ชีวิต นักศึกษา ป.เอก ที่ AIT เป็นอย่างไร

เนื่องจากผมกำลังจะสมัคร เป็น นักศึกษา ปริญญาเอก ที่ AIT ด้วยทุน RTG ที่ประกาศ และผมก็ได้รับการพิจารณาให้ทุน คิดเป็น 75% ของค่าเล่าเรียนทั้งหมด

อันที่จริง ในส่วนค่าเล่าเรียนที่เหลือ ผมก็ตั้งใจว่าจะลองไปปรึกษาสินเชื่อเพื่อการศึกษาดู คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ไอที่กังวลอยู่มาก ณ ตอนนี้ คือ การเป็นนักเรียน PhD ซึ่ง AIT นั้น มีแต่ Full time ครับ จึงอยากจะขอสอบถามผู้รู้ว่า เมื่อสมัยตอนที่เป็น นักศึกษา ปริญญาเอกนั้น ในส่วนของค่าหอพัก ค่าใช้จ่ายรายเดือน ท่านอยู่กันอย่างไร หาจากที่ไหน ใครที่เคยประสบปัญหา หรือมีประสบการณ์แนะนำหน่อยครับ ขอคำปรึกษา

*หมายเหตุ ในกรณีที่ ไม่ได้รับทุนช่วยเหลือจาก องค์กรอื่นๆนะครับ ตอนนี้ผมได้แค่จาก AIT ที่เดียว เลยอยากสอบถามครับว่า จะทำอย่างไรต่อไปดี ผมควรจะไปหาทุนอื่นช่วยด้วยไหม หรือ postpone ไปก่อน รอให้ได้ทุนช่วยเหลือจากสังกัดอื่น แล้วมาสมัครใหม่
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
1. ภาพรวม ปเอก นะครับ;
>> ปเอก เอไอที ต้องลงเรียน 18 หน่วยกิต นั่งเรียนตัดเกรดรวมๆกันทั้งโทเอก
>> จะแยกลงเทอมละ 9 หน่วย (ประมาณ 3 ตัว) หรือยัดเทอมนึงไป 15 หน่วยก็ได้ แต่วิชาเรียนส่วนใหญ่ออกทางประยุกต์ลงเคสจริงและงานเยอะเกือบทุกวิชา
>> ปเอก เกรดรวมต้องไม่ต่ำกว่า 3.5 ตัดเกรดรวม; อย่าไปคิดว่าเด็ก ปโท จะหมู เด็กส่วนใหญ่ที่คุณต้องตัดเกรดด้วยเป็นเด็กทุนมากันเกือบทั้งนั้น เด็กพวกเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเกษตร พระจอม ธรรมศาสตร์ จุฬา มหิดล ก็พบเจอได้นะครับอย่าคิดว่าไปนอกกันหมด, อันดับสองลงมาก็เกลื่อนกลาด, เด็กไทยจบนอกยูท็อปๆมาเรียนเอกก็มี, พวกเอเชียหรือแขก ถึงจะไม่ระดับ iit แต่ก็เก่งใช่เล่นนะครับ, ดังนั้น ปีแรกคุณต้องเรียนเต็มตัว น่าจะไม่มีเวลาทำงานนอกนะครับ
>> พอหมด 18 หน่วยคุณก็ต้องดีเฟนหัวข้อ; คุณเตรียมมาแล้วหรือยัง?  ไม่ใช่ตัดแปะๆแล้วขอ อ ผ่านๆไปก่อนนะครับ, ทำลวกๆแล้วมาต่อรอง อ ระดับนี้เค้าไม่สนใจนะครับ, ไม่ผ่านภายในเวลาที่กำหนดก็ต้องออกนะครับ ช่วงนี้ไม่น่ามีเวลาไปรับงานอื่นใดเหมือนกันครับ
>> หลังจากได้หัวข้อ; คราวนี้พอจะเรับงานได้ครับ ส่วนมากก็ขอที่ปรึกษาเอาครับ งานที่ทำก็เป็นงานวิจัยที่ที่ปรึกษารับๆมาหรือช่วยสอนแลบ รายได้พอค่าหอค่ากิน, หรือถามเพื่อนๆ ปเอก ที่เป็น อ สังกัดมหาลัยก็ได้ ส่วนใหญ่เค้ามีลู่ทางหางานวิจัยมาให้ครับ
>> จะจบก็ได้ตอบรับตีพิมพ์ (min = 1 ฉบับ ในวารสารไม่ไก่กา (มีกรรมการมหาลัยคอยตัดสิน), แต่เข้าใจด้วยว่า อ หลายคนรักษามาตรฐานตัวเค้าเอง แปลว่าเจอนัลที่อิมแพคต่ำเค้าอาจไม่ยอมให้ส่ง หลายๆคนก็เอาสองหรือสามเปเปอร์ขึ้นไป ดังนั้น เตรียมใจกับการอยู่นานๆไว้ด้วย)
>> ปเอก รุ่นใกล้ๆกัน คนออกไปกลางทาง ~40%, อยู่เกินสี่ปี > ~80%
>> ถ้าจะเอาถูกสุดๆ ค่าหอในรวมน้ำไฟเนทประมาณไม่เกินสามพัน, ข้าวไปกินโรงอาหารใน มธ หรือในโรงบาลก็ได้ ถูกและขาว (หมอ มธ และเซลยาหน้าตาดีเพียบ คอนเฟิร์มมม), นอกนั้นก็ค่าพวกชีทหรือหนังสือ รวมๆไม่แพงมาก ยืมห้องสมุดฟรีหรืออยากเสียตังค์ก็ไปซื้อเทกซ์ที่ร้านตรงแยกเทคโนปทุมเก่าหรือในศูนย์หนังสือ มธ เอา (บัตรเอไอทีเค้าก็ลดให้ด้วย...ขอบคุณ มธ มากนะครัช), โนทบุ้กปีแรกใช้งานเบๆเอารุ่นเก่าๆที่บ้านมาใช้ก่อนก็ได้ พอดีเฟนเสร็จค่อยซื้อใหม่ > รวมๆแล้วเดือนนึงอยู่แบบไม่อนาถก็ไม่ถึงหมื่น
>> ถ้าจะประหยัดค่าหอ แบบไม่ไหวจริงๆแล้ว หมดตัวแล้วยังไม่จบซักที > พอดีเฟนหัวข้อแล้วจะมีห้องทำงานให้เด็ก ปเอก, ถ้าจะประหยัดสุดๆก็ไปนอนได้นะ แอร์มีห้องอาบน้ำมี เพื่อนๆเข้าใจไม่ว่าไรหรอก

