[Review] No Game No Life พี่น้องเซียนเกมข้ามมิติ ตอน 3

พิธีแต่งตั้งราชาให้สาวผมดำนามว่าคุรามิกำลังดำเนินอยู่ ทว่าโซระกลับสาวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจคำทัดทานของเสตฟ และบอกว่าเขาเพิ่งมาเกิดใหม่บนโลกนี้ยังไงก็ไม่ยอมสูญเสียที่อยู่ไปหรอก เพราะงั้นเขาก็แค่ขึ้นเป็นราชา แล้วก็ชิงดินแดนที่เสียไปคืนมาให้หมดเลย


ผู้ทำพิธีเอ่ยถามว่ามีใครจะคัดค้านการขึ้นเป็นราชาของคุรามิหรือไม่ ก็มีเสียงว่าคัดค้านเสียงดังมาจากมือถือของโซระ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินอาด ๆ เข้ามาและตอบผู้ถือมงกุฎว่าเขาจะสู้กับคุรามิ  หญิงสาวที่กำลังจะได้ขึ้นเป็นราชาสมดังใจพูดกระทบเสตฟว่าแพ้แล้วเอาคนรับใช้มาสู้แทนรึ


แต่โซระพูดว่าการปล่อยให้นักต้มตุ๋นที่ร่วมมือกับคนประเทศอื่นนั้นมิแย่กว่ารึ เรียกเสียงฮือฮาจากฝูงชนที่รวมกันอยู่ในที่นั้น  พี่ชายแอบกระซิบถามน้องสาวว่าเห็นคนต้องสงสัยที่ซ่อนหูเอาไว้ไหม ซึ่งชิโระเช็ครูปเดิมที่เคยถ่ายคราวก่อนด้วยมือถือไว้แล้ว ก็ตอบว่าเห็นแค่คนเดียว


ทำให้คุรามินึกได้ว่าเคยเห็นเครื่องมือนี้ตอนแข่งไพ่กับเสตฟแล้วชิโระยกขึ้นมาส่องเธอ หญิงสาวผมดำทำไขสือ แต่โซระหันไปถามฝูงชนที่อยู่ด้านล่างว่า สมมติว่าเกิดเรายกมงกุฎให้คนที่ร่วมมือกับเอลฟ์จนชนะขึ้นมา ต่อไปประเทศนี้จะเป็นยังไงน้อ


คุรามิจึงยอมรับคำท้าเพื่อไม่ให้ประเด็นเรื่องร่วมมือกับเอลฟ์ดำเนินต่อไปอีก ทว่าโซระพูดว่าก่อนจะแข่งโป๊กเกอร์ช่วยเอาผู้ช่วยเหลือออกไปก่อนได้ไหม พร้อมกับที่น้องสาวชิโระชี้ไปทางคนสวมฮู้ด โดยมีเสตฟแอบย่องเข้าด้านหลังแล้วดึงฮู้ดออก เผยให้เห็นหูแหลมแบบเผ่าเอลฟ์ที่ไม่ควรจะอยู่ในงานพิธีแต่งตั้งราชาของมนุษย์  คุรามิเลยตอบโซระว่าขอให้ผู้ช่วยชาวเอลฟ์ออกไป ซึ่งสาวเอลฟ์ก็รู้งานรีบเผ่นไปก่อนจะมีมนุษย์คนไหนทันรุมจับตัว



คุรามิยังยิ้มอยู่และพูดต่อไปว่าเธอเป็นฝ่ายที่มีสิทธิกำหนดเกม เดี๋ยวจัดการเสร็จจะมาเรียก ชายหนุ่มเล่นลิ้นว่าเขาจะไม่ถามละกันว่าทำไมไม่เล่นโป๊กเกอร์แล้ว พลางยื่นมือไปถ่ายรูปคุรามิ แล้วยังหันมือถือไปโชว์รูปถ่ายให้เห็นอีกด้วยว่าถ้ายิ้มมากกว่านี้จะน่ารักนะ  ทำเอาหญิงสาวผมดำเผยสีหน้าวิตกวูบหนึ่งก่อนยิ้มเกลื่อนไป  


