พอดีได้ไปกระบี่กับเพื่อนมาเมื่อวันที่ 21-24 เม.ย. ที่ผ่านมานี้ค่ะ และแน่นอน ไปทะเลอันดามันทั้งที จะไม่ดำน้ำดูปลาสักหน่อยได้ยังไงๆๆ และด้วยความที่ไปเป็นครั้งแรก เลยอยากถ่ายภาพมาให้ที่บ้านดูน่ะค่ะ  ><
ก่อนหน้านี้เคยคิดจะซื้อซองใส่มือถือกันน้ำ ที่สนใจก็คือ DiCAPac ค่ะ เห็นเค้าว่ากันน้ำได้ดีเยี่ยม ก็เลยไปหาซื้อมา แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไซส์เล็กสำหรับใส่ไอโฟนและสมาร์ทโฟนมันหมดค่าาา เหลือแต่ขนาดgalaxy note ราคา790บาท ชั่งใจอยู่นาน สุดท้ายเลยไม่ได้ซื้อค่ะ ด้วยที่ขนาดมันใหญ่เกินไป และราคาก็แพ๊งแพงซะ ปกติไม่ได้ไปดำน้ำบ่อยซื้อมาน่าจะไม่คุ้มน่ะน้า

พอไปถึงกระบี่ ตอนเย็นเดินจากโรงแรมเลียบชายหาดตรงอ่าวนางจะไปทานอาหารที่วังทรายค่ะ ริมทางก็มีร้านขายของมากมาย สายตาก็ไปสะดุดกับซองใส่มือถือกันน้ำ (แต่ชื่อยี่ห้อนี่ยอมรับเลยว่าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยอ่ะ) ดูไปดูมา เลยตัดสินใจ เอาวะ ซื้อไว้ใส่กันไว้ก่อนไม่เสียหาย เกิดสะดุดซากหอยทำมือถือตกน้ำจะได้ไม่ต้องมาร้องไห้ฟูมฟาย อีกอย่างราคาก็ไม่ได้แพงมาก (ถูกสุดที่เราหาได้คือ 300 อ่ะค่ะ แต่ละร้านขายราคาต่างกัน แล้วก็ราคาต่างกันตามไซส์ด้วย อ้อลืมบอก ของเราเป็น samsung galaxy s4 นะคะ แหะๆ)

เรื่องมันมีอยู่ว่า  คืนที่2ไปนอนไร่เลย์ค่ะ โชคดีที่ตรงกับที่มีงาน Krabi Rock&Fire International Contest เลยตัดสินใจหยิบเจ้ามือถือลูกรักไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย และด้วยความที่เห็นน้ำทะเลเป็นไม่ได้ต้องพุ่งเข้าใส่ เลยลงไปเล่นกับเพื่อนๆจนค่ำเลยค่ะ สนุกจนลืมระวัง ดึงเจ้าสายคล้องออกจากคอ มาส่องไฟ ถ่ายรูปเล่น แล้วก็พูดเล่นๆกับเพื่อนว่า มือถือเรามีค่าแค่ไฟฉายใช่ป้ะ!

ไม่ทันไรค่ะ หลุดมือ!!! หลุดไปยังไงมิทราบ ที่ระดับน้ำประมาณอกค่า

OMG เหมือนโดนมันงอนโดดออกจากมือยังไงยังงั้น ใจงี้หายวูบบบ ฟ้าก็มืด มองไม่เห็นแล้ว เท้าช่วยกันควานหายังไงก็ไม่เจอ ขอยืมไฟฉายพี่พนักงานโรงแรม งมกันเป็นชั่วโมงๆก็ไม่เจอค่ะ น้ำตาจะไหล สงสัยจะต้องจากกันไปซะแล้ว จนสี่ทุ่ม ฝนตก เลยล้มเลิกโครงการค้นหาลูกรัก กลับห้องพักกันก่อนดีกว่า ลองเอามือถือเพื่อนโทรเข้ายังไงก็ไม่ติดค่ะ ตอนนั้นตัดใจแล้ว คงจมลงทะเลไปแล้วแน่ๆ คลื่นก็แรง ฝนก็ตก อีกใจก็คิดว่าถ้าพัดขึ้นฝั่งมาได้ก็คงโดนทรายทับไปหมด เพราะของเรามันไม่ลอยน้ำอ่ะ เฮิร์ทมาก T_T

