ตอนที่เริ่มเขียนเห็นตัวเลขมุมล่างขวาของจอคอมบอกว่า 0:00 พอดี ไหน ๆ ก็ยังไม่ง่วง เอาซะหน่อย เริ่มไงดี ก็ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว วัยหนุ่มสาวยังไม่กล้าบอกว่าใช่เลย จะเขียนเรื่องรักในปัจจุบันก็กระดาก คิดไม่ออกด้วย แต่ก็ชอบเข้ามาในห้องนี้ ...นะ.ก็ขนาด “ตามล่าหาพี่มากขา” สีสิบแล้ว ยังเป็นดาวห้องนี้ได้ ไม่มีเหตุผลที่ผมจะเล่นห้องนี้ไม่ได้
แล้วจะเวิ่นเว้อเรื่องอะไรดีล่ะ ok เรื่องเส้นทางของความรักก็แล้วกัน น่าจะเหมาะ ความรัก....นึกก่อน มีครั้งแรกตอนไหน อ้อ ตอนประกาศผลสอบเข้า ม.1 ไปดูผลสอบที่แปะไว้หน้าบอร์ดของโรงเรียนประจำอำเภอ ดูเสร็จ ถอยหลัง ชนเธอ หันมา ปิ๊งเลย ! เธอมากับพ่อ เราได้อยู่ห้องเดียวกันด้วย ได้คุยกับเธอทีไรใจเต้นแรงทุกทีเป็นตั้งสามปี ไม่กล้าบอกเธอ จนจบ ม.3 แยกย้ายกันไป นี่เรียกว่าอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้บอกรักเธอหรือเปล่า ? ไม่แน่ใจ
ครั้งที่ 2 ล่ะ ..ม.3…ใช่ ม.3 เธออยู่ม.1 คนละโรงเรียน พบรักเธอเพราะปั่นจักรยานมาปากซอยด้วยกัน เห็นครั้งแรก ปั่นจักรยานเป็นงูเลื้อยเลย เธอสวยสุด ๆ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เลิกกับคนแรกนะ (ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้บอกรักเธอ) จะเรียกว่าจับปลาสองมือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ท้ายสุดก็ต้องเลิกกับคนที่สองอีกแล้ว เธอมีคนมาชอบเยอะ เธอไม่เคยพูดกับผมเลยได้แต่ยิ้ม มีครั้งหนึ่งเรานั่งรถสองแถวติดกันหันไปมองเธอ เธอได้แต่ก้มหน้ายิ้ม เธอสวยสุด ๆ อยากให้สองแถวมันติดไฟแดงนาน ๆ หรือไม่ก็อยากให้โรงเรียนมันย้ายไปอยู่ไกล ...ครั้งนี้ดีหน่อย...เธอรู้ตัวว่าเราชอบ
ครั้งที่ 3 ครั้งนี้ซิเป็นเอาหนัก ก็โตแล้วอยู่ ปวช.3 แล้ว ..เพื่อน เธอเป็นเพื่อน ไม่รู้รักเธอตอนไหน ตอนที่นั่งเรียนด้วยกันหรือเปล่า ? ตอนที่เธอขอลอกการบ้านหรือเปล่า ? หรือเพราะเราชอบเพลงเดียวกัน กว่าจะรู้ตัวก็ถลำไปจนสุดก้นบึ้งของความรักแล้ว ทำไงต่อไปล่ะ บอกรักซิ ใคร ๆ เค้าทำกัน แต่..บอกด้วยคำพูดไม่กล้าหรอก คืนนั้น ทั้งคืน เขียนจดหมาย เย็นนั้นก่อนกลับบ้านแอบสอดจดหมายห้าหน้ากระดาษใส่ในหนังสือเรียนเธอ ไปส่งเธอขึ้นรถ โบกมือให้เธอแล้วบอกว่า “มีคนฝากจดหมายไว้หนังสือ” แล้วก็รีบเดินออกมา ที่เหลือ..เป็นเรื่องของเวรกรรม รุ่งเช้าเข้าเรียน เธอส่งจดหมายให้แล้วเดินหนีไป เปิดอ่าน ...ok จบ จบแบบมองหน้ากันไม่ติดเลย ...เฮ้อ
