[19+] So Seoul เกาหลี...ดีอ๊อกกก! (1) : ครั้งแรกกับผับเกาหลี -
http://ppantip.com/topic/32001436
[19+] So Seoul เกาหลี...ดีอ๊อกกก! (2) : โอปป้าแอนด์เดอะด็อก -
http://ppantip.com/topic/32002082
[19+] So Seoul เกาหลี...ดีอ๊อกกก! (3) : ผับเกาหลีในคืนวันศุกร์ -
http://ppantip.com/topic/32005262
-----------------------------------------------------------------------------
****เปิดให้แล้วน้า!! (เนื่องจากไม่ค่อยได้เข้ามาในนี้) เพจสำหรับให้ข้อมูลเกี่ยวกับท่องเที่ยวเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นไนท์ไลฟ์หรือสถานที่ต่างๆ ตามซอกหลืบที่ดิฉันและผองเพื่อนไปเจอมา ยังไงก็ฝากด้วยเนาะ ไม่ต้องกดไลค์ก็ได้ เปิดเอาไว้เป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ เนื่องจากไม่ค่อยได้เข้ามาพันธิปเท่าไร มีคำถามใดๆก็เรียนเชิญที่นี่จะสะดวกกว่าจ้ะ
https://www.facebook.com/soseoul19
-----------------------------------------------------------------------------
หวายดีใจมีคนอ่านด้วยอ่ะแก๊ หลังจากที่เล่าประสบการณ์2 วันแรกไปแล้วก็มีอินบ็อกเข้ามาเยอะมากกกก 60% คือขอรูปขอคลิปโอปป้า... (/me รีบติดต่อหอศิลป์เปิดนิทรรศการณ์แกลเลอรี่ so seoul cute oppas ด่วน) และอีก 40% คืออยากได้รายละเอียดของการจองต่างๆของทริป ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกของการเขียนกระทู้ที่ดิฉันจะขอ...มีสาระ
ไปเกาหลีนั้นไม่ยาก อีเจ๊ and me ตัดสินใจบินกันวันที่ 9เมษา (วันพฤหัส) ไฟลท์ 10 โมง (เช้า) กลับ 11เมษา ไฟลท์ 11.50 (7 วัน 6 คืน) ของสายการบิน Korean Air จองผ่านยัย Cheapticket ราคาตั๋วที่ได้มาอยู่ที่ 22,026 บาท/1ที่นั่ง อย่างที่รู้กันคือทัวร์ส่วนใหญ่จะบินไฟลท์ค่ำเพื่อถึงเช้าแล้วเที่ยว แต่ทำไมเราถึงเลือกมาไฟลท์นี้น่ะเหรอ อ่ะ อ่ะ เดี๋ยวจะแจงประโยชน์ให้ฟัง (กล้องเบนภาพไปทางกระดานด้วยค่ะ)
1. ราคาไฟลท์เช้าถูกกว่าไฟลท์ค่ำ : ตอนนั้นที่ดูไฟลท์ค่ำคือจะอยู่ที่ราวๆ 27,xxx บาทอัพ/1ที่นั่ง ซึ่งแพงกว่าราวๆ 5,000 กว่าบาท
2. ไม่ต้องทรานซิส : ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเปลี่ยนเครื่องเพราะมันเสียเวลาและเหนื่อยกับการขึ้นๆลงๆแต่ล่ะที ลำบาก สงสารมดลูก #saveforoppa
3. เลี่ยงทัวร์ : ไม่มีทัวร์ไหนเดินทางเช้า ซึ่งการที่มีคนน้อยบางทีก็อาจจะสามารถเดินเลือกที่นั่งข้างโอปป้าได้ กรุบกริบ
4. ได้เวลาเซอร์เวย์เพิ่ม : พอไปถึงเย็นปุ๊บทุกอย่างก็จะไม่ดูเร่งรีบ ลงเครื่องสวยๆ (แนะนำว่าให้โบกมือแบบนางงามตอนเดินลง จังหวะที่เดี๊ยนทำแล้วมีแต่คนมองคือประทับสุด รัวภาษาเวียดนามกับอีเจ๊สุดฤทธิ์เพราะกลัวเค้าคิดว่าเป็นคนไทย) แม้ว่าการเดินทางเย็นอาจจะต้องเสียค่าที่พักเพิ่มหนึ่งคืน แต่เทียบกับถ้านั่งไฟลท์ค่ำถึงเช้าแต่ตั๋วแพงกว่าถึง 5,000 บาท เอาส่วนนั้นมาเป็นค่าที่พักกับค่าอาหารคืนแรกดีกว่า แล้วก็อย่าลืมพักฮงแดนะ #prayforhongdae