2. ประเด็นสำคัญสำหรับคุณ;
>> ได้ทุน ปเอก rtg 75% แปลว่าจบตรี/โทเกรดดี > คุณผ่านปีแรกได้ (อยู่ที่ภาษาด้วยนะครับ)
>> ต้องหาสินเชื่อเพื่อการศึกษา? > ปเอก ไม่การันตีว่าจะจบเมื่อไหร่เหมือนโท กู้มาต้องใช้คืนต่อเดือนเท่าไหร่เมื่อไหร่ช่วยคิดดีๆก่อนนะครับ, รายได้จากการเป็น ra/ta พอแค่ค่ากินอยู่แบบไม่อนาถ แต่คงไม่น่าพอที่จะคืนเงินกู้หลายแสน สรุป ผมไม่แนะนำใครก็ตามที่จะเรียน ปเอก โดยไม่ได้ทุนทั้งเงินเดือนและค่าเทอมด้วยเหตุผลข้างต้น ยกเว้นบ้านรวยอยากเรียนก็อีกเรื่อง
>> คุณไม่ได้มีต้นสังกัดให้ทุนมา ต้องถามว่าจะเรียนเอกเพื่อ? จบแล้วอยากทำงานอะไร? > ต้องเข้าใจก่อนว่า จบ ปเอก ไม่ได้การรันตีว่าจะมีอะไรพิเศษเมื่อกลับไปใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริงนะครับ, รายได้/ความมั่นคงก็ไม่ได้การันตีว่าจะมากกว่าเสมอไปนะครับ, อ มหาลัยจบใหม่เงินเดือนอย่างมากก็สี่หมื่น, เอกชนที่รับ ปเอก ก็มากกว่านั้นหน่อย แต่รวมทุกสิ่งอย่างดีสุดก็ไม่เกินปีละล้าน (พวก un agencies ก็ประมาณนี้, แต่พวกเงินดี ptt, scg, un ก็รับน้อยจนไม่ควรนำมาคิด), คิดกลมๆว่ารายได้หลังจบ ถ้าไปสายมหาลัยหรือโพสด็อกก็สองสามหมื่น เอกชนก็สี่ห้าหมื่น อย่าไปคาดหวังเว่อร์ๆ (ผมพูดเผื่อคุณคิดจะกู้เงินเรียน จะได้รู้ว่ารายได้จบไปมันจะพอจ่ายหนี้ไหม)  
>> ตอนเลือกที่ปรึกษา? > อ เด็กๆอาจไม่มีงบจ้าง ta/ra, แต่ อ เก๋าๆที่มีเงินจ้างก็อาจจะมาตรฐานสูง (คนออกกลางทางไม่ได้แปลว่าไม่เก่งเสมอไป บางคนเป็น อ รับทุนจาก มก มช แต่ไม่จบเพราะที่ปรึกษาโหดสัสก็มี), เทรดออฟเอาเองก่อนเลือกที่ปรึกษา รู้ก่อนจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
>> มีครอบครัวต้องรับผิดชอบไหม? > ถ้าอย่างที่เล่ามาแล้วบวกกับมีครอบครัวที่ต้องดูแลด้วย ผมไม่แนะนำให้เรียนต่อเอกตอนนี้

