โครงการบูรณะพระบรมธาตุมหาเจดีย์ฯวัดประยุรวงศาวาส คว้ารางวัลยอดเยี่มอันดับ 1 ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 56 จากยูเนสโก
วันที่ 23 เม.ย. เวลา 17.30 น. ที่ บริเวณลานพระบรมธาตุมหาเจดีย์ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มีการจัดพิธีมอบรางวัลยอดเยี่ยมอันดับ 1 ปี 2556 (Award of Excellence) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ให้โครงการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์และพรินทร์ปริยัติธรรมศาลาวัดประยุรวงศาวาส โดยมี ดร.กวางโจ คิม ผู้อำนวยการสำนักงานยูเนสโกกรุงเทพฯ เป็นผู้แทนมอบรางวัลแด่ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เจ้าคณะภาค 2กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) และอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) มีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
ดร.กวางโจ คิม ได้อ่านประกาศคำสดุดีและกล่าวถึงการพิจารณาตัดสินรางวัลครั้งนี้ว่า โครงการนี้ส่งเสริมการพัฒนาภูมิปัญญาทางสังคมในย่านกะดีจีน ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และได้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจลึกซึ้งในรูปแบบสถาปัตยกรรมเฉพาะตัวของยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ด้วยการเสริมความแฃ็งแรงให้แก่โครงสร้างภายใน ขณะที่ยังคงรูปลักษณ์ภายนอกของเจดีย์ที่ทรุดเอียงไว้ การบูรณะซ่อมแซมที่บูรณาการความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิถีการก่อสร้างแบบดั้งเดิม ได้สื่อสารขนบโบราณและสุนทรีย์แห่งยุคเก่า ความร่วมมือร่วมใจที่น่ายกย่อง ระหว่างพระสงฆ์ผู้เชี่ยวชาญ และชุมชนเป็นนิยามของความสัมพันธ์อันยั่งยืน ระหว่างวัดและชุมชนในศตวรรษที่ 21 ในการธำรงรักษาพุทธศาสนสถานให้ดำรงอยู่ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของชุมชนตราบจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีการมอบรางวัลยูเนสโกเอเชียและแปซิฟิก เพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมพบว่า มีโครงการของไทย 11โครงการที่ได้รับรางวัล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าโดยรวมที่มีการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมไทย โครงการที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ส่งผลอย่างมากต่อการอนุรักษ์ทั้งในชุมชนใกล้เคียงในระดับภูมิภาคหรือระดับชาติ
พระพรหมบัณฑิต กล่าวว่า วัดประยุรวงศาวาสวรวิหารได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรให้เริ่มบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์และพรินทร์ปริยัติธรรมศาลา เมื่อปี 2549 ใช้เวลาดำเนินการทั้งหมด 6 ปี แล้วเสร็จในปี 2554 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 38 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะสงฆ์และชุมชนรอบวัด ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับคัดเลือกจากสมาคมสถาปนิกสยามให้ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม โดยเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2554 และ ล่าสุดเมื่อปี 2556 โครงการนี้ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกประกาศได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอันดับ 1 ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับรางวัลนี้
"พระบรมธาตุมหาเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่สร้างในสมัยอยุธยา และมีเสาแกนกลางที่ยังเหลืออยู่แห่งเดียวในไทย สามารถเดินเข้าไปชมด้านในได้ ซึ่งหลักเกณฑ์การให้รางวัลของยูเนสโก ประการแรกเห็นว่า เรารักษาสิ่งที่มรดกอันทรงคุณค่าเป็นโบราณสถานไว้อย่างดี การบูรณะคงรูปลักษณ์เดิมไม่ทำลาย โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ประการที่สอง พระบรมธาตุมหาเจดีย์และพรินทร์ปริยัติธรรมศาลา เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีทุกฝ่ายร่วมกันบูรณะดูแล อาทิ กรมศิลปากร สถานศึกษา กรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ ชุมชน ประการที่สาม เมื่อทำเสร็จยังคงคุณค่าประโยชน์ใช้สอยอย่างสมบูรณ์เป็นศูนย์รวมทางจิตใจ พระบรมธาตุมหาเจดีย์นอกจากจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว ยังเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวชุมชน เชื่อมโยงกับโบสถ์ของศาสนาคริสต์ และ มัสยิดของศาสนาอิสลาม ซึ่งการได้รับรางวัลนี้เป็นความภาคภูมิใจของชุมชนทั้งหมด โดยเฉพาะชุมชนกะดีจีน "พระพรหมบัณฑิตกล่าวและว่า ทั้งนี้ทางวัดและมูลนิธิสิริวัฒนภักดี จะจัดงานสมโภชอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 23-26เม.ย.2557 โดยปรับพื้นที่วัดให้กลายเป็นเพลินวันวานหรือตลาดโบราณการถ่ายภาพย้อนยุคและการแสดงต่างๆที่เป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทย.