ครั้งที่4 5…6…7….. มี แต่ไม่เล่าแล้ว ดึกมากแล้ว นอนดีกว่า นาฬิกาบอกเวลา ตีหนึ่งสิบเจ็ดนาทีแล้ว เวิ่นเว้อมาชั่วโมงกว่าแล้ว ok นะ... พอ ..นอน
แบบนี้เรียก ไปเรื่อยเปื่อย หรือเปล่า
แล้วจะเวิ่นเว้อเรื่องอะไรดีล่ะ ok เรื่องเส้นทางของความรักก็แล้วกัน น่าจะเหมาะ ความรัก....นึกก่อน มีครั้งแรกตอนไหน อ้อ ตอนประกาศผลสอบเข้า ม.1 ไปดูผลสอบที่แปะไว้หน้าบอร์ดของโรงเรียนประจำอำเภอ ดูเสร็จ ถอยหลัง ชนเธอ หันมา ปิ๊งเลย ! เธอมากับพ่อ เราได้อยู่ห้องเดียวกันด้วย ได้คุยกับเธอทีไรใจเต้นแรงทุกทีเป็นตั้งสามปี ไม่กล้าบอกเธอ จนจบ ม.3 แยกย้ายกันไป นี่เรียกว่าอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้บอกรักเธอหรือเปล่า ? ไม่แน่ใจ
ครั้งที่ 2 ล่ะ ..ม.3…ใช่ ม.3 เธออยู่ม.1 คนละโรงเรียน พบรักเธอเพราะปั่นจักรยานมาปากซอยด้วยกัน เห็นครั้งแรก ปั่นจักรยานเป็นงูเลื้อยเลย เธอสวยสุด ๆ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เลิกกับคนแรกนะ (ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้บอกรักเธอ) จะเรียกว่าจับปลาสองมือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ท้ายสุดก็ต้องเลิกกับคนที่สองอีกแล้ว เธอมีคนมาชอบเยอะ เธอไม่เคยพูดกับผมเลยได้แต่ยิ้ม มีครั้งหนึ่งเรานั่งรถสองแถวติดกันหันไปมองเธอ เธอได้แต่ก้มหน้ายิ้ม เธอสวยสุด ๆ อยากให้สองแถวมันติดไฟแดงนาน ๆ หรือไม่ก็อยากให้โรงเรียนมันย้ายไปอยู่ไกล ...ครั้งนี้ดีหน่อย...เธอรู้ตัวว่าเราชอบ
ครั้งที่ 3 ครั้งนี้ซิเป็นเอาหนัก ก็โตแล้วอยู่ ปวช.3 แล้ว ..เพื่อน เธอเป็นเพื่อน ไม่รู้รักเธอตอนไหน ตอนที่นั่งเรียนด้วยกันหรือเปล่า ? ตอนที่เธอขอลอกการบ้านหรือเปล่า ? หรือเพราะเราชอบเพลงเดียวกัน กว่าจะรู้ตัวก็ถลำไปจนสุดก้นบึ้งของความรักแล้ว ทำไงต่อไปล่ะ บอกรักซิ ใคร ๆ เค้าทำกัน แต่..บอกด้วยคำพูดไม่กล้าหรอก คืนนั้น ทั้งคืน เขียนจดหมาย เย็นนั้นก่อนกลับบ้านแอบสอดจดหมายห้าหน้ากระดาษใส่ในหนังสือเรียนเธอ ไปส่งเธอขึ้นรถ โบกมือให้เธอแล้วบอกว่า “มีคนฝากจดหมายไว้หนังสือ” แล้วก็รีบเดินออกมา ที่เหลือ..เป็นเรื่องของเวรกรรม รุ่งเช้าเข้าเรียน เธอส่งจดหมายให้แล้วเดินหนีไป เปิดอ่าน ...ok จบ จบแบบมองหน้ากันไม่ติดเลย ...เฮ้อ
ครั้งที่4 5…6…7….. มี แต่ไม่เล่าแล้ว ดึกมากแล้ว นอนดีกว่า นาฬิกาบอกเวลา ตีหนึ่งสิบเจ็ดนาทีแล้ว เวิ่นเว้อมาชั่วโมงกว่าแล้ว ok นะ... พอ ..นอน