เนื่องจากประกันรถยนต์ของผมใกล้จะหมดพอดี หลังจากหาข้อมูลมาจากหลายๆที ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ผมเลยหาข้อมูลพวกประกันรถยนต์ของบริษัทต่างๆดู แต่ด้วยความที่ว่ามันเยอะแยะไปหมดดูแล้วตาลายมากเลือกยากมาก เลยลองเอาข้อมูลแบบพอคร่าวๆ ของประกันแต่ละบริษัทมาลงตารางเพื่อให้ดูง่ายขึ้น พอทำเสร็จปุ๊บก็นึกขึ้นมาได้ว่าไหนๆ ก็ทำมาละไม่ให้เสียเปล่าเอามาแปะแชร์ให้เพื่อนๆดูดีกว่าเผื่อเป็นประโยชน์ให้ทุกคนได้ครับ
ถ้าลองสังเกตดู..ผมจะเลือกมาแต่ประกันประเภท 2+ หมดเลยเพราะว่า จริงๆแล้วรถของผมขับมาได้ 3 ปีเกือบจะ 4 ปีแล้วครับ จะให้ไปต่อประกันชั้น 1 อีกก็คิดว่าคงจะไม่คุ้ม แถมราคาก็สูงอีก ผมเลยคิดว่าเอาแบบเบาๆ แต่คุ้มครองคลอบคลุม คุ้มเงินน่าจะดีกว่า จากข้อมูลที่ได้หามา ผมเอารายละเอียด มาทำเป็นตารางแบบคร่าวๆ แบ่งออกมาเป็น 6 ส่วนสำคัญ คือประเภทของประกัน, ประเภทของรถ, ประกันคุ้มครองอะไรบ้าง , ราคา, ประกันรับซ่อมรถหรือไม่, โปรโมชั่น, และซื้อผ่านระบบออนไลน์ได้หรือเปล่า (อันนี้เอาสะดวกครับ ^^)
ซึ่งถ้าดูจากตารางที่ผมทำมาให้ดู จะเห็นได้ว่าจะมีส่วนที่คล้ายกัน และต่างกันไป ตามแต่ละที่ ที่ผมเลือกมาจะมี 3 บริษัท ก็มีของ ธนชาต วิริยะ และ กรุงเทพประกันภัยครับเนื่องจากความคุ้มครอง ของทั้ง 3 ที่ มีมากกว่า และคลอบคลุมกว่าของบริษัทอื่น และดูคุ้มค่ามากกว่า
เริ่มที่ ธนชาตเป็นบริษัทแรกก่อนนะครับ ประกันภัย 2+ ของธนชาตนี้คุ้มครอง รถยนต์และรถกระบะส่วนบุคคล มีให้เลือกแบบ 2+
กับ 2+ Gold ซึ่งสิ่งที่ต่างกัน คือ 2+ Gold จะมีค่าซ่อมให้รถเรา 2 แสน ส่วน 2+ ธรรมดาให้ค่าซ่อม 1 แสน ส่วนการคุ้มครองรถ
สำหรับคนที่กลัว หากเกิดเหตุการณ์กรณี น้ำท่วม เค้าก็มี option ให้เลือกจ่ายเพิ่มได้ด้วย (เจ๋งแฮะ) จ่ายเพิ่มมาอีกไม่มากเท่าไหร่
ถือว่าก็โอเคเลยนะครับ นอกจากนี้ยังมีประกันคุ้มครองในส่วนของ ค่าซ่อมรถด้วยครับ ซึ่งอู่ที่ธนชาตมีให้เลือกนั้นก็การันตีเอาไว้ว่า
ได้มาตรฐาน และอีกจุดเด่นนึงของธนชาต ที่ผมอ่านเจอในเว็ปไซต์คือ ซื้อประกันแบบออนไลน์แล้วจะคุ้มครองทันทีหลังซื้อครับ
ผมมองว่าสะดวกและทันสมัยมากๆ เหมาะกับคนที่นั่งทำงานอยู่หน้าคอม ไม่ค่อยมีเวลา
ถ้าเพื่อนๆ สนใจลองเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ
http://www.thanachartinsuranceonline.com/
เจ้าที่ 2 ที่ผมดูอยู่ คือ วิริยะประกันภัยครับ คล้ายๆ ของธนชาตเลยครับ ธนชาตมี 2+ กับ 2+Gold วิริยะ มี 2+ กับ 2+Extra คุ้มครอง
รถตอนน้ำท่วมเหมือนกัน ถ้าสมัครเป็นแบบ 2+ Extra แต่ในส่วนที่ต่างกัน คือ วิริยะประกันภัยนอกจากคุ้มครองรถยนต์
