//จั่วหัวเรียกแขกมากๆค่ะ ไม่ค่ะ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย วันนี้เรามาโหมดซึ้งนะจ๊ะ
//จบไปแล้วกับเกมที่ชี้ชะตา "ศักดิ์ศรีแชมป์" เกมที่ฟาดฟันอย่างสวยงามของ "แนวรุกที่ร้อนแรงที่สุด" และ "แนวรับที่มั่นคงที่สุด"
ซึ่งผลของเกมนี้ "ทีมที่ดีกว่าเป็นผู้ชนะ" (อ้างอิง ช. มูริญโญ่ 2014) แม้ว่า ป. เรน่า (2014) และ พ. มอร์แกน (2014) จะแย้งว่าฤดูกาลนี้ยังมีสิทธิ์ที่จะเป็นฤดูกาลของลิเวอร์พูลก็ตาม
ส่วนตัวแล้วเราว่ามันเป็นเกมที่สวยงามมาก ของ "แนวคิดทางฟุตบอล" 2 ฝ่าย ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบ เกมรับ แต่คุณก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เชลซีของมูริญโญ่ ทำ death by defensive football ได้อย่างยอดเยี่ยม และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด (ไม่งั้น FA คงไม่ให้นะจ๊ะ) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตรูไม่ใช่แฟนเชลซี ตรูก็คงไม่รู้จะไปคอมเมนต์อะไรทีมเค้าอ่ะค่ะ .... มาพูดถึงทีมตัวเองดีกว่า
เกมนี้ลิเวอร์พูล "ผิดพลาด" อย่างมหันต์ "ถูกลงโทษ" อย่างร้ายแรง แต่ถ้าถามว่า เราจะชวดแชมป์เพราะนัดนี้รึเปล่า ส่วนตัวเรา เราคงตอบว่าไม่ เพราะมันมีลูกอื่น (ในบรรดา 46 ลูกที่เสียไป) ที่พลาดได้อย่าง "ไม่น่าให้อภัย" กว่า 2 ลูกในค่ำคืนนี้ ประมาณ 122 ไมล์ทะเล
เรา "ชอบมาก" กับเกมนี้ และคิดว่านี่คือ แมทช์ที่แสดงพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของทีมประจำฤดูกาลได้เลย (เป็นเกมที่แพ้ 2-0 แล้วก็ขับรถฮัมเพลงกลับบ้านได้อยู่) แม้ว่าผลมันจะ "แย่มาก" และ ให้อารมณ์สิ้นหวังสุดๆก็ตาม
เหตุผลที่เราชอบเกมนี้ เพราะเกมนี้ คือสิ่งที่แสดงถึง "จิตวิญญาณของผู้ชนะ" ทีทีมของเราไม่เคยเปล่งประกายได้ขนาดนี้
ในการแข่งขันกีฬาระดับสุดยอด ทุกทีมมีดี ทุกทีมซ้อมหนัก แต่ "แชมป์เปี้ยน" คือคนที่ "อยากชนะ" ที่สุด คือคนที่ "พร้อมจะเดิมพันทุกสิ่งอย่าง" กับ "โอกาสคว้าชัยอันน้อยนิด" แน่นอนว่าการดาหน้าเข้าไปเจาะประตูเชลซี มีความเสี่ยงที่จะโดนสวนกลับอยู่แล้ว แต่คุณจะเจาะอย่างครึ่งๆกลางๆ เพื่อไม่ให้โดนสวน หรือว่าเดินหน้าฆ่ามันเท่าที่จะทำได้ เพื่อ "โอกาสอันน้อยนิด" นั้นล่ะ? นึกอย่าง เชลซี vs บาเยิร์น ,, เชลซีแค่ขอ "โอกาสอันน้อยนิด" ในการเล่นเกมสวน แล้วอดทนทำตามปรัชญาของตัวเองในการต้านทานพายุเกมบุกของบาเยิร์น ... นั่นแหละ
