ผีสาวผมทองสุดเฮี้ยนสิงร่างเพื่อนแฉผัวลงมือฆ่า
http://www.dailynews.co.th/Content/regional/234173/
จากกรณีตำรวจ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพหญิงสาวนิรนามผมทอง หน้าตาดี สูงประมาณ 170 ซม. ถูกฆ่ารัดคอและข่มขืน ก่อนโยนทิ้งริมถนนทางเข้าหมู่บ้านวารุณี หมู่ 8 ต.คลองจิก เมื่อวานที่ผ่านมา (29 เม.ย.) ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. พ.ต.อ. ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผกก.สภ.บางปะอิน เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ได้มี นายธีระพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ชาวบ้านใน ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาขอดูศพ พร้อมกับยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นภรรยาของตน ชื่อ นางพี (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักตั้งแต่คืนวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากจดจำรูปร่างลักษณะและเครื่องประดับที่ติดอยู่ในตัวผู้ตายได้
จากการสอบสวน นายธีระพงษ์ ให้การอ้างว่า แต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมาหลายปี เมื่อก่อนนี้ผู้ตายทำงานอยู่ที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ต่อมาตนได้ให้ออกมาอยู่คอยดูแลบ้าน และรับเสื้อผ้าโหลมาเย็บ และภายหลังมาจับได้ว่าผู้ตายไปแอบมีความสัมพันธ์กับนายบาส (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งผู้ตายได้มาขอร้องว่า จะแบ่งเวลาอยู่กับตนและนายบาสคนละ 2 วัน แต่ตนไม่ยอม ทั้งนี้ก่อนจะเสียชีวิตผู้ตายได้ขอไปเที่ยวกับ นายบาส ที่ จ.ชลบุรี โดยบอกว่าเพื่อไปตกลงว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก จึงยอมให้ผู้ตายเดินทางไป กระทั่งผู้ตายเดินทางกลับมาช่วงกลางดึกของวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งตนได้ขับรถเก๋งออกไปรับ และได้ขอลาหยุดงาน 1 วัน เพื่อจะได้อยู่กับผู้ตาย จนช่วงค่ำของวันที่ 28 เม.ย. ขณะที่ตนเตรียมตัวจะออกไปทำงาน ปรากฏว่าผู้ตายได้เดินออกจากบ้านไปโดยมีรถเก๋งมารับ แล้วไม่กลับมาอีก กระทั่งมาทราบข่าวว่ามีผู้พบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆาตกรรม เลยเดินทางมาขอดูศพ ก็พบว่าใช่ภรรยาของตนเอง
นายธีระพงษ์ ให้การอีกว่า ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจมากกับการเสียชีวิตของภรรยา เพราะตนรักภรรยาคนนี้มาก แต่ทางญาติของภรรยาคิดว่าตนเป็นฆาตกร อย่างไรก็ตามหากตนจะลงมือฆ่า ก็คงฆ่าตั้งแต่ที่ทราบว่าภรรยาไปมีชู้แล้ว ที่ผ่านมาถึงจะเคยมีปากเสียงกันบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ นายนายธีระพงษ์ ถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่นั้น ปรากฏว่าหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตายที่ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบปากคำเช่นกัน ได้เกิดอาการเป็นลมล้มพับ ก่อนจะฟื้นขึ้นร้องไห้ฟูมฟายและพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปว่า "พี่ธีฆ่าหนูทำไม นี่หนูเล็กเอง พี่ธีเขานอนกับหนู เขาบีบคอหนูจับหนู ขึ้นรถเอาศพหนูมาทิ้ง ขอพบพี่ธี หนูจะคุยกับพี่ธี" ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่มาติดต่อราชการ
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงพาตัว นายธีระพงษ์ ออกมาจากห้องสอบสวน เพื่อพบกับหญิงที่เป็นเพื่อนของผู้ตาย ซึ่งหญิงคนดังกล่าวได้โผเข้ากอดและบอกว่า "หนูรักพี่ธีนะ พี่ธีทำหนูทำไม" ทำให้นายธีระพงษ์ถึงกับตกใจหน้าถอดสี พร้อมกับปฏิเสธเสียงสั่นบอกว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายธีระพงษ์ไปสอบสวนต่อ ซึ่งล่าสุดนายธีระพงษ์ได้ยอมเปิดปากรับภาพด้วยความกลัววิญญาณของภรรยาสาว โดยรับว่าเป็นผู้บีบคอภรรยาจนเสียชีวิต เพราะโกรธแค้นเนื่องจากจับได้ว่าแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายบาส โดยก่อนลงมือได้ขอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายที่บ้าน และหลังจากบีบคอผู้ตายแล้ว ก็ได้นำศพใส่เสื้อผ่ามาโยนทิ้งในที่เกิดเหตุเพื่ออำพรางคดี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และตรวจสอบหาหลักฐานที่รถเก๋งของนายธีระพงษ์ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป.
