เราเป็นคนลิ้นบาง ปากบางมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ พอเริ่มโตมาตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเพราะนอนกัดฟันรึเปล่า เวลาตื่นมาตอนเช้า แลบลิ้นส่องกระจกดูจะเห็นรอยฟันตรงข้างลิ้นชัดเจนค่ะ แต่พ่อบอกว่าเมื่อเด็กๆ เราชอบอมข้าว (เหมือนอมไปซักพักแป้งมันจะแตกตัวทำให้หวาน) ก็สังเกตว่าลิ้นตัวเองบางจริง
มีเหตุการณ์รุนแรงหน่อยก็คือ เมื่อหลายปีก่อนมีอยู่วันนึงปอกแอปเปิ้ลกิน ปรากฏว่าแอปเปิ้ลบาดลิ้น กินอะไรไม่ได้ไปหลายวัน กลืนน้ำลายยังเจ็บ สังเกตว่าลิ้นไม่สมานคืนค่ะ (น้องสาวเคยกัดลิ้นตัวเองจนแตกเหมือนกัน แต่สองวันแผลก็สมานแล้ว)
อีกเหตุการณ์คือ เคยกินส้มตำ คือมันเผ็ดมากๆ แต่แซ่บสุดๆ ปรากฏว่าลิ้นแตก เลือดออก ต้องหยุดกินโดยปริยาย
เวลากินอะไรเราต้องดูที่หน้าสัมผัสของอาหารค่ะ อย่างขนมขบเคี้ยว คุกกี้ หรืออะไรที่มาในสภาพแข็งๆ กินได้คำสองคำก็ต้องหยุด เพราะจะเริ่มแสบลิ้น
(เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่าคุกกี้ที่โดนอากาศจนนิ่มแล้วช่วยให้กินได้อย่างมีความสุขมากขึ้น)
ผลไม้ก็ต้องเป็นพวกเนื้อนิ่มๆ ค่ะ เคยกินพุทรานมสามลูก (กัดโดยตรง) ปรากฎว่าเพดานปากบวม -_-"
อีกอย่างคือ เวลากินอาหารจะเคี้ยวฝั่งใดฝั่งหนึ่งตลอดไม่ได้ค่ะ แสบลิ้น ต้องเปลี่ยนสลับกันไป มีหลายครั้งที่แสบทั้งสองข้าง ทำให้ต้องงดอาหาร
อีกเรื่องคือกินร้อนไม่ค่อยได้ค่ะ น่าจะมีส่วนมาจากลิ้นบางด้วย ส่วนกินผิดตอนนี้กินได้ระดับนึง
(แรกๆ กินเผ็ดไม่ได้ค่ะ แต่โดนที่บ้านไซโคว่า ถ้ากินเผ็ดไม่ได้ จะพลาดของอร่อยเยอะเลยนะ เลยหัดกินเผ็ด ตอนนี้กินได้ระดับนึงแล้วค่ะ)
อันนี้รูปลิ้นเราค่ะ
ส่วนที่ขาวๆ คือที่คนปกติทั่วไปมี แต่ของเรามันจะแดงไปหมด ยิ่งช่วงค่อนไปโคนลิ้นนี่จะมีสีแดงชัดเจนเลยค่ะ
รอยแตกที่เห็นคือ รอยแอปเปิ้ลบาดค่ะ อยู่มาจนทุกวันนี้ ประมาณหกปีแล้ว
อ้อ เรามีอาการร้อนในบ่อยๆ ด้วยค่ะ แต่หลังๆ มานี่เริ่มดูแลตัวเอง เลือกกินหน่อย เลยดีขึ้น
อยากถามคุณหมอและผู้ที่มีชะตากรรมเดียวกันว่ามีวิธีรักษาหรือระวังตัวกันยังไงบ้างคะ กินอาหารหรือยาอะไรกันรึเปล่า
บ่นๆ >>> เราค่อนข้างรู้สึกแย่เวลาบอกใครว่าลิ้นบาง มักจะได้รับสายตาว่า แหลเป็นคุณหนูนะยะหล่อน
แต่ลิ้นบางของเรามันบางด้วยลักษณะทางกายภาพจริงๆ ไม่ใช่ลิ้นบางกินเผ็ดไม่ได้เฉยๆ พอแลบลิ้นให้ดูค่อยได้สายตาเห็นใจกลับมาบ้าง
--------------------------------------------------
มาอัพเดทอาการนะคะ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราตั้ง Resolution ไว้ว่าจะตั้งใจรักษาอาการที่ปาก ไม่ว่าจะลิ้นเป็นแผลหรือร้อนใน
ตอนแรกตั้งใจจะไปหาหมอละ แต่ลองเริ่มจากการปรับการกินก่อน อันนี้เราได้มากจากการสังเกตตัวเองนะคะ
1. เรากินของเนื้อสัมผัสหยาบๆ ไม่ได้ ในที่นี้คือ แม้กระทั่งเนื้อและหมูนะคะ เพราะกินไปประมาณ 3-4 ชิ้น จะเริ่มแสบลิ้นละ
2. ปกติเราไม่กินเผ็ด ไม่กินอาหารรสจัดใดๆ ทั้งหวาน เค็มเปรี้ยว เผ็ด ยกเว้นเวลาที่อยากกินจริงๆ ซึ่งถ้ากินทีไรก็จะมีอาหารแสบลิ้นทุกครั้ง ถามว่ากินรสจัดไม่ได้ขนาดไหน คือครั้งล่าสุดไป sizler แล้วเพื่อนตักต้มยำมากิน เราก็อยาก เลยไปตักมาบ้าง แต่ดันกินไม่ได้ค่ะ เพราะตักน้ำซดเข้าไปคำแรกคือสำลักเลย รสมันจัดเกินไป อันนี้แอบตกใจตัวเองเหมือนกัน เพราะฉะนั้นนิยามคำว่ารสจัดของเรา อาจจะอยู่ในระดับที่ต่ำมากสำหรับคนทั่วไปนะคะ
ทีนี้เรามาสังเกตตัวเองว่า ถ้าเรากินอาหารประเภททอด หรืออาหารรสจัดเป็นเวลา 2-3 วันติดต่อกัน เราจะร้อนในค่ะ เช่น วันนี้กินส้มตำเป็นมื้อเย็น วันต่อมากินยำวุ้นเส้น พอวันที่สามเราจะเป็นร้อนใน แต่ก่อนเดือนๆ นึงเราจะเป็นร้อนในประมาณ 5 แผล พอจับทางได้แบบนี้
เราเลยพยายามลดของทอดและอาหารรสจัดค่ะ เน้นกินประเภทต้ม เนื้อกินเป็นปลานึ่ง ปลาย่าง
เรางดของทอดในช่วงวัน จ-ศ แล้วก็กินบ้าง 2-3 มื้อในช่วง ส-อา
ผลคือเราไม่เป็นร้อนในเลยค่ะ แต่ยังต้องระวังเรื่องอาหารเนื้อหยาบอยู่ดี อีกอย่างคือหัดดื่มน้ำมากๆ ค่ะ
ตอนนี้ดีใจมาก เจอเพื่อน เจอพี่ อวดไปหมด ว่าฉันไม่เป็นร้อนในมาสองเดือนกว่าแล้วนะแก >O<
ตอนนี้ยังพยายามปรับเปลี่ยนการกินอยู่ ถ้าใครหลงเข้ามาอ่านกระทู้ก็ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ ลองสังเกตร่างกายตัวเอง และปรับวิธีการกิน เราควรรู้จักร่างกายของเราดีที่สุด เพราะยังไงก็เป็นการทำเพื่อตัวเราเอง ใครทำแล้วได้ผลยังไง เอามาแชร์กันด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ ^^
ถามคุณหมอหรือผู้มีประสบการณ์: อาการลิ้นบางมีวิธีรักษาอย่างไรบ้างคะ
มีเหตุการณ์รุนแรงหน่อยก็คือ เมื่อหลายปีก่อนมีอยู่วันนึงปอกแอปเปิ้ลกิน ปรากฏว่าแอปเปิ้ลบาดลิ้น กินอะไรไม่ได้ไปหลายวัน กลืนน้ำลายยังเจ็บ สังเกตว่าลิ้นไม่สมานคืนค่ะ (น้องสาวเคยกัดลิ้นตัวเองจนแตกเหมือนกัน แต่สองวันแผลก็สมานแล้ว)
อีกเหตุการณ์คือ เคยกินส้มตำ คือมันเผ็ดมากๆ แต่แซ่บสุดๆ ปรากฏว่าลิ้นแตก เลือดออก ต้องหยุดกินโดยปริยาย
เวลากินอะไรเราต้องดูที่หน้าสัมผัสของอาหารค่ะ อย่างขนมขบเคี้ยว คุกกี้ หรืออะไรที่มาในสภาพแข็งๆ กินได้คำสองคำก็ต้องหยุด เพราะจะเริ่มแสบลิ้น
(เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่าคุกกี้ที่โดนอากาศจนนิ่มแล้วช่วยให้กินได้อย่างมีความสุขมากขึ้น)
ผลไม้ก็ต้องเป็นพวกเนื้อนิ่มๆ ค่ะ เคยกินพุทรานมสามลูก (กัดโดยตรง) ปรากฎว่าเพดานปากบวม -_-"
อีกอย่างคือ เวลากินอาหารจะเคี้ยวฝั่งใดฝั่งหนึ่งตลอดไม่ได้ค่ะ แสบลิ้น ต้องเปลี่ยนสลับกันไป มีหลายครั้งที่แสบทั้งสองข้าง ทำให้ต้องงดอาหาร
อีกเรื่องคือกินร้อนไม่ค่อยได้ค่ะ น่าจะมีส่วนมาจากลิ้นบางด้วย ส่วนกินผิดตอนนี้กินได้ระดับนึง
(แรกๆ กินเผ็ดไม่ได้ค่ะ แต่โดนที่บ้านไซโคว่า ถ้ากินเผ็ดไม่ได้ จะพลาดของอร่อยเยอะเลยนะ เลยหัดกินเผ็ด ตอนนี้กินได้ระดับนึงแล้วค่ะ)
อันนี้รูปลิ้นเราค่ะ
ส่วนที่ขาวๆ คือที่คนปกติทั่วไปมี แต่ของเรามันจะแดงไปหมด ยิ่งช่วงค่อนไปโคนลิ้นนี่จะมีสีแดงชัดเจนเลยค่ะ
รอยแตกที่เห็นคือ รอยแอปเปิ้ลบาดค่ะ อยู่มาจนทุกวันนี้ ประมาณหกปีแล้ว
อ้อ เรามีอาการร้อนในบ่อยๆ ด้วยค่ะ แต่หลังๆ มานี่เริ่มดูแลตัวเอง เลือกกินหน่อย เลยดีขึ้น
อยากถามคุณหมอและผู้ที่มีชะตากรรมเดียวกันว่ามีวิธีรักษาหรือระวังตัวกันยังไงบ้างคะ กินอาหารหรือยาอะไรกันรึเปล่า
บ่นๆ >>> เราค่อนข้างรู้สึกแย่เวลาบอกใครว่าลิ้นบาง มักจะได้รับสายตาว่า แหลเป็นคุณหนูนะยะหล่อน
แต่ลิ้นบางของเรามันบางด้วยลักษณะทางกายภาพจริงๆ ไม่ใช่ลิ้นบางกินเผ็ดไม่ได้เฉยๆ พอแลบลิ้นให้ดูค่อยได้สายตาเห็นใจกลับมาบ้าง
--------------------------------------------------
มาอัพเดทอาการนะคะ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราตั้ง Resolution ไว้ว่าจะตั้งใจรักษาอาการที่ปาก ไม่ว่าจะลิ้นเป็นแผลหรือร้อนใน
ตอนแรกตั้งใจจะไปหาหมอละ แต่ลองเริ่มจากการปรับการกินก่อน อันนี้เราได้มากจากการสังเกตตัวเองนะคะ
1. เรากินของเนื้อสัมผัสหยาบๆ ไม่ได้ ในที่นี้คือ แม้กระทั่งเนื้อและหมูนะคะ เพราะกินไปประมาณ 3-4 ชิ้น จะเริ่มแสบลิ้นละ
2. ปกติเราไม่กินเผ็ด ไม่กินอาหารรสจัดใดๆ ทั้งหวาน เค็มเปรี้ยว เผ็ด ยกเว้นเวลาที่อยากกินจริงๆ ซึ่งถ้ากินทีไรก็จะมีอาหารแสบลิ้นทุกครั้ง ถามว่ากินรสจัดไม่ได้ขนาดไหน คือครั้งล่าสุดไป sizler แล้วเพื่อนตักต้มยำมากิน เราก็อยาก เลยไปตักมาบ้าง แต่ดันกินไม่ได้ค่ะ เพราะตักน้ำซดเข้าไปคำแรกคือสำลักเลย รสมันจัดเกินไป อันนี้แอบตกใจตัวเองเหมือนกัน เพราะฉะนั้นนิยามคำว่ารสจัดของเรา อาจจะอยู่ในระดับที่ต่ำมากสำหรับคนทั่วไปนะคะ
ทีนี้เรามาสังเกตตัวเองว่า ถ้าเรากินอาหารประเภททอด หรืออาหารรสจัดเป็นเวลา 2-3 วันติดต่อกัน เราจะร้อนในค่ะ เช่น วันนี้กินส้มตำเป็นมื้อเย็น วันต่อมากินยำวุ้นเส้น พอวันที่สามเราจะเป็นร้อนใน แต่ก่อนเดือนๆ นึงเราจะเป็นร้อนในประมาณ 5 แผล พอจับทางได้แบบนี้
เราเลยพยายามลดของทอดและอาหารรสจัดค่ะ เน้นกินประเภทต้ม เนื้อกินเป็นปลานึ่ง ปลาย่าง
เรางดของทอดในช่วงวัน จ-ศ แล้วก็กินบ้าง 2-3 มื้อในช่วง ส-อา
ผลคือเราไม่เป็นร้อนในเลยค่ะ แต่ยังต้องระวังเรื่องอาหารเนื้อหยาบอยู่ดี อีกอย่างคือหัดดื่มน้ำมากๆ ค่ะ
ตอนนี้ดีใจมาก เจอเพื่อน เจอพี่ อวดไปหมด ว่าฉันไม่เป็นร้อนในมาสองเดือนกว่าแล้วนะแก >O<
ตอนนี้ยังพยายามปรับเปลี่ยนการกินอยู่ ถ้าใครหลงเข้ามาอ่านกระทู้ก็ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ ลองสังเกตร่างกายตัวเอง และปรับวิธีการกิน เราควรรู้จักร่างกายของเราดีที่สุด เพราะยังไงก็เป็นการทำเพื่อตัวเราเอง ใครทำแล้วได้ผลยังไง เอามาแชร์กันด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ ^^