เดลินิวส์
http://bit.ly/เพจข่าวดี
โครงการบูรณะพระบรมธาตุมหาเจดีย์ฯ วัดประยูร รับรางวัลยอดเยี่มอันดับ 1 ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมยูเนสโก
โครงการบูรณะพระบรมธาตุมหาเจดีย์ฯวัดประยุรวงศาวาส คว้ารางวัลยอดเยี่มอันดับ 1 ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 56 จากยูเนสโก
วันที่ 23 เม.ย. เวลา 17.30 น. ที่ บริเวณลานพระบรมธาตุมหาเจดีย์ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มีการจัดพิธีมอบรางวัลยอดเยี่ยมอันดับ 1 ปี 2556 (Award of Excellence) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ให้โครงการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์และพรินทร์ปริยัติธรรมศาลาวัดประยุรวงศาวาส โดยมี ดร.กวางโจ คิม ผู้อำนวยการสำนักงานยูเนสโกกรุงเทพฯ เป็นผู้แทนมอบรางวัลแด่ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เจ้าคณะภาค 2กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) และอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) มีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
ดร.กวางโจ คิม ได้อ่านประกาศคำสดุดีและกล่าวถึงการพิจารณาตัดสินรางวัลครั้งนี้ว่า โครงการนี้ส่งเสริมการพัฒนาภูมิปัญญาทางสังคมในย่านกะดีจีน ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และได้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจลึกซึ้งในรูปแบบสถาปัตยกรรมเฉพาะตัวของยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ด้วยการเสริมความแฃ็งแรงให้แก่โครงสร้างภายใน ขณะที่ยังคงรูปลักษณ์ภายนอกของเจดีย์ที่ทรุดเอียงไว้ การบูรณะซ่อมแซมที่บูรณาการความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิถีการก่อสร้างแบบดั้งเดิม ได้สื่อสารขนบโบราณและสุนทรีย์แห่งยุคเก่า ความร่วมมือร่วมใจที่น่ายกย่อง ระหว่างพระสงฆ์ผู้เชี่ยวชาญ และชุมชนเป็นนิยามของความสัมพันธ์อันยั่งยืน ระหว่างวัดและชุมชนในศตวรรษที่ 21 ในการธำรงรักษาพุทธศาสนสถานให้ดำรงอยู่ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของชุมชนตราบจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีการมอบรางวัลยูเนสโกเอเชียและแปซิฟิก เพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมพบว่า มีโครงการของไทย 11โครงการที่ได้รับรางวัล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าโดยรวมที่มีการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมไทย โครงการที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ส่งผลอย่างมากต่อการอนุรักษ์ทั้งในชุมชนใกล้เคียงในระดับภูมิภาคหรือระดับชาติ
พระพรหมบัณฑิต กล่าวว่า วัดประยุรวงศาวาสวรวิหารได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรให้เริ่มบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์และพรินทร์ปริยัติธรรมศาลา เมื่อปี 2549 ใช้เวลาดำเนินการทั้งหมด 6 ปี แล้วเสร็จในปี 2554 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 38 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะสงฆ์และชุมชนรอบวัด ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับคัดเลือกจากสมาคมสถาปนิกสยามให้ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม โดยเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2554 และ ล่าสุดเมื่อปี 2556 โครงการนี้ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกประกาศได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอันดับ 1 ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับรางวัลนี้
"พระบรมธาตุมหาเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่สร้างในสมัยอยุธยา และมีเสาแกนกลางที่ยังเหลืออยู่แห่งเดียวในไทย สามารถเดินเข้าไปชมด้านในได้ ซึ่งหลักเกณฑ์การให้รางวัลของยูเนสโก ประการแรกเห็นว่า เรารักษาสิ่งที่มรดกอันทรงคุณค่าเป็นโบราณสถานไว้อย่างดี การบูรณะคงรูปลักษณ์เดิมไม่ทำลาย โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ประการที่สอง พระบรมธาตุมหาเจดีย์และพรินทร์ปริยัติธรรมศาลา เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีทุกฝ่ายร่วมกันบูรณะดูแล อาทิ กรมศิลปากร สถานศึกษา กรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ ชุมชน ประการที่สาม เมื่อทำเสร็จยังคงคุณค่าประโยชน์ใช้สอยอย่างสมบูรณ์เป็นศูนย์รวมทางจิตใจ พระบรมธาตุมหาเจดีย์นอกจากจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว ยังเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวชุมชน เชื่อมโยงกับโบสถ์ของศาสนาคริสต์ และ มัสยิดของศาสนาอิสลาม ซึ่งการได้รับรางวัลนี้เป็นความภาคภูมิใจของชุมชนทั้งหมด โดยเฉพาะชุมชนกะดีจีน "พระพรหมบัณฑิตกล่าวและว่า ทั้งนี้ทางวัดและมูลนิธิสิริวัฒนภักดี จะจัดงานสมโภชอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 23-26เม.ย.2557 โดยปรับพื้นที่วัดให้กลายเป็นเพลินวันวานหรือตลาดโบราณการถ่ายภาพย้อนยุคและการแสดงต่างๆที่เป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทย.
เดลินิวส์
http://bit.ly/เพจข่าวดี