ผีสาวผมทองสุดเฮี้ยนสิงร่างเพื่อนแฉผัวลงมือฆ่า
http://www.dailynews.co.th/Content/regional/234173/
จากกรณีตำรวจ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพหญิงสาวนิรนามผมทอง หน้าตาดี สูงประมาณ 170 ซม. ถูกฆ่ารัดคอและข่มขืน ก่อนโยนทิ้งริมถนนทางเข้าหมู่บ้านวารุณี หมู่ 8 ต.คลองจิก เมื่อวานที่ผ่านมา (29 เม.ย.) ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. พ.ต.อ. ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผกก.สภ.บางปะอิน เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ได้มี นายธีระพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ชาวบ้านใน ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาขอดูศพ พร้อมกับยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นภรรยาของตน ชื่อ นางพี (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักตั้งแต่คืนวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากจดจำรูปร่างลักษณะและเครื่องประดับที่ติดอยู่ในตัวผู้ตายได้
จากการสอบสวน นายธีระพงษ์ ให้การอ้างว่า แต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมาหลายปี เมื่อก่อนนี้ผู้ตายทำงานอยู่ที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ต่อมาตนได้ให้ออกมาอยู่คอยดูแลบ้าน และรับเสื้อผ้าโหลมาเย็บ และภายหลังมาจับได้ว่าผู้ตายไปแอบมีความสัมพันธ์กับนายบาส (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งผู้ตายได้มาขอร้องว่า จะแบ่งเวลาอยู่กับตนและนายบาสคนละ 2 วัน แต่ตนไม่ยอม ทั้งนี้ก่อนจะเสียชีวิตผู้ตายได้ขอไปเที่ยวกับ นายบาส ที่ จ.ชลบุรี โดยบอกว่าเพื่อไปตกลงว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก จึงยอมให้ผู้ตายเดินทางไป กระทั่งผู้ตายเดินทางกลับมาช่วงกลางดึกของวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งตนได้ขับรถเก๋งออกไปรับ และได้ขอลาหยุดงาน 1 วัน เพื่อจะได้อยู่กับผู้ตาย จนช่วงค่ำของวันที่ 28 เม.ย. ขณะที่ตนเตรียมตัวจะออกไปทำงาน ปรากฏว่าผู้ตายได้เดินออกจากบ้านไปโดยมีรถเก๋งมารับ แล้วไม่กลับมาอีก กระทั่งมาทราบข่าวว่ามีผู้พบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆาตกรรม เลยเดินทางมาขอดูศพ ก็พบว่าใช่ภรรยาของตนเอง
นายธีระพงษ์ ให้การอีกว่า ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจมากกับการเสียชีวิตของภรรยา เพราะตนรักภรรยาคนนี้มาก แต่ทางญาติของภรรยาคิดว่าตนเป็นฆาตกร อย่างไรก็ตามหากตนจะลงมือฆ่า ก็คงฆ่าตั้งแต่ที่ทราบว่าภรรยาไปมีชู้แล้ว ที่ผ่านมาถึงจะเคยมีปากเสียงกันบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ นายนายธีระพงษ์ ถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่นั้น ปรากฏว่าหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตายที่ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบปากคำเช่นกัน ได้เกิดอาการเป็นลมล้มพับ ก่อนจะฟื้นขึ้นร้องไห้ฟูมฟายและพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปว่า "พี่ธีฆ่าหนูทำไม นี่หนูเล็กเอง พี่ธีเขานอนกับหนู เขาบีบคอหนูจับหนู ขึ้นรถเอาศพหนูมาทิ้ง ขอพบพี่ธี หนูจะคุยกับพี่ธี" ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่มาติดต่อราชการ
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงพาตัว นายธีระพงษ์ ออกมาจากห้องสอบสวน เพื่อพบกับหญิงที่เป็นเพื่อนของผู้ตาย ซึ่งหญิงคนดังกล่าวได้โผเข้ากอดและบอกว่า "หนูรักพี่ธีนะ พี่ธีทำหนูทำไม" ทำให้นายธีระพงษ์ถึงกับตกใจหน้าถอดสี พร้อมกับปฏิเสธเสียงสั่นบอกว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายธีระพงษ์ไปสอบสวนต่อ ซึ่งล่าสุดนายธีระพงษ์ได้ยอมเปิดปากรับภาพด้วยความกลัววิญญาณของภรรยาสาว โดยรับว่าเป็นผู้บีบคอภรรยาจนเสียชีวิต เพราะโกรธแค้นเนื่องจากจับได้ว่าแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายบาส โดยก่อนลงมือได้ขอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายที่บ้าน และหลังจากบีบคอผู้ตายแล้ว ก็ได้นำศพใส่เสื้อผ่ามาโยนทิ้งในที่เกิดเหตุเพื่ออำพรางคดี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และตรวจสอบหาหลักฐานที่รถเก๋งของนายธีระพงษ์ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป.