สวัสดีค่ะ เพิ่งไปสัมภาษณ์วีซ่าแบบสามคนพ่อแม่ลูกไปทีเดียวเลย ผ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ ได้สิบปีทั้งสามคนเลย ^^ เลยจะมาเล่าประสบการณ์ให้ท่านอื่นๆที่หาข้อมูลการยื่นเอกสารแบบกลุ่มเหมือนกัน ตอนที่ตัวเองหาข้อมูลเครียดมากเพราะไม่ค่อยมีรายละเอียดเลย จะเน้นเฉพาะส่วนที่พิเศษสำหรับคนที่จะยื่นแบบทั้งครอบครัวสัมภาษณ์พร้อมกันนะคะ
1. การกรอก DS-160
เข้าไปกรอกในเว็บไซต์ตามปกติเลยค่ะ ในคำแนะนำต่างๆจะบอกว่า ท่านสามารถเลือกกรอกวีซ่าของสมาชิกในครอบครัวได้ในหน้า Thank You ... ว่าแต่เจ้าหน้าที่ว่านี่มันอยู่ตรงไหนล่ะ!? คือให้เรากรอกของสมาชิกคนแรกไปจนจบเลยค่ะ ลงชื่อให้เรียบร้อย จะได้หน้า Confirmation มา ระบบจะมีทางเลือกให้สั่งปรินท์ออกมาเลยหรือส่งอีเมลล์หาตัวเอง เลือกวิธีที่ชอบได้เลยค่ะ พอจัดการปรินท์/ส่งอีเมลล์ เรียบร้อยแล้วนั่นแหละค่ะ จะมาถึงหน้า Thank You ที่ว่า จะมีปุ่มให้คลิกประมาณว่า "เริ่มการกรอกแบบฟอร์มใหม่อีกชุด" คลิกเข้าไปก็คือฟอร์ม DS-160 หน้าตาเหมือนอันแรก เพียงแต่ว่าข้อมูลบางช่องอย่างที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์จะถูกกรอกมาให้แล้วค่ะ (ส่วนตัวเราเป็นคนกรอกให้ทั้งครอบครัวก็รู้สึกว่าสะดวกดี แต่ถ้าเกิดว่าบ้านไหนแยกกันกรอกอยู่แล้ว คิดว่าแยกกันตั้งแต่แรกก็สะดวกดีค่ะ จะได้ไม่ต้องมารอกัน)
2. การสร้างโปรไฟล์จองวันสัมภาษณ์
ส่วนนี้เราก็สร้างโปรไฟล์ตามคำแนะนำทั่วๆไปเช่นเดิม พอถึงหน้าที่กรอกที่อยู่สำหรับจัดส่งวีซ่าแล้ว จะมีหน้าใหม่ขึ้นมาพร้อมกับปุ่มว่า "เพิ่มบุตร" อันนี้จำได้แม่นเลยเพราะว่าเรานั่งลังเลอยู่นาน คลิกไปเลยค่ะ จะเพิ่งชื่อคุณพ่อคุณแม่คุณป้าคุณน้าคุณอา ใช้ปุ่มนี้แหละค่ะไม่มีหน้าอื่นให้คลิกเพิ่มแล้ว พอกดแล้วเราก็จะต้องกรอกรายละเอียดเหมือนที่กรอกของผ้สมัครหลักเลย เมื่อเพิ่มสมาชิกครบที่ต้องการก็จะมาเจอกับหน้าค่าธรรมเนียมวีซ่า จะรวมเป็นใบเดียวของสมาชิกทุกคนค่ะ ก็ไปจ่ายตังค์แล้วมาจองวันได้เลย
3. การจองวันสัมภาษณ์
เมื่อเราจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อยได้เลขยืนยันมาแล้ว การจองสัมภาษณ์ก็จองครั้งเดียวค่ะ เลือกวันเวลาที่ต้องการแล้วกดจองได้เลย ระบบจะขึ้นชื่อแยกกันท่านละบรรทัด แต่ว่าอีเมลล์ยืนยันการจองจะมาฉบับเดียวนะคะ ส่งไปที่อีเมลล์ของผู้สมัครหลักค่ะ
4. วันสัมภาษณ์
4.1 เรียกคิวด้านนอกสุด
