ความสงบสุขที่ปรานิตกว่าเมถุธรรม จากประสบการณ์ที่ปรากฏเทียบเคียงอย่างทันควัน

ผมตั้งกระทู้นี้อาจติดเรท R  เล็กน้อย และอาจจะเกิดอกุศลธรรมกับบางท่านได้ง่าย  แต่ผมพิจารณาแล้วว่า พึงเป็นประโยชน์มีอยู่ตามธรรม

ธรรมดาผู้ปฏิบัติธรรม ย่อมพิจารณาธรรม เป็นเนืองๆ  แบบหย่อนยานบ้าง กลางบ้าง เข้มงวดบ้าง เป็นช่วงๆ ไป เป็นธรรมดา

       ซึ่งการมีครอบครัวก็เป็นเรื่องปกติของผู้ที่อยู่ในเพศฆราวาส  ซึ่งผมก็เป็นเช่นเดียวกันกับฆราวาสทั่วไป ย่อมเสพเมถุนธรรมเป็นธรรมดาของผู้ที่มีครอบครัวแล้ว

       แต่ด้วยปฏิบัติธรรมมานานและเนืองๆ ดังนั้นแม้มีเมถุธรรมกับภรรยาแล้ว ก็ย่อมพิจารณาธรรมอยู่เนืองๆ แม้ว่าจะคลายเครียดด้วยความกดดันของร่างกายจากออส์โมนต่างๆ จากธรรมชาติของสัตว์ผู้ยังมีกามราคะอยู่ที่ยังเสพติดอยู่ เป็นช่วงที่ร่างกายผ่อนคลายใจก็คลายจากความเครียด กล่าวได้ว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งของโลกียะ ที่เป็นผลจากเมถุนธรรมนั้นเอง.

        ซึ่งบ่อยครั้งนำธรรมมาพิจารณาแล้วมีสติรู้ตามไปจนลงภวังค์แล้วหลับเงียบไปช่วงขณะหนึ่ง ตื่นมาก็สบายดี ต้งแต่วัยหมุ่มจนถึงวัยเริ่มแก่ ก็ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมๆ
        
        แต่เมื่อไม่กีวันมานี้ ก็ดำเนินไปตามปกติ หลังเมถุนธรรมแล้ว ก็ผ่อนคลายมีความสุขตามแบบของผู้มีกามราคะอยู่ ใจก็น้อมธรรมมาพิจาณารู้ถึงความสุขที่เกิดจากเมถุนธรรม ที่กำลังสืบต่ออารมณ์อยู่ พร้อมมีสติชัด ว่าเราก็ได้ปฏิบัติธรรมปรากฏอย่างยิ่งมาสองครั้งแล้ว เราพึงตัดเมถุนธรรมได้ในไม่ช้าในกาลข้างหน้า
         ทันใดนั้นความสุขในอารมณ์หลังเมถุนธรรมนั้นตัดขาดดับปับสิ้นไปทันที เป็นความสงบสุขปรานิตกว่า เบากว่า ระเอียดกว่า อย่างทันควัน มีสติรู้ตามไปเป็นเวลายาวนานพอประมาณ  จึงค่อยเปลี่ยนไปทำกิจอย่างอื่นตามปกติ  แล้วคิดว่า ความสงบสุขนี้ เกิดขึ้นเพราะดำริ ออกจากเมถุนธรรม นั้นเอง ถ้าตัดออกจากเมถุนธรรมอย่างเด็ดขาดได้ ก็คงสงบสุขยิ่งกว่าปัจจุบันนั้นเอง .

        เสนอข้อมูลด้วยเห็นว่าเป็นโยชน์  

        และวันนี้หลังจาก 14.30 ไปแล้ว ผมคงอาจจะไม่ได้เข้าอินเตอร์เน็ตยาวไปจนถึงวัน อังคารหน้า นะครับ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่