ฐานใจนั้นสำคัญมาก ความเจริญก้าวหน้าในชีวิตและความผาสุกทั้งปวงนั้นอยู่ที่ใจ ไม่ใช่อยู่ที่สิ่งภายนอก
ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่ฐานะ ชื่อเสียง สถานภาพ หรือแม้กระทั่งหมู่มิตร บริษัท บริวาร ทั้งหมดนี้เป็นส่วนภายนอก
คนที่มีสิ่งภายนอกเหล่านี้ครบถ้วนแต่ว่าเป็นทุกข์ มีมากมาย ต่อเมื่อกลับมาหาฐานใจ กลับมาเอาใจใส่ดูแลจิตใจของตน
จึงจะพบกับความสุขที่แท้จริง
ในสมัยพุทธกาลมีพระรูปหนึ่งนามว่าพระภัททิยะ พื้นเพเดิมเป็นกษัตริย์ เป็นพระญาติกับพระพุทธเจ้า
พระภัททิยะเป็นพระราชาซึ่งมีบริษัท บริวาร มีอำนาจพอสมควร แต่มาบวชเพราะว่าเหตุการณ์พาไป
ก็คือว่าเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อว่าอนุรุทธกุมารซึ่งเป็นรัชทายาทของอีกเมืองหนึ่ง อยากบวชแต่พ่อแม่ไม่ยอม
พอทนรบเร้าไม่ได้พ่อแม่ก็บอกว่าจะอนุญาตให้อนุรุทธกุมารบวชโดยมีเงื่อนไขว่าเพื่อนซึ่งก็คือพระภัททิยะบวชด้วย
พระภัททิยะก็เลยจำใจเพราะว่าถูกอนุรุทธกุมารอ้อนวอนถึง ๗ วัน
เมื่อบวชแล้วก็คงคิดว่าบวชชั่วคราว แต่ไป ๆ มา ๆ ก็บวชตลอดชีวิต แล้วก็ได้เป็นพระอรหันต์เช่นเดียวกับพระอนุรุทธะ
พระภัททิยะบวชได้ไม่นานก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ วันหนึ่งท่านนั่งอยู่คนเดียว ก็รำพึงว่าสุขหนอ สุขหนอ
พอดีมีพระเดินผ่านมาได้ยินเข้าก็คิดว่าพระภัททิยะอยากสึกเพราะรำพึงถึงแต่ราชสมบัติ จึงไปทูลพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าจึงเรียกพระภัททิยะมาถาม
พระภัททิยะก็บอกว่าที่ตนรำพึงเช่นนั้นก็เพราะมีความสุขมากที่ได้ออกบวช ผิดกับตอนที่เป็นพระราชาแม้ว่าจะมีบริษัท
บริวาร มีอำนาจมาก มีทรัพย์สินเงินทอง มีความสะดวกสบายมากมาย แต่ก็อยู่ด้วยความหวาดกลัว สะดุ้งกลัว เพราะว่า
ต้องคอยระวังว่าจะมีคนมาทำร้าย ต้องมีองครักษ์ติดตามอยู่ตลอดเวลา ที่จริงท่านคงมีทุกข์อย่างอื่นด้วย
แต่ว่าพอมาบวชแล้ว ทั้ง ๆ ที่ต้องบิณฑบาต ฉันวันละมื้อ และอยู่โคนต้นไม้ แต่มีความสุขมากเพราะว่ากิเลสหมดไปแล้ว
ไม่มีเครื่องเศร้าหมอง ไม่มีอะไรที่ต้องห่วงกังวล ไม่มีแม้กระทั่งความกลัวว่าจะมีใครมาทำร้าย อันนี้เป็นตัวอย่างของคนที่
เมื่อกลับมาที่ใจของตัวเองแล้วจะพบว่าในใจของเรานี่แหละคือที่ตั้งแห่งความสุขอันประเสริฐ
แต่ก่อนท่านคงคิดว่าความสุขจะได้มาจากสิ่งนอกตัว ไม่ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วในใจของตัวเราเป็นที่ตั้งของความสุข
และเป็นรากฐานของการดำเนินชีวิตที่เจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง ใจของเรานั้นเต็มไปด้วยขุมทรัพย์ที่คนมักจะมองข้าม
พระไพศาล วิสาโล
https://th-th.facebook.com/visalo
ในใจของตัวเราเป็นที่ตั้งของความสุข
ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่ฐานะ ชื่อเสียง สถานภาพ หรือแม้กระทั่งหมู่มิตร บริษัท บริวาร ทั้งหมดนี้เป็นส่วนภายนอก
คนที่มีสิ่งภายนอกเหล่านี้ครบถ้วนแต่ว่าเป็นทุกข์ มีมากมาย ต่อเมื่อกลับมาหาฐานใจ กลับมาเอาใจใส่ดูแลจิตใจของตน
จึงจะพบกับความสุขที่แท้จริง
ในสมัยพุทธกาลมีพระรูปหนึ่งนามว่าพระภัททิยะ พื้นเพเดิมเป็นกษัตริย์ เป็นพระญาติกับพระพุทธเจ้า
พระภัททิยะเป็นพระราชาซึ่งมีบริษัท บริวาร มีอำนาจพอสมควร แต่มาบวชเพราะว่าเหตุการณ์พาไป
ก็คือว่าเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อว่าอนุรุทธกุมารซึ่งเป็นรัชทายาทของอีกเมืองหนึ่ง อยากบวชแต่พ่อแม่ไม่ยอม
พอทนรบเร้าไม่ได้พ่อแม่ก็บอกว่าจะอนุญาตให้อนุรุทธกุมารบวชโดยมีเงื่อนไขว่าเพื่อนซึ่งก็คือพระภัททิยะบวชด้วย
พระภัททิยะก็เลยจำใจเพราะว่าถูกอนุรุทธกุมารอ้อนวอนถึง ๗ วัน
เมื่อบวชแล้วก็คงคิดว่าบวชชั่วคราว แต่ไป ๆ มา ๆ ก็บวชตลอดชีวิต แล้วก็ได้เป็นพระอรหันต์เช่นเดียวกับพระอนุรุทธะ
พระภัททิยะบวชได้ไม่นานก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ วันหนึ่งท่านนั่งอยู่คนเดียว ก็รำพึงว่าสุขหนอ สุขหนอ
พอดีมีพระเดินผ่านมาได้ยินเข้าก็คิดว่าพระภัททิยะอยากสึกเพราะรำพึงถึงแต่ราชสมบัติ จึงไปทูลพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าจึงเรียกพระภัททิยะมาถาม
พระภัททิยะก็บอกว่าที่ตนรำพึงเช่นนั้นก็เพราะมีความสุขมากที่ได้ออกบวช ผิดกับตอนที่เป็นพระราชาแม้ว่าจะมีบริษัท
บริวาร มีอำนาจมาก มีทรัพย์สินเงินทอง มีความสะดวกสบายมากมาย แต่ก็อยู่ด้วยความหวาดกลัว สะดุ้งกลัว เพราะว่า
ต้องคอยระวังว่าจะมีคนมาทำร้าย ต้องมีองครักษ์ติดตามอยู่ตลอดเวลา ที่จริงท่านคงมีทุกข์อย่างอื่นด้วย
แต่ว่าพอมาบวชแล้ว ทั้ง ๆ ที่ต้องบิณฑบาต ฉันวันละมื้อ และอยู่โคนต้นไม้ แต่มีความสุขมากเพราะว่ากิเลสหมดไปแล้ว
ไม่มีเครื่องเศร้าหมอง ไม่มีอะไรที่ต้องห่วงกังวล ไม่มีแม้กระทั่งความกลัวว่าจะมีใครมาทำร้าย อันนี้เป็นตัวอย่างของคนที่
เมื่อกลับมาที่ใจของตัวเองแล้วจะพบว่าในใจของเรานี่แหละคือที่ตั้งแห่งความสุขอันประเสริฐ
แต่ก่อนท่านคงคิดว่าความสุขจะได้มาจากสิ่งนอกตัว ไม่ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วในใจของตัวเราเป็นที่ตั้งของความสุข
และเป็นรากฐานของการดำเนินชีวิตที่เจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง ใจของเรานั้นเต็มไปด้วยขุมทรัพย์ที่คนมักจะมองข้าม
พระไพศาล วิสาโล
https://th-th.facebook.com/visalo