5. ได้มากับคนท้องถิ่น : แหม่ๆๆ มาเกาหลีทั้งที ก็ควรจะเริ่มจากการนั่งไปนี่แหละค่าคุณผู้โช้มมม ในเวลานี้ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นคนเกาหลีประมาณ 60-70% ดีไม่ดีข้างๆ อาจจะเป็นโอปป้า ซึ่งดิฉันบอกเลยค่ะ ว่าทั้งไปทั้งกลับดิฉันได้นั่งข้างโอปป้าก็จริงแต่...มันยิ่งกว่าชเวดากองอี๊กกก ยิ่งขาไป...แทบจะร้องโอปป้ากั่งนั๊มสไต่ล์ล์ล์ล์ล์ อีลุงpsyมาทำไม ฉะนั้นก่อนขึ้นเครื่องก็ช่วยยิ้มสวยๆและพูดจาดีๆกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์นะลูกนะ เตือน
6. ลงเครื่องปุ๊บเข้าตม.เลย : การนั่ง Korean Air มันเลิศตรงที่ตอนไปถึงสนามบินอินชอนเราจะลงจอดอาคารและประตูที่ตรงกับตม.เลย ไม่ต้องเดินไกล ไม่ต้องต่อจากอาคารอื่นใดๆ คือดีมาก
น่านน ดูแอร์สายการบินนี้ซะก่อน ผู้ชายไทยอย่าเพิ่งตายนะคะ /me ล้มตัวแล้วช่วยผายปอดรัวๆ
ว่าด้วยเรื่องอาหารบนเครื่อง... เราเลือกบิบิมบับเพราะไม่กินเนื้อวัว (ซึ่งบิบิมบับมันก็เนื้อวัวอยู่ดี) ฉะนั้นใครไม่ทานเนื้อวัวโปรดระวัง ให้วีนใส่แอร์ฯ เลยค่ะ บอกให้เค้าเอาเนื้อโอปป้ามาแทน
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ลำดับต่อไปที่ขาดไม่ได้ก็คือ...ซ่อง! เอ๊ยไม่ใช่ ที่นอนค่ะ หิๆๆ การเลือกที่นอนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับดิฉันมาก ถ้าได้แย่นี่คือแย่เลยเพราะกะว่าจะนอนยาว 6 คืนไม่มีเปลี่ยน สัมภาระสองนางรวมกันกรูนึกว่าเตรียมย้ายมาอยู่กับโอปป้า โดยเฉพาะอีเจ๊ มันมีแผนการอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ (โถ อีนางร้าย) ระหว่างเลือกที่พักตั้งโต๊ะถกเถียงเลือกๆจิ้มๆกันไปมาเราก็ได้สรุปว่า
88 HOSTEL... เราเลือกคุณค่ะ!!
จึงได้ทำการจองผ่านคุณผู้ใหญ่ใจดีอย่าง booking.com ซึ่ง 6 วัน 6 คืนอยู่ที่ 420,000 won หรือประมาณ 13,146 บาท (เรท 0.0313 ตาม superrich ซึ่งเป็นช่วงเศรษฐกิจจังรุยมั่กๆ แพงสุดไรสุด) แต่เพื่อให้ได้แหล่งมั่วสุมระดับห้าดาว...จ่ายไปเถอะค่ะคุณขา
เราจองห้องแบบ Twin room แบบในภาพเลย (ไม่ได้ถ่ายของจริงมาเพราะรกตั้งแต่ยังไม่เริ่ม) ซึ่งขอบอกว่าเป็นความลำเอียงของโฮสเทลที่ทำห้องไม่เท่ากัน ห้องอื่นแบบกว้างมาก มีกระจกมีอ่างมีไร แต่ห้องเรากลับเล็กสุด (อาจจะเพราะเช็คอินช้าสุดเลยได้ห้องนี้) แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมาย คิดซะว่าเค้าคงเห็นเราตัวเล็กผอมบางร่างเพรียวล่ะมั้ง แหม ก็ธรรมดาอะ /me เด้งนมเด้งตูดพร้อมๆ