และรถกระบะส่วนบุคคลแล้ว ยังคุ้มครองรถกระบะใช้เชิงพาณิชย์อีกด้วย แต่ที่แตกต่างจากธนชาตอีกเรื่องหนึ่ง คือ เขาไม่มีประกันค่า ซ่อมรถยนต์ ให้ครับ ส่วนในเรื่องราคาขั้นต่ำ ก็สูงกว่า จากที่ผมมองถ้าหากไม่ได้จะทำประกันให้รถกระบะที่ใช้สำหรับบริษัท ผมว่าลองเลือกประกัน อื่นดูก่อนก็ดีนะครับ เพราะแค่รถส่วนบุคคล ราคานี้ขอผ่าน ยกเว้นว่าถ้าเขามีข้อเสนออื่นที่น่าสนใจจริงๆ นะครับผมว่า อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.viriyah.co.th/th/customer-product-car-insurance.phpid=2#.U0dzn_mSzHk
มาถึงประกันภัยบริษัทสุดท้ายแล้วครับ กรุงเทพประกันภัย 2+ flood ซึ่งจริงๆ แล้วก็เหมือนกับธนชาต กับ วิริยะ เลยทั้งคุ้มครอง รถชน รถหาย รถไฟไหม้และน้ำท่วม แต่ราคาถูกกว่าทั้ง 2 ประกันแรกที่กล่าวมา มีประเภทรถที่คุ้มครอง คือ รถยนต์ส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ครับ ซึ่ง 2 บริษัทแรกที่กล่าวมาข้างต้นไม่มีบริษัทไหนคุ้มครองรถยนต์เชิงพาณิชย์เลยครับ ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาประกันสำหรับรถยนต์ของบริษัทอยู่ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยครับ แต่จุดที่ต่างแบบชัดเจน คือ ไม่มีประกันสำหรับค่าซ่อมรถให้นะครับ ผมว่าราคาถูกกว่าแต่ให้มาไม่ครบ..
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.bangkokinsurance.com/insurance/car-insurance-motor-firstcareandsave_th.html
สรุปแล้ว 3 บริษัทประกันภัยนี้มีข้อเสนอในส่วนที่เหมือนกันและในส่วนที่แต่งต่างกันไป ซึ่งผมว่าก็ต้องอยู่ที่ความต้องการของแต่ละคนนั้นแหละครับ แต่สำหรับผมแล้วตอนนี้ผมขอเลือก ธนชาต เพราะรู้สึกว่าตอบโจทย์ผมมากที่สุดทั้งในเรื่องราคา ข้อเสนอ และมีค่าซ่อมรถให้อีกด้วย ซึ่งผมมองว่าค่อนข้างคุ้มค่า กับที่ต้องจ่ายไปครับ หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วว่าอยากจะซื้อประกันกับธนชาตประกันภัย ผมก็ลองเข้าเว็บ ธนชาต ดูว่าถ้าจะซื้อออนไลน์ต้องทำยังไงบ้าง สิ่งแรกที่ผมเห็นและชอบมาก คือ เว็บไซต์ของเขามีระบบช่วยคำนวณราคาประกันให้เราด้วยครับ ซึ่งขั้นตอนนั้นก็ไม่ยุ่งยากเลยครับ ขั้นตอนแรกเราต้องใส่รายละเอียดรถของเราลงไปก่อนครับ ถ้าหากว่าเราไม่รู้ว่าจะใช้ประกันอะไรดีก็สามารถเลือกให้ทางระบบช่วยแนะนำเราก็ได้ครับ
ใส่ข้อมูลครบกดเช็คราคาก็จะขึ้นตารางของแต่ละประเภทของประกันให้เราขึ้นมา
หน้านี้ถ้าหากคลิกต้องการเปรียบเทียบประกันแต่ละประเภทก็คลิกและก็จะแสดงออกมาให้ดู ว่าแบบไหน ราคาเท่า