ให้เตรียมใบ DS-160 Confirmation ของทุกคนออกมาค่ะ ถือรวมกันไว้เลยก็ได้ เจ้าหน้าที่จะเช็คทีเดียวแล้วก็ปล่อยให้ไปต่อคิวฝากของค่ะ
4.2 การฝากของ
อันนี้ขอเตือนไว้นิดนึงว่า Power Bank เจ้าหน้าที่ไม่รับฝากค่ะ ต้องหาที่ฝากเอง ส่วนสายชาร์ต หูฟัง อันนี้ฝากพร้อมมือถือได้ค่ะ
4.3 ตรวจเอกสารด้านนอก
เรายื่นไปพร้อมกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ เจ้าหน้าที่จะแยกเอกสารที่สำคัญออกมาใส่แฟ้มใสแฟ้มละคน ก่อนจะให้ไปจดเลข Tracking สำหรับไปรษณีย์กรณีวีซ่าผ่านค่ะ
> เอกสารที่เราเตรียมไป
- ใบคอนเฟิร์ม DS-160 ของแต่ละคน
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า (ที่มีใบเดียวสำหรับสามคน)
- พาสปอร์ตของแต่ละคน
- พาสปอร์ตเล่มเก่าของคุณพ่อคุณแม่
- รูปของแต่ละคน
- ทะเบียนบ้าน
- ทะเบียนสมรส
- สเตจเมนต์ของคุณพ่อ (เป็นคนออกค่าใช้จ่าย)
- ใบรับรองสำหรับคุณแม่ (แม่บ้าน) และเรา (ยังเรียนอยู่)
- ใบจดทะเบียนบริษัท (คุณพ่อเปิดบริษัทเอง)
- ใบรับรองและทรานสคริปจากมหาวิทยาลัย
- ใบจองตั๋วเครื่องบิน (ซึ่งอันที่จริงเลยวันออกตั๋วไปแล้ว)
- แพลนเที่ยว (แค่ถามทัวร์แล้วปรินท์อีเมลล์ที่ได้มาเฉยๆ)
> เอกสารที่เจ้าหน้าที่จัดใส่แฟ้ม (แล้วก็ใช้แค่นั้นจริงๆ ไม่โดนขอดูเพิ่มเลย)
- ใบคอนเฟิร์ม DS-160 ของแต่ละคน
- พาสปอร์ตของแต่ละคน
- ของเรามีเพิ่มคือใบรับรองจากมหาวิทยาลัย
4.4 สัมภาษณ์ด้านใน
ของเราเจ้าหน้าที่ให้ไปต่อคิวด้านในเลยไม่ต้องต่อข้างหน้าห้องค่ะ ด่านแรกจะเจอเจ้าหน้าที่ชาวไทยเช็คข้อมูล DS-160 ก็เดินไปเลยพร้อมกันสามคนยื่นเอกสารพร้อมกัน เรามีโดนถามเบอร์โทรเพิ่มนิดหน่อยที่ตอนกรอกเว้นว่างไว้ ถามว่าเคยไปอเมริกามั้ยตอบว่าไม่เคยกันหมด คุณพ่อทำงานอะไร ก็ตอบไปว่าเปิดบริษัทเอง แล้วก็ให้พิมพ์ลายนิ้วมือเลยค่ะ จากนั้นก็รอเรียกคิว ไปเข้าช่อง 9 พร้อมกันทั้งหมด เจอเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันผู้หญิง ก็ยื่นเอกสารและแสกนลายนิ้วมืออีกรอบ เสร็จแล้วก็กลับไปนั่งรอคิวใหม่ คราวนี้เรียกไปช่อง 12 เจอเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันผู้ชายค่ะ ทั้งสามคนไปสัมภาษณ์พร้อมกัน
*ภาษาไทยล้วนๆเลยค่ะ*
เรา : สวัสดีค่ะ
เจ้าหน้าที่ : กี่คนครับ
เรา : สามคนค่ะ
เจ้าหน้าที่ : เคยไปต่างประเทศมั้ยครับ
เรา : เคยค่ะ เรากับคุณแม่ไปแค่สิงคโปร์ ส่วนคุณพ่อ...
