เสียงนาฬากาปลุ๊กดังขึ้น เสียงสั้น ยาวสลับกัน ไม่รอช้ารีบล้างหน้าล้างตา แบกกล้องเดินตามทางขึ้นไปเก็บภาพมุมมหาชนที่ผาชะโด ระหว่างทางเห็นแสงแดง ๆ ที่ขอบฟ้าด้านตะวันออกของเกาะไม่ต้องบอกก้รู้ว่าแสงอะไร ใช่แล้วครับดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้น ผมเห็นว่ามันสวยดีเลยหยุดดูสักพักพร้อมกับเก็บภาพ และรีบเดินตามทางต่อไป เพราะต้องทำเวลา
เส้นทางที่เดินค่อนข้างลาดชัน ระยะทางไกลพอสมควร เดินไป พักไป เรื่อย ๆ เวลาที่มีก็น้อยเหลือเกิน เพราะทัวร์นัดรวมตัวกันหน้าเกาะอาดังเวลา 09.00 น. เพื่อไปดำน้ำบริเวณรอบนอก ระหว่างทางเงียบสงบ ไม่มีใครเลย วังเวง น่ากลัว แต่ความกลัวไม่ได้ทำให้ความอยากรู้ อยากเห็น หยากเก็บภาพ ของผม น้อยลงเลย และเมื่อถึงเป้าหมายภาพที่เห็น มันช่างสวยงามสมคำร่ำลือจริง ๆ น่าเสียดายที่เป็นเวลาเช้า ท้องฟ้ายังไม่เปิด แดดยังไม่แรง ทำให้น้ำทะเล และหาดทรายหน้าเกาะหลีเป๊ะไม่สวยเหมือนภาพที่ใคร ๆ โพสในเว็บ แค่นี้ผมก็ดีใจ และมีความสุขมาก ๆครับ
เดินชมวิว เก็บภาพ ซึมซับบรรยากาศดี ๆ วิวงาม ๆ ให้เต็มที่ เพราะบนผาแห่งนี้มีเพียงเราคนเดียว รู้สึกเป็นส่วนตัวมาก ๆ และนี้ก็เป็นหน้าหาดเกาะอาดัง จากจุดชมวิวผาชะโดครับ
อิ่มใจ สบายปอด พร้อมกับได้ภาพสวย ๆ ครบแล้ว ก็เดินกลับ ขากลับสบายหน่อยเดินสะดวก ไม่นานก็ถึงที่พักต้องรีบกินข้าวเช้า อาบน้ำ จัดกระเป๋า เพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมทริปรอ สักพักทุกคนก็พร้อมกันที่หน้าเกาะ และนั่งเรือเอาสัมภาระไปเก็บที่เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งเป็นที่พักสำหรับคืนนี้
ต่างคนต่างเก็บสัมภาระของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวไปดำน้ำบริเวณรอบนอกซึ่งเป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ ปะการังสวย ๆ หอยมือเสืองาม ๆตัวใหญ่ ๆ ปลานีโม่ และดอกไม้ทะเล ซึ่งทั้งหมดนี้รอให้เราชมความสวยงามของมัน
นั่งเรือประมาณชั่วโมงก็ถึงเกาะหินซ้อน ซึ่งเป็น Highlight ที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะเก็บภาพ ชมความงามและความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะมีรูปร่างอย่างที่เราได้เห็นกัน
หลังจากนั้นคนเรือก็พาเราไปดำน้ำที่เกาะยาง น้ำทะเลที่เกาะยางใสมากๆ ยิ่งแดดแรง ๆ สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ใต้น้ำได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปลาหลากสี หลากสายพันธ์ สีสรรสวยงาม หอยเม่น ดอกไม้ทะเล ปลานีโม่ หอยมือเสือตัวใหญ่ ๆ น่าเสียดายที่กล้องผมไม่สามารถเก็บภาพใต้น้ำได้ แต่คราวหน้าผมไม่พลาดแน่นอน
เราใช้เวลาที่เกาะยางเกือบจะ 1 ชั่วโมงก็ขึ้นเรือ นั่งเรือต่อไปที่หมู่เกาะดง และก็ลงดำน้ำต่อ ภาพใต้น้ำเกาะดงสวยงามไม่แพ้เกาะยาง ต่างกันที่ปะการังที่เกาะดงจะเป็นแผงซ้อนกันเป็นชั้น ๆเยอะมากและก็สวยมาก ปลาไม่ค่อยเยอะ แต่หอยมือเสือเยอะมากมีหลาายสีด้วย ไม่ว่าจะเป็นสีม่วง น้ำเงิน น้ำตาล น้ำทะเลที่นี่ตื้นสามารถยืนบนปะการังได้
สักพักก็นั่งเรือต่อไปเกาะรอกลอย เกาะรอกลอยเป็นเกาะขนาดเล็ก สวยงาม หาดทรายขาวละเอียด น้ำตื้นสีเขียวสดและใสมาก นักท่องเที่ยวส่วนมากแวะเล่นน้ำตื้น ถ่ายภาพ และเดินชมวิวซึ่งสามารถเดินชมได้ทั่วบริเวณเกาะได้
เราใช้เวลาที่เกาะรอกลอยนานพอสมควร ก็นั่งเรือต่อไปดำน้ำที่เกาะผึ้งซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายสำหรับทริปนี้ ที่เกาะผึ้งน้ำทะเลใสเหมือนกับเกาะอื่น ๆ ปลาเยอะหลากสี ส่วนปะการังไม่ค่อยเยอะเหมือนเกาะอื่น ๆ ถ้าผมจำไม่ผิดเราใช้เวลาที่เกาะนี้น้อยมาก เพราะใกล้ค่ำต้องเผือเวลากลับซึ่งต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงที่พัก
เมื่อเรือจอดเทียบหาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ ผมเห็นว่ายังไม่ค่ำมากเท่าไหร่ มีเวลาพอที่จะเดินเล่น และเก็บภาพสวย ๆของเกาะหลีเป๊ะ เลยขอตัวจากคนอื่น ๆ ไปตามหาเรื่องราว ในมุมของตัวเอง
โชคดีของผมคือวันที่เราไปน้ำทะเลหน้าหาดชาวเลลด ทำให้เห็นปะการัง หอยมือเสือ หอยเม่น ปลิงทะเล แบบไม่ต้องดำน้ำ เพราะน้ำลดจนเกือบหมดทั้งฝั่ง
หาดชาวเล เป็นหาดที่สวยงาม หาดทรายขาวละเอียด สะอาด บรรยากาศร่มรื่น ฝรั่งมานอนอาบแดดเป็นจำนวนมาก เดินไปเก็บภาพไป แอบส่องฝรั่งไป สบายใจดี เมื่อถึงเวลานัดก็อำลาหาดชาวเล เพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวไปกินข้าวเย็น และก็เดินที่ถนนคนเดิน
กินข้าวเย็นเสร็จ ก็เดินเล่นที่ถนนคนเดิน สักพักก็กลับเข้าที่พักหลับนอนเพื่อเก็บแรงไว้เดินทางกลับ กทม ในวันรุ่งขึ้น สำหรับคนชอบท่องราตรี ชอบกิน ชอบเที่ยว ที่หาดบันดาหยา-เกาะหลีเป๊ะ มีสถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้ได้เลือกใช้บริการตามใจชอบมากมาย
ในวันที่ผมเขียนบนทความนี้ เชื่อหรือไม่ว่าผมได้กลับไปที่ เกาะอาดัง-ราวี-หลีเป๊ะ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว สำหรับผมไม่รู้สึกเบื่อเลย แต่กลับรู้สึกหลงรักที่แห่งนี้มากขึ้น และก็อยากไปอีกหลาย ๆ ครั้ง และที่สำคัญมันทำให้ผมหลงรักโลกใต้ทะเลมากมาย เช่นเคยผมก็ยังไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำเหมือนเดิม เพราะเตรียมตัวไม่ทัน หวังว่าโอกาสหน้าผมจะได้ภาพใต้ทะเลสวย ๆ มาฝากทุก ๆ คนครับ
อำลาด้วยภาพหาดบันดาหยา-เกาะหลีเป๊ะ ในวันเดินทางครั้งที่ 2 ครับ
ขอบคุณที่ติดตาม
[CR] เกาะอาดัง-ราวี-หลีเป๊ะ สตูล ตอนที่ 2
เส้นทางที่เดินค่อนข้างลาดชัน ระยะทางไกลพอสมควร เดินไป พักไป เรื่อย ๆ เวลาที่มีก็น้อยเหลือเกิน เพราะทัวร์นัดรวมตัวกันหน้าเกาะอาดังเวลา 09.00 น. เพื่อไปดำน้ำบริเวณรอบนอก ระหว่างทางเงียบสงบ ไม่มีใครเลย วังเวง น่ากลัว แต่ความกลัวไม่ได้ทำให้ความอยากรู้ อยากเห็น หยากเก็บภาพ ของผม น้อยลงเลย และเมื่อถึงเป้าหมายภาพที่เห็น มันช่างสวยงามสมคำร่ำลือจริง ๆ น่าเสียดายที่เป็นเวลาเช้า ท้องฟ้ายังไม่เปิด แดดยังไม่แรง ทำให้น้ำทะเล และหาดทรายหน้าเกาะหลีเป๊ะไม่สวยเหมือนภาพที่ใคร ๆ โพสในเว็บ แค่นี้ผมก็ดีใจ และมีความสุขมาก ๆครับ
เดินชมวิว เก็บภาพ ซึมซับบรรยากาศดี ๆ วิวงาม ๆ ให้เต็มที่ เพราะบนผาแห่งนี้มีเพียงเราคนเดียว รู้สึกเป็นส่วนตัวมาก ๆ และนี้ก็เป็นหน้าหาดเกาะอาดัง จากจุดชมวิวผาชะโดครับ
อิ่มใจ สบายปอด พร้อมกับได้ภาพสวย ๆ ครบแล้ว ก็เดินกลับ ขากลับสบายหน่อยเดินสะดวก ไม่นานก็ถึงที่พักต้องรีบกินข้าวเช้า อาบน้ำ จัดกระเป๋า เพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมทริปรอ สักพักทุกคนก็พร้อมกันที่หน้าเกาะ และนั่งเรือเอาสัมภาระไปเก็บที่เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งเป็นที่พักสำหรับคืนนี้
ต่างคนต่างเก็บสัมภาระของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวไปดำน้ำบริเวณรอบนอกซึ่งเป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ ปะการังสวย ๆ หอยมือเสืองาม ๆตัวใหญ่ ๆ ปลานีโม่ และดอกไม้ทะเล ซึ่งทั้งหมดนี้รอให้เราชมความสวยงามของมัน
นั่งเรือประมาณชั่วโมงก็ถึงเกาะหินซ้อน ซึ่งเป็น Highlight ที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะเก็บภาพ ชมความงามและความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะมีรูปร่างอย่างที่เราได้เห็นกัน
หลังจากนั้นคนเรือก็พาเราไปดำน้ำที่เกาะยาง น้ำทะเลที่เกาะยางใสมากๆ ยิ่งแดดแรง ๆ สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ใต้น้ำได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปลาหลากสี หลากสายพันธ์ สีสรรสวยงาม หอยเม่น ดอกไม้ทะเล ปลานีโม่ หอยมือเสือตัวใหญ่ ๆ น่าเสียดายที่กล้องผมไม่สามารถเก็บภาพใต้น้ำได้ แต่คราวหน้าผมไม่พลาดแน่นอน
