บทวิเคราะห์การเมือง ( อยากให้อ่านเพราะคุณจะรู้ว่า ท้ายที่สุดใครจะชนะ )

กระทู้สนทนา
มีคำพูดของซุนหวูกล่าวว่า " แม้เราไม่อาจกำหนดได้ว่าใครจะชนะศึก  แต่เรารู้ล่วงหน้าได้ว่าใครจะชนะศึก "

        สถานะการณ์ ขณะนี้ ดูเผินๆ รัฐบาลตกเป็นรอง กำลังรอเวลาถูกเชือด เพราะ ฝ่ายอำมาตย์ มีทั้ง องค์การอิสระ  ตลก  ทหาร และ ข้าราชการประจำในเครือ  ทำให้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้   แม้แต่ม๊อบขนแมว ที่ไล่ยิงคนยิงทหาร กลางเมือง ทุกวันก็ทำอะไรมันไม่ได้  ส่วน รัฐบาล มีอำนาจแค่ในนาม จะทำอะไรต้อง  ขออนุญาติ เจ้าคุณ พ่อสมชาย  แต่รัฐบาล มีอาวุธ อยู่ 3 อย่างที่สำคัญ  คือ  ประชาชน   ความชอบธรรม    และสิ่งสุดท้าย ที่สำคัญที่สุดคือ  เวลา

         เคยมีคำพูดในเรื่องสามก๊ก คนที่จะชนะศึก  จะต้องมี 3 สิ่งนี้คือ  กาละฟ้า  ชัยพูมดิน และ คุณธรรม  ผมจะนำเสนอ ทีละอย่างนะครับ ว่าฝ่ายไหนใครได้เปรียบเสียบเปรียบยังไง

    1. คุณธรรม  สำหรับเรื่อง คุณธรรม ความชอบธรรม  ศีลธรรม ฝ่ายรัฐบาลเคยเสียทีไปตอน  พร.บ.สุดซอย แต่ ณ ปัจจุบัน  รัฐบาลเป็นต่อ 9 : 1 ทั้งในระดับโลกและ  ระดับประชาชนภายในประเทศมีแต่คนปัญญาอ่อน  เท่านั้น ที่ยังหลอกตัวเองอยู่ว่า  ลุงกำนัน คือวีรบุรุษเป็นผู้เสียสละ  ยิ่งโลกสมัยนี้การสื่อสารกว้างไกลทั่วถึง  ทำให้การพรอพพาแกนด้าทำได้ยาก  ไม่ต้องดูอื่นไกลองค์กรเก็บขยะ  ที่อำมาตย์เคยทำสำเร็จ ในยุค นวพล กระทิงแดง  มาวันนี้กลายเป็น องค์กรขยะ  ขนาดเพื่อนผมในเฟส ที่เป็น  กปปส  จัดๆแบบหน้ามืดตามัว เดวนี้  5  วันผ่านไป จะมีอัพเรื่องการเมืองครั้งหนึ่ง  ยิ่งเป็นขององค์กรขยะ  ยิ่งไม่มีเลย  ( อันนี้ผมขอขอบคุณ  วิรชน  6 ตุลา  19  ความตายของท่านไม่เสียป่าว วันนี้เกิดมีใคร  ถือเก้าอี้ ขึ้นมา อาจจะโดน โต๊ะจีน ทุ่มเอาดื้อๆ )

    2. ชัยพูมดิน  คือ  กำลังพลและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สอยได้  อันนี้เราต้องยอมรับ  ภายใต้  รธน 50 ฝ่ายรัฐบาลเป็นรองฝ่ายอำมาตย์อยู่ประมาณ  7 : 3 ถึงแม้เราจะมีมวลชน ประชาชนสนับสนุน  มากกว่า แต่ในส่วนของข้าราชการประจำ  ฟันเฟือง  ที่กุมอำนาจรัฐ เราเป็นรองหลายช่วงตัว  จึงไม่แปลก ที่วันนี้รัฐจึงตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ  ให้ม๊อบขนแมว ปิดที่นี้  ที่นั่น ยิงคนที่นี่  ที่นั้น เป็นการสนุกสนาน  

