ในยุคที่อะไรๆก็ไปอยู่ใน Digital อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อยู่บนหน้าจอมือถือ Smartphone ของพวกเราแบบนี้ อะไรๆ ก็ดูจะง่ายขึ้น จริงไหมครับ?
-- ง่าย สำหรับคนที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ง่ายเลย สำหรับคนที่ต่อต้าน!! --
พอคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลง การก้าวเดินไปข้าง และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็อยากให้ดูข้อมูลบางอย่างด้านการออมเงินซึ่งน่าสนใจมากสำหรับคนไทยเรานะครับ ตารางด้านล่างเป็นฐานเงินฝากธนาคารพาณิชย์ แยกตามประเภทเงินฝาก (ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2556) ข้อมูลนี้ละ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนบทความนี้ขึ้นมา
จะเห็นว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยเรามีจำนวนบัญชีเงินฝากรวมเกินว่า 82 ล้านบัญชี คิดเป็นเงินฝากทั้งหมดในระบบธนาคารพาณิชย์ก็อยู่ที่ 9.8 ล้านล้านบาท โดยทั้ง 82 ล้านบัญชีนี้ คิดเป็นบัญชีที่ฝากเงินนิ่งๆอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ รวมกันทั้งหมด 72 ล้านบัญชี เงินทั้งหมดคือ 4.76 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 48% ของจำนวนเงินฝากทั้งหมดในระบบ
น่าแปลกใจไหมครับ เงินฝากออมทรัพย์ปกติ ถือเป็นแหล่งเงินออมที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ (ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 0.50%-0.65%) แต่คนส่วนใหญ่กลับเอาเงินไปใส่ไว้ในนั้น ถามว่าเพราะอะไร คำตอบก็เพราะ
1. บัญชีออมทรัพย์ มีความสะดวกและความคล่องตัวในการทำธุรกิจกว่าบัญชีเงินฝากหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น
2. พนักงานกินเงินเดือนส่วนใหญ่ของประเทศ รับเงินเดือนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ก็พักไว้อย่างนั้นไม่ได้คิดจะเปลี่ยนไปไหน เหตุผลหลัก เพราะคิดว่า ถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ก็ต้องแลกด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้น และตัวเองไม่อยากเสี่ยง จึงเลือกที่จะอยู่ที่เดิม
ผมบอกไปในตอนต้นแล้วว่า ยุคนี้ คนเราไม่ควรหยุดนิ่ง เราควรเปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ แต่พอเป็นเรื่องเงินๆทองๆ เรากลับมีความคิดแบบเดิมๆ ไม่กล้าที่จะออกมาหาสิ่งใหม่ เหมือนอย่างที่เรานั่งไล่ตามเทคโนโลยี ตามเทรนแฟชั่น ผมว่า มันเท่ห์ไม่สุดนะ
ตารางด้านล่าง เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง การฝากเงินกับออมทรัพย์ธรรมดา ที่อัตราดอกเบี้ย 0.6%ต่อปี และ มากกว่าออกมทรัพย์ธรรมดาที่อัตราดอกเบี้ย 3.0%ต่อปี ด้วยเงินต้น 100,000 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี
เห็นแล้วตกใจไหมเอ่ย ใครที่แช่เงินไว้ในออมทรัพย์ธรรมดากินดอกเบี้ยขั้นต่ำปีละ 0.6%ต่อปี ผ่านไป 5 ปี มีเงินเพิ่มขึ้นมาแค่ 3,045 บาท เทียบกับ อีกคนซึ่งไม่ยอมให้เงินตัวเองอยู่เฉยให้เงินเฟ้อวิ่งแซง ไปหาดอกเบี้ย 3%ต่อปี ผ่านมา 5 ปีเท่ากัน แต่ดอกเบี้ยดีกว่ากันลิบลับ!! นี่แค่ 3% นะครับ ใครหาได้มากกว่านั้น คิดดูแล้วกัน เงินจะโตเป็นทวีคูณเท่าไหร่
ปัจจุบันนี้ มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากมายให้เราเลือกพิจารณา ขอแค่คุณออกไปหา ออกไปดู ก็จะเห็นแน่นอน และสำหรับคนรุ่นใหม่ไฟแรง ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์เป็นนิสัย การเงินสมัยใหม่ในโลคยุค Digital ก็พร้อมตอบโจทย์พวกคุณทั้งหลายแน่นอน
1. ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ธรรมดาแต่ความเสี่ยงต่ำเท่ากันแน่นอน
2. ฝาก – ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ
3. ไม่มีกำหนดระยะเวลาฝาก
4. ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน และการทำธุรกรรม