จะบอกว่าที่นี่ไม่ได้มีห้อง 2 เตียงอย่างเดียวนะ 3 เตียงให้ทรีซั่มก็มีจ้าาาา (อีเจ๊ร้องไห้ทำไม) แต่ห้องแบบนี้เหมือนจะแม็กซ์สุดก็ 4 คน 4 เตียงนะ ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว (พื้นที่ห้องน้ำเล็กมาก อาจจะแต่งตัวลำบาก) สำหรับที่นี่ต้องจองล่วงหน้ายาวๆ หน่อย เพราะหลังจากรีวิวนี้มันอาจจะเต็ม (ไวโอเล็ทแบ่งเงินพีอาร์ให้เดี๊ยนด้วยค่ะ) คือตอนจองก่อนไปก็ได้ห้องสุดท้ายนะ (เกือบไม่ได้แล้ว) รีวิวในเว็บบอกว่าคนไทยส่วนใหญ่มาจะพักที่นี่ แต่ตอนเราไปนี่แทบไม่มีคนไทยเลย ส่วนใหญ่เป็นสาวญี่ปุ่น ไม่มีผู้ชาย เสียใจสุด แต่ถึงมีก็เอาเมียเอาลูกมาด้วย ช้ำใจ /me วิ่งเข้าไปกรอกไบโอเดอร์ม่าเข้าปาก
โฮสเทลนี้มีทั้งหมดสามชั้น ซึ่งชั้นสามจะเป็นชั้นสำหรับแชร์ครัว มีเตาให้ทำอาหาร ฟรีอาหารเช้า (ขนมปัง แยม และพวกน้ำส้ม ชา กาแฟ) มีตู้เย็นให้ มีเครื่องซักผ้าให้ ฟรีผ้าเช็ดตัว(เปลี่ยนให้ทุก2วัน) บอกเลยว่าเลอ!! สำหรับราคาคืนหนึ่งตกคนละพันนิดๆ ซึ่งถือว่าแฮปปี้ ราคานี้ในฮงแดมันช่างละมุนมาก
นี่คือแผนที่โฮสเทล เครดิตรูปภาพจาก booking.com ส่วนอีลายแทงนั่นไม่ต้องถามนะว่าใครทำ!! นี่ไม่รักจริงไม่ทำให้นะคะพูดเลย คือจะบอกให้ว่ามันเลอตรงที่เดินไปโคคูนไม่ไกล แถมรายล้อมด้วยอาหารการกิน(ทั้งตาและใจ) อุดมสมบูรณ์พูนผลสุด ถ้าวันไหนอยากประหยัดก็มาม่าเกาหลีที่เซเว่นเลยค่ะ อร่อยและอิ่มสุด เผลอๆ จะได้เจอโอปป้าพาร์ทไทม์อีก นี่เจอระดับซิลเวอร์มา (รองจากพรีเมี่ยมและแพลททินั่ม) แต่ระดับนี้ส่วนใหญ่น่าจะไม่ศัลย์ ไม่มีผลกระทบต่อปมด้อยที่ลูกหน้าไม่เหมือนขุ่นพ่อแน่นอน
เอาล่ะ ทีนี้ตั๋วเครื่องบินพร้อมแล้ว โรงแรมจองแล้ว (ค่าโรงแรมสามารถแลกเงินไปจ่ายกับที่โรงแรมทีหลังได้) วีซ่าไปเกาหลี...ก็ไม่ต้องขอ (คนไทยอยู่เกาหลีได้นานถึง 90 วัน และสามารถหาสามีเป็นโอปป้าได้ไม่จำกัดจำนวน) ทีนี้ก็เหลือแต่แพลนพวกหล่อนว่าอยากจะไปไหน
มาสรุปงบก่อนไปสำหรับทริปนี้ทั้งหมดให้ฟัง
- ค่าเครื่องบิน Korean Air : 22,026 บาท/คน (จริงๆ เหมือนจะเห็นโปรแอร์เอเชียที่บินตรงไม่กี่บาทแว้บๆ น่าโดนอ่ะ แอบชอบสจ๊วตสายการบินนี้อยู่)
- ค่าโรงแรม (88 Hostel) 6 คืน : 6,073 บาท/คน (หรือ 210,000 วอน ตกคืนละ 35,000 วอน หรือ +-1,050 บาท/คน/คืน)
- ค่ารถบัสจากสนามบินไปฮงแด : 10,000 วอน/คน (หรือ +-300 บาท)
- ค่ากองกลางสำหรับอาหารเวลาต้องไปกินแชร์ : ใส่กับอีเจ๊ไปคนละ 5,000 บาท (อันนี้แล้วแต่จะวางแผน)
- Pocket Money : ตามจริตเลย อยากเข้าโคคูนกี่รอบเอ็นบีกี่รอบก็ว่าไป นานๆทีต้องเอาให้สุด อ้อ! แล้วก็เตรียมใจสำหรับการพบกับดงช็อปปิ้งย่านฮงแดหรือเมียงดง เพราะเสื้อผ้านางอลังการมาก (ไว้จะเขียนเล่าทีหลังอีกที)
BUDGET รวมแล้วก็ตกกันคนละประมาณ 30,000 บาทเป็นขั้นต่ำ (แพงกับอีค่าเครื่องบินนี่แหละ ฉะนั้นถ้าไม่ซีเรื่องทรานซิสก็ลองดูสายการบินอื่นเอา ตอนนั้นเหมือนเห็นจะมี 17k ไปกลับทรานซิสจีนด้วยมั้ง แต่อาจจะเสี่ยงเจอกับมนุษย์ป้าและทัวร์จีน บอกเลย...หายนะยิ่งชีพค่ะ!!!)