ตอนเช้า ตื่นดูพระอาทิตย์ขึ้น น้ำใสมองเห็นทรายข้างล่างเลยค่ะ เลยตัดสินใจว่า ไปดูที่ชายหาดอีกรอบดีกว่า เผื่อมันยังรอเราอยู่
และเนื่องจากว่าจำบริเวณที่ทำตกได้ จึงกะทิศทางคลื่นที่พัดไปแล้วหาเอียงๆไปทางนั้นหน่อย เพื่อนก็เดินหาที่ชายหาด เราก็ลงไปควานดูในน้ำ
ไงล่ะคะ.. ไม่เจอสิคะ น้ำมันขึ้นสูงอยู่ ถ้าไปที่เดิมคงมิดหัวพอดี

ก็เลยตัดใจ เดินกลับห้องพัก หาครั้งสุดท้ายไม่เจอแล้ว ตัดใจเถอะ แงงงงง~

พอเดินมาถึงห้องพัก คุณแม่ก็โทรเข้าเครื่องเพื่อนค่ะ บอกว่า มือถือเราที่จมน้ำไปมันโทรเข้าติดแล้ว

เห้ยมันโทรติดได้ไง หรือโดนพัดขึ้นฝั่งแล้ว เรากับเพื่อนรีบวิ่งไปหาเลยค่ะ ระหว่างที่หาก็โทรไปด้วย เผื่อมีคนเก็บได้เดินเลาะๆไปฝั่งซ้ายของหาดเพราะคลื่นมันพัดไปทางนั้นอะค่ะ ไม่เจอ เราเลยลองเดินไปอีกฝั่ง ถึงรู้ว่าโอกาสเจอน้อยแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะ

สุดท้ายเจอค่ะ กรี๊ดดดดดด!!!!! มันนอนเกยตื้นริมหาดอ่ะ

กรี๊ดลั่นเลยค่ะ ฝรั่งงี้หันมองกันเป็นแถบ ดีใจจนลืมอายเลย 55555 เอาไปล้างๆทรายแล้วหยิบออกมาดู สภาพมือถือดีค่ะ ปกติมาก ไม่มีน้ำเข้าเลย กดได้โทรได้ปกติมากกกกกก ประทับใจสุด นี่เราทดสอบโดยทิ้งลงทะเลจริงคืนนึงเลยนะ หาเจอได้ ฟินมาก แอร๊ยยย >< ประทับใจมาก ก็เลยตัดสินใจว่า มารีวิวให้เค้าสักหน่อยนะ

หน้าตาซองก็ประมาณนี้ค่ะ


ขนาดที่เห็นขายกันมีหลายขนาดเลย มีใส่กล้องกับไอแพดด้วยนะคะ แต่ไม่ได้ถ่ายมา ขออภัยจริงๆ T_T

คุณสมบัติของมันก็คือ กันน้ำที่ระดับความลึก10เมตรได้100%ค่า มีรุ่นที่เสียบหูฟังได้แม้ในใต้น้ำด้วยนะเออ สุนทรีย์ไปรึเปล่า 555555

สำรวจค่ะ เริ่มจากตรงซิปล็อก เป็นซิบล็อก 3 ชั้น ตามรูป

ตรงที่ห้อยกับสายคล้องคอ เป็นแบบรูเดียวค่ะ และสามารถปรับความยาวของเชือกได้ค่ะ ในรูปมัดเชือกอีกทีหลังจากปรับเพราะกลัวน้ำหนักมือถือไปถ่วงแล้วมันจะขยับ