สามคนออกมาข้างนอกระหว่างรอคุรามิจัดเตรียมการแข่ง เสตฟกรีดร้องด้วยความตกใจที่รู้ว่าคุรามิโกงการแข่ง แปลว่ามือถือของสองพี่น้องใช้ตรวจจับเวทย์มนต์ได้งั้นหรือแล้วนั่นเป็นเวทย์มนต์อะไร แต่สองพี่น้องก็บอกเลยว่าไม่รู้ เพราะอย่างถ้าเกิดเปลี่ยนหน้าไพ่ได้ตามใจชอบล่ะก็ ยังไงก็ไม่มีทางชนะเลย


ซึ่งโซระก็อธิบายให้ฟังว่าการจัดการแข่งขันแบบนี้ ก็ย่อมต้องมีเผ่าอื่นอยากแทรกแซงอยู่แล้ว ยิ่งกับเผ่าอิมานิตี้ที่ไม่อาจรับรู้การใช้เวทย์แล้วยิ่งหวานหมู ก็แค่ร่วมมือกับมนุษย์สักคนแล้วดันให้ขึ้นเป็นราชาหุ่นเชิด เท่านี้ประเทศนั้นก็ได้ชักใยอยู่เบื้องหลัง และทำอะไรก็ได้ เป็นอีกวิธีในการขยายดินแดนเลยล่ะ

แล้วรู้ไหมว่าตอนนี้พวกนั้นจะคิดยังไง

ด้านสาวเอลฟ์ผมยาวที่ยืนใส่พลังเวทย์ในตัวหมากรุกก็พูดด้วยสีหน้าร้อนใจว่า "นึกแล้วว่าต้องได้เจอพวกแบบนี้" แต่คุรามิก็ตอบว่าก็กะไว้แล้วว่าต้องมีอิมานิตี้ที่ไปร่วมมือกับเผ่าอื่นแบบเธออีกเป็นเรื่องธรรมดา เอลฟ์สาวหันมาเแสดงท่าทางเป็นห่วงคุรามิว่าจะไม่เป็นไรแน่หรือ  คุรามิมีสีหน้ากังวลแต่ก็ตอบว่า ไม่ต้องห่วง


เสตฟถามสองพี่น้องว่าคุรามิตอนนี้ไม่ได้รับเวทย์มนต์จากเอลฟ์แล้ว แปลว่าจากนี้จะเป็นการต่อสู้แบบบริสุทธิ์ยุติธรรมใช่ไม๊ แต่โซระทำหน้าหน่ายพลางแคะขี้มูกถามว่าในหัวเธอมีแต่ดอกไม้บานเต็มหัวรึไงกัน มันไม่ได้โลกสวยแบบนั้นหรอก



โซระคาดการณ์ว่าอีกฝ่ายต้องเตรียมเกมที่ดูภายนอกเหมือนเล่นแฟร์ แต่ซ่อนลูกตุกติกไว้เผยทีหลังแน่ เพราะฝั่งคุรามิคิดว่าพวกเขาก็มีพลังจากเผ่าอื่นช่วยเหลืออยู่เหมือนกัน ดังนั้นอย่างน้อยก็จะไม่ใช้เวทย์ลวงตาหรือสับเปลี่ยนความทรงจำกับเราโดยตรง ซึ่งตามหลักการก็คือจะเป็นเกมที่พอมีโอกาสชนะ

เพราะขอเพียงเป็นเกมที่มีโอกาสชนะแม้เพียงน้อยนิด ยังไงคูฮาคุก็ไม่แพ้แน่



พอขึ้นรถม้าที่คุรามิเตรียมไว้ด้วยกันแล้ว คุรามิก็สารภาพว่าเธอเลือกร่วมมือกับเอลฟ์เพราะเป็นทางเดียวที่จะรักษาดินแดนสุดท้ายของมนุษย์ไว้ได้ เธอตั้งใจว่าพอได้พื้นที่ดินแดนเพียงพอสำหรับมนุษย์แล้ว ก็จะตัดขาดกับและไม่รับคำท้าสู้ใดอีก



โซระแอบอี๋ในใจ แต่ชิโระออกเสียงอี๋ออกมาเลย จนคุณพี่ชายอดเตือนคุณน้องไม่ได้ว่า ไม่ต้องออกเสียงก็ได้นะจ๊ะ คุณน้อง  