จะได้ง่ายต่อการเลือกตัดสินใจครับ (ผมคลิกเลือกทั้ง 3 แบบเขาก็สรุปออกมาให้ดูเป็นตารางแบบนี้ครับ)
หลังจากเราเช็ครายละเอียดราคาประกันที่เราสนใจได้แล้วก็กดปุ่มสั่งซื้อได้เลยครับ ทีนี้เราก็จะมาสู่ขั้นตอนที่ 2 คือ การกรอกข้อมูลการสั่งซื้อ ซึ่งก็จะมีให้กรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน และ ที่อยู่ที่จะให้จัดส่งกรมธรรม์ และข้อมูลรถของเรา เมื่อกรอกครบทุกช่องแล้วก็กดบันทึกได้เลยครับ ชั้นตอนต่อไปจะเป็นขั้นตอนการยืนยันและชำระเงิน (ผมไม่ได้เอารูปลงให้ดูเพราะว่ามันจะแสดงข้อมูลส่วนตัวครับ) ซึ่งทางเว็บไซต์นี้ได้แบ่งเอาไว้เป็น 4 ขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากและซับซ้อนที่สำคัญ คือ เมื่อกดตอบตกลงจ่ายเงินแล้ว กรมธรรม์จะเริ่มคุ้มครองให้เราทันทีเลย สะดวก เร็ว ล้ำจริง ๆ แถมมีค่าน้ำมันให้อีก 500 ซื้อแล้วรอรับได้เลยไม่ต้องไปลุ้นชิงโชค จับชิ้นส่วน ให้เสียเวลา
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับข้อมูลที่ผมนำมาเสนอให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน อาจจะมีผิดพลาดบ้าง หรือข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน ยังไงผมก็ต้องขออภัย หรือถ้าใครมีข้อแนะนำ หรือข้อเปรียบเทียบประกันแบบไหนที่กำลังใช้อยู่แล้วดีก็เอามาแชร์กันด้วยนะครับ และก็หวังว่าเนื้อหาข้างต้นนี้จะเป็นประโยชน์ ให้กับเพื่อน ๆ ที่ช่วงนี้กำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่เหมือนกันไม่มากก็น้อย
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านจนจบ และร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
[CR] ต่อประกันภัยรถยนต์ยังไงให้คุ้ม มาดูกัน (มีตารางเปรียบเทียบแบบชัดๆ )
ถ้าลองสังเกตดู..ผมจะเลือกมาแต่ประกันประเภท 2+ หมดเลยเพราะว่า จริงๆแล้วรถของผมขับมาได้ 3 ปีเกือบจะ 4 ปีแล้วครับ จะให้ไปต่อประกันชั้น 1 อีกก็คิดว่าคงจะไม่คุ้ม แถมราคาก็สูงอีก ผมเลยคิดว่าเอาแบบเบาๆ แต่คุ้มครองคลอบคลุม คุ้มเงินน่าจะดีกว่า จากข้อมูลที่ได้หามา ผมเอารายละเอียด มาทำเป็นตารางแบบคร่าวๆ แบ่งออกมาเป็น 6 ส่วนสำคัญ คือประเภทของประกัน, ประเภทของรถ, ประกันคุ้มครองอะไรบ้าง , ราคา, ประกันรับซ่อมรถหรือไม่, โปรโมชั่น, และซื้อผ่านระบบออนไลน์ได้หรือเปล่า (อันนี้เอาสะดวกครับ ^^)
ซึ่งถ้าดูจากตารางที่ผมทำมาให้ดู จะเห็นได้ว่าจะมีส่วนที่คล้ายกัน และต่างกันไป ตามแต่ละที่ ที่ผมเลือกมาจะมี 3 บริษัท ก็มีของ ธนชาต วิริยะ และ กรุงเทพประกันภัยครับเนื่องจากความคุ้มครอง ของทั้ง 3 ที่ มีมากกว่า และคลอบคลุมกว่าของบริษัทอื่น และดูคุ้มค่ามากกว่า
