มันช่างน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ

คำนี้บางทีเราจะเห็นได้จากการที่มีใครบางคนจ้างเด็กให้ไปกินอาหารตามถังขยะโดยให้เงิน $ 5

แต่คำๆนี้จะทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น

เราเองก็รังเกียจความรู้สึกแบบนั้นจนอยากหาอะไรกินที่ดีกว่านี้ เราเกลียดสิ่งที่น่าขยะแขยง ทำให้เราต้องขยันทำความสะอาดมากขึ้น แล้วก็เพาะปลูก รดน้ำต้นไม้มากขึ้น เราเองก็ไม่ค่อยชอบในช่วงเวลาแบบนี้สักเท่าไร ทำให้เราต้องหันมาปรับปรุงตัวเองและก็เดินหน้าต่อไป

การเล่นหุ้นก็เหมือนกัน เราเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเราพลาดอะไรไปหรือเปล่า ตลาดหุ้นมันมีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง แล้วเราจะต้องเดินหน้ายังไง พวกเราไม่ค่อยใส่ใจกับความรู้สึกแบบนี้มากเท่าไรและก็ยังเพิกเฉยอีก เราจะต้องบาดเจ็บไม่มีที่สิ้นสุดและก็ยังไม่สามารถคิดได้ว่าจะหยุดเรื่องนี้ได้อย่างไร นี่แหละจะทำให้เรารู้สึกสะอิดสะเอียนกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำ

ความน่าสะอิดสะเอียนก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเจอกับเรื่องแย่ๆเสมอไป ในความคิดของพวกเรา ผมก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งไหนที่ทำให้เรารู้สึกดี แต่ยังไงเราก็ต้องรู้ตัวเองให้ได้ว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์สำหรับเรา

ความน่าสะอิดสะเอียนมีความหลากหลายรูปแบบด้วยกัน

แล้วพวกเราตีความหมายคำว่า สะอิดสะเอียนยังไงล่ะ สำหรับผมก็อาจตีความได้อย่างหนึ่งก็คือ


การทำจนติดเป็นนิสัย

ความสะอิดสะเอียนปกติจะเป็นจุดที่เราจะต้องค้นหาเปลี่ยนแปลงทัศนคติตัวเอง การคาดหวังตัวเองและการปฏิบัติของตัวเอง พวกเราส่วนใหญ่ก็รู้ดีว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไง

จนกระทั่งพวกเราเห็นว่า มันเป็นเรื่องง่ายที่พูดว่า “ฉันก็เข้าออกจากตลาดให้ถูกที่ ถูกเวลาก็เท่านั้น” หรือ “ตลาดมันมีปฏิกิริยาแปลกๆ ก็ถอยออกมา” หรือ “เดี๋ยวก็กลับเข้าไปเล่นใหม่อีกทีก็ได้” เฮ่อ... แล้วพวกเราไม่คิดเหรอว่าเราจะออกมาจากตลาดหุ้นในช่วงเวลาที่แปลกๆได้จริงหรือเปล่า หรือรู้ได้ยังไงว่าจะเข้าออกได้ถูกที่ ถูกเวลาน่ะ

บางทีความสะอิดสะเอียนจะเกิดขึ้นได้นั้น ส่วนใหญ่ก็มาจากความคิดที่หลากหลายรูปแบบด้วยกัน เมื่อเราเกลียดผลลัพธ์ที่ออกมา พวกเราก็ยังไงทำต่อหรือไม่ก็เรียนรู้หาแนวทางใหม่ๆ มันก็มี 2 ทางให้เราเลือกว่าจะเอายังไง

เมื่อเราได้เล่นหุ้น แนวทางใหม่ๆที่เราใช้ก็อาจจะต้องมาพิจารณาตรวจสอบอีกทีนึงว่าจะเอายังไง แต่เรื่องนี้พวกเรามักจะมองข้ามไป หรือไม่ก็มัวแต่ดูช่วงเวลาในการเล่นหุ้น เมื่อเราเล่น Day Trade ไม่ได้ดีนัก ก็จะต้องหันมาใช้แนวทางแบบ Swing Trade ที่ทำให้เราอยู่ในโลกที่แตกต่างกันออกไป นี่แหละคือสิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเราในการใช้แนวทางการเล่นหุ้นที่หลากหลาย


ทำกำไรควบคู่กันไป

เมื่อเราเดินหน้าเล่นหุ้นแล้วก็พบว่ามันใช้ไม่ได้ผล เราก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบการเล่นหุ้นระยะสั้นที่แตกต่างกันออกไป บ่อยครั้งที่จะต้องปรับเปลี่ยนแบบฉับพลัน ทำให้หัวสมองของเรากลับมาฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เราขจัดความกลัวได้เกือบหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ทัศนคติของเราดำเนินไปอย่างราบรื่น

แต่จะให้ดีเราก็ต้องเรียนรู้การปรับความคิดจิตใจด้วย เราจะต้องเดินหน้าในเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป เพราะว่าเราจะต้องยอมรับว่ามันไม่มีแนวทางไหนที่จะใช้ได้ในทุกเส้นทางที่เราเดินหรอกและปัจจัยต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป เราก็สามารถเดินหน้าในรอบต่อๆไปได้อย่างต่อเน่องและเราก็รู้แล้วว่าจะต้องปรับปรุงตัวเองให้ Win/Win อย่างไร

ดังนั้นพวกเราจะต้องตั้งอารมณ์ความรู้สึกการเล่นหุ้นในปัจจุบันให้ได้ว่ามีความน่าสะอิดสะเอียนมากน้อยแค่ไหน ผมยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สนุกเอาซะเลย ผมเองก็พบว่าตัวเองมีความน่าสะอิดสะเอียนจนรับไม่ได้เหมือนกัน แต่หากเราต้องการออกจากสิ่งเหล่านี้ เราก็อย่าไปเสียดายกับแนวทางที่ตัวเองใช้อยู่ในอดีตว่า มันทำกำไรได้เท่านั้น เท่านี้ ถอยออกมาซะแล้วก็เดินหน้าค้นหาแนวทางใหม่และก็หารูปแบบกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง สิ่งหนึ่งก็คือเราอาจจะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนมากหน่อยและก็ทำให้เรามีความเชื่อมั่นมากขึ้นกว่าเดิม เราจะต้องเก็บรักษาสิ่งดีๆเอาไว้แต่ก็อย่าลืมสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนสำหรับตัวเองด้วย แล้วก็นำไปปรับปรุงแก้ไขพัฒนาตัวเองใหม่ และเราก็จะมีความภาคภูมิใจตามมาแน่นอน

เทรดหุ้นอย่างโจร !!!

ผู้เขียน Jeff White

ผู้แปล Mr.lawrence10

ที่มา : TheStockBandit.net