    3. กาลฟ้า   หรือ ก็คือ จังหวะเวลานั้นเองเรื่องนี้  ฝ่ายรัฐบาลเป็นต่อ  8 : 2 เผลอๆ  9 : 1 เพราะอะไรทำไมรัฐบาลถึงเป็นต่อ สาเหตุก็เพราะ  ระดับผู้นำของอำมาตย์  แต่ละคนอยู่ในช่วงแย้มฝาโลงทั้งนั้น  ดู คณะรัฐบุคลแต่ละคนคร่อกฟี้  ยิ่งมาเจอปัญหา  วิกี้ลิงค์  ทำให้พี่ทอมครูซผมไม่ปลื้ม บวกกับ  รธน  50  ที่เขียนเรื่องผู้สำเร็จราชการไว้  แบบน่าเกลียด  หมายความว่า ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร  จนถึงวันที่ฟ้าสีทองผองอำไพเมื่อไร  เมื่อนั้นก็จบ  และสาเหตุนี้เอง ที่ทหาร ไม่กล้าทำ ปฎิวัติ เพราะทำไปอำนาจก็ไปอยู่ในมือ อำมาตย์แก่อนาคตเกิดฟ้าสีทองมาเร็วตัวเองก็ซวย  ตัวอย่าง บิ๊กบังก็มีให้เห็น  จึงไม่มีใครอยากทำอยากเปลืองตัว สู้รอ เนียนๆไป เกษียน อาจจะได้เป็น รัฐมนตรีสมัยนี้จะหวัง เป็น สฤทธิ์ ถนอม ประพาส คงไม่มีทาง  สังเกตุมือไม้ที่อำมาตย์เลือกใช้คือ  คนที่ไม่มีอะไรจะเสียเช่น สุเทพ ที่มีคดี 100 ศพ  และก็บรรดาลูกที่พ่อแม่  หนีคดี ช้อโกง มีหนี้กันเป็น 100  ล้าน พันล้าน และ ก็พวกหน้าด้าน ที่ไม่มีเครดิตอะไรในสังคม  เช่น มาร์ค  สมชัย ตลก  พวกคนเหล่านี้  หลังชนฝา ทำได้ทุกอย่าง ขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้  ต่อให้รู้ว่าเป็น  เสือแก่ชราแล้ว ก็ลงไม่ได้


          เมื่อวิเคราะห์ทั้ง  3  องค์ประกอบนี้ เพื่อนๆคงไม่แปลกใจ ว่าทำไม กปปส ตลก กกต ถึงต้องเล่นเกมเร็ว ที่ต่อให้ยิ่งเล่นยิ่งเสียก็ต้องเล่น เพราะเวลามันจี้คอหอยอยู่  และทำไมต้อง ปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง  ทำไมต้องเอานายกคนกลาง ทำไมต้องรัฐถาฐิปัตย์  สาเหตุก็เพราะ  ถ้าล้มรัฐบาลเฉยๆ แต่จัดระเบียบองคาพยบไม่ได้  ถึงเวลาก็ต้องแพ้  เพราะถ้าลงเลือกตั้ง ถึงชนะก็ชนะนิดเดวไม่นานก็ต้องหลุดจาดอำนาจ  ทางเดวคือ  ต้องแก้กติกา  กฎระเบียบ ให้เป็นเผด็จการเต็มขั้น  ต้องสถาปนาระบบ ที่ห้ามประชาชนแก้กฎหมาย  ห้ามรัฐบาลที่มาจากประชาชนทำตามนโยบาย  สุดท้ายคือ สร้างระบบ ที่จะปลดรัฐบาลที่มาจากประชาชน  และ ตั้งนายก นิ้วกลางขึ้นมาเองได้  ซึ่ง ตอนนี้ อำมาตย์ทำสำเร็จไป  2 อย่าง คือ ห้ามแก้กฎหมาย ห้ามออกนโยบาย ที่มีตัวอย่างใน การแก้ที่มา สว.ให้มาจากการเลือกตั้ง  และการล้ม โครงการ 2 ล้านๆ นั้นเท่ากับว่า รัฐบาลจากประชาชน ไม่มีอำนาจ ออกนโยบาย และ แก้กฎหมาย ถ้า อำมาตย์ไม่อนุญาติ  อีกสิ่งเดวที่กำลังพยายามทำอยู่คือ  การล้มรัฐบาลและตั้งรัฐบาลโดยไม่ต้อง ผ่านอำนาจประชาชน  