***สำหรับการแลกเงิน*** แนะนำให้แลกที่ซุปเปอร์ริชไปเลยจะได้เรทที่ถูกสุดในโลกล้า หรือถ้าในกรณีที่แลกไม่ทันอารมณ์แบบอ่านกระทู้นี้จบแล้วจะจองไปพรุ่งนี้เลยก็แนะนำให้แลกเงินจากธนาคารที่สนามบินเป็นสกุลเงิน "ยูโร" ซะ!! แล้วก็ค่อยเอาไปแลกเป็นเงินวอนที่เกาหลีเอา เรทจะใกล้เคียงกันกับซุปเปอร์ริชเลยฮ่ะ
อ้อ! ว่าด้วยการเดินทางจากสนามบิน การขึ้นรถบัสจากสนามบินไปฮงแดนั้นง่ายมาก... หลังจากตม.เค้ายอมให้เราเข้าประเทศแล้วก็อย่าเพิ่งดีใจด้วยการวิ่งสี่คูณร้อยออกมา ให้เดินอย่างนางงามต่อจนกว่าจะพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปก่อน หลังจากนั้นรีบหา
ประตูที่ 4 แล้วลากกระเป๋าเดินออกไปเลย
พอเจอปุ๊บให้หันหน้าหาประตูแล้วใช้มือขวาแกว่งเป็นวงกลม 360 องศาจากซ้ายไปขวา แล้วหยุดค้างตรงองศาที่ 270 หลังจากนั้นก็ใช้ตามองตามแขนไปคุณจะพบกับ...
เคาน์เตอร์ที่ซื้อตั๋วรถบัสนั่นเอง!! ซึ่งนี่เป็นการเดินทางเข้าเมืองที่ที่ดีที่สุด ให้บอกเค้าว่าไปสถานี Hongik University (ฮง-อิค-ยูนิเวอซิตี้นะยู) (หรือถ้าพักที่ไหนก็บอกที่นั่น) แล้วเค้าก็จะถามว่ากี่คนก็บอกไป ไปฮงอิคจะตกคนละ 10,000 วอน (พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดีถึงดีเยี่ยม) หลังจากนั้นเขาก็จะบอกทางให้ว่าต้องขึ้นรถตรงไหน ซึ่งมันก็อยู่แถวนั้นแหละ (กลับหลังหันก็เห็นเลย)
อ่อ จะบอกว่าดีไม่ดีเจอดาราบนรถบัสนะเท๊อ!!!
น่านนน ดูท่านั่งนางซะก่อน ชนะเลิศนะคะนะ!!! คือช่วงที่เราไปนี่จะเห็นหน้านางจนเบื่อเลยค่ะ He is everywhere จริงๆ คือไปไหนมาไหนก็เห็นแต่หน้านาง ไม่ว่าจะเป็นบนบิลด์บอร์ดยันในห้องส้วมสาธารณะ (เรื่องจริง!) แม้กระทั่งไปช็อปปิ้งที่ล้อตเต้เวิลยังอยู่ข้างถุง บางร้านถึงกับ...
หารูปร้านที่อยู่หลังอีป้ายนั่นไม่เจอ แต่ถ้าลองซูมเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าหน้านางนี่ทั้งร้าน ประหนึ่งจ้างมาห้าแสนแต่กรูใช้คุ้มไปห้าล้านอะไรทำนองนั้น เป็นงานที่ทุ่มทุนสร้างมากจริงๆ อิทธิผลจากความอลังในงานสร้างของซีรี่ย์เกาหลีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เลิศโนะ แต่อย่างไรก็ตาม...หนึ่งในเป้าหมายของทริปก็คือการได้ไปในที่ที่ซูฮยอนโอปป้าเคยเหยียบย่ำ โดยเฉพาะหมู่บ้านฝรั่งเศสซึ่งเดี๊ยนกับอีเจ๊ต่างไม่เคยไป
รูปภาพพรีวิวสำหรับกระทู้หน้า ขอตั้งชื่อว่า
โอปป้าตีตรา ใครกั้งใครสายน้ำผึ้งเดี๋ยวมารู้กัน อันนี้แอบถ่ายระหว่างเดินทาง จะบอกว่าเห็นแค่เสี้ยวก็สัมผัสได้ถึงความพรีวิลเลจ < เหนือพรีเมี่ยมไปอี๊กกก (โอ๊ย โอปป้ามีหลายระดับเหลือเกิน) ซึ่งต่อไปเราจะพาทุกท่านมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านฝรั่งเศส หรือ Petite France (อ่านแบบเกาหลีคือ พิถิที่....ฟรั้นซ์!!! ออกเสียงคล้ายๆโกโกครั้นซ์แบบคนโดนอะไรกัดปาก) ใครพักอยู่ฮงแดเดี๋ยวจะมาบอกวิธีการเดินทางแบบละเอียดถี่ยิปในชนิดที่ว่าไม่หลงแน่นอน
ก่อนจากกันวันนี้...
"อยากไปอวกาศต้องผ่านนาซ่า แต่อยากไปเจอโอปป้านั้นต้องทุ่มทุน!!"