เริ่มที่ ธนชาตเป็นบริษัทแรกก่อนนะครับ ประกันภัย 2+ ของธนชาตนี้คุ้มครอง รถยนต์และรถกระบะส่วนบุคคล มีให้เลือกแบบ 2+
กับ 2+ Gold ซึ่งสิ่งที่ต่างกัน คือ 2+ Gold จะมีค่าซ่อมให้รถเรา 2 แสน ส่วน 2+ ธรรมดาให้ค่าซ่อม 1 แสน ส่วนการคุ้มครองรถ
สำหรับคนที่กลัว หากเกิดเหตุการณ์กรณี น้ำท่วม เค้าก็มี option ให้เลือกจ่ายเพิ่มได้ด้วย (เจ๋งแฮะ) จ่ายเพิ่มมาอีกไม่มากเท่าไหร่
ถือว่าก็โอเคเลยนะครับ นอกจากนี้ยังมีประกันคุ้มครองในส่วนของ ค่าซ่อมรถด้วยครับ ซึ่งอู่ที่ธนชาตมีให้เลือกนั้นก็การันตีเอาไว้ว่า
ได้มาตรฐาน และอีกจุดเด่นนึงของธนชาต ที่ผมอ่านเจอในเว็ปไซต์คือ ซื้อประกันแบบออนไลน์แล้วจะคุ้มครองทันทีหลังซื้อครับ
ผมมองว่าสะดวกและทันสมัยมากๆ เหมาะกับคนที่นั่งทำงานอยู่หน้าคอม ไม่ค่อยมีเวลา
ถ้าเพื่อนๆ สนใจลองเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ http://www.thanachartinsuranceonline.com/
เจ้าที่ 2 ที่ผมดูอยู่ คือ วิริยะประกันภัยครับ คล้ายๆ ของธนชาตเลยครับ ธนชาตมี 2+ กับ 2+Gold วิริยะ มี 2+ กับ 2+Extra คุ้มครอง
รถตอนน้ำท่วมเหมือนกัน ถ้าสมัครเป็นแบบ 2+ Extra แต่ในส่วนที่ต่างกัน คือ วิริยะประกันภัยนอกจากคุ้มครองรถยนต์
และรถกระบะส่วนบุคคลแล้ว ยังคุ้มครองรถกระบะใช้เชิงพาณิชย์อีกด้วย แต่ที่แตกต่างจากธนชาตอีกเรื่องหนึ่ง คือ เขาไม่มีประกันค่า ซ่อมรถยนต์ ให้ครับ ส่วนในเรื่องราคาขั้นต่ำ ก็สูงกว่า จากที่ผมมองถ้าหากไม่ได้จะทำประกันให้รถกระบะที่ใช้สำหรับบริษัท ผมว่าลองเลือกประกัน อื่นดูก่อนก็ดีนะครับ เพราะแค่รถส่วนบุคคล ราคานี้ขอผ่าน ยกเว้นว่าถ้าเขามีข้อเสนออื่นที่น่าสนใจจริงๆ นะครับผมว่า อ่านข้อมูลเพิ่มเติม http://www.viriyah.co.th/th/customer-product-car-insurance.phpid=2#.U0dzn_mSzHk
มาถึงประกันภัยบริษัทสุดท้ายแล้วครับ กรุงเทพประกันภัย 2+ flood ซึ่งจริงๆ แล้วก็เหมือนกับธนชาต กับ วิริยะ เลยทั้งคุ้มครอง รถชน รถหาย รถไฟไหม้และน้ำท่วม แต่ราคาถูกกว่าทั้ง 2 ประกันแรกที่กล่าวมา มีประเภทรถที่คุ้มครอง คือ รถยนต์ส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ครับ ซึ่ง 2 บริษัทแรกที่กล่าวมาข้างต้นไม่มีบริษัทไหนคุ้มครองรถยนต์เชิงพาณิชย์เลยครับ ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาประกันสำหรับรถยนต์ของบริษัทอยู่ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยครับ แต่จุดที่ต่างแบบชัดเจน คือ ไม่มีประกันสำหรับค่าซ่อมรถให้นะครับ ผมว่าราคาถูกกว่าแต่ให้มาไม่ครบ..
