หลายๆคนอาจจะสงสัยกันว่า ทำไมผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ถึงได้ตกต่ำจนน่าใจหาย จากแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษในฤดูกาลที่แล้ว สู่ทีมกลางตาราง ทีมที่พร้อมจะแพ้ชนะได้ทุกทีม ลำพังอาการบาดเจ็บของศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลที่แล้วอย่าง โรบิน ฟานเพอร์ซี่ ก็ไม่น่าจะส่งผลให้กับทีมมากมายขนาดนี้ หรือจะเป็นเพราะแทคติกบอลสไตล์โบราณของผู้จัดการทีม ก็ไม่น่าจะทำให้ทีมที่มีนักเตะตัวจริงค่าเหนื่อยระดับแสนปอนด์ ต้องแพ้คาบ้านมาหลายต่อหลายนัด
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ล้วนมาจากแผนการณ์ชั่วร้ายของโคตรกุนซือสมองเพชร เดวิด มอยส์ ผู้ที่บงการเบื้องหลังของทีมเอาไว้หมดแล้ว วันนี้ผมจะมาเปิดโปงแผนการณ์ของ เดวิด มอยส์ ให้รับทราบกันครับ
ย้อนเหตุการณ์ไปในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว ทันทีที่ เซอร์ อเล็กส์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือลงจากตำแหน่ง มอยส์ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะได้คุมทีมปิศาจแดงต่อจากท่านเซอร์ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด โอกาสเดียวที่ เดวิด มอยส์ จะได้ตอบแทนให้กับต้นสังกัดเอฟเวอร์ตัน กำลังจะมาถึงแล้ว
เดวิด มอยส์ คุมทีมเอฟเวอร์ตันมายาวนานถึง 11 ปี ปราศจากถ้วยแชมป์ติดมือใดๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่างบประมาณซื้อตัวนักเตะที่เขาได้รับในแต่ละฤดูกาล ถือว่าน้อยมากๆถ้าเทียบกับทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ความสำเร็จสูงสุดของเขาในการคุมทีมเอฟเวอร์ตัน ก็คือการพาทีมจบอันดับสี่ในฤดูกาล 2004-2005 และได้สิทธิ์ลงเตะในรอบคัดเลือกรอบที่สามของศึกยูฟ่าแชมเปี่ยนส์ลีก ก่อนที่ทีมจะต้องตกรอบเพียงแค่รอบคัดเลือกเท่านั้น และในปีนี้ก็เป็นโอกาสอันดั ที่มอยส์จะพาเอฟเวอร์ตันกลับไปแก้ตัวในจุดนั้นอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าเขาจะคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตาม...
ทันทีที่มอยส์ได้รับตำแหน่งที่แมนเชสเตอร์ เขาก็ได้วางแผนที่จะกำจัดคู่แข่งที่สำคัญที่จะมาแย่งพื้นที่โควต้าแชมเปี่ยน์ลีกของเอฟเวอร์ตัน ซึ่งคู่แข่งอันดับหนึ่งก็ไม่ใช่ทีมอื่นไกลที่ไหน ทีมบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง "ลิเวอร์พูล" นั่นเอง
ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลโดยเน้นการครองบอลเป็นหลัก เรื่องนี้แฟนบอลทุกคนรู้ดี การที่ำเกมของลิเวอร์พูลจะเริ่มต้นจากการต่อบอลจากกองหลัง จ่ายบอลสั้นมาที่กองกลาง และจ่ายทะลุไปให้กองหน้าทำประตู การที่จะหยุดลิเวอร์พูลไม่ใช่เรื่องยากนั่นก็คือ "ส่งกองหลังที่จ่ายบอลแย่ ไปทำลายระบบของลิเวอร์พูลซะ"
การแขวนสตั๊ดของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ส่งผลให้ลิเวอร์พูลต้องหาเซนเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่มาแทนเขาแน่นอน แต่การจะส่งนักเตะของแมนยูไปให้ทีมคู่อริตลอดกาลยืมตัว ดูจะเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นจะต้องยืมมือจากทีมที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลิเวอร์พูล และไม่ใช่ทีมคู่แข่งของเอฟเวอร์ตัน ทีมนั้นก็คือ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้"
มอยส์ยื่นข้อเสนอให้กับ มานูเอล เปเยกรินี 2 ข้อ ได้แก่
1.ส่งนักเตะกองหลังที่จ่ายบอลแย่ ไปให้ลิเวอร์พูล
2.ส่งนักเตะคุณภาพที่ไม่ได้ใช่งาน ไปให้เอฟเวอร์ตัน
ถ้าหากทำตามข้อเสนอข้อแรกได้สำเร็จ เอาสามแต้มเต็มที่ เอติฮัตต์ สเตเดี้ยม ได้เลย และถ้าหากทำครบทั้งสองข้อ ก็มารับอีกสามแต้มที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เลย
และนั่นก็เป็นเหตุให้ โคโล ตูเร่ ไม่ถูกต่อสัญญาจากต้นสังกัด..
พักเบรคการซื้อขายนักเตะ ไปชมการเตะปรีซีซั่นนัดแรกