กสท.เตือน อสมท ห้ามนำช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศดิจิตอล
สำนักข่าวไทย 28 เม.ย. 2557 15:25
กรุงเทพฯ 28 เม.ย.-บอร์ด กสท .อนุมัติให้ อสมท ออกอากาศคู่ขนาน พร้อมกับแจ้งให้ปรับปรุงการให้บริการโครงข่าย กรณีให้ช่อง 3 ระบบอนาล็อกออกอากาศบนโครงข่ายดิจิตอล พร้อมแจกใบอนุญาตให้ไทยพีบีเอส ยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกทุกคู่
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสท.อนุมัติให้บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ออกอากาศคู่ขนาน โดยนำผังรายการต่าง ๆที่ ออกทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ มาออกอากาศทางช่อง MCOT HD หมายเลขช่อง 30ได้ และให้ไปจัดทำบัญชีรายได้รายจ่ายให้ถูกต้องในการชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกันสำหรับใบอนุญาตทั้ง 2 แบบคือ ใบอนุญาตผู้ประกอบการรายเดิมตามสิทธิ์ที่จะออกอากาศในระบบอนาล็อกอีก 5 ปี และใบอนุญาตผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลระยะเวลา 15 ปี
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ทำหนังสือแจ้งไปยัง อสมท ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล และคู่สัญญาสัมปทานกับบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและกฎระเบียบของการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลอย่างเคร่งครัด โดยไม่สามารถนำช่อง 3ที่เป็นระบบเดิมอนาล็อกมาออกอากาศในโครงข่ายทีวีดิจิตอลได้
ทั้งนี้การรับชมทีวีดิจิตอล โดยกล่องรับสัญญาณ(เซ็ท ท็อป บ๊อกซ์) หรือกล่องดิจิตอล จะมีช่องทั้งหมด 36 ช่อง โดย 1-12 ช่องทีวีสาธารณะ และช่อง 13-36 ช่องทีวีธุรกิจ ที่กำลังออกอากาศในขณะนี้ ส่วนช่องที่ออกอากาศคู่ขนาน คือ ช่อง 5 , 7, 11 และหากประชาชนจะรับชมช่อง 3 ระบบะอนาล็อกเดิมต้องรับชมผ่านเสาอากาศ ก้างปลา ส่วนรับชมผ่านกล่องดิจิตอล ทีวีดาวเทียม จะต้องได้รับชม 36 ช่อง และช่องที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. เท่านั้น
“ขณะนี้เป็นช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านทีวีระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอล อาจมีปัญหาด้านเทคนิค ซึ่งต้องให้เวลาและแก้ไขปัญหากันไป และ กสท. ก็คงจะยังไม่แจ้งเตือนว่าใครทำผิดกฎ แต่จะแจ้งให้ทราบเพื่อไปปรับปรุงให้ถูกต้องก่อน ซึ่งมีระยะเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันเริ่มออกอากาศทีวีดิจิตอล ซึ่งฝ่ายกฎหมายกำลังตีความว่าจะเริ่มนับตั้งแต่วันไหน แต่หากไม่ดำเนินการให้ถูกต้องก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย”
พ.อ.นที กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลช่องสาธารณะ ในฐานะผู้ประกอบการรายเดิมให้กับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ มีอายุ 1 ปี และตามแผนการยุติอาอากาศระบบอนาล็อกของไทยพีบีเอสเอง
และในวันนี้ (29 เม.ย.) กสทช.ไปยื่นอุทธณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณี บริษัท อาร์เอสอินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2014 ฟ้อง กสทช.ให้ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือกฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) เนื่องจากอาร์เอสไม่สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้ทั้ง 64 คู่ แต่ถ่ายทอดสดได้ 22 คู่เท่านั้น ซึ่งศาลปกครองกลาง ได้ตัดสินว่า ประกาศดังกล่าว ไม่สามารถบังคับใช้กับอาร์เอสได้ เนื่องจากการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกเกิดขึ้นก่อนจะมีประกาศฉบับดังกล่าว ดังนั้น จึงไม่สามารถย้อนหลังได้ แต่ กสทช. ยืนยันว่า เพื่อรักษาสิทธิ์คนไทยให้รับชมการถ่ายทอดฟุตบอลโลก จึงต้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป. -สำนักข่าวไทย
กสท.เตือน อสมท ห้ามนำช่อง 3 แอนะล็อกออกอากาศในโครงข่ายดิจิทัล
สำนักข่าวไทย 28 เม.ย. 2557 15:25
กรุงเทพฯ 28 เม.ย.-บอร์ด กสท .อนุมัติให้ อสมท ออกอากาศคู่ขนาน พร้อมกับแจ้งให้ปรับปรุงการให้บริการโครงข่าย กรณีให้ช่อง 3 ระบบอนาล็อกออกอากาศบนโครงข่ายดิจิตอล พร้อมแจกใบอนุญาตให้ไทยพีบีเอส ยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกทุกคู่
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสท.อนุมัติให้บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ออกอากาศคู่ขนาน โดยนำผังรายการต่าง ๆที่ ออกทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ มาออกอากาศทางช่อง MCOT HD หมายเลขช่อง 30ได้ และให้ไปจัดทำบัญชีรายได้รายจ่ายให้ถูกต้องในการชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกันสำหรับใบอนุญาตทั้ง 2 แบบคือ ใบอนุญาตผู้ประกอบการรายเดิมตามสิทธิ์ที่จะออกอากาศในระบบอนาล็อกอีก 5 ปี และใบอนุญาตผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลระยะเวลา 15 ปี
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ทำหนังสือแจ้งไปยัง อสมท ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล และคู่สัญญาสัมปทานกับบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและกฎระเบียบของการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลอย่างเคร่งครัด โดยไม่สามารถนำช่อง 3ที่เป็นระบบเดิมอนาล็อกมาออกอากาศในโครงข่ายทีวีดิจิตอลได้
ทั้งนี้การรับชมทีวีดิจิตอล โดยกล่องรับสัญญาณ(เซ็ท ท็อป บ๊อกซ์) หรือกล่องดิจิตอล จะมีช่องทั้งหมด 36 ช่อง โดย 1-12 ช่องทีวีสาธารณะ และช่อง 13-36 ช่องทีวีธุรกิจ ที่กำลังออกอากาศในขณะนี้ ส่วนช่องที่ออกอากาศคู่ขนาน คือ ช่อง 5 , 7, 11 และหากประชาชนจะรับชมช่อง 3 ระบบะอนาล็อกเดิมต้องรับชมผ่านเสาอากาศ ก้างปลา ส่วนรับชมผ่านกล่องดิจิตอล ทีวีดาวเทียม จะต้องได้รับชม 36 ช่อง และช่องที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. เท่านั้น
“ขณะนี้เป็นช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านทีวีระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอล อาจมีปัญหาด้านเทคนิค ซึ่งต้องให้เวลาและแก้ไขปัญหากันไป และ กสท. ก็คงจะยังไม่แจ้งเตือนว่าใครทำผิดกฎ แต่จะแจ้งให้ทราบเพื่อไปปรับปรุงให้ถูกต้องก่อน ซึ่งมีระยะเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันเริ่มออกอากาศทีวีดิจิตอล ซึ่งฝ่ายกฎหมายกำลังตีความว่าจะเริ่มนับตั้งแต่วันไหน แต่หากไม่ดำเนินการให้ถูกต้องก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย”
พ.อ.นที กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลช่องสาธารณะ ในฐานะผู้ประกอบการรายเดิมให้กับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ มีอายุ 1 ปี และตามแผนการยุติอาอากาศระบบอนาล็อกของไทยพีบีเอสเอง
และในวันนี้ (29 เม.ย.) กสทช.ไปยื่นอุทธณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณี บริษัท อาร์เอสอินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2014 ฟ้อง กสทช.ให้ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือกฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) เนื่องจากอาร์เอสไม่สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้ทั้ง 64 คู่ แต่ถ่ายทอดสดได้ 22 คู่เท่านั้น ซึ่งศาลปกครองกลาง ได้ตัดสินว่า ประกาศดังกล่าว ไม่สามารถบังคับใช้กับอาร์เอสได้ เนื่องจากการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกเกิดขึ้นก่อนจะมีประกาศฉบับดังกล่าว ดังนั้น จึงไม่สามารถย้อนหลังได้ แต่ กสทช. ยืนยันว่า เพื่อรักษาสิทธิ์คนไทยให้รับชมการถ่ายทอดฟุตบอลโลก จึงต้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป. -สำนักข่าวไทย