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม http://www.bangkokinsurance.com/insurance/car-insurance-motor-firstcareandsave_th.html
สรุปแล้ว 3 บริษัทประกันภัยนี้มีข้อเสนอในส่วนที่เหมือนกันและในส่วนที่แต่งต่างกันไป ซึ่งผมว่าก็ต้องอยู่ที่ความต้องการของแต่ละคนนั้นแหละครับ แต่สำหรับผมแล้วตอนนี้ผมขอเลือก ธนชาต เพราะรู้สึกว่าตอบโจทย์ผมมากที่สุดทั้งในเรื่องราคา ข้อเสนอ และมีค่าซ่อมรถให้อีกด้วย ซึ่งผมมองว่าค่อนข้างคุ้มค่า กับที่ต้องจ่ายไปครับ หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วว่าอยากจะซื้อประกันกับธนชาตประกันภัย ผมก็ลองเข้าเว็บ ธนชาต ดูว่าถ้าจะซื้อออนไลน์ต้องทำยังไงบ้าง สิ่งแรกที่ผมเห็นและชอบมาก คือ เว็บไซต์ของเขามีระบบช่วยคำนวณราคาประกันให้เราด้วยครับ ซึ่งขั้นตอนนั้นก็ไม่ยุ่งยากเลยครับ ขั้นตอนแรกเราต้องใส่รายละเอียดรถของเราลงไปก่อนครับ ถ้าหากว่าเราไม่รู้ว่าจะใช้ประกันอะไรดีก็สามารถเลือกให้ทางระบบช่วยแนะนำเราก็ได้ครับ
ใส่ข้อมูลครบกดเช็คราคาก็จะขึ้นตารางของแต่ละประเภทของประกันให้เราขึ้นมา
หน้านี้ถ้าหากคลิกต้องการเปรียบเทียบประกันแต่ละประเภทก็คลิกและก็จะแสดงออกมาให้ดู ว่าแบบไหน ราคาเท่า
จะได้ง่ายต่อการเลือกตัดสินใจครับ (ผมคลิกเลือกทั้ง 3 แบบเขาก็สรุปออกมาให้ดูเป็นตารางแบบนี้ครับ)
หลังจากเราเช็ครายละเอียดราคาประกันที่เราสนใจได้แล้วก็กดปุ่มสั่งซื้อได้เลยครับ ทีนี้เราก็จะมาสู่ขั้นตอนที่ 2 คือ การกรอกข้อมูลการสั่งซื้อ ซึ่งก็จะมีให้กรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน และ ที่อยู่ที่จะให้จัดส่งกรมธรรม์ และข้อมูลรถของเรา เมื่อกรอกครบทุกช่องแล้วก็กดบันทึกได้เลยครับ ชั้นตอนต่อไปจะเป็นขั้นตอนการยืนยันและชำระเงิน (ผมไม่ได้เอารูปลงให้ดูเพราะว่ามันจะแสดงข้อมูลส่วนตัวครับ) ซึ่งทางเว็บไซต์นี้ได้แบ่งเอาไว้เป็น 4 ขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากและซับซ้อนที่สำคัญ คือ เมื่อกดตอบตกลงจ่ายเงินแล้ว กรมธรรม์จะเริ่มคุ้มครองให้เราทันทีเลย สะดวก เร็ว ล้ำจริง ๆ แถมมีค่าน้ำมันให้อีก 500 ซื้อแล้วรอรับได้เลยไม่ต้องไปลุ้นชิงโชค จับชิ้นส่วน ให้เสียเวลา
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับข้อมูลที่ผมนำมาเสนอให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน อาจจะมีผิดพลาดบ้าง หรือข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน ยังไงผมก็ต้องขออภัย หรือถ้าใครมีข้อแนะนำ หรือข้อเปรียบเทียบประกันแบบไหนที่กำลังใช้อยู่แล้วดีก็เอามาแชร์กันด้วยนะครับ และก็หวังว่าเนื้อหาข้างต้นนี้จะเป็นประโยชน์ ให้กับเพื่อน ๆ ที่ช่วงนี้กำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่เหมือนกันไม่มากก็น้อย
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านจนจบ และร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยครับ