ดูมาทุกตอนพยายามทำความเข้าใจกับมนุษย์คนนี้ ตั้งคำถาม อ่านความเห็นมากหลากหลาย รอฟังจากปากวดีถึงเหตุว่าทำไมกลับมา กลับมาทำม้าาายยย
ออกตัวไม่ได้มาแก้ต่างให้วดี ถ้าดูประวัติการตั้งกระทู้เรา จะรู้ดีว่าเราวิจารณ์วดีตามตอนที่ละครเสนอเป็นช่วงๆไป
ขอตั้งข้อสังเกตุตามการประมวลของเรา ดูจากละครที่ปูเรื่องมาล้วนๆนะคะ
กลับไปสู่คำถามเริ่มต้น วดีเป็นคนยังไง?
จากการที่วดีไม่ยอมปริปากบอกใครแม้แต่พ่อแม่เรื่องแฟนการที่ไม่พูดความจริงเพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ แสดงว่า วดีเป็นคนประเภทถ้าไม่แน่ใจอะไร ก็จะไม่พูดถ้าพูดแล้วทำให้เกิดโทษหรือไม่มีประโยชน์ทั้งนี้ถือเอาความรู้สึกของตนเป็นที่ตั้ง ตอนที่เป็นแฟนกับเขม ช่วงคบกันคงไม่คิดจะบอกพ่อแม่จนกว่าจะแน่ใจก่อน จังหวะบังเอิญที่มีเรื่องปัญหาธุรกิจของพ่อแม่ วดีจะไปบอกเรื่องแฟนในขณะที่พ่อแม่ทุกข์ก็ใช่ที่ จนถึงตอนที่เจ้าสัวเข้ามาช่วยเหลือ โอกาสที่จะบอกว่า แม่ หนูมีแฟนแล้วทำอย่างนี้ไม่ได้ หนูม่ยอม ก็เป็นศูนย์เพราะเป็นลูก ความกตัญญูต้องมาเป็นที่หนึ่ง พูดบอกไปจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อก็ต้องทดแทนคุณพ่อแม่อยู่ดี ทำให้ท่านทุกข์ใจที่เหมือนบังคับจิตใจลูกซะเปล่า
เมื่อไม่บอกพ่อแม่ ก็คิดว่าจะบอกเขมไปทำไมอีกไอ้ความจริงที่ว่า เขมจะเข้าใจหรือ ชาตินี้ก็คงรับใช้เจ้าสัวไปจนตายคงไม่ได้มาเจอะเจอกันอีก ยิ่งตัวเองเป็นผู้หญิงมีสามีแล้วอีกต่างหาก ให้เขมตัดใจเร็วเท่าไไหร่ยิ่งดีดีกว่า คงไม่อยากให้เขมต้องไปตามถามไถ่ซักไซ้กับพ่อแม่ตัวเองด้วย แต่กาลกลับว่าเจ้าสัวไม่ได้เอามาเป็นเมียแค่มาดูแลแล้วดันมาตายไปซะก่อน
แต่ปัญหาก็ตามมาคือข้อสัญญาที่จะดูแลไก่ไข่ให้เจ้าสัว ซึ่งได้รับการต่อต้านจากพี่น้องคุณเอื้อทำให้ต้องแยกตัวมาจากครอบครัว ไม่ยอมไปทำงานกับเอื้อเพราะไม่อยากให้เป็นกันชนระหว่างตนกับพี่น้องตลอดเวลา และการที่ออกหางานทำก็เพื่อแสดงว่าตัวเองไม่ได้มาเกาะเจ้าสัวกิน แค่คิดจะตอบแทนคุณที่มาช่วยครอบครัวของตนเท่านั้น
และนี่ก็ถึงคำถาม กลับมาหาเขมทำไม
คำตอบของยงเมื่อคืนมันมีทั้งจริงและโกหก เราคิดว่า มันเป็นเรื่องของความบังเอิญจริงๆที่ขณะที่ยงหางาน บริษัทก็เสนองานนี้ให้พอดี แต่จากความบังเอิญมากลายมาเป็นความตั้งใจ เพราะยงคิดว่าอาจเป็นโชคชะตาก็ได้ที่ให้โอกาสยงได้มาปรับความเข้าใจกับเขม ณ สถานะแม่ม่ายอย่างนี้ เราว่ายงไม่ได้คิดจะกลับมาครองรักกับเขม ไม่คิดว่าเขมจะสนด้วย แต่แค่ขอให้ได้มีความทรงจำที่ดีต่อกันไว้บ้าง ตัวยงเองก็ยังคงใส่แหวน จำเรื่องราวเก่าๆ เก็บรูปถ่ายไว้ตลอด ไปเจอเขมที่สนามบินแบบคนที่ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร แต่อย่างที่บอกยงเป็นประเภทขอดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะยังไง ที่สนามบิน ยงไม่มีทักทายไม่ยิ้มมีแต่หน้าตาที่เฉยรอประเมินสถานการณ์ ซึ่งก็รู้ว่าเขมยังไม่ลืมตนและเป็นความรู้สึกที่ติดลบสุดๆ เกือบท้อแล้วแต่แล้วเขมก็รับเข้าทำงาน ในใจก็หวังให้เขมมองที่ปัจจุบันเพราะอดีตแก้ไขไม่ได้พูดไปสองไพเบี้ย ทำให้ยงพยายามแสดงตัวในสถานะสุริยงแม่ม่ายลูกติดออกมา ยิ่งมีเกนหลง ยงก็ยังมีหวังขึ้นมาว่าเขมน่าจะเดินต่อไปได้และอภัยตัวเองในที่สุด ดังนั้นที่บอกว่าพยายามจะออกแต่มีเหตุซับซ้อนทำให้ไม่ให้ออก คือยังไม่ได้บรรลุตามที่ตั้งใจไว้นั่นเอง คือเขมยังไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวทำ พอเขมแสดงว่าเข้าใจก็อย่างที่เห็นยงลดการ์ดตัวเองมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ควบคุมไม่ไหว...