คุณพ่อ : ไปสิงคโปร์ ไต้หวันครับ
เจ้าหน้าที่ : เคยไปอเมริกามั้ยครับ
ทุกคน : ไม่เคยค่ะ
เจ้าหน้าที่ : มีคนรู้จักที่อเมริกามั้ยครับ
เรา : ไม่มีค่ะ แหะแหะ
เจ้าหน้าที่ : จะไปไหนครับ
เรา : ไปนิวยอร์คค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ไปทำอะไรครับ
เรา : ไปเที่ยวค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ไปทัวร์เหรอครับ
เรา : ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเอง แล้วจะไปซื้อทัวร์ท้องถิ่นที่โน่นค่ะ
เจ้าหน้าที่ : คุณ xxx เรียนที่ไหนครับ
เรา : ที่ yyy ค่ะ
เจ้าหน้าที่ : โอเคครับ เดี๋ยวเราจะส่งวีซ่าให้คุณ
แล้วเราก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่แล้วเดินออกมาเลยค่ะ แค่นี้เองจริงๆ ไม่ต้องซื้อซองอะไรแล้วนะคะ ไปรับของที่ฝากไว้แล้วก็กลับบ้านได้เลย
ก่อนหน้านี้กังวลมาก เคสสัมภาษณ์เป็นครอบครัวที่มีคนมาแชร์ในอินเตอร์เน็ตมีแต่บอกว่าไม่ผ่าน เลยเตรียมเอกสารเครียดมากจนที่บ้านดุว่าถ้ามันวุ่นวายขนาดนี้ก็ไม่ต้องไปแล้ว 5555 สัมภาษณ์จริงๆแปบเดียวเองค่ะ โล่งใจมาก ใครกำลังจะขอวีซ่าสู้ๆนะคะ ^^
เล่าประสบการณ์ ยื่นเอกสารขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาแบบสัมภาณ์พร้อมกันพ่อแม่ลูก
1. การกรอก DS-160
เข้าไปกรอกในเว็บไซต์ตามปกติเลยค่ะ ในคำแนะนำต่างๆจะบอกว่า ท่านสามารถเลือกกรอกวีซ่าของสมาชิกในครอบครัวได้ในหน้า Thank You ... ว่าแต่เจ้าหน้าที่ว่านี่มันอยู่ตรงไหนล่ะ!? คือให้เรากรอกของสมาชิกคนแรกไปจนจบเลยค่ะ ลงชื่อให้เรียบร้อย จะได้หน้า Confirmation มา ระบบจะมีทางเลือกให้สั่งปรินท์ออกมาเลยหรือส่งอีเมลล์หาตัวเอง เลือกวิธีที่ชอบได้เลยค่ะ พอจัดการปรินท์/ส่งอีเมลล์ เรียบร้อยแล้วนั่นแหละค่ะ จะมาถึงหน้า Thank You ที่ว่า จะมีปุ่มให้คลิกประมาณว่า "เริ่มการกรอกแบบฟอร์มใหม่อีกชุด" คลิกเข้าไปก็คือฟอร์ม DS-160 หน้าตาเหมือนอันแรก เพียงแต่ว่าข้อมูลบางช่องอย่างที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์จะถูกกรอกมาให้แล้วค่ะ (ส่วนตัวเราเป็นคนกรอกให้ทั้งครอบครัวก็รู้สึกว่าสะดวกดี แต่ถ้าเกิดว่าบ้านไหนแยกกันกรอกอยู่แล้ว คิดว่าแยกกันตั้งแต่แรกก็สะดวกดีค่ะ จะได้ไม่ต้องมารอกัน)
2. การสร้างโปรไฟล์จองวันสัมภาษณ์