3. ถ้าให้แนะนำ;
>> ถามตัวเองก่อนว่า อยากเรียน ปเอก แบบเอาจริงเอาจังได้พัฒนาความรู้ความสามารถ? หรืออยากเอาคำนำหน้าชื่อเฉยๆ? > ถ้าอยากพัฒนาตัวเอง อ่านต่อ, ถ้าอยากได้ด้อกนำหน้าเฉยๆเพื่อเหตุผลอะไรของคุณ ที่สบายกว่านี้ถูกกว่านี้ มีอีกเยอะ อย่ามาทรมาณตัวเองเลย
>> คุณเป็นคนที่มีแรงบัลดาลใจในการมาเรียนเต็มเปี่ยมเกินร้อยใช่ไหม? มันเป็นช่วงเวลายาวนานที่คุณต้องล้มร้อยครั้งพันครั้งแต่ต้องลุกให้ได้เอง สังเกตุตัวเองว่าคุณมีความสามารถหรือแรงผลักดันให้คุณลุกมาสู้ต่อหลังจากล้มมาแล้วเป็นร้อยทีไหม? > ถ้าไม่มีให้หาซะ ถ้าหาไม่ได้อย่าเรียน ถ้ามีก็เตรียมงัดมาใช้ซะ
>> เรื่องเงิน บอกตรงๆว่าถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเรียน, การกู้เงินเรียนเหมาะเฉพาะโปรแกรม mba แค่ไม่กี่ที่ เช่น top 5 us หรือ lbs ถึงจะคุ้มแน่, ปเอก ไม่แนะนำให้กู้ครับ > ทางเลือกของคนไม่มีผลงานคือ; (1) หาต้นสังกัดที่ส่งเรียน, (2) หาต้นสังกัดที่ลาเรียนแล้วได้เงินเดือน แล้วหาทุนค่าเทอมเอา, (3) ติดต่อ อ ในฟิลด์ที่ต้องการ (ที่ ม ไหนก็ได้) ขอไปเป็นฟูลทาม ra แล้วร่วมตีพิมพ์ให้ได้เยอะๆ หลังจากนั้นจะมีช่องทางหาทุนเต็มได้ซักที่ในโลกนี้, (4) ทำงานเก็บเงินอีกเฮือกนึงให้พอค่าเทอมส่วนที่เหลือกับเงินที่ต้องใช้ช่วงปีแรก ระหว่างนั้นติดต่อหาที่ปรึกษาที่มีเงินจ้าง ta/ra ไปด้วย บอกเค้าไปเลยว่าอยากเรียน หลังดีเฟนหัวข้อเสร็จมีเงินจ้างรายเดือนไหม, (5) ลองติดต่อกับ อ ในภาคที่สนใจ บอกประวัติกับบอกว่าขาดเหลือเท่าไหร่ไปเลย บางคนอาจมีทุนเติมส่วนที่คุณขาดให้ได้เลยก็ได้แลกกับทักษะบางอย่างของคุณที่เค้าต้องการ
>> สุดท้ายครับ > สมอง + ความอดทน/แรงผลักดัน + เงินสนับสนุน, ถ้าดูแล้วไม่พร้อมครบ 3 อย่างนี้ อย่าเพิ่งเรียนครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่