        ถ้าถามผมว่าใครจะชนะ  ผมขอยกกลอนของ  ท่าน ฤษีลิงดำประโยคที่ว่า  

              " ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม             หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้

จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป                             เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น                        แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา

ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา                 ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ "


             อยากให้ดูบรรทัดที่ 2 จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป ( คือ ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ) ถามว่าเมื่อไร ก็  ช่วงเปลี่ยน ศักราชใหม่ คนชั่วจะถูกปราบ ซึ่งตอนนี้ยังปราบไม่ได้  ยังยิงคนอยู่กลางถนน  และ ถ้ามาดูคำว่า " แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา " ผมตีความว่า หมดช่วงหน้าร้อน ( ปีนี้ร้อนตับแลบจริงๆ ) ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ( เมื่อผลของศึกนี้จบ ปชช คงจะเจอวิกฤติจากผลกระทบ และเราคงจะผ่านมันไปด้วยศรัทธา คือความเข้าใจและเชื่อมั่นใน ประชาชน  ระบอบประชาธิปไตย  ใช่ความงมงายในเทวดา )   ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ( ผมเคยเห็นฟ้าสีทองครั้งหนึ่ง  เมื่อตอนไฟไหม้ ไทยออย  ท้องฟ้าข้างบนกลายเป็นสีทองเลย )


          สุดท้ายจริงๆ  เพื่อนท่านใดที่อ่านมาถึงตรงนี้  สำหรับเพื่อนที่ เป็น กปปส . ( หวังอย่างยิ่งว่าจะมี ) ผมคิดว่า ข้อความเหล่านี้ จะเป็นสติเตือนท่านให้ออกจากการปลงใจเชื่อ  ว่าเสื้อแดงนั่นโง่  เห็นแก่เศษเงิน  ไม่มีความคิด  เพราะ ความจริงท่านก็คงเห็นอยู่  ว่าผมหรือเสื้อแดงคนอื่นๆ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เรามีข้อมูล ในแง่มุมที่หลากหลายกว่าท่าน มีการคิดวิเคราะห์ ที่ใช้สติเป็นพื้นฐาน เราไม่ใจแคบ จนยอมรับความเห็นต่างหรือ ความจริงด้านอื่นๆไม่ได้ แต่ตัวท่านละ ท่านลองชั่งใจสะนิดลองมองสักหน่อย ว่ากำลังโง่กำลังหลงหรือป่าว โดนลุงกำนัน  หลอกใช้ จากความใจแคบ ทำให้ท่านขาดสติ  ใช้ถอยคำหยาบคาย สร้างความเกลียดชั่ง  เพื่อให้ท่านมีอารมณ์อยู่เหนือสติ  ทำให้ท่าน ใช้ข้ออ้างหลอกตัวเองมากกว่าเหตุผลตามจริง

        และพี่น้องที่รักประชาธิปไตย  ผมอยากฝากให้ครั้งนี้  เราได้มีประชาธิปไตยที่แท้จริง  อดีตเราเคยพลาดมา 2 ครั้งใหญ่ คือเมื่อปี 2475 ตอนนั้นประชาธิปไตยยังใหม่  เราไม่เห็นความสำคัญ  หรือปี  2516   ที่เรายังเด็กยังไม่รู้จักคน  ทำให้เราพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย และสูญเสียไปอย่างน่าเสียใจ  วันนี้  2557  เมื่อวันที่ประชาธิปไตยเบ่งบาน  ผมอยากให้เราช่วยกันทำให้เป็น  ประชาธิปไตยเต็มใบ เห็นคนเป็นคน ไม่มีเทวดา และ ปีศาจ เป็นเรื่องของคนเท่านั้น  เป็นการปกครองประชาชน โดยประชาชน เพื่อ ประชาชน  อย่างแท้จริง ให้ไม่แพ้ ญี่ปุ่น หรือ อังกฤษ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่