เราได้เห็นการเปลี่ยนตัวได้แซ่บไม่แพ้น้ากิ๊กซ์ ... คือดาหน้าเอาแนวรุกลง มุดเข้าเขตโทษไม่ได้ก็ทำชิ่ง ทำชิ่งไม่ได้ก็ส่องไกล ส่องไกลไม่ก็พยายามดึงตัวประกบออกสร้างช่องเอง เห้ยยยยย ลิเวอร์พูลที่บุกแบบมีแบบแผน มี plan A plan B plan C ที่ประสิทธิภาพค่อนข้างโอเค (คือยังไม่ดีมาก แต่เราว่าอยู่ในค่าเฉลี่ยของทีมที่ได้เล่นบอลยุโรปเลยนะ)
โอเค เกมนี้เราโดนลงโทษ ... เกมที่แล้วกับเชลซีเราก็โดนลงโทษ ... แต่จากเกมนั้นมาเกมนี้ เราโชว์พัฒนาการได้เยอะมากเลยใช่ไหมล่ะ
หลายๆ เกม (โดยเฉพาะนอริช) ลิเวอร์พูลนำ แล้วก็เจือก เคาะไปเคาะมา เสียสุนัขไปหลายเกม ก็เพราะเริ่มเล่นบอลหวังผล ซึ่งมันไม่ใช่คาแรคเตอร์ของทีมเรา เราไม่ใช่ทีมที่มีจุดเด่นด้านบอลคอนโทรล ... เราหวังว่านัดนี้ จะทำให้เรามีปรัชญาฟุตบอลที่ "ลึกซึ้ง" ยิ่งขึ้น และ เชื่อมั่น ถึงขั้น "ลุ่มหลง" ในตัวตนของเรา
เกมอื่นๆที่เริ่มทำตัว "ครึ่งหลังสไตล์" บอกเลยว่ามีบางทีที่ปิดทีวีไปเหมือนกัน แต่เกมในวันนี้ แม้จะถึงนาทีที่ 92.53 เราก็ยัง "มีความเชื่อมั่น" ขนาดแฟนบอลที่อยู่ไกลโพ้น และกลัวแทนทีมมาตลอดยังเริ่มมีความเชื่อมั่น นักเตะของเราก็คงได้เรียนรู้เพิ่มอีกเยอะมากจากเกมนี้เช่นกัน
ดีแล้วที่เจอโจทย์ยากๆ และสอบตกตอนนี้ เพราะการกลับไปเล่น UCL ในโถที่ 3 ... มันเป็นงานยากกว่านี้มากมายนัก
ณ วันนี้ เรามาไกลกว่าที่ฝัน ,, และเราจะก้าวไปแม้ความฝันครั้งใหม่จะถูกท้าทายและเหยียบย่ำ
...though your dreams be tossed and blown... YNWA ไม่เคยมีอะไรได้มาง่ายๆสำหรับลิเวอร์พูล และสิ่งที่ได้มาง่าย มันคงไม่มีความหมายเท่าสิ่งที่ไขว่คว้ามาเลือดตาแทบกระเด็นค่ะ
ป.ล.เพลงที่ฮัมตอนขับรถกลับบ้านคือ "ห่างกันเพียงเอื้อมมือ แต่มันก็แสนไกล ยิ่งเป็นเหมือนถ้วยพรีเมียร์ลีก ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะคว้าไว้" 555+
หมายเหตุ อันนี้เข้าโหมดดาร์ก จากความรู้สึกที่ดูบอลที่อสมท.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เวลาคนเราไปดูบอลข้างนอก ,, อย่างน้อยๆก็ควรรักษามารยาทไว้ ไม่ใช่เป็นการให้เกียรติคนอื่น แต่เพื่อเป็นการให้เกียรติตัวเอง
การสบถถ้อยคำหยาบคาย และการแสดงทัศนคติดูหมิ่น ไม่ได้ทำให้คุณเท่ขึ้น
แต่อาจจะทำให้คุณเสี่ยงโดนตรีนชาวบ้านตอนออกจากงานได้