โซระถามว่าเธอบ้าหรือเปล่า มาบอกกับคนที่ร่วมมือกับเผ่าอื่นแบบนี้ ไม่กลัวตายหรือ แต่คุรามิบอกว่าเพราะนี่เป็นทางเดียวที่มนุษย์จะอยู่รอดได้ คือต้องพึ่งการคุ้มครองจากเผ่าอื่น แล้วปิดประเทศไม่รับการท้าเล่นเกมจากเผ่าไหนอีก แถมหันไปขอเสียงสนับสนุนจากเสตฟอีก ว่าประเทศเอลเวนการ์ดนั้นแข็งแกร่งด้านเวทย์มนต์ที่สุด ยังไงโซระก็ไม่มีทางชนะเธอแน่  ดังนั้นจึงอยากให้ถอนตัวไปซะ


โซระเองก็เห็นด้วยว่าการมีประเทศอื่นคุ้มครองก็เป็นแผนที่ไม่เลวและทำท่าเหมือนจะยอมรับ แต่แล้วโซระกับชิโระก็กลายร่างเป็นโจโจ้แล้วพูดคำคมอย่าง พวกเราคูฮาคุนั้นชอบนักที่ได้ปฏิเสธพวกที่คิดว่ากำลังได้เปรียบอยู่!!


สเตฟกับคุรามิอึ้งเหวอไป ขณะที่สองพี่น้องแตะมือกันอย่างร่าเริงที่ได้พูด "ประโยคที่ต้องพูดให้ได้อันดับสี่" ออกมากับคนจริงสามมิติ


เมื่อคุรามิเห็นว่ากล่อมโซระไม่สำเร็จก็เดินทางมาถึงสถานที่จัดแข่งพอดี ขณะเดินเข้าไปเสตฟก็ถามว่าทำไมไม่รับข้อเสนอของคุรุมิ แต่โซระนั้นหันมาอธิบายว่า 1.จะรู้ได้ไงว่าพูดจริง  2.ถ้าชนะชัวร์คงไม่มากล่อมแต่แรก 3.ถ้าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นสายลับประเทศอื่น ใครมันจะมาพูดความจริงว่าไม่มีเรื่องแอบแฝง 4.ขืนยอมตามให้ฝ่ายโน้นรู้ไต๋เราก็จบเห่เหมือนกัน  


แต่สิ่งที่ทำให้โซระเคืองที่สุดดูจะเป็นเรื่องที่ทั้งเสตฟและคุรามิประเมินเผ่ามนุษย์ไว้ต่ำเกินไปแล้ว

เมื่อผลักบานประตูออกไปก็เป็นส่วนระเบียงที่ยื่นออกไป คุรามิอยู่ระเบียงฝั่งตรงข้าม พื้นที่ด้านล่างตรงกลางระหว่างทั้งสองเป็นหมากรุกรูปทรงมนุษย์ในเครื่องแบบตามตำแหน่งหมากรุกขนาดใหญ่


เมื่อเห็นว่าเป็นเกมหมากรุก ชิโระก็ต้องเป็นคนลงแข่ง ทว่าโซระกลับขอสิทธิ์ในการเปลี่ยนตัวได้ จนน้องสาวร่างเล็กน้อยใจว่าพี่ชายไม่ไว้ใจเธอ โซระกลับบอกว่านี่ไม่ใช่หมากรุกธรรมดาแน่


ชิโระเป็นฝ่ายเดินก่อน ซึ่งปกติฝ่ายเดินก่อนจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ ทว่าคุรามิกลับเดินตาหมากได้ไกลกว่า ทำเอาเสตฟแตกตื่น แต่โซระกลับเฉย ๆ ชิล ๆ และเพียงไม่นานน้องสาวก็เริ่มไล่ต้อนฝ่ายตรงข้าม ซึ่งชายหนุ่มก็บอกเสตฟว่าอย่างหมากโชงิของญี่ปุ่น ต่อให้เหลือแค่คิงกับควีนก็ยังชนะฝ่ายตรงข้ามได้ เพราะงั้นแค่การต่อให้เล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นไม่อาจทำให้ระยะห่างระหว่างชั้นฝีมือร่นเข้ามาได้หรอก

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่