เวลาใส่มือถือลงไป จะต่างจากDiCAPacนิดหน่อยค่ะ โดยถ้าเป็นDiCAPacนั้นจะใส่แล้วปิดให้ซองอยู่ในสภาพพองๆลมเล็กน้อย เพื่อให้เวลาอยู่ในน้ำแล้วลอยตัวขึ้นมาค่ะ ถ้าหลุดจะได้ไม่จมลงไป แต่ของDri-dockจะให้รีดติดกับหน้าจอและด้านหลังของโทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้ขอบด้านล่างของซองไปบังตัวกล้องค่ะ จะได้แบบนี้


เวลายกขึ้นมา มันก็ดูดแน่นกับตัวมือถือของเราค่ะ สามารถ touch screen หรือคุยผ่านซองได้ตามปกติ เหมืองซองเล่นน้ำสงกรานต์ทั่วๆไปค่ะ


หลังจากใส่แล้วก็ปิดซิปล็อกสามอันให้สนิทค่ะ แล้วม้วนทบๆกัน


จากนั้นก็ติดกระดุมที่ฝาซองค่ะ เป็นอันว่าเรียบร้อย น้ำไม่เข้าแน่นอน


หลังจากที่ซื้อมา ให้ทดสอบโดยการใส่ผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ชนิดไม่มีขุยไว้ด้านใน แล้วทดลองเอาไปแช่ในอ่างอาบน้ำค่ะ ของเราลองแช่น้ำในอ่างของโรงแรมตอนอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง น้ำไม่มีเข้าเลย ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาแห้งสนิท ก็เลยสบายใจหน่อย (ไม่ให้ใช้ทิชชู่ที่เป็นขุยนะคะ เพราะของเพื่อนทำแบบนั้นแล้วพอดึงทิชชู่ออกขุยมันติดกับพลาสติกข้างในเต็มเลยอ่ะค่ะ)

เราใส่ไปsnorkelingและเล่นน้ำทั้งวันเลย วันแรกไปทัวร์พีพี หายห่วงค่ะ น้ำไม่เข้าสักหยด ถ่ายภาพได้ค่อนข้างชัด พอใจในระดับนี้เลยค่ะ
แนะนำนะคะ ให้ตั้งปุ่มvolumeเป็นปุ่มถ่ายภาพค่ะ เนื่องจากขณะซองเปียกหรืออยู่ใต้น้ำจะ touch screen ลำบากมาก มากๆค่ะ และอย่าลืมปลดล็อกมือถือก่อนด้วย เปิดกล้องไว้ก่อนกระโดดลงน้ำเลยน้า นี่เป็นตัวอย่างรูปที่ถ่ายผ่านซองกันน้ำนะคะ ไม่ได้ปรับแต่งสีอะไรเลยค่ะ


          



โดยสรุป ข้อดี : ราคาถูก กันน้ำได้100%จริง ไม่ขาดง่าย หาซื้อได้ง่าย(มีทุกร้านริมหาดอ่าวนางเลยค่ะ) ถ่ายภาพชัดดีค่ะ
            ข้อเสีย : เนื่องจากมันต้องรีดอากาศออกจากซองเลยทำให้เวลาหล่นแล้วจะจมไปตามน้ำหนักโทรศัพท์ค่ะ
                        *วิธีป้องกันก็คือ ห้ามเอาออกจากคอ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เพราะมันไม่หลุดแน่นอนถ้าเราคล้องคอไว้ตลอดค่ะ

หวังว่ารีวิวเราจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังจะไปดำน้ำแล้วต้องการหาซองกันน้ำแบบเรานะคะ ^^

ปิดท้ายด้วยภาพไร่เลย์ก่อนทำมือถือหล่นน้ำค่ะ


ขอบคุณที่มาอ่านรีวิวมือใหม่นะคะ นี่เป็นรีวิวแรกในชีวิตเลย หากผิดพลาดอะไรขออภัยจริงๆนะคะ ยินดีรับทุกคำติชมค่า
ขอบคุณค่ะ