ทั้งนี้ การดื่มเครื่องดื่ม ของมึนเมา หากไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่เค้าจัดไว้ มันดูไม่รู้กาละเทศะ และดูหยำเปมาก
ไม่ว่าจะกระดก ช้าง สิงห์ ไฮเนเก้น โฮการ์เด้น แพล๊ตตินั่ม เลเบิ้ล หรือ Bin 389 ก็ตาม
เพื่อนกัน ถ้าไปด้วยกัน ห้ามปรามกันบ้างเถอะค่ะ
คืนนี้แฟนบอลจะร้องไห้กันไหมค๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
//จบไปแล้วกับเกมที่ชี้ชะตา "ศักดิ์ศรีแชมป์" เกมที่ฟาดฟันอย่างสวยงามของ "แนวรุกที่ร้อนแรงที่สุด" และ "แนวรับที่มั่นคงที่สุด"
ซึ่งผลของเกมนี้ "ทีมที่ดีกว่าเป็นผู้ชนะ" (อ้างอิง ช. มูริญโญ่ 2014) แม้ว่า ป. เรน่า (2014) และ พ. มอร์แกน (2014) จะแย้งว่าฤดูกาลนี้ยังมีสิทธิ์ที่จะเป็นฤดูกาลของลิเวอร์พูลก็ตาม
ส่วนตัวแล้วเราว่ามันเป็นเกมที่สวยงามมาก ของ "แนวคิดทางฟุตบอล" 2 ฝ่าย ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบ เกมรับ แต่คุณก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เชลซีของมูริญโญ่ ทำ death by defensive football ได้อย่างยอดเยี่ยม และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด (ไม่งั้น FA คงไม่ให้นะจ๊ะ) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตรูไม่ใช่แฟนเชลซี ตรูก็คงไม่รู้จะไปคอมเมนต์อะไรทีมเค้าอ่ะค่ะ .... มาพูดถึงทีมตัวเองดีกว่า
เกมนี้ลิเวอร์พูล "ผิดพลาด" อย่างมหันต์ "ถูกลงโทษ" อย่างร้ายแรง แต่ถ้าถามว่า เราจะชวดแชมป์เพราะนัดนี้รึเปล่า ส่วนตัวเรา เราคงตอบว่าไม่ เพราะมันมีลูกอื่น (ในบรรดา 46 ลูกที่เสียไป) ที่พลาดได้อย่าง "ไม่น่าให้อภัย" กว่า 2 ลูกในค่ำคืนนี้ ประมาณ 122 ไมล์ทะเล
เรา "ชอบมาก" กับเกมนี้ และคิดว่านี่คือ แมทช์ที่แสดงพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของทีมประจำฤดูกาลได้เลย (เป็นเกมที่แพ้ 2-0 แล้วก็ขับรถฮัมเพลงกลับบ้านได้อยู่) แม้ว่าผลมันจะ "แย่มาก" และ ให้อารมณ์สิ้นหวังสุดๆก็ตาม
เหตุผลที่เราชอบเกมนี้ เพราะเกมนี้ คือสิ่งที่แสดงถึง "จิตวิญญาณของผู้ชนะ" ทีทีมของเราไม่เคยเปล่งประกายได้ขนาดนี้
