ถ้าเรามองแบบใจเขาใจเรา ประเทศก็คงจะดีกว่านี้ครับ

ใจเขาใจเรา การที่เราจะทำอะไร ก็ควรคิดถึงในกรณีที่ว่า เขาทำกับเราแบบเดียวที่เราทำกับเขา ถ้าเข้าทำแบบนี้กับเรา แล้วเราไม่พอใจ ก็แน่นอนว่าถ้าเราเอาไปทำกับเขา เขาก็ย่อมไม่พอใจ เช่นการล้มคอนเสิร์ตของคุณปู พงษ์สิทธิ์ คําภีร์ ถ้ามองแล้วมันดูไม่ดีจริงๆครับ แต่ก็อย่างว่าใจเขาใจเรา เพราะมีคนออกมาต่อต้านคุณเสกที่ภูเก็ตเช่นเดียวกัน ทั้งๆที่กรณีของทั้งสองคนอาจจะไม่ได้เลือกฝ่ายชัดเจน คุณ พงษ์สิทธิ์ คําภีร์ เคยขึ้นเวทีกับเสื้อเหลืองแต่ก็เป็นการร้องเพลง (เห็นว่าเป็นการกุศล แต่ไม่แน่ใจครับ) ส่วนคุณเสก ไม่ได้เข้าร่วมกับ นปช หรือ ขึ้นเวทีของ นปช เลย แค่แสดงออกว่าอยากไปเลือกตั้งเท่านั้น ก็โดนโจมตีจนไปแสดงคอนเสิร์ตที่ภูเก็ตไม่ได้จนต้องยกเลิก

สรุป ใจเขาใจเรา คุณเสกโดนก่อน คุณปูและหลายๆคนของฝ่ายเสื้อเหลืองหรือ กปปส ถึงโดนบ้าง แต่ก็มีกองเชียร์ กปปส มาต่อว่าฝ่ายเสื้อแดงว่าเลว ทำไม่ดี ทำไมทำแบบนี้ หรืออะไรก็ว่าไป รวมๆก็คือออกมาต่อว่า แต่กลับไม่คิดถึงกรณีของคุณเสกที่โดนมาก่อน หลายคนอ้างว่ามันเก่าไปแล้ว หลายคนอ้างว่าคนละประเด็น ซึ่งถ้าจะพูดให้ตรงก็คือ ถ้าฝ่ายตนเองทำคนอื่นไม่พูดถึงแม้จะเป็นฝ่ายเริ่มกระทำก่อน แต่พอโดนทำบ้างกลับโวยวายยิ่งกว่าฝ่ายถูกเริ่มกระทำเยอะครับ

ส่วนเรื่องการตั้งสภาประชาชนหรือการปฎิรูปของกลุ่ม กปปส ก็ใจเขาใจเราครับ กปปส จะขอปฎิรูปกันเองโดยไม่ให้ฝ่ายเพื่อไทยเข้าร่วม และจะจัดตั้งสภาประชาชนแล้วเลือกกันเองว่าจะเอาใครเข้ามาทำหน้าที่ต่างๆ ถ้ามองต่างมุม นปช ขอทำบ้างหละ ทำเหมือนกันกับที่ กปปส จะทำทุกอย่าง แต่ไม่ให้ กปปส ทำ แต่ นปช จะทำเอง กองเชียร์ กปปส จะยอมหรือไม่ การที่คุณตัดสิทธิ์ฝ่ายตรงข้าม แล้วพยายามทำอะไรกันเองโดยที่ไม่มองว่าฝ่ายตรงข้ามก็มีสิทธิ์ที่จะออกสิทธิ์ออกเสียงตามระบอบประชาธิปไตย โดยกล่าวอ้างว่าฝ่ายตรงข้ามเสียงไม่มีคุณภาพ ฝ่ายตนเองมีคุณภาพ ถ้าอ้างกันแบบนี้ อ้างกันให้ตายเรื่องก็ไม่มีวันจบ เพราะในขณะที่คุณกล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามโง่ ฝ่ายตรงข้ามก็ว่าคุณโง่เช่นกัน เพราะเขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ถูกต้องเช่นกัน ซึ่งหลายๆอย่าง มักจะไม่พูดคุยกันด้วยเหตุผล แต่อาศัยว่าคนนี้เป็นพวกตนเอง ก็ว่าถูกไว้ก่อน มันก็วุ่นวายไม่มีจบครับ