ขอให้พี่น้องชาวกระทู้ทุกคนจงพร้อมใจถ่ายรูปชูสามนิ้วและติดtag #prayforoppa ลง i
[19+] So Seoul เกาหลี...ดีอ๊อกกก! (4) : #prayforoppa
[19+] So Seoul เกาหลี...ดีอ๊อกกก! (2) : โอปป้าแอนด์เดอะด็อก - http://ppantip.com/topic/32002082
[19+] So Seoul เกาหลี...ดีอ๊อกกก! (3) : ผับเกาหลีในคืนวันศุกร์ - http://ppantip.com/topic/32005262
-----------------------------------------------------------------------------
****เปิดให้แล้วน้า!! (เนื่องจากไม่ค่อยได้เข้ามาในนี้) เพจสำหรับให้ข้อมูลเกี่ยวกับท่องเที่ยวเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นไนท์ไลฟ์หรือสถานที่ต่างๆ ตามซอกหลืบที่ดิฉันและผองเพื่อนไปเจอมา ยังไงก็ฝากด้วยเนาะ ไม่ต้องกดไลค์ก็ได้ เปิดเอาไว้เป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ เนื่องจากไม่ค่อยได้เข้ามาพันธิปเท่าไร มีคำถามใดๆก็เรียนเชิญที่นี่จะสะดวกกว่าจ้ะ https://www.facebook.com/soseoul19
-----------------------------------------------------------------------------
หวายดีใจมีคนอ่านด้วยอ่ะแก๊ หลังจากที่เล่าประสบการณ์2 วันแรกไปแล้วก็มีอินบ็อกเข้ามาเยอะมากกกก 60% คือขอรูปขอคลิปโอปป้า... (/me รีบติดต่อหอศิลป์เปิดนิทรรศการณ์แกลเลอรี่ so seoul cute oppas ด่วน) และอีก 40% คืออยากได้รายละเอียดของการจองต่างๆของทริป ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกของการเขียนกระทู้ที่ดิฉันจะขอ...มีสาระ
ไปเกาหลีนั้นไม่ยาก อีเจ๊ and me ตัดสินใจบินกันวันที่ 9เมษา (วันพฤหัส) ไฟลท์ 10 โมง (เช้า) กลับ 11เมษา ไฟลท์ 11.50 (7 วัน 6 คืน) ของสายการบิน Korean Air จองผ่านยัย Cheapticket ราคาตั๋วที่ได้มาอยู่ที่ 22,026 บาท/1ที่นั่ง อย่างที่รู้กันคือทัวร์ส่วนใหญ่จะบินไฟลท์ค่ำเพื่อถึงเช้าแล้วเที่ยว แต่ทำไมเราถึงเลือกมาไฟลท์นี้น่ะเหรอ อ่ะ อ่ะ เดี๋ยวจะแจงประโยชน์ให้ฟัง (กล้องเบนภาพไปทางกระดานด้วยค่ะ)
1. ราคาไฟลท์เช้าถูกกว่าไฟลท์ค่ำ : ตอนนั้นที่ดูไฟลท์ค่ำคือจะอยู่ที่ราวๆ 27,xxx บาทอัพ/1ที่นั่ง ซึ่งแพงกว่าราวๆ 5,000 กว่าบาท
2. ไม่ต้องทรานซิส : ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเปลี่ยนเครื่องเพราะมันเสียเวลาและเหนื่อยกับการขึ้นๆลงๆแต่ล่ะที ลำบาก สงสารมดลูก #saveforoppa
3. เลี่ยงทัวร์ : ไม่มีทัวร์ไหนเดินทางเช้า ซึ่งการที่มีคนน้อยบางทีก็อาจจะสามารถเดินเลือกที่นั่งข้างโอปป้าได้ กรุบกริบ
4. ได้เวลาเซอร์เวย์เพิ่ม : พอไปถึงเย็นปุ๊บทุกอย่างก็จะไม่ดูเร่งรีบ ลงเครื่องสวยๆ (แนะนำว่าให้โบกมือแบบนางงามตอนเดินลง จังหวะที่เดี๊ยนทำแล้วมีแต่คนมองคือประทับสุด รัวภาษาเวียดนามกับอีเจ๊สุดฤทธิ์เพราะกลัวเค้าคิดว่าเป็นคนไทย) แม้ว่าการเดินทางเย็นอาจจะต้องเสียค่าที่พักเพิ่มหนึ่งคืน แต่เทียบกับถ้านั่งไฟลท์ค่ำถึงเช้าแต่ตั๋วแพงกว่าถึง 5,000 บาท เอาส่วนนั้นมาเป็นค่าที่พักกับค่าอาหารคืนแรกดีกว่า แล้วก็อย่าลืมพักฮงแดนะ #prayforhongdae
