเรียนภาษาอ่ะเรียนแล้วจะไม่มีงาน เรียนตามเพื่อนตามคนอื่น ซึ่งคนที่บ้านไม่สนับสนุนเราเลย เค้าดูถูก เค้าสบประมาทเรามาตลอด
เค้าอยากจะให้เราเรียนในแบบที่เค้าต้องการให้เราเรียน ซึ่งมันไม่ใช่ตัวเราไง เราสับสน!!! เราอยากจะพิสูจน์ให้เค้าเห็นว่าเรียนภาษามันดี
พอเราเรียนสายวิทย์ เกรดเราแย่ลงกว่าตอนเรียนม.ต้นอีกนะ


ใจจริงที่เราก็อยากเรียน "เภสัช" ตอนนั้น เพราะเรามีวิชาที่ชอบคือวิชาเคมี และเราชอบครูสอนเคมี ทำให้มีแรงบันดาลใจในการเรียน
แต่เราคิดไปคิดมา ว่าเราคงไม่ไหวไงเลยเบนเข็มตัวเอง เราคงทำร้ายจิตใจและความฝันคนในบ้านอ่ะ
เราไม่กล้าโทษป๊าม้านะ เรารู้ว่าเค้าก้อยากให้เราได้ดี คือเราก้อยากโทษตัวเองนะ โทษที่เราเรียนวิทย์คณิตไม่ได้ดี เรียนแล้วแย่
คือมันไม่ใช่แนวเราอ่ะ เรามองว่าเรียนภาษามันดี เรียนแล้วมันได้ใช้นะ คนเรามันเปลี่ยนไปอยู่แล้วล่ะเรื่องอาชีพที่อยากเป็น
เมื่อ3-4ปีแล้วเราเคยบอกป๊าว่าชอบวิทยา อยากเป็นนักวิทยา ปีที่แล้วตอนอยู่ม.5 เราอยากเรียนเภสัช
พอมาม.6เทอม2 มันใกล้เข้ามามันก็ยิ่งทบทวนตัวเองอ่ะ คือเราอยากเรียนภาษา
แต่คือถ้าเรียนวิทย์มันไม่ไหว ใจมันไม่รัก มันไม่ใช่แล้วเรามาฝืน เราก็กลัวไม่ไหวไง
เราไม่อยากอยู่มหาลัยแล้วตื่นไปเรียนแบบทรมาน เช่น ตื่นเช้ามา เจอวิทย์อีกแล้ว คณิตอีกแล้วแบบนี้อ่ะ T^T คืออยากเรียนสิ่งที่ชอบบ้าง
มาตอนนี้...ไม่แปลกนะเราก็เปลี่ยนไปเรียน "ภาษา" แทน  คือเรายังอยากเรียนภาษาอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
อีกเรื่องนึงคือมันทำใจยากนะ เรียนภาษาที่ "ม.มหิดล" คนเข้ามาเรียนคะแนนสูงทั้งนั้น เรายังได้ไม่ถึงครึ่งเขาเลยอะ
เราบอกเลยว่าเราไม่ใช่คนขยัน คนเก่ง แต่เราก้ต้องพยายามอะ มากกว่าคนอื่นๆหลายสิบเท่า

ถ้าถามว่าทำไมตอนนั้นถึงอยากเรียน "เภสัช" เราคงตอบว่า มันเป็นความฝัน (แต่ตอนนี้เราสานต่อมันไม่ถึงฝันแล้ว)
คือถ้าเป็นตอนนี้เราจะรู้ตัวเองแล้วว่า เราไม่เหมาะกับอาชีพ "เภสัชกร" เลย
คือเพิ่งมารู้ว่าถ้าเราเรียนไปคงต้องซิ่วไม่ไหวแน่ เพราะเรามารู้ตอนนี้ว่าตัวเองเหมาะกับภาษา
เรียนภาษา ถามว่า "ไหวไหม?" ที่ต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นคนต่างชาติภายใน4ปี
คือไปถึงจุดๆนั้น คิดว่ายังไงก็ต้องไหวแล้ว มันคือความฝันอะ!!!
คือตอนนี้มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว คือเราก็ต้องยอมรับแล้วสู้ใหม่เท่านั้นแหละ

บางอย่างในสายตาคนทั่วไปเรียกว่า "ทำอะไรโง่ๆ" แต่อีกฝั่งจะเรียกว่า "ทำตามความฝัน" เราเชื่อแบบนั้น
พี่ปีที่แล้วเค้าบอกเราว่า "อันดับหนึ่ง ใส่คณะที่ตัวเองอยากเรียนจริงๆ อย่าให้เป็นเหมือนพี่ กลัวไม่มีที่เรียนสุดท้ายไม่ได้ทำตามความฝัน"
ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ถ้าเราเลือกแล้วเราก็ไม่เสียใจที่อย่างน้อยได้เลือกละก้ทำตามความฝัน
ถ้าเราสอบไม่ติด คนที่เสียใจก็คือตัวเอง ป๊าแม่ แล้วก็ครู (ครูเค้าหวังกับเรามาก)
เราก็กลัวสิ่งที่จะเกิด แต่ถ้าพยายามเต็มที่แล้ว มันจะออกมาดีไม่ดี เราจะทำใจยอมรับมัน


ยังไงเราก็ขอบคุณเพื่อนๆนะที่อ่านกระทู้นี้จนจบ แล้วเพื่อนๆมีแนวทางเดินต่อยังไงก็เล่าให้เราฟังได้นะ
เข้ามาระบายกันเยอะๆ เล่าสู่กันฟังเผื่อจะเกิดแนวคิดอะไรใหม่ๆมาบ้าง ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่