ในการแข่งขันกีฬาระดับสุดยอด ทุกทีมมีดี ทุกทีมซ้อมหนัก แต่ "แชมป์เปี้ยน" คือคนที่ "อยากชนะ" ที่สุด คือคนที่ "พร้อมจะเดิมพันทุกสิ่งอย่าง" กับ "โอกาสคว้าชัยอันน้อยนิด" แน่นอนว่าการดาหน้าเข้าไปเจาะประตูเชลซี มีความเสี่ยงที่จะโดนสวนกลับอยู่แล้ว แต่คุณจะเจาะอย่างครึ่งๆกลางๆ เพื่อไม่ให้โดนสวน หรือว่าเดินหน้าฆ่ามันเท่าที่จะทำได้ เพื่อ "โอกาสอันน้อยนิด" นั้นล่ะ? นึกอย่าง เชลซี vs บาเยิร์น ,, เชลซีแค่ขอ "โอกาสอันน้อยนิด" ในการเล่นเกมสวน แล้วอดทนทำตามปรัชญาของตัวเองในการต้านทานพายุเกมบุกของบาเยิร์น ... นั่นแหละ
เราได้เห็นการเปลี่ยนตัวได้แซ่บไม่แพ้น้ากิ๊กซ์ ... คือดาหน้าเอาแนวรุกลง มุดเข้าเขตโทษไม่ได้ก็ทำชิ่ง ทำชิ่งไม่ได้ก็ส่องไกล ส่องไกลไม่ก็พยายามดึงตัวประกบออกสร้างช่องเอง เห้ยยยยย ลิเวอร์พูลที่บุกแบบมีแบบแผน มี plan A plan B plan C ที่ประสิทธิภาพค่อนข้างโอเค (คือยังไม่ดีมาก แต่เราว่าอยู่ในค่าเฉลี่ยของทีมที่ได้เล่นบอลยุโรปเลยนะ)
โอเค เกมนี้เราโดนลงโทษ ... เกมที่แล้วกับเชลซีเราก็โดนลงโทษ ... แต่จากเกมนั้นมาเกมนี้ เราโชว์พัฒนาการได้เยอะมากเลยใช่ไหมล่ะ
หลายๆ เกม (โดยเฉพาะนอริช) ลิเวอร์พูลนำ แล้วก็เจือก เคาะไปเคาะมา เสียสุนัขไปหลายเกม ก็เพราะเริ่มเล่นบอลหวังผล ซึ่งมันไม่ใช่คาแรคเตอร์ของทีมเรา เราไม่ใช่ทีมที่มีจุดเด่นด้านบอลคอนโทรล ... เราหวังว่านัดนี้ จะทำให้เรามีปรัชญาฟุตบอลที่ "ลึกซึ้ง" ยิ่งขึ้น และ เชื่อมั่น ถึงขั้น "ลุ่มหลง" ในตัวตนของเรา
เกมอื่นๆที่เริ่มทำตัว "ครึ่งหลังสไตล์" บอกเลยว่ามีบางทีที่ปิดทีวีไปเหมือนกัน แต่เกมในวันนี้ แม้จะถึงนาทีที่ 92.53 เราก็ยัง "มีความเชื่อมั่น" ขนาดแฟนบอลที่อยู่ไกลโพ้น และกลัวแทนทีมมาตลอดยังเริ่มมีความเชื่อมั่น นักเตะของเราก็คงได้เรียนรู้เพิ่มอีกเยอะมากจากเกมนี้เช่นกัน
ดีแล้วที่เจอโจทย์ยากๆ และสอบตกตอนนี้ เพราะการกลับไปเล่น UCL ในโถที่ 3 ... มันเป็นงานยากกว่านี้มากมายนัก
ณ วันนี้ เรามาไกลกว่าที่ฝัน ,, และเราจะก้าวไปแม้ความฝันครั้งใหม่จะถูกท้าทายและเหยียบย่ำ ...though your dreams be tossed and blown... YNWA ไม่เคยมีอะไรได้มาง่ายๆสำหรับลิเวอร์พูล และสิ่งที่ได้มาง่าย มันคงไม่มีความหมายเท่าสิ่งที่ไขว่คว้ามาเลือดตาแทบกระเด็นค่ะ
ป.ล.เพลงที่ฮัมตอนขับรถกลับบ้านคือ "ห่างกันเพียงเอื้อมมือ แต่มันก็แสนไกล ยิ่งเป็นเหมือนถ้วยพรีเมียร์ลีก ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะคว้าไว้" 555+
หมายเหตุ อันนี้เข้าโหมดดาร์ก จากความรู้สึกที่ดูบอลที่อสมท.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้