ผมขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเขียนใบรองรองแพทย์ของคุณหมอหน่อยนะครับ

ขอเกริ่นก่อนเข้าเรื่องนะครับ

คือตัวผมนั้นทำงานอยู่ที่ชลบุรี แต่ตัวผมพักอยู่ที่กทม. ซึ่งในทุกๆวันนั้นผมจะต้องตื่นประมาณตี4 เพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานและจะต้องมาขึ้นบีทีเอสจากต้นๆสายที่เวลาตี5ตรงให้ได้ เพื่อให้ทันรถตู้บริษัทที่จะรับส่งพนักงานไปชลบุรีที่รอผมอยู่อีก ณ ปลายสายอีกฟากนึงของการเดินทางบนบีทีเอส

และการทำงานของผมนั้นจะเป็นการทำงานในแลปร้อนๆบ้าง ดูส่วนของฝ่ายการผลิตบ้าง แทบจะไม่ได้เจอแอร์เลย จนกระทั่งเลิกงาน 5โมงเย็นก็ต้องนั่งรถตู้กลับมากทม. ณ ปลายสายฝั่งหนึ่งของบีทีเอสและนั่งบีทีเอสไปยังปลายทางอีกฟากนึง ซึ่งใช้เวลาเดินทางบนบีทีเอสเกือบ 1 ชั่วโมง (ผมขออภัยด้วย หากไม่ได้ลุกให้ใครนั่ง เพราะผมล้าจริงๆ ผมจึงไม่ค่อยได้ลุกให้ใครนั่ง) รวมเวลากินข้าวแล้วจะถึงห้องราว 3ทุ่ม!! ไหนจะอาบน้ำ นั่งทำวิทยานิพนธ์ของปริญญาโทต่ออีก ผมบอกได้เลยว่าเวลาพักผ่อนผมน้อยมาก แต่ผมสู้!!

จนกระทั่งผมป่วยเป็นไข้ (ครั้งที่1)
ผมได้เข้าไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง (อยากบอกชื่อจังเลย เอาเป็นว่าเป็น รพ.เอกชลดังย่านสะพานบัฟฟาโล่วละกันนะ) ผมก็หาหมอตามปกติ และหมอได้เขียนใบรับรองแพทย์ว่า "คออักเสบ" ...... อืมมมม โอเค หมอว่าไงก็ว่างั้น

ผมพัก 1 วันและไปทำงานต่อ แน่นอนว่าไข้ของผมยังไม่หาย ผมยื่นใบรับรองแพทย์ให้หัวหน้า และเกิดคำถามว่า อ้าว ที่หยุดไปแค่คออักเสบหรอกเหรอ คิดว่าป่วยเป็นไข้...... ใบรับรองแพทย์ถูกส่งต่อให้ฝ่ายบุคคลและก็เริ่มเกิดเสียงเดียวกันระงมขึ้นมา หลังจากนั้นสักพักคนที่นั่งรถตู้หรือคนทำงานใกล้ๆตัวผมก็ติดจากผมไปบ้าง เหอะๆ เซ็งเลย = =


และเมื่อผมป่วยเป็นไข้ (ครั้งที่2)
ผมได้ไปหาหมอที่ รพ. เดิม แต่หมอที่ตรวจคนละคนกันนะ... หมอก็ทำแบบเดิมๆ ถามอาการ ดูคอ วัดหัวใจ สั่งยา เขียนใบรับรองแพทย์ "คออักเสบ"..... เอ่ออออ ผมก็ไม่ได้สูบบุหรี่นะ จะอักเสบไรนักหนา แต่ก็โอเค หมอว่าไงก็ว่างั้น

ผมพัก 1 วันและไปทำงานต่อ แต่ครั้งนี้ผมป่วยหนักกว่าเดิมมาก ผมรู้ตัวเลยกับการที่นอนแล้วไข้ขึ้นคืนก่อนไปทำงาน รู้ว่าทำงานลำบากแน่ แต่ผมก็ไป เพราะใบรับรองแพทย์ไม่ได้แนะนำให้หยุด... (เดี๋ยวตอนจบผมจะอธิบายเหตุผลนิดหน่อย) เมื่อผมไปทำงานครั้งนี้เหมือนเพื่อนร่วมงานสัมผัสได้ถึงออร่าความเป็นไข้ของผม ผมทำงานได้ครึ่งวัน ผมร้อนมากทั้งอากาศที่ร้อนทั้งหมวกเซฟตี้สารพัด จนผมน๊อค หัวหน้าจับผมไปนอนห้องพยาบาลให้ผมนอนพัก... ผมตื่นมาอีกทีตอนจะเลิกงาน ผมมีอาการแปลกๆคือตาผมร้อนและแฉะมาก ขี้ตาจับตัวกันทำให้ผมลืมตาไม่ขึ้นเลยทีเดียว หัวหน้ามาเห็นจึงให้ผมไปล้างหน้าล้างตาและขึ้นรถตู้กลับบ้าน