5. อุ่นใจกับความปลอดภัยแบบไร้ขีดจำกัด รู้ทุกความเคลื่อนไหวของเงินตัวเอง
6. ที่สำคัญ ดูแลเงินเราเอง ด้วยตัวเรา (Self-Service)
ตอบทุกความต้องการ แถมสร้างผลตอบแทนได้ขนาดนี้ เรียนเชิญคนไทยเลยครับ เราจะให้เงินของเรา นอนแช่อยู่ในเงินฝากออมทรัพย์ธรรมดาจนเฉาเอาดอกเบี้ยไม่ถึง 1% ทำไม และทั้ง 6 โจทย์ที่บอกมานี่ ตอบให้คุณได้เลยที่ ME by TMB :
www.mebytmb.com
อาจมีหลายคนสงสัย แล้วทำไมฝากเงินกับ ME ถึงได้ดอกเบี้ยสูงกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าได้สูงขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็เป็นเงินฝากออมทรัพย์เหมือนกัน คำตอบก็คือ ME คือธนาคารออนไลน์ ไม่มีสาขา ไม่มีเคาน์เตอร์ธนาคาร ไม่มีพนักงาน ก็ทำให้ต้นทุนของธนาคารลดลงแล้วเปลี่ยนมาเป็นดอกเบี้ยให้พวกคุณได้ใช้นั้นเอง คงคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ทำเองได้มากกว่า” จริงๆ
อะไรก็ตามที่เราลงมือทำด้วยตัวเอง ความสำเร็จของผลงาน มันก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ที่ทำให้เราโตขึ้น มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ ซึ่งใครไม่ได้ทำเอง ก็ไม่มีทางรู้หรอกครับ
อยากเริ่มต้นหรือยังครับ งั้นอย่ารอช้า เริ่มเปิดบัญชี
https://www.mebytmb.com/account/ แล้วเตรียม 3 อย่างมาให้พร้อม
1) บัตรประจำตัวประชาชน
2) เล่มสมุดบัญชีออมทรัพย์ธนาคารใดก็ได้ที่เป็นชื่อตัวคุณเอง
3) โทรศัพท์มือถือคู่ใจของคุณ
และสำหรับคนที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่ ME Place
https://www.mebytmb.com/contact วันนี้ทาง ME ก็บอกว่าสามารถสมัครเปิดบัญชี ME ได้ไม่ยาก ด้วยการจบขั้นตอนการสมัครอย่างสมบูรณ์ ผ่านช่องทาง
WWW.MEBYTMB.COM แค่ใช้ข้อมูลผู้ใช้งานและรหัสผ่านของ TMB Internet banking (TMB Direct) ไม่ต้องเดินทางมาสาขาให้เมื่อย
เพียงเท่านี้ เงินของคุณ ก็ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องออกแรงเพิ่มแม้แต่น้อย ...
$$... วิธีบริหารเงินฝากให้ได้ผลตอบแทนสูงกว่าแบบคนรุ่นใหม่ ...$$
-- ง่าย สำหรับคนที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ง่ายเลย สำหรับคนที่ต่อต้าน!! --
พอคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลง การก้าวเดินไปข้าง และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็อยากให้ดูข้อมูลบางอย่างด้านการออมเงินซึ่งน่าสนใจมากสำหรับคนไทยเรานะครับ ตารางด้านล่างเป็นฐานเงินฝากธนาคารพาณิชย์ แยกตามประเภทเงินฝาก (ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2556) ข้อมูลนี้ละ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนบทความนี้ขึ้นมา
จะเห็นว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยเรามีจำนวนบัญชีเงินฝากรวมเกินว่า 82 ล้านบัญชี คิดเป็นเงินฝากทั้งหมดในระบบธนาคารพาณิชย์ก็อยู่ที่ 9.8 ล้านล้านบาท โดยทั้ง 82 ล้านบัญชีนี้ คิดเป็นบัญชีที่ฝากเงินนิ่งๆอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ รวมกันทั้งหมด 72 ล้านบัญชี เงินทั้งหมดคือ 4.76 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 48% ของจำนวนเงินฝากทั้งหมดในระบบ
น่าแปลกใจไหมครับ เงินฝากออมทรัพย์ปกติ ถือเป็นแหล่งเงินออมที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ (ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 0.50%-0.65%) แต่คนส่วนใหญ่กลับเอาเงินไปใส่ไว้ในนั้น ถามว่าเพราะอะไร คำตอบก็เพราะ
1. บัญชีออมทรัพย์ มีความสะดวกและความคล่องตัวในการทำธุรกิจกว่าบัญชีเงินฝากหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น
2. พนักงานกินเงินเดือนส่วนใหญ่ของประเทศ รับเงินเดือนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ก็พักไว้อย่างนั้นไม่ได้คิดจะเปลี่ยนไปไหน เหตุผลหลัก เพราะคิดว่า ถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ก็ต้องแลกด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้น และตัวเองไม่อยากเสี่ยง จึงเลือกที่จะอยู่ที่เดิม
