ส่วนตัวผมเห็นข้อดีเพียงแค่สองอย่างจากมันจริงๆคือ
1.) เป็นเครื่องมือที่เอาไว้เพื่อรับรู้ว่าสังคมรอบข้างว่าคิดอย่างไรกับเรา มีคนไม่ชอบเรามากแค่ไหน แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าใคร ซึ่งมันก็เป็นการย้ำเตือนให้เราระวังตัวเองในระดับนึง
2.) เอาไว้แกล้งเพื่อนหนุกๆ เป็นเครื่องมือคลายเครียด หรือเอาไว้ด่าคนที่เราเกลียด

ส่วนข้อเสีย อ่ะหรอเพียบ!!!
ขอแนะนำใครขี้หงุดหงิด จิตอ่อน วีนง่ายอย่าไปเล่นเลยครับ มันจะทำให้เสียสุขภาพจิตซะเปล่าๆ เสียเวลาด้วยเล่นละติดมากกก แกล้งคนอื่นมั่ง คนอื่นมาแกล้งมั่ง ส่วนใครชิลๆไอด้อลแคร์ก็เล่นไปเถอะ ถ้าไม่กลัวติดลมจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้วล่ะก็นะ นั่นแหละอย่างที่บอกข้อแรกมันเสียเวลามากกกกกะไอแอปหัวโปกนี่ เสียเวลามานั่งอ่าน เสียเวลามานั่งตอบคำถามไร้สาระ แรกๆมันก็หนุกอ่ะขำๆดีแต่เล่นไปนานๆจะรู้สึกว่า เพื่ออะไรวะ อีกอย่างเราว่ามันเป็นจุดที่ริเริ่มของสังคมที่เสื่อมโทรม ใครจะถามอะไรก็ได้ ใครๆก็กล้าใช้คำถามที่หยาบโลน เกี่ยวโยงไปเรื่องเพศแบบหยาบคายเกินเลยจากนมข้นหวานไปมากเพราะมันไม่ระบุตัวตนไงใครๆก็กล้า อีกอย่างพอเจอคำถามในแง่ลบก็จะต้องมานั่งคิดว่าใคร ระแวงคนรอบตัวอีก แกล้งกันฮาๆก็เยอะครับผู้ชายชอบเล่นกันแรงๆอยู่แล้ว แต่ที่ห่วงคือ ผญ เนี่ยแหละ เพราะเป็นเพศที่ค่อนข้างอ่อนไหวในอารมณ์ ถ้าเจออะไรที่แรงๆอาจจะรับแดมเมจไม่ไหวสุขภาพจิตเสีย วัยรุ่นฝรั่งบานปลายเป็นเหตุการฆ่าตัวตาย (อย่าคิดว่าในไทยไม่มีนะครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เดี๋ยวนี้เด็กอนุบาลแม่ซื้อไอโฟนให้ใช้แล้ว สกิลการใช้งานสูงกว่าแม่ๆพ่อๆซะอีก ตามไม่ทันเด็กหรอกครับ) และช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดที่มันแฝงมากับโซเชียลตัวนี้ก็คือ มันเป็นช่องทางที่จะให้ฝ่ายที่ว่าร้ายไม่ชอบเรามาโจมตีเราได้ บางเรื่องที่แทงใจดำเวลาโดนถามก็เจ็บจี๊ดดดครับ บางคำถามก็ถามแบบหาเรื่อง มิวายวนเข้าเรื่องเพศและผัวๆเมียๆ แต่ก็อีกแหละครับ คนเรามันชอบแนวนี้นินาถึงจะสนุกและดึงดูดใจ บางคำถามมันก็หงุดหงิด แต่ก็ยังจะมานั่งตอบ แล้วก็มานั่งหงุดหงิดเอง นั่งวิเคราะห์พิจารณาว่าใครวะถามคำถามนี้ ง่ายกว่านั้นมั้ยครับถ้าไม่เล่นตามกระแสเค้าไปเรื่อยไม่เปิดช่องทางให้ผู้อื่นโจมตี สุขภาพจิตไม่เสีย มีเวลาเพิ่มขึ้นอีกเยอะ และอีกช่องโหว่ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการปลอมแปลงตัวบุคคล อันนี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากนะครับ เพราะสามารถใช้ทำลายชื่อเสียงได้ง่ายๆเลย บวกกับสังคมอินเตอร์เน็ตสมัยนี้ผู้ใช้งานกรองข่าวสารได้ห่วยครับ แค่อ่านก็เชื่อแล้ว ที่สำคัญอ่านเชื่อแล้วไม่ต่อ ไม่อัพเดท คนเสียหายโดนแดมเมจเต็มๆครับกู้ชื่อเสียงคืนก็ยากแล้ว

ปล.อันนี้วิเคราะห์จากคนรอบๆตัวนะครับ
ปล2.ผมเองก็เล่นนะ เพราะผมเป็นไอด้อลแคร์ ติดซะด้วยดิ นั่งอ่านคนอื่นด่ากันดราม่ามันจะตาย 55+ แต่คนข้างๆผมบอกว่า "เธอเล่นอีกแล้วนะ เล่นแต่มือถืออยู่ได้ ว่าแต่เค้า" พร้อมกับทำหน้ามุ่ยไป ผมเลยสำนึกผิดไม่เล่นก็ได้ อีกอย่างเสียวๆว่าจะมีคำถามแปลกๆมาอ่ะครับ เดี๋ยวงานจะงอก 55+
ปล3.ก็ได้แต่หวังว่ากระแสโซเชียลตัวนี้มันจะหายไปในเร็ววันไม่งั้นได้เจอดราม่ากันวันต่อวันแน่นอนครับ

ใครเห็นต่าง หรือเห็นข้อดีข้อเสียมากกว่านี้เชิญอภิปรายอย่างเสรีและกว้างขวางเลยครับ
ขอแท็กชานเรือนเพราะผมคิดว่าพ่อแม่ควรได้รับอีกแง่มุมนึงก่อนให้อิสระทางอินเตอร์เน็ตกับเด็กนะครับ อย่าลืมว่าเด็กยังไงก็เด็กครับ วุฒิภาวะยังไม่มี ถ้าเรื่องปิดกั้นการศึกษามันมีแนวทางอื่นอีกเยอะครับ พ่อแม่และครูต้องรู้จักวิธีการป้องกันและควบคุมครับ เอาง่ายๆแค่ลองเปิด google แล้วหาคำว่า "สวิง" สิครับ แล้วคุณก็พิจารณาเองว่าจะมอบดาบสองคมที่เรียกว่าอินเตอร์เน็ตนี้กับลูกๆคุณเมื่อใดกัน (เด็กๆอยู่มันยังยกดาบไม่ขึ้นครับ จะทิ่มตัวเองตายเอา เชื่อผมๆ)