5. ได้มากับคนท้องถิ่น : แหม่ๆๆ มาเกาหลีทั้งที ก็ควรจะเริ่มจากการนั่งไปนี่แหละค่าคุณผู้โช้มมม ในเวลานี้ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นคนเกาหลีประมาณ 60-70% ดีไม่ดีข้างๆ อาจจะเป็นโอปป้า ซึ่งดิฉันบอกเลยค่ะ ว่าทั้งไปทั้งกลับดิฉันได้นั่งข้างโอปป้าก็จริงแต่...มันยิ่งกว่าชเวดากองอี๊กกก ยิ่งขาไป...แทบจะร้องโอปป้ากั่งนั๊มสไต่ล์ล์ล์ล์ล์ อีลุงpsyมาทำไม ฉะนั้นก่อนขึ้นเครื่องก็ช่วยยิ้มสวยๆและพูดจาดีๆกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์นะลูกนะ เตือน
6. ลงเครื่องปุ๊บเข้าตม.เลย : การนั่ง Korean Air มันเลิศตรงที่ตอนไปถึงสนามบินอินชอนเราจะลงจอดอาคารและประตูที่ตรงกับตม.เลย ไม่ต้องเดินไกล ไม่ต้องต่อจากอาคารอื่นใดๆ คือดีมาก
น่านน ดูแอร์สายการบินนี้ซะก่อน ผู้ชายไทยอย่าเพิ่งตายนะคะ /me ล้มตัวแล้วช่วยผายปอดรัวๆ
ว่าด้วยเรื่องอาหารบนเครื่อง... เราเลือกบิบิมบับเพราะไม่กินเนื้อวัว (ซึ่งบิบิมบับมันก็เนื้อวัวอยู่ดี) ฉะนั้นใครไม่ทานเนื้อวัวโปรดระวัง ให้วีนใส่แอร์ฯ เลยค่ะ บอกให้เค้าเอาเนื้อโอปป้ามาแทน
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ลำดับต่อไปที่ขาดไม่ได้ก็คือ...ซ่อง! เอ๊ยไม่ใช่ ที่นอนค่ะ หิๆๆ การเลือกที่นอนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับดิฉันมาก ถ้าได้แย่นี่คือแย่เลยเพราะกะว่าจะนอนยาว 6 คืนไม่มีเปลี่ยน สัมภาระสองนางรวมกันกรูนึกว่าเตรียมย้ายมาอยู่กับโอปป้า โดยเฉพาะอีเจ๊ มันมีแผนการอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ (โถ อีนางร้าย) ระหว่างเลือกที่พักตั้งโต๊ะถกเถียงเลือกๆจิ้มๆกันไปมาเราก็ได้สรุปว่า
88 HOSTEL... เราเลือกคุณค่ะ!!
จึงได้ทำการจองผ่านคุณผู้ใหญ่ใจดีอย่าง booking.com ซึ่ง 6 วัน 6 คืนอยู่ที่ 420,000 won หรือประมาณ 13,146 บาท (เรท 0.0313 ตาม superrich ซึ่งเป็นช่วงเศรษฐกิจจังรุยมั่กๆ แพงสุดไรสุด) แต่เพื่อให้ได้แหล่งมั่วสุมระดับห้าดาว...จ่ายไปเถอะค่ะคุณขา
เราจองห้องแบบ Twin room แบบในภาพเลย (ไม่ได้ถ่ายของจริงมาเพราะรกตั้งแต่ยังไม่เริ่ม) ซึ่งขอบอกว่าเป็นความลำเอียงของโฮสเทลที่ทำห้องไม่เท่ากัน ห้องอื่นแบบกว้างมาก มีกระจกมีอ่างมีไร แต่ห้องเรากลับเล็กสุด (อาจจะเพราะเช็คอินช้าสุดเลยได้ห้องนี้) แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมาย คิดซะว่าเค้าคงเห็นเราตัวเล็กผอมบางร่างเพรียวล่ะมั้ง แหม ก็ธรรมดาอะ /me เด้งนมเด้งตูดพร้อมๆ