ส่วนนี้เราก็สร้างโปรไฟล์ตามคำแนะนำทั่วๆไปเช่นเดิม พอถึงหน้าที่กรอกที่อยู่สำหรับจัดส่งวีซ่าแล้ว จะมีหน้าใหม่ขึ้นมาพร้อมกับปุ่มว่า "เพิ่มบุตร" อันนี้จำได้แม่นเลยเพราะว่าเรานั่งลังเลอยู่นาน คลิกไปเลยค่ะ จะเพิ่งชื่อคุณพ่อคุณแม่คุณป้าคุณน้าคุณอา ใช้ปุ่มนี้แหละค่ะไม่มีหน้าอื่นให้คลิกเพิ่มแล้ว พอกดแล้วเราก็จะต้องกรอกรายละเอียดเหมือนที่กรอกของผ้สมัครหลักเลย เมื่อเพิ่มสมาชิกครบที่ต้องการก็จะมาเจอกับหน้าค่าธรรมเนียมวีซ่า จะรวมเป็นใบเดียวของสมาชิกทุกคนค่ะ ก็ไปจ่ายตังค์แล้วมาจองวันได้เลย
3. การจองวันสัมภาษณ์
เมื่อเราจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อยได้เลขยืนยันมาแล้ว การจองสัมภาษณ์ก็จองครั้งเดียวค่ะ เลือกวันเวลาที่ต้องการแล้วกดจองได้เลย ระบบจะขึ้นชื่อแยกกันท่านละบรรทัด แต่ว่าอีเมลล์ยืนยันการจองจะมาฉบับเดียวนะคะ ส่งไปที่อีเมลล์ของผู้สมัครหลักค่ะ
4. วันสัมภาษณ์
4.1 เรียกคิวด้านนอกสุด
ให้เตรียมใบ DS-160 Confirmation ของทุกคนออกมาค่ะ ถือรวมกันไว้เลยก็ได้ เจ้าหน้าที่จะเช็คทีเดียวแล้วก็ปล่อยให้ไปต่อคิวฝากของค่ะ
4.2 การฝากของ
อันนี้ขอเตือนไว้นิดนึงว่า Power Bank เจ้าหน้าที่ไม่รับฝากค่ะ ต้องหาที่ฝากเอง ส่วนสายชาร์ต หูฟัง อันนี้ฝากพร้อมมือถือได้ค่ะ
4.3 ตรวจเอกสารด้านนอก
เรายื่นไปพร้อมกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ เจ้าหน้าที่จะแยกเอกสารที่สำคัญออกมาใส่แฟ้มใสแฟ้มละคน ก่อนจะให้ไปจดเลข Tracking สำหรับไปรษณีย์กรณีวีซ่าผ่านค่ะ
> เอกสารที่เราเตรียมไป
- ใบคอนเฟิร์ม DS-160 ของแต่ละคน
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า (ที่มีใบเดียวสำหรับสามคน)
- พาสปอร์ตของแต่ละคน
- พาสปอร์ตเล่มเก่าของคุณพ่อคุณแม่
- รูปของแต่ละคน
- ทะเบียนบ้าน
- ทะเบียนสมรส
- สเตจเมนต์ของคุณพ่อ (เป็นคนออกค่าใช้จ่าย)
- ใบรับรองสำหรับคุณแม่ (แม่บ้าน) และเรา (ยังเรียนอยู่)
- ใบจดทะเบียนบริษัท (คุณพ่อเปิดบริษัทเอง)
- ใบรับรองและทรานสคริปจากมหาวิทยาลัย
- ใบจองตั๋วเครื่องบิน (ซึ่งอันที่จริงเลยวันออกตั๋วไปแล้ว)
- แพลนเที่ยว (แค่ถามทัวร์แล้วปรินท์อีเมลล์ที่ได้มาเฉยๆ)
> เอกสารที่เจ้าหน้าที่จัดใส่แฟ้ม (แล้วก็ใช้แค่นั้นจริงๆ ไม่โดนขอดูเพิ่มเลย)