เรื่องศาล ก็ใจเขาใจเราเช่นกัน ฝ่าย กปปส มักจะอ้างคำสั่งศาล โดยอ้างว่าเป็นการทำตามกฏหมาย แต่ก็ไม่คิดว่าทุกวันนี้สังคมไทย คนรวยมักจะรอดจากคุกไม่ว่าคดีที่โดนจับจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน ก็มักจะถูกตัดสินให้รอลงอาญา ในขณะที่คนจน ทำผิดเล็กน้อยก็ต้องเข้าคุกก่อนสอบสวนทีหลัง เช่นเดียวกับฝ่าย ปชป กปปส เสื้อเหลือง ที่ทำผิดมาหลายคดี หลักฐานครบทั้งภาพและเสียง ก็จะถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ เช่นคดีปิดสนามบิน คดีนี้ถ้าพูดตามตรงเป็นคดีก่อการร้ายสากลเพราะสนามบินเป็นจุดรวมของคนหลายสัญชาติ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ถ้าเป็นต่างประเทศก็คงไม่มีโอกาสได้ประกันตัว แต่ประเทศไทยสามารถประกันตัวได้ แถมคดีก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ขนาดไม่มีเงินประกันก็ยังให้เลื่อน โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหา หาเงินมาประกันตัวไม่ทัน ถ้ามองตามมุม นปช ปิดถนนใน กทม ถูกทหารเข้าสลายการชุมนุม อย่าพูดถึงเรื่องเผาเลยครับ เพราะถ้าไม่มีทหารถืออาวุธสงครามเข้ามา ย่อมไม่มีความรุนแรง อ้างอิงจากเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ทหารยังไม่เข้ามา ไม่มีเหตุการณ์ยิงกันเลย มีแต่ทุบตี ซึ่งทุกม็อบมีหมด การทำร้ายผู้อื่น แต่ก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่อย่างไร พอสลายการชุมนุมแกนนำโดนจับเข้าคุกทันทีก่อนให้ตัวทีหลังก็จำคุกไปเรียบร้อย ส่วน นปช ที่ถูกจับได้ก็ถูกกุมขังทันที ข้อเปรียบเทียบมีให้เห็นครับ

และทุกวันนี้ก็ยังมีคดี ที่ทำให้เห็นถึงการตัดสินที่แตกต่างออกมาเรื่อยๆ ครับ คนที่อยู่ฝ่ายได้เปรียบของการตัดสินอาจจะคิดว่านั่นถูกต้อง แต่คนกลางๆทั่วๆไปไม่คิดเช่นนั้นครับ

อีกฝ่ายทำผิด โดนจับให้ประกันตัว ให้เลื่อนคดีได้เรื่อยๆ แต่อีกฝ่ายทำผิด โดนจับคัดค้านประกันตัว เร่งคดีไม่ให้เลื่อนคดี ดูยังไงๆระบบยุติธรรมของไทยก็ เป็นการ ยุติ(ความเป็น)ธรรม คือไม่มีความเป็นธรรมนั่นเอง

เรื่องสลิ่มกับควายแดงเช่นกัน หลายคนอาจจะบอกว่าตนเองไม่ใช่แดงนะ บางคนบอกว่าตนเองไม่ใช่สลิ่มนะ แต่ผมคิดว่า หลายๆคนรู้ว่า ควายแดงคืออะไร สลิ่มคืออะไร สำหรับสถานะการณ์ในตอนนี้ ผมแยกเป็นแบบนี้ครับ

ความแดง คือ คนที่สนับสนุนการเลือกตั้งในตอนนี้ และพยายามที่จะให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามกติกา ต่อให้คนที่เลือกมาจะดีจะเลวยังไง ก็จะขอทำตามกติกา ถ้าไม่ดีคราวหน้าก็ไม่เลือก ถ้าดีก็เลือกต่อไป และสนับสนุน นปช เพราะมองว่า อย่างน้อย นปช ก็สู้เพื่อประชาธิปไตย ก็คือเป็นการทำตามกติกา ต่อให้เป้นฝ่ายตรงข้ามแม้จะดูไม่ดียังไง แต่ถ้าชนะเลือกตั้งเข้ามาตามกติกา ก็ยอมให้ทำหน้าที่ของตนเอง จนครบวาระ ส่วนการตรวจสอบก็ให้เป้นหน้าที่ของคนที่มีหน้าที่นั้นๆไป เช่น คุณสุขุมพันธุ์ ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า บริหาร กทม ได้ค่อนข้างล้มเหลว แต่ถูกเลือกให้กลับเข้ามาทำงาน ก็มีการติติงการประสา แต่ก็ไม่คัดค้านการเข้ารับตำแหน่งจากเสื้อแดงแต่อย่างใด