จะบอกว่าที่นี่ไม่ได้มีห้อง 2 เตียงอย่างเดียวนะ 3 เตียงให้ทรีซั่มก็มีจ้าาาา (อีเจ๊ร้องไห้ทำไม) แต่ห้องแบบนี้เหมือนจะแม็กซ์สุดก็ 4 คน 4 เตียงนะ ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว (พื้นที่ห้องน้ำเล็กมาก อาจจะแต่งตัวลำบาก) สำหรับที่นี่ต้องจองล่วงหน้ายาวๆ หน่อย เพราะหลังจากรีวิวนี้มันอาจจะเต็ม (ไวโอเล็ทแบ่งเงินพีอาร์ให้เดี๊ยนด้วยค่ะ) คือตอนจองก่อนไปก็ได้ห้องสุดท้ายนะ (เกือบไม่ได้แล้ว) รีวิวในเว็บบอกว่าคนไทยส่วนใหญ่มาจะพักที่นี่ แต่ตอนเราไปนี่แทบไม่มีคนไทยเลย ส่วนใหญ่เป็นสาวญี่ปุ่น ไม่มีผู้ชาย เสียใจสุด แต่ถึงมีก็เอาเมียเอาลูกมาด้วย ช้ำใจ /me วิ่งเข้าไปกรอกไบโอเดอร์ม่าเข้าปาก
โฮสเทลนี้มีทั้งหมดสามชั้น ซึ่งชั้นสามจะเป็นชั้นสำหรับแชร์ครัว มีเตาให้ทำอาหาร ฟรีอาหารเช้า (ขนมปัง แยม และพวกน้ำส้ม ชา กาแฟ) มีตู้เย็นให้ มีเครื่องซักผ้าให้ ฟรีผ้าเช็ดตัว(เปลี่ยนให้ทุก2วัน) บอกเลยว่าเลอ!! สำหรับราคาคืนหนึ่งตกคนละพันนิดๆ ซึ่งถือว่าแฮปปี้ ราคานี้ในฮงแดมันช่างละมุนมาก
นี่คือแผนที่โฮสเทล เครดิตรูปภาพจาก booking.com ส่วนอีลายแทงนั่นไม่ต้องถามนะว่าใครทำ!! นี่ไม่รักจริงไม่ทำให้นะคะพูดเลย คือจะบอกให้ว่ามันเลอตรงที่เดินไปโคคูนไม่ไกล แถมรายล้อมด้วยอาหารการกิน(ทั้งตาและใจ) อุดมสมบูรณ์พูนผลสุด ถ้าวันไหนอยากประหยัดก็มาม่าเกาหลีที่เซเว่นเลยค่ะ อร่อยและอิ่มสุด เผลอๆ จะได้เจอโอปป้าพาร์ทไทม์อีก นี่เจอระดับซิลเวอร์มา (รองจากพรีเมี่ยมและแพลททินั่ม) แต่ระดับนี้ส่วนใหญ่น่าจะไม่ศัลย์ ไม่มีผลกระทบต่อปมด้อยที่ลูกหน้าไม่เหมือนขุ่นพ่อแน่นอน
เอาล่ะ ทีนี้ตั๋วเครื่องบินพร้อมแล้ว โรงแรมจองแล้ว (ค่าโรงแรมสามารถแลกเงินไปจ่ายกับที่โรงแรมทีหลังได้) วีซ่าไปเกาหลี...ก็ไม่ต้องขอ (คนไทยอยู่เกาหลีได้นานถึง 90 วัน และสามารถหาสามีเป็นโอปป้าได้ไม่จำกัดจำนวน) ทีนี้ก็เหลือแต่แพลนพวกหล่อนว่าอยากจะไปไหน
มาสรุปงบก่อนไปสำหรับทริปนี้ทั้งหมดให้ฟัง
- ค่าเครื่องบิน Korean Air : 22,026 บาท/คน (จริงๆ เหมือนจะเห็นโปรแอร์เอเชียที่บินตรงไม่กี่บาทแว้บๆ น่าโดนอ่ะ แอบชอบสจ๊วตสายการบินนี้อยู่)
- ค่าโรงแรม (88 Hostel) 6 คืน : 6,073 บาท/คน (หรือ 210,000 วอน ตกคืนละ 35,000 วอน หรือ +-1,050 บาท/คน/คืน)
- ค่ารถบัสจากสนามบินไปฮงแด : 10,000 วอน/คน (หรือ +-300 บาท)
- ค่ากองกลางสำหรับอาหารเวลาต้องไปกินแชร์ : ใส่กับอีเจ๊ไปคนละ 5,000 บาท (อันนี้แล้วแต่จะวางแผน)
- Pocket Money : ตามจริตเลย อยากเข้าโคคูนกี่รอบเอ็นบีกี่รอบก็ว่าไป นานๆทีต้องเอาให้สุด อ้อ! แล้วก็เตรียมใจสำหรับการพบกับดงช็อปปิ้งย่านฮงแดหรือเมียงดง เพราะเสื้อผ้านางอลังการมาก (ไว้จะเขียนเล่าทีหลังอีกที)
BUDGET รวมแล้วก็ตกกันคนละประมาณ 30,000 บาทเป็นขั้นต่ำ (แพงกับอีค่าเครื่องบินนี่แหละ ฉะนั้นถ้าไม่ซีเรื่องทรานซิสก็ลองดูสายการบินอื่นเอา ตอนนั้นเหมือนเห็นจะมี 17k ไปกลับทรานซิสจีนด้วยมั้ง แต่อาจจะเสี่ยงเจอกับมนุษย์ป้าและทัวร์จีน บอกเลย...หายนะยิ่งชีพค่ะ!!!)
***สำหรับการแลกเงิน*** แนะนำให้แลกที่ซุปเปอร์ริชไปเลยจะได้เรทที่ถูกสุดในโลกล้า หรือถ้าในกรณีที่แลกไม่ทันอารมณ์แบบอ่านกระทู้นี้จบแล้วจะจองไปพรุ่งนี้เลยก็แนะนำให้แลกเงินจากธนาคารที่สนามบินเป็นสกุลเงิน "ยูโร" ซะ!! แล้วก็ค่อยเอาไปแลกเป็นเงินวอนที่เกาหลีเอา เรทจะใกล้เคียงกันกับซุปเปอร์ริชเลยฮ่ะ
อ้อ! ว่าด้วยการเดินทางจากสนามบิน การขึ้นรถบัสจากสนามบินไปฮงแดนั้นง่ายมาก... หลังจากตม.เค้ายอมให้เราเข้าประเทศแล้วก็อย่าเพิ่งดีใจด้วยการวิ่งสี่คูณร้อยออกมา ให้เดินอย่างนางงามต่อจนกว่าจะพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปก่อน หลังจากนั้นรีบหาประตูที่ 4 แล้วลากกระเป๋าเดินออกไปเลย
พอเจอปุ๊บให้หันหน้าหาประตูแล้วใช้มือขวาแกว่งเป็นวงกลม 360 องศาจากซ้ายไปขวา แล้วหยุดค้างตรงองศาที่ 270 หลังจากนั้นก็ใช้ตามองตามแขนไปคุณจะพบกับ...
เคาน์เตอร์ที่ซื้อตั๋วรถบัสนั่นเอง!! ซึ่งนี่เป็นการเดินทางเข้าเมืองที่ที่ดีที่สุด ให้บอกเค้าว่าไปสถานี Hongik University (ฮง-อิค-ยูนิเวอซิตี้นะยู) (หรือถ้าพักที่ไหนก็บอกที่นั่น) แล้วเค้าก็จะถามว่ากี่คนก็บอกไป ไปฮงอิคจะตกคนละ 10,000 วอน (พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดีถึงดีเยี่ยม) หลังจากนั้นเขาก็จะบอกทางให้ว่าต้องขึ้นรถตรงไหน ซึ่งมันก็อยู่แถวนั้นแหละ (กลับหลังหันก็เห็นเลย)
อ่อ จะบอกว่าดีไม่ดีเจอดาราบนรถบัสนะเท๊อ!!!
น่านนน ดูท่านั่งนางซะก่อน ชนะเลิศนะคะนะ!!! คือช่วงที่เราไปนี่จะเห็นหน้านางจนเบื่อเลยค่ะ He is everywhere จริงๆ คือไปไหนมาไหนก็เห็นแต่หน้านาง ไม่ว่าจะเป็นบนบิลด์บอร์ดยันในห้องส้วมสาธารณะ (เรื่องจริง!) แม้กระทั่งไปช็อปปิ้งที่ล้อตเต้เวิลยังอยู่ข้างถุง บางร้านถึงกับ...
หารูปร้านที่อยู่หลังอีป้ายนั่นไม่เจอ แต่ถ้าลองซูมเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าหน้านางนี่ทั้งร้าน ประหนึ่งจ้างมาห้าแสนแต่กรูใช้คุ้มไปห้าล้านอะไรทำนองนั้น เป็นงานที่ทุ่มทุนสร้างมากจริงๆ อิทธิผลจากความอลังในงานสร้างของซีรี่ย์เกาหลีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เลิศโนะ แต่อย่างไรก็ตาม...หนึ่งในเป้าหมายของทริปก็คือการได้ไปในที่ที่ซูฮยอนโอปป้าเคยเหยียบย่ำ โดยเฉพาะหมู่บ้านฝรั่งเศสซึ่งเดี๊ยนกับอีเจ๊ต่างไม่เคยไป
รูปภาพพรีวิวสำหรับกระทู้หน้า ขอตั้งชื่อว่า โอปป้าตีตรา ใครกั้งใครสายน้ำผึ้งเดี๋ยวมารู้กัน อันนี้แอบถ่ายระหว่างเดินทาง จะบอกว่าเห็นแค่เสี้ยวก็สัมผัสได้ถึงความพรีวิลเลจ < เหนือพรีเมี่ยมไปอี๊กกก (โอ๊ย โอปป้ามีหลายระดับเหลือเกิน) ซึ่งต่อไปเราจะพาทุกท่านมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านฝรั่งเศส หรือ Petite France (อ่านแบบเกาหลีคือ พิถิที่....ฟรั้นซ์!!! ออกเสียงคล้ายๆโกโกครั้นซ์แบบคนโดนอะไรกัดปาก) ใครพักอยู่ฮงแดเดี๋ยวจะมาบอกวิธีการเดินทางแบบละเอียดถี่ยิปในชนิดที่ว่าไม่หลงแน่นอน
ก่อนจากกันวันนี้...
"อยากไปอวกาศต้องผ่านนาซ่า แต่อยากไปเจอโอปป้านั้นต้องทุ่มทุน!!"
ขอให้พี่น้องชาวกระทู้ทุกคนจงพร้อมใจถ่ายรูปชูสามนิ้วและติดtag #prayforoppa ลง i