เราใช้เวลาที่เกาะยางเกือบจะ 1 ชั่วโมงก็ขึ้นเรือ นั่งเรือต่อไปที่หมู่เกาะดง และก็ลงดำน้ำต่อ ภาพใต้น้ำเกาะดงสวยงามไม่แพ้เกาะยาง ต่างกันที่ปะการังที่เกาะดงจะเป็นแผงซ้อนกันเป็นชั้น ๆเยอะมากและก็สวยมาก ปลาไม่ค่อยเยอะ แต่หอยมือเสือเยอะมากมีหลาายสีด้วย ไม่ว่าจะเป็นสีม่วง น้ำเงิน น้ำตาล น้ำทะเลที่นี่ตื้นสามารถยืนบนปะการังได้
สักพักก็นั่งเรือต่อไปเกาะรอกลอย เกาะรอกลอยเป็นเกาะขนาดเล็ก สวยงาม หาดทรายขาวละเอียด น้ำตื้นสีเขียวสดและใสมาก นักท่องเที่ยวส่วนมากแวะเล่นน้ำตื้น ถ่ายภาพ และเดินชมวิวซึ่งสามารถเดินชมได้ทั่วบริเวณเกาะได้
เราใช้เวลาที่เกาะรอกลอยนานพอสมควร ก็นั่งเรือต่อไปดำน้ำที่เกาะผึ้งซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายสำหรับทริปนี้ ที่เกาะผึ้งน้ำทะเลใสเหมือนกับเกาะอื่น ๆ ปลาเยอะหลากสี ส่วนปะการังไม่ค่อยเยอะเหมือนเกาะอื่น ๆ ถ้าผมจำไม่ผิดเราใช้เวลาที่เกาะนี้น้อยมาก เพราะใกล้ค่ำต้องเผือเวลากลับซึ่งต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงที่พัก
เมื่อเรือจอดเทียบหาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ ผมเห็นว่ายังไม่ค่ำมากเท่าไหร่ มีเวลาพอที่จะเดินเล่น และเก็บภาพสวย ๆของเกาะหลีเป๊ะ เลยขอตัวจากคนอื่น ๆ ไปตามหาเรื่องราว ในมุมของตัวเอง
โชคดีของผมคือวันที่เราไปน้ำทะเลหน้าหาดชาวเลลด ทำให้เห็นปะการัง หอยมือเสือ หอยเม่น ปลิงทะเล แบบไม่ต้องดำน้ำ เพราะน้ำลดจนเกือบหมดทั้งฝั่ง
หาดชาวเล เป็นหาดที่สวยงาม หาดทรายขาวละเอียด สะอาด บรรยากาศร่มรื่น ฝรั่งมานอนอาบแดดเป็นจำนวนมาก เดินไปเก็บภาพไป แอบส่องฝรั่งไป สบายใจดี เมื่อถึงเวลานัดก็อำลาหาดชาวเล เพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวไปกินข้าวเย็น และก็เดินที่ถนนคนเดิน
กินข้าวเย็นเสร็จ ก็เดินเล่นที่ถนนคนเดิน สักพักก็กลับเข้าที่พักหลับนอนเพื่อเก็บแรงไว้เดินทางกลับ กทม ในวันรุ่งขึ้น สำหรับคนชอบท่องราตรี ชอบกิน ชอบเที่ยว ที่หาดบันดาหยา-เกาะหลีเป๊ะ มีสถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้ได้เลือกใช้บริการตามใจชอบมากมาย
ในวันที่ผมเขียนบนทความนี้ เชื่อหรือไม่ว่าผมได้กลับไปที่ เกาะอาดัง-ราวี-หลีเป๊ะ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว สำหรับผมไม่รู้สึกเบื่อเลย แต่กลับรู้สึกหลงรักที่แห่งนี้มากขึ้น และก็อยากไปอีกหลาย ๆ ครั้ง และที่สำคัญมันทำให้ผมหลงรักโลกใต้ทะเลมากมาย เช่นเคยผมก็ยังไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำเหมือนเดิม เพราะเตรียมตัวไม่ทัน หวังว่าโอกาสหน้าผมจะได้ภาพใต้ทะเลสวย ๆ มาฝากทุก ๆ คนครับ
อำลาด้วยภาพหาดบันดาหยา-เกาะหลีเป๊ะ ในวันเดินทางครั้งที่ 2 ครับ
ขอบคุณที่ติดตาม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น