จากนั้นผมก็ยังฝืนมาทำงานอีกวัน จนผมฝืนตัวเองไม่ไหว ตาผมพร่าลงเรื่อยๆ การทำงานเหมือนจะขาดความปลอดภัยจากสภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อย ผมต้องฝืนทำงานหลังจากทานยาที่มีฤทธิ์ง่วงนอนมาก ไหนจะเวลาพักผ่อนที่มันไม่ค่อยจะมี ผมจึงตัดสินใจลางานเพิ่ม (ต้องใช้ใบรับรองแพทย์อีกแล้ว) ผมจึงเข้าไปที่ รพ. เดิม แต่ก็เป็นหมอคนใหม่.... หมอคนใหม่ก็ทำแบบเดิมๆ ถามอาการ ดูคอ วัดหัวใจ สั่งยา เขียนใบรับรองแพทย์ แต่ก่อนหมอจะเขียนผมถามอาการว่าผมเป็นอะไร หมอตอบมาว่า "คออักเสบ" ผมเลยถามว่าแล้วตาผมล่ะครับคุณหมอ ทั้งบวมทั้งแดงขี้ตาออกมาไม่หยุด ทุกคนที่เห็นผมไม่มีใครทักอาการป่วยเลยนะ เค้าทักตามาก่อนเลย ถามกันแม้กระทั่งว่า มืงร้องไห้แฟนทิ้งมาเหรอ ตาบวมเป็นไข่... หมอกลับเพิ่งฉุกใจคิดและบอกว่าเดี๋ยวหมอให้ยาหยอดตาเพิ่ม ผมเลยถามถึงการเขียนใบรับรองแพทย์อีก.... (ยาว) จนกระทั่งเปลี่ยนว่าเป็นหมอใช้คำว่าไข้ ควรหยุดทำงานวันที่ XX ถึงวันที่ XX  กลายเป็นว่าผมต้องไป รพ. 2 รอบภายในอาทิตย์เดียว

คืออออ สรุปปปป....
1. เพื่อนร่วมงานผมติดผมจนตอนนี้เห็นว่ามีบางคนต้องหยุดงานเพราะป่วยแล้ว ผมต้องกลายมาเป็นขี้ปากคนอื่นว่า "ติดจากไอ้XXXมาเนี่ย"
2. บางครั้งที่เขียนมาว่า คออักเสบ หมออาจจะรู้กันว่าโรคนี้เป็นยังไง แต่บางคนโดยเฉพาะสาย HR เค้าเรียนมาทางสายศิลป์จ๋าเลย บางทีเค้าไม่เข้าใจว่าทำงานใช้คอทำรึไง ยิ่งโรงงานที่ผมทำงานเป็นโรงงานเล็กๆ พนักงานแต่ละคนวุฒิการศึกษาสู้โรงงานใหญ่ๆไม่ได้ ความรู้บางคนไม่ถึงจริงๆ
3. การเขียนใบรับรองแพทย์ คุณหมอน่าจะ "ประเมิน" นิดนึงว่าอาการนี้/โรคนี้เป็นโรคติดต่อมั้ย ควรหยุดมั้ย หยุดพักซักกี่วัน
4. ผมไม่สามารถลาป่วยได้ ถ้าไม่มีใบรับรองแพทย์ ผมถึงต้องฝืนตัวเองไปทำงาน
5. การที่ผมไม่บอกหมอเองว่าผมอยากหยุดพักซัก 2-3 วัน เป็นเพราะผมเคยมีอดีตที่พูดกับคุณหมอไปแล้วผมได้รับคำตอบว่า "อาการแค่นี้ไม่มีความจำเป็นถึงขนาดต้องหยุดพัก!" ผมก็อึ้งเลย จากนั้นมาผมเลยปล่อยให้เป็นไปตามวิจารณญานของแพทย์เลย !
6. ผมอยากให้คุณหมอใส่ใจกับคนไข้มากกว่านี้ ให้คุ้มกับเงินเดือนที่ได้รับ บางทีก็รู้นะที่ตรวจๆมาเนี่ย เป็นสเตป ถามอาการ>แลบลิ้นดูคอ>วัดหัวใจ แต่ก็อยากให้ยิ้มแย้มเหมือนใส่ใจนิดนึง หมอบางคนวัดหัวใจ เอามาแตะหน้าอก 3วิ เสร็จ เหอะๆ เข้าใจว่าเจอเคสมาทั้งวัน... ก็นะ ไม่เป็นไร

ยังไงผมมีความเข้าใจคุณหมอผิดประการใด ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ อันนี้เป็นความคิดเห็นจากผม ถ้าใครมีอะไรแชร์ ยินดีรับฟังครับ (แท็กไม่ค่อยเป็นแฮะ - -")

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่