ท้ายสุด เรื่องราวของรักสี่เส้า ไม่มีใครถูกผิด เรามองว่า มันคือบททดสอบของชีวิตบทหนึ่ง คนเรามีพลาดได้ถ้าประเมินแต่ความรู้สึกของตัวเองด้านเดียว
ปล. มีกระทู้ขำๆแซวพี่เอื้อ ว่าทำไม หลีกับเกน รุนแรงกับเขม ยอมๆกับวดี เราว่าพี่เอื้อแกเป็นนายธนาคาร แกรู้วิธีที่จะเดียลกับคน การกระทำของพี่เอื้อจึงสะท้อนถึงคนรับด้วย เกนซึ่งดูเป็นมิตรมากกว่าวดีที่มักมีระยะห่างและยึดมั่นเหตุผลของตนเลยได้รับความเฟรนดลี่กลับไปมากกว่า และคนอย่างเขมมันคงต้องบ้องหัวกันอย่างเดียวถึงจะเรียกสติคืนมาได้ ๕๕๕
วดีเป็นคนยังไง วดีกลับมาทำไม? คุณคิดยังไงกัน
ออกตัวไม่ได้มาแก้ต่างให้วดี ถ้าดูประวัติการตั้งกระทู้เรา จะรู้ดีว่าเราวิจารณ์วดีตามตอนที่ละครเสนอเป็นช่วงๆไป
ขอตั้งข้อสังเกตุตามการประมวลของเรา ดูจากละครที่ปูเรื่องมาล้วนๆนะคะ
กลับไปสู่คำถามเริ่มต้น วดีเป็นคนยังไง?
จากการที่วดีไม่ยอมปริปากบอกใครแม้แต่พ่อแม่เรื่องแฟนการที่ไม่พูดความจริงเพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ แสดงว่า วดีเป็นคนประเภทถ้าไม่แน่ใจอะไร ก็จะไม่พูดถ้าพูดแล้วทำให้เกิดโทษหรือไม่มีประโยชน์ทั้งนี้ถือเอาความรู้สึกของตนเป็นที่ตั้ง ตอนที่เป็นแฟนกับเขม ช่วงคบกันคงไม่คิดจะบอกพ่อแม่จนกว่าจะแน่ใจก่อน จังหวะบังเอิญที่มีเรื่องปัญหาธุรกิจของพ่อแม่ วดีจะไปบอกเรื่องแฟนในขณะที่พ่อแม่ทุกข์ก็ใช่ที่ จนถึงตอนที่เจ้าสัวเข้ามาช่วยเหลือ โอกาสที่จะบอกว่า แม่ หนูมีแฟนแล้วทำอย่างนี้ไม่ได้ หนูม่ยอม ก็เป็นศูนย์เพราะเป็นลูก ความกตัญญูต้องมาเป็นที่หนึ่ง พูดบอกไปจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อก็ต้องทดแทนคุณพ่อแม่อยู่ดี ทำให้ท่านทุกข์ใจที่เหมือนบังคับจิตใจลูกซะเปล่า
เมื่อไม่บอกพ่อแม่ ก็คิดว่าจะบอกเขมไปทำไมอีกไอ้ความจริงที่ว่า เขมจะเข้าใจหรือ ชาตินี้ก็คงรับใช้เจ้าสัวไปจนตายคงไม่ได้มาเจอะเจอกันอีก ยิ่งตัวเองเป็นผู้หญิงมีสามีแล้วอีกต่างหาก ให้เขมตัดใจเร็วเท่าไไหร่ยิ่งดีดีกว่า คงไม่อยากให้เขมต้องไปตามถามไถ่ซักไซ้กับพ่อแม่ตัวเองด้วย แต่กาลกลับว่าเจ้าสัวไม่ได้เอามาเป็นเมียแค่มาดูแลแล้วดันมาตายไปซะก่อน
แต่ปัญหาก็ตามมาคือข้อสัญญาที่จะดูแลไก่ไข่ให้เจ้าสัว ซึ่งได้รับการต่อต้านจากพี่น้องคุณเอื้อทำให้ต้องแยกตัวมาจากครอบครัว ไม่ยอมไปทำงานกับเอื้อเพราะไม่อยากให้เป็นกันชนระหว่างตนกับพี่น้องตลอดเวลา และการที่ออกหางานทำก็เพื่อแสดงว่าตัวเองไม่ได้มาเกาะเจ้าสัวกิน แค่คิดจะตอบแทนคุณที่มาช่วยครอบครัวของตนเท่านั้น
และนี่ก็ถึงคำถาม กลับมาหาเขมทำไม
คำตอบของยงเมื่อคืนมันมีทั้งจริงและโกหก เราคิดว่า มันเป็นเรื่องของความบังเอิญจริงๆที่ขณะที่ยงหางาน บริษัทก็เสนองานนี้ให้พอดี แต่จากความบังเอิญมากลายมาเป็นความตั้งใจ เพราะยงคิดว่าอาจเป็นโชคชะตาก็ได้ที่ให้โอกาสยงได้มาปรับความเข้าใจกับเขม ณ สถานะแม่ม่ายอย่างนี้ เราว่ายงไม่ได้คิดจะกลับมาครองรักกับเขม ไม่คิดว่าเขมจะสนด้วย แต่แค่ขอให้ได้มีความทรงจำที่ดีต่อกันไว้บ้าง ตัวยงเองก็ยังคงใส่แหวน จำเรื่องราวเก่าๆ เก็บรูปถ่ายไว้ตลอด ไปเจอเขมที่สนามบินแบบคนที่ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร แต่อย่างที่บอกยงเป็นประเภทขอดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะยังไง ที่สนามบิน ยงไม่มีทักทายไม่ยิ้มมีแต่หน้าตาที่เฉยรอประเมินสถานการณ์ ซึ่งก็รู้ว่าเขมยังไม่ลืมตนและเป็นความรู้สึกที่ติดลบสุดๆ เกือบท้อแล้วแต่แล้วเขมก็รับเข้าทำงาน ในใจก็หวังให้เขมมองที่ปัจจุบันเพราะอดีตแก้ไขไม่ได้พูดไปสองไพเบี้ย ทำให้ยงพยายามแสดงตัวในสถานะสุริยงแม่ม่ายลูกติดออกมา ยิ่งมีเกนหลง ยงก็ยังมีหวังขึ้นมาว่าเขมน่าจะเดินต่อไปได้และอภัยตัวเองในที่สุด ดังนั้นที่บอกว่าพยายามจะออกแต่มีเหตุซับซ้อนทำให้ไม่ให้ออก คือยังไม่ได้บรรลุตามที่ตั้งใจไว้นั่นเอง คือเขมยังไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวทำ พอเขมแสดงว่าเข้าใจก็อย่างที่เห็นยงลดการ์ดตัวเองมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ควบคุมไม่ไหว...
ท้ายสุด เรื่องราวของรักสี่เส้า ไม่มีใครถูกผิด เรามองว่า มันคือบททดสอบของชีวิตบทหนึ่ง คนเรามีพลาดได้ถ้าประเมินแต่ความรู้สึกของตัวเองด้านเดียว
ปล. มีกระทู้ขำๆแซวพี่เอื้อ ว่าทำไม หลีกับเกน รุนแรงกับเขม ยอมๆกับวดี เราว่าพี่เอื้อแกเป็นนายธนาคาร แกรู้วิธีที่จะเดียลกับคน การกระทำของพี่เอื้อจึงสะท้อนถึงคนรับด้วย เกนซึ่งดูเป็นมิตรมากกว่าวดีที่มักมีระยะห่างและยึดมั่นเหตุผลของตนเลยได้รับความเฟรนดลี่กลับไปมากกว่า และคนอย่างเขมมันคงต้องบ้องหัวกันอย่างเดียวถึงจะเรียกสติคืนมาได้ ๕๕๕