เล่าเรื่องพิธีหมั้นแบบไทยๆ ตามใจฉันค่ะ >>
http://ppantip.com/topic/32039666
----------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ จริงๆ ไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ในพันทิพย์เท่าไหร่ อ่านซะมากกว่า เพราะด้วยความที่อาศัยอยู่ที่เกาหลี ถ้าหากว่าอยู่ที่ทำงานก็จะไม่มีคอมภาษาไทยให้พิมพ์ไทยได้ จะพิมพ์ได้ก็ต้องกลับมาใช้คอมที่บ้าน ซึ่งกว่าจะถึงบ้านก็หมดแรงจะพาลนอนซะอย่างเดียว
อ่ะๆๆๆ เกริ่นนอกเรื่องซะยาวเลยค่ะ ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกัน
เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมา นีดได้จัดพิธีหมั้น (กึ่งๆ แต่ง) กับแฟนหนุ่มน้อย ชาวเกาหลีค่ะ ซึ่งตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า อยากจัดงานตามประเพณีทั้งที่ไทยและเกาหลี แต่ที่เกาหลีเนี่ย เค้าไม่นิยมจัดงานหมั้นกัน ก็เลยเลือกจัดที่ไทยเป็นงานหมั้น เพื่อให้ญาติๆ ที่ไทยได้รับรู้ถึงการแต่งงานของเรา แต่ถ้าจะจัดงานแต่งที่ไทยด้วยก็เสียดายเงินค่ะ เพราะใช้เงินอีกเยอะเลย แล้วก็งานแต่ง (งานเย็น) บ้านเราก็หน้าตาเหมือนงานแต่งที่เกาหลีนี่แหละ เลยเอาแค่งานหมั้น แบบไทยๆ แต่ตามใจฉัน(?)
ที่บอกว่าตามใจฉันเนี่ย เพราะลำดับขั้นตอน และการจัดงานทั้งหมด นีดจัดการด้วยตัวเองทั้งหมดเลย ลำดับขั้น พิธีการ ไม่ตามใครเลย ตามใจตัวเองสุดๆ เพื่อความสะดวก และสบายของแขกค่ะ ก็ญาติๆ ทั้งนั้น ไม่ได้มีคนอื่นคนไกล เอาบรรยากาศออกมาให้น่ารักและอบอุ่นดีกว่า (ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ออกมาอย่างใจทุกอย่างค่ะ)
สำหรับงานในครั้งนี้นั้น นีดจัดด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่มีการใช้ หรือจ้างออแกไนเซอร์แต่อย่างใดค่ะ (ประเด็นคือเสียดายเงิน ฮ่าๆๆ) (แอบเล่าแล้วกันว่า งานนี้จัดหมั้นเช้า ไม่มีพิธีสงฆ์ที่โรงแรม สวิสโฮเทล รัชดา เป็นคอกเทล 80 ที่ ใช้ห้องจัดงานสองห้องเปิดต่อกันนะคะ รวมค่าชุด ค่าแต่งหน้าช่างภาพ สรุปว่าเบ็ดเสร็จงานนี้ใช้เงินไปทั้งหมด หนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วนค่ะ)
แต่เรื่องของการจัดงานหมั้นเช้านั้น นีดจะมาเล่าอีกทีในกระทู้หน้านะคะ อันนี้จะขอเล่าเฉพาะเรื่องของการถ่ายพรีเวดดิ้งอย่างเดียวค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะจัดงานแต่งงาน เราก็ต้องไปถ่ายรูปแต่งงาน หรือที่เรียกว่า พรีเวดดิ้งกันก่อนจริงมั้ยคะ
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเราทั้งคู่อยู่ที่เกาหลี เราก็ต้องถ่ายพรีเวดดิ้งที่เกาหลีน่ะสิคะ
เมื่อตกลงได้แล้วว่าเราจะถ่ายพรีเวดดิ้งกันที่เกาหลี เราก็จัดแจงหาเอเจนซี่เจ้าที่เราถูกใจทั้งสไตล์รูป และราคา และเราก็ได้เอเจนซี่เจ้าหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ ณ ชองดัมดง ในกรุงโซลค่ะ
ซึ่งขั้นตอนการใช้บริการเนี่ย อาจจะต้องมีการออกแรงเดินกันซักนิดนึง เพราะว่าลักษณะของเอเจนซี่ที่นี่คือว่า เป็นเหมือนบริการครบวงจรค่ะ
คือเราก็จะเลือกเอเจนซี่มาเจ้านึง เค้าก็จะจัดแจงว่า จะต้องส่งเราไปแต่งหน้าที่สตูดิโอไหน ถ่ายภาพที่สตูดิโอไหน ตัวเค้าเองจะไม่ทำอะไรเลย นอกจากเป็นตัวกลางติดต่อกับสตูแต่งหน้า ถ่ายภาพ พวกนั้นให้เราค่ะ ก็คงมีการกินหัวคิวกันไปตามระเบียบ แต่ว่าช่วยไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถเดินไปติดต่อสตูแต่งหน้า ถ่ายภาพได้เองค่ะ ต้องผ่านตัวกลางมาเท่านั้น
วันนั้น พอเราไปถึงเอเจนซี่เป็นครั้งแรก เค้าก็จะมีภาพผลงานต่างๆ มาให้เราดูว่าเป็นยังไง เราโอเคมั้ย อะไรยังไง แต่แอบขำตอนเดินเข้าไปครั้งแรก เอเจนซี่เข้าใจว่าเราสองคนเป็นนักศึกษากันอยู่ และจะมาถ่ายภาพกันเล่นๆ แบบว่ายังไม่ได้จะแต่งงานไรงี้ เลยต้องแจ้งไปว่า เรามีกำหนดวันงานที่แน่นอนแล้ว แล้วก็เร่งมากด้วย นั่นก็คือ หนึ่งเดือนให้หลังจากวันถ่ายพรีเวดดิ้งนั่นเอง เรียกว่าสตูทำงานกันมือไม้สั่นเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้นคุณลุงเอเจนซี่ก็จะคุยกับเราว่า ถ้าโอเคนะ งั้นก็ทำสัญญานัดวันเลย (เร็วมาก) จากนั้นก็จะพาเราไปดูร้านแหวน (ถ้าหากว่าเรายังไม่มีนะคะ) ซึ่งร้านแหวนนี้ แน่นอนว่ามีเอี่ยวกะคุณลุงเอเจนซี่นี่แน่นอน เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะประตูร้านอยู่ติดกันเลย แต่มันก็เป็นข้อดีเพราะว่า เราได้ลดแลกแจกแถมอื้อเลยค่ะ อย่างเช่น ได้เซ็ตทีอาร่าเซ็ตใหญ่สำหรับวันถ่ายพรีเวดดิ้ง แล้วยังได้แถมสร้อยคอทองคำขาวที่เข้าชุดกันกับแหวนแต่งงานอีกเส้นนึงฟรีๆ ด้วย (หุหุ)
จากนั้น เราก็จะถูกส่งตัวไปที่สตูดิโอแต่งหน้าและชุดแต่งงานค่ะ เพื่อเลือกชุด
Review ถ่ายภาพ Pre-Wedding ที่เกาหลี
----------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ จริงๆ ไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ในพันทิพย์เท่าไหร่ อ่านซะมากกว่า เพราะด้วยความที่อาศัยอยู่ที่เกาหลี ถ้าหากว่าอยู่ที่ทำงานก็จะไม่มีคอมภาษาไทยให้พิมพ์ไทยได้ จะพิมพ์ได้ก็ต้องกลับมาใช้คอมที่บ้าน ซึ่งกว่าจะถึงบ้านก็หมดแรงจะพาลนอนซะอย่างเดียว
อ่ะๆๆๆ เกริ่นนอกเรื่องซะยาวเลยค่ะ ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกัน
เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านมา นีดได้จัดพิธีหมั้น (กึ่งๆ แต่ง) กับแฟนหนุ่มน้อย ชาวเกาหลีค่ะ ซึ่งตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า อยากจัดงานตามประเพณีทั้งที่ไทยและเกาหลี แต่ที่เกาหลีเนี่ย เค้าไม่นิยมจัดงานหมั้นกัน ก็เลยเลือกจัดที่ไทยเป็นงานหมั้น เพื่อให้ญาติๆ ที่ไทยได้รับรู้ถึงการแต่งงานของเรา แต่ถ้าจะจัดงานแต่งที่ไทยด้วยก็เสียดายเงินค่ะ เพราะใช้เงินอีกเยอะเลย แล้วก็งานแต่ง (งานเย็น) บ้านเราก็หน้าตาเหมือนงานแต่งที่เกาหลีนี่แหละ เลยเอาแค่งานหมั้น แบบไทยๆ แต่ตามใจฉัน(?)