สลิ่ม คือคนที่มักจะมองความผิดของฝ่ายเดียว เช่นถ้าฝ่ายเสื้อแดงหรือเพื่อไทย ทำอะไรผิดจะออกมาโจมตี แต่แทบจะไม่เคยโจมตีฝ่าย ปชป เลย ไม่ว่าจะทำอะไรผิด พอมีข่าวไม่ดีออกมา ก็มักจะเงียบกับเรื่องดังกล่าว ไม่พูดถึงในประเด็นนั้นๆ ถ้ามีใครตั้งกระทู้มา กลุ่มนี้จะไม่เข้าไปตอบกระทู้ เช่น เรื่องยามถูกโยนทิ้งน้ำ และ หนุ่มที่ไปงานเลี้ยงถูกรุมกระทืบปางตาย จะเห็นว่า สลิ่มจะไม่ออกความคิดเห็นในกระทู้นี้ แม้จะมีออกมาบ้าง ก็จะเป็นการออกมากัดฝ่ายควายแดง แต่ไม่พูดถึงว่าการกระทำของ กปปส ที่ทำเช่นนั้นถูกหรือผิดแต่อย่างใด หรือกรณี คอนเสิร์ตก็เช่นกัน คุณเสกโดนเพราะบอกอยากไปเลือกตั้ง คนของฝ่าย กปปส ภูเก็ตไม่ให้มาแสดง สลิ่มเงียบ แถมว่าเสกไปเรื่องอื่นๆ เช่นเป็นคนไม่ดี เป็นคนติดยา แต่พอฝ่ายตนเองโดนบ้างเช่นคุณ ปู ออกมาโวยวาย แต่พอโดนเอากรณีคุณเสกมาเปรียบเทียบ เพราะเป็นเหตุการณ์เกิดก่อน สลิ่มก็จะบอกว่าความแดงแถ ทั้งๆที่มันกรณีเดียวกันคือคุณทำได้ผมก็ทำได้ประมาณนั้น

ถ้าจะออกมาว่า ก็ควรออกมาว่าทั้งสองฝ่าย ถ้าจะเงียบก็เงียบทั้งสองฝ่าย นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นกลางครับ


จากที่ผมพูดคุยกับฝ่ายเสื้อแดงและเสื้อเหลือง เพราะเพื่อนผมมีทั้งเหลืองและแดง และญาติผมก็มีทั้งเหลืองและแดง สรุปจากที่ผมรู้ก็ประมาณว่า

แดง = แค่ต้องการประชาธิปไตย เลือกใครมาก็อยากให้คนนั้นทำหน้าที่ ถ้าไม่ดีไม่พอใจครบวาระก็เปลี่ยนกันใหม่ ส่วนเรื่องโกง มันก็มีทั้งสองฝ่าย มองว่าฝ่าย ปชป โกงแล้วประชาชนไม่ได้ผลประโยชน์และประเทศไม่มีการพัฒนา มองว่า เพื่อไทย โกง แต่ประชาชนได้ผลประโยชน์ และประเทศมีการพัฒนา ส่วนเรื่องความผิด ใครผิดก็ว่าไปตามผิด แต่กรณีเดียวกันฝ่ายตรงข้ามผิดก็ควรต้องถูกลงโทษด้วย ไม่ใช่เลื่อนจนคดีหมดอายุ หรือตัดสินรอลงอาญา และตัดสินบอกไม่มีเจตนา แล้วก็จบกัน (หลายคนไม่สนใจ ขอแค่ ปชป ไม่ชนะการเลือกตั้ง ก็ขอเลือกเพื่อไทยไว้ก่อน เพราะยังไงก็ดีกว่า ปชป )

เหลือง = เกลียดเพื่อไทย เกลียดทักษิณคิดล้มสถาบันเพราะคลิปทักษิณที่หลุดมา (แม้ตอนหลังจะมีคลิปจริงหลักฐานมาบอกแล้วว่าคลิปนั้นตัดต่อ แต่ก็เกลียดทักษิณข้อหาเดิม เพราะ นปช หลายคนพูดหมิ่น สถาบัน)  เกลียดเพื่อไทยเพราะเป็นพรรคของทักษิณ เกลียด นปช เพราะสนับสนุนทักษิณ เลือก ปชป เพราะไม่อยากให้ทักษิณชนะ (บางคนคิดว่า ปชป ดีกว่า เพื่อไทย ในขณะ ที่บางคนไม่คิดว่า ปชป ดีกว่า แต่แค่ไม่ต้องการให้เพื่อไทยชนะ) ที่คุยกันมักจะบอกว่าไม่สนหรอกเรื่องโกง แต่ยอมรับไม่ได้เรื่องเสื้อแดงจะล้มสถาบัน เลยสนุบสนุน ม็อบในตอนนี้ (แต่กลับไม่มองฝ่ายตนเองก็มีหมิ่นเช่นกัน เช่นสนธิ แต่ยกฟ้อง ด้วยเหตุผลที่ว่า ฟ้องไปก็ไม่มีประโยชน์ จะทำให้ประเทศชาติแตกแยกไปเปล่าๆ) สรุปรวมๆ ของสลิ่มก็คือคนที่มองแต่ความผิดฝ่ายตรงข้าม แต่มองข้ามความผิดฝ่ายตนเอง

กรณีเปรียบเทียบ

กรณีเสื้อแดงเตะพระ เสื้อแดงหลายคนต่อว่า กปว และไม่เห็นด้วยต่อการกระทำกันหลายคน

กรณียาม ถูกกระทืบแล้วโยนทิ้งน้ำ เสื้อเหลือง เงียบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่เห็นมีใครออกมาต่อว่า กปปส สักคน

-----------------------------------------------------------------

ใจเขาใจเราครับ หลายๆอย่างลองมองต่างมุม มองหลายๆทาง บางคนเห็นแต่ทำเป็นไม่รู้ บางคนรู้แต่ทำเป็นไม่เห็น มันก็เลยวุ่นวายครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่