- ใบคอนเฟิร์ม DS-160 ของแต่ละคน
- พาสปอร์ตของแต่ละคน
- ของเรามีเพิ่มคือใบรับรองจากมหาวิทยาลัย
4.4 สัมภาษณ์ด้านใน
ของเราเจ้าหน้าที่ให้ไปต่อคิวด้านในเลยไม่ต้องต่อข้างหน้าห้องค่ะ ด่านแรกจะเจอเจ้าหน้าที่ชาวไทยเช็คข้อมูล DS-160 ก็เดินไปเลยพร้อมกันสามคนยื่นเอกสารพร้อมกัน เรามีโดนถามเบอร์โทรเพิ่มนิดหน่อยที่ตอนกรอกเว้นว่างไว้ ถามว่าเคยไปอเมริกามั้ยตอบว่าไม่เคยกันหมด คุณพ่อทำงานอะไร ก็ตอบไปว่าเปิดบริษัทเอง แล้วก็ให้พิมพ์ลายนิ้วมือเลยค่ะ จากนั้นก็รอเรียกคิว ไปเข้าช่อง 9 พร้อมกันทั้งหมด เจอเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันผู้หญิง ก็ยื่นเอกสารและแสกนลายนิ้วมืออีกรอบ เสร็จแล้วก็กลับไปนั่งรอคิวใหม่ คราวนี้เรียกไปช่อง 12 เจอเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันผู้ชายค่ะ ทั้งสามคนไปสัมภาษณ์พร้อมกัน
*ภาษาไทยล้วนๆเลยค่ะ*
เรา : สวัสดีค่ะ
เจ้าหน้าที่ : กี่คนครับ
เรา : สามคนค่ะ
เจ้าหน้าที่ : เคยไปต่างประเทศมั้ยครับ
เรา : เคยค่ะ เรากับคุณแม่ไปแค่สิงคโปร์ ส่วนคุณพ่อ...
คุณพ่อ : ไปสิงคโปร์ ไต้หวันครับ
เจ้าหน้าที่ : เคยไปอเมริกามั้ยครับ
ทุกคน : ไม่เคยค่ะ
เจ้าหน้าที่ : มีคนรู้จักที่อเมริกามั้ยครับ
เรา : ไม่มีค่ะ แหะแหะ
เจ้าหน้าที่ : จะไปไหนครับ
เรา : ไปนิวยอร์คค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ไปทำอะไรครับ
เรา : ไปเที่ยวค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ไปทัวร์เหรอครับ
เรา : ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเอง แล้วจะไปซื้อทัวร์ท้องถิ่นที่โน่นค่ะ
เจ้าหน้าที่ : คุณ xxx เรียนที่ไหนครับ
เรา : ที่ yyy ค่ะ
เจ้าหน้าที่ : โอเคครับ เดี๋ยวเราจะส่งวีซ่าให้คุณ
แล้วเราก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่แล้วเดินออกมาเลยค่ะ แค่นี้เองจริงๆ ไม่ต้องซื้อซองอะไรแล้วนะคะ ไปรับของที่ฝากไว้แล้วก็กลับบ้านได้เลย
ก่อนหน้านี้กังวลมาก เคสสัมภาษณ์เป็นครอบครัวที่มีคนมาแชร์ในอินเตอร์เน็ตมีแต่บอกว่าไม่ผ่าน เลยเตรียมเอกสารเครียดมากจนที่บ้านดุว่าถ้ามันวุ่นวายขนาดนี้ก็ไม่ต้องไปแล้ว 5555 สัมภาษณ์จริงๆแปบเดียวเองค่ะ โล่งใจมาก ใครกำลังจะขอวีซ่าสู้ๆนะคะ ^^