ผมบอกไปในตอนต้นแล้วว่า ยุคนี้ คนเราไม่ควรหยุดนิ่ง เราควรเปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ แต่พอเป็นเรื่องเงินๆทองๆ เรากลับมีความคิดแบบเดิมๆ ไม่กล้าที่จะออกมาหาสิ่งใหม่ เหมือนอย่างที่เรานั่งไล่ตามเทคโนโลยี ตามเทรนแฟชั่น ผมว่า มันเท่ห์ไม่สุดนะ
ตารางด้านล่าง เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง การฝากเงินกับออมทรัพย์ธรรมดา ที่อัตราดอกเบี้ย 0.6%ต่อปี และ มากกว่าออกมทรัพย์ธรรมดาที่อัตราดอกเบี้ย 3.0%ต่อปี ด้วยเงินต้น 100,000 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี
เห็นแล้วตกใจไหมเอ่ย ใครที่แช่เงินไว้ในออมทรัพย์ธรรมดากินดอกเบี้ยขั้นต่ำปีละ 0.6%ต่อปี ผ่านไป 5 ปี มีเงินเพิ่มขึ้นมาแค่ 3,045 บาท เทียบกับ อีกคนซึ่งไม่ยอมให้เงินตัวเองอยู่เฉยให้เงินเฟ้อวิ่งแซง ไปหาดอกเบี้ย 3%ต่อปี ผ่านมา 5 ปีเท่ากัน แต่ดอกเบี้ยดีกว่ากันลิบลับ!! นี่แค่ 3% นะครับ ใครหาได้มากกว่านั้น คิดดูแล้วกัน เงินจะโตเป็นทวีคูณเท่าไหร่
ปัจจุบันนี้ มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากมายให้เราเลือกพิจารณา ขอแค่คุณออกไปหา ออกไปดู ก็จะเห็นแน่นอน และสำหรับคนรุ่นใหม่ไฟแรง ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์เป็นนิสัย การเงินสมัยใหม่ในโลคยุค Digital ก็พร้อมตอบโจทย์พวกคุณทั้งหลายแน่นอน
1. ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ธรรมดาแต่ความเสี่ยงต่ำเท่ากันแน่นอน
2. ฝาก – ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ
3. ไม่มีกำหนดระยะเวลาฝาก
4. ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน และการทำธุรกรรม
5. อุ่นใจกับความปลอดภัยแบบไร้ขีดจำกัด รู้ทุกความเคลื่อนไหวของเงินตัวเอง
6. ที่สำคัญ ดูแลเงินเราเอง ด้วยตัวเรา (Self-Service)
ตอบทุกความต้องการ แถมสร้างผลตอบแทนได้ขนาดนี้ เรียนเชิญคนไทยเลยครับ เราจะให้เงินของเรา นอนแช่อยู่ในเงินฝากออมทรัพย์ธรรมดาจนเฉาเอาดอกเบี้ยไม่ถึง 1% ทำไม และทั้ง 6 โจทย์ที่บอกมานี่ ตอบให้คุณได้เลยที่ ME by TMB : www.mebytmb.com
อาจมีหลายคนสงสัย แล้วทำไมฝากเงินกับ ME ถึงได้ดอกเบี้ยสูงกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าได้สูงขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็เป็นเงินฝากออมทรัพย์เหมือนกัน คำตอบก็คือ ME คือธนาคารออนไลน์ ไม่มีสาขา ไม่มีเคาน์เตอร์ธนาคาร ไม่มีพนักงาน ก็ทำให้ต้นทุนของธนาคารลดลงแล้วเปลี่ยนมาเป็นดอกเบี้ยให้พวกคุณได้ใช้นั้นเอง คงคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ทำเองได้มากกว่า” จริงๆ
อะไรก็ตามที่เราลงมือทำด้วยตัวเอง ความสำเร็จของผลงาน มันก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ที่ทำให้เราโตขึ้น มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ ซึ่งใครไม่ได้ทำเอง ก็ไม่มีทางรู้หรอกครับ
อยากเริ่มต้นหรือยังครับ งั้นอย่ารอช้า เริ่มเปิดบัญชี https://www.mebytmb.com/account/ แล้วเตรียม 3 อย่างมาให้พร้อม
1) บัตรประจำตัวประชาชน
2) เล่มสมุดบัญชีออมทรัพย์ธนาคารใดก็ได้ที่เป็นชื่อตัวคุณเอง
3) โทรศัพท์มือถือคู่ใจของคุณ
และสำหรับคนที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่ ME Place https://www.mebytmb.com/contact วันนี้ทาง ME ก็บอกว่าสามารถสมัครเปิดบัญชี ME ได้ไม่ยาก ด้วยการจบขั้นตอนการสมัครอย่างสมบูรณ์ ผ่านช่องทาง WWW.MEBYTMB.COM แค่ใช้ข้อมูลผู้ใช้งานและรหัสผ่านของ TMB Internet banking (TMB Direct) ไม่ต้องเดินทางมาสาขาให้เมื่อย
เพียงเท่านี้ เงินของคุณ ก็ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องออกแรงเพิ่มแม้แต่น้อย ...