ที่บอกว่าตามใจฉันเนี่ย เพราะลำดับขั้นตอน และการจัดงานทั้งหมด นีดจัดการด้วยตัวเองทั้งหมดเลย ลำดับขั้น พิธีการ ไม่ตามใครเลย ตามใจตัวเองสุดๆ เพื่อความสะดวก และสบายของแขกค่ะ ก็ญาติๆ ทั้งนั้น ไม่ได้มีคนอื่นคนไกล เอาบรรยากาศออกมาให้น่ารักและอบอุ่นดีกว่า (ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ออกมาอย่างใจทุกอย่างค่ะ)
สำหรับงานในครั้งนี้นั้น นีดจัดด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่มีการใช้ หรือจ้างออแกไนเซอร์แต่อย่างใดค่ะ (ประเด็นคือเสียดายเงิน ฮ่าๆๆ) (แอบเล่าแล้วกันว่า งานนี้จัดหมั้นเช้า ไม่มีพิธีสงฆ์ที่โรงแรม สวิสโฮเทล รัชดา เป็นคอกเทล 80 ที่ ใช้ห้องจัดงานสองห้องเปิดต่อกันนะคะ รวมค่าชุด ค่าแต่งหน้าช่างภาพ สรุปว่าเบ็ดเสร็จงานนี้ใช้เงินไปทั้งหมด หนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วนค่ะ)
แต่เรื่องของการจัดงานหมั้นเช้านั้น นีดจะมาเล่าอีกทีในกระทู้หน้านะคะ อันนี้จะขอเล่าเฉพาะเรื่องของการถ่ายพรีเวดดิ้งอย่างเดียวค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะจัดงานแต่งงาน เราก็ต้องไปถ่ายรูปแต่งงาน หรือที่เรียกว่า พรีเวดดิ้งกันก่อนจริงมั้ยคะ
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเราทั้งคู่อยู่ที่เกาหลี เราก็ต้องถ่ายพรีเวดดิ้งที่เกาหลีน่ะสิคะ
เมื่อตกลงได้แล้วว่าเราจะถ่ายพรีเวดดิ้งกันที่เกาหลี เราก็จัดแจงหาเอเจนซี่เจ้าที่เราถูกใจทั้งสไตล์รูป และราคา และเราก็ได้เอเจนซี่เจ้าหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ ณ ชองดัมดง ในกรุงโซลค่ะ
ซึ่งขั้นตอนการใช้บริการเนี่ย อาจจะต้องมีการออกแรงเดินกันซักนิดนึง เพราะว่าลักษณะของเอเจนซี่ที่นี่คือว่า เป็นเหมือนบริการครบวงจรค่ะ
คือเราก็จะเลือกเอเจนซี่มาเจ้านึง เค้าก็จะจัดแจงว่า จะต้องส่งเราไปแต่งหน้าที่สตูดิโอไหน ถ่ายภาพที่สตูดิโอไหน ตัวเค้าเองจะไม่ทำอะไรเลย นอกจากเป็นตัวกลางติดต่อกับสตูแต่งหน้า ถ่ายภาพ พวกนั้นให้เราค่ะ ก็คงมีการกินหัวคิวกันไปตามระเบียบ แต่ว่าช่วยไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถเดินไปติดต่อสตูแต่งหน้า ถ่ายภาพได้เองค่ะ ต้องผ่านตัวกลางมาเท่านั้น
วันนั้น พอเราไปถึงเอเจนซี่เป็นครั้งแรก เค้าก็จะมีภาพผลงานต่างๆ มาให้เราดูว่าเป็นยังไง เราโอเคมั้ย อะไรยังไง แต่แอบขำตอนเดินเข้าไปครั้งแรก เอเจนซี่เข้าใจว่าเราสองคนเป็นนักศึกษากันอยู่ และจะมาถ่ายภาพกันเล่นๆ แบบว่ายังไม่ได้จะแต่งงานไรงี้ เลยต้องแจ้งไปว่า เรามีกำหนดวันงานที่แน่นอนแล้ว แล้วก็เร่งมากด้วย นั่นก็คือ หนึ่งเดือนให้หลังจากวันถ่ายพรีเวดดิ้งนั่นเอง เรียกว่าสตูทำงานกันมือไม้สั่นเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้นคุณลุงเอเจนซี่ก็จะคุยกับเราว่า ถ้าโอเคนะ งั้นก็ทำสัญญานัดวันเลย (เร็วมาก) จากนั้นก็จะพาเราไปดูร้านแหวน (ถ้าหากว่าเรายังไม่มีนะคะ) ซึ่งร้านแหวนนี้ แน่นอนว่ามีเอี่ยวกะคุณลุงเอเจนซี่นี่แน่นอน เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะประตูร้านอยู่ติดกันเลย แต่มันก็เป็นข้อดีเพราะว่า เราได้ลดแลกแจกแถมอื้อเลยค่ะ อย่างเช่น ได้เซ็ตทีอาร่าเซ็ตใหญ่สำหรับวันถ่ายพรีเวดดิ้ง แล้วยังได้แถมสร้อยคอทองคำขาวที่เข้าชุดกันกับแหวนแต่งงานอีกเส้นนึงฟรีๆ ด้วย (หุหุ)
จากนั้น เราก็จะถูกส่งตัวไปที่สตูดิโอแต่งหน้าและชุดแต่งงานค่ะ เพื่อเลือกชุด