ความฮึกห้าว เหิมหาญ อันเคยมีและสำแดงออกตลอด
"เดือนเมษายน" แม้จะตั้งความหวังไว้กับ
เหตุการณ์ใน
"เดือนพฤษภาคม"
แต่ก็ต้องร้องเพลง
"ไม่เหมือนเดิม"
สัมผัสได้จาก
"ปรากฏการณ์" อะไร
1 จากข้อเสนอว่าด้วย
"ถวายคืน" พระราชอำนาจจาก
"เวทีแจ้งวัฒนะ" 1 จากกังวานเสียงอันประกาศว่า
"การชุมนุมวันที่ 14 พฤษภาคม" จะเป็น "ครั้งสุดท้าย"
สังเกตหรือไม่ว่า สร้อยอันเติมมากับประโยคยอดเด็ดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ บนเวทีสวนลุมพินีคือ
"ถ้ามันไม่จบ เราก็จบ"
แตกต่างอย่างยิ่งกับความเหี้ยมหาญในกาลอดีต
ไม่ว่าจะเป็นท่าทีที่เวที
"สวนลุมพินี" ไม่ว่าจะเป็นท่าทีที่เวที
"แจ้งวัฒนะ" ล้วนเป็น
"ทางลง"
ยิ่งสัมผัสจากเสียงสะท้อนกลับต่อการเคลื่อนไหวของ
"คณะรัฐบุคคล" และต่อการเดินสายของ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยิ่งชัด
ชัดใน
"ทิศทาง" ชัดใน
"อนาคต"
หากนำเอาประสบการณ์จากการเคลื่อนไหวโดยองค์การพิทักษ์สยามของ
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 มาเป็นบทเรียน
จุดตายของ
"เสธ.อ้าย" อยู่ตรงที่เสนอคำว่า
"แช่แข็ง"
ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการแช่แข็งรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการแช่แข็ง
"ประเทศไทย"
ล้วนเป็นเรื่องน่าเศร้า ล้วนมืดมน อับตัน
ถามว่าหากจุดตายของ
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ คือการเสนอคำว่า
"แช่แข็ง" แล้วจุดหักเลี้ยว
อย่างสำคัญของ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ คืออะไร
ตอบได้เลยว่า คือคำว่า
"รัฏฐาธิปัตย์"
ไม่ว่าจะมาจากกุนซือสมองเพชรท่านใด ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจโดยอัตโนนัติของนายสุเทพ
เทือกสุบรรณเอง
"รัฏฐาธิปัตย์" คือหมากที่เดินผิด
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อเดือนกันยายน 2500 ยังไม่กล้าเอ่ยคำนี้ จอมพลถนอม กิตติขจร เมื่อเดือน
พฤศจิกายน 2514 ยังไม่กล้าเอ่ยคำนี้ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ยังไม่กล้า
เอ่ยคำนี้ เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เอ่ยในเดือนเมษายน 2557
เดิน
"หมาก" ผิดตาเดียว อาจ "แพ้" ทั้งกระดาน
แม้จะมีความพยายามจาก
พล.อ.สายหยุด เกิดผล แห่ง
"คณะรัฐบุคคล" พยายามจะอาศัยบริการ
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็น
"รัฐบุรุษ"
แต่ก็ไปไม่รอด
รัฐบุรุษระดับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนานจึงจำเป็นต้องปิดประตู
ไม่ยอมให้เข้า
"บ้านสี่เสาฯ" อีก
ขณะเดียวกัน ความพยายามของ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการเดินสายหาทางออกให้กับประเทศไทย
ก็มีความแจ่มชัดยิ่งว่า
หาทางออกให้กับตัวเอง 1 หาทางออกให้กับ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 1
ทุกอย่างจึงดำเนินไปเหมือนกับที่
"สื่อ" หลายฉบับสรุปตรงกันว่า ได้รับ
"ก้อนอิฐ" มากกว่า
"ดอกไม้"
แม้กระทั่งพันธมิตรอย่างเวทีแจ้งวัฒนะยังปฏิเสธ เวทีอย่าง คปท.ยังไม่ยอมรับกับแนวทาง
หาก
"องค์กรอิสระ" ไม่ขานรับ หาก
"ศาลรัฐธรรมนูญ" ไม่เล่นด้วย ก็หมดกัน
ความหวังที่จะพิฆาตรัฐบาล พิฆาต
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเดือนเมษายนหมดสิ้นไปแล้ว ความหวัง
ที่จะพิฆาตเข่นฆ่าในเดือนพฤษภาคม ก็เริ่มไม่แน่
"ราหู" กลับจะเป็นคุณให้กับ
"อี่นาง"
บทสรุปจากปรปักษ์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากด้วยความเชื่อมั่นว่าเธอโง่ สมองกลวงแน่นอน
แต่นายกรัฐมนตรีสมองกลวงก็ยืนหยัดผ่านเดือนเมษายนมาได้ แต่นายกรัฐมนตรีโง่เง่าเต่าตุ่น
พูดผิดพูดถูก ก็ยืนหยัดผ่านเดือนเมษายนมาได้
และผงาดตรงดัง "ปลายทวน" เข้าสู่
"เดือนพฤษภาคม"
...............
(ที่มา:มติชนรายวัน 5 พ.ค.2557)
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1399276615&grpid=&catid=12&subcatid=1200
บทเรียน การเมือง จากแช่แข็ง ประเทศไทย ถึง "รัฏฐาธิปัตย์" มติชนออนไลน์
เหตุการณ์ใน "เดือนพฤษภาคม"
แต่ก็ต้องร้องเพลง "ไม่เหมือนเดิม"
สัมผัสได้จาก "ปรากฏการณ์" อะไร
1 จากข้อเสนอว่าด้วย "ถวายคืน" พระราชอำนาจจาก "เวทีแจ้งวัฒนะ" 1 จากกังวานเสียงอันประกาศว่า
"การชุมนุมวันที่ 14 พฤษภาคม" จะเป็น "ครั้งสุดท้าย"
สังเกตหรือไม่ว่า สร้อยอันเติมมากับประโยคยอดเด็ดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ บนเวทีสวนลุมพินีคือ
"ถ้ามันไม่จบ เราก็จบ"
แตกต่างอย่างยิ่งกับความเหี้ยมหาญในกาลอดีต
ไม่ว่าจะเป็นท่าทีที่เวที "สวนลุมพินี" ไม่ว่าจะเป็นท่าทีที่เวที "แจ้งวัฒนะ" ล้วนเป็น "ทางลง"
ยิ่งสัมผัสจากเสียงสะท้อนกลับต่อการเคลื่อนไหวของ "คณะรัฐบุคคล" และต่อการเดินสายของ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยิ่งชัด
ชัดใน "ทิศทาง" ชัดใน "อนาคต"
หากนำเอาประสบการณ์จากการเคลื่อนไหวโดยองค์การพิทักษ์สยามของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 มาเป็นบทเรียน
จุดตายของ "เสธ.อ้าย" อยู่ตรงที่เสนอคำว่า "แช่แข็ง"
ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการแช่แข็งรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการแช่แข็ง
"ประเทศไทย"
ล้วนเป็นเรื่องน่าเศร้า ล้วนมืดมน อับตัน
ถามว่าหากจุดตายของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ คือการเสนอคำว่า "แช่แข็ง" แล้วจุดหักเลี้ยว
อย่างสำคัญของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คืออะไร
ตอบได้เลยว่า คือคำว่า "รัฏฐาธิปัตย์"
ไม่ว่าจะมาจากกุนซือสมองเพชรท่านใด ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจโดยอัตโนนัติของนายสุเทพ
เทือกสุบรรณเอง
"รัฏฐาธิปัตย์" คือหมากที่เดินผิด
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อเดือนกันยายน 2500 ยังไม่กล้าเอ่ยคำนี้ จอมพลถนอม กิตติขจร เมื่อเดือน
พฤศจิกายน 2514 ยังไม่กล้าเอ่ยคำนี้ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ยังไม่กล้า
เอ่ยคำนี้ เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เอ่ยในเดือนเมษายน 2557
เดิน "หมาก" ผิดตาเดียว อาจ "แพ้" ทั้งกระดาน
แม้จะมีความพยายามจาก พล.อ.สายหยุด เกิดผล แห่ง "คณะรัฐบุคคล" พยายามจะอาศัยบริการ
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็น "รัฐบุรุษ"
แต่ก็ไปไม่รอด
รัฐบุรุษระดับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนานจึงจำเป็นต้องปิดประตู
ไม่ยอมให้เข้า "บ้านสี่เสาฯ" อีก
ขณะเดียวกัน ความพยายามของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการเดินสายหาทางออกให้กับประเทศไทย
ก็มีความแจ่มชัดยิ่งว่า
หาทางออกให้กับตัวเอง 1 หาทางออกให้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ 1
ทุกอย่างจึงดำเนินไปเหมือนกับที่ "สื่อ" หลายฉบับสรุปตรงกันว่า ได้รับ "ก้อนอิฐ" มากกว่า "ดอกไม้"
แม้กระทั่งพันธมิตรอย่างเวทีแจ้งวัฒนะยังปฏิเสธ เวทีอย่าง คปท.ยังไม่ยอมรับกับแนวทาง
หาก "องค์กรอิสระ" ไม่ขานรับ หาก "ศาลรัฐธรรมนูญ" ไม่เล่นด้วย ก็หมดกัน
ความหวังที่จะพิฆาตรัฐบาล พิฆาต น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเดือนเมษายนหมดสิ้นไปแล้ว ความหวัง
ที่จะพิฆาตเข่นฆ่าในเดือนพฤษภาคม ก็เริ่มไม่แน่
"ราหู" กลับจะเป็นคุณให้กับ "อี่นาง"
บทสรุปจากปรปักษ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากด้วยความเชื่อมั่นว่าเธอโง่ สมองกลวงแน่นอน
แต่นายกรัฐมนตรีสมองกลวงก็ยืนหยัดผ่านเดือนเมษายนมาได้ แต่นายกรัฐมนตรีโง่เง่าเต่าตุ่น
พูดผิดพูดถูก ก็ยืนหยัดผ่านเดือนเมษายนมาได้
และผงาดตรงดัง "ปลายทวน" เข้าสู่ "เดือนพฤษภาคม"
...............
(ที่มา:มติชนรายวัน 5 พ.ค.2557)
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1399276615&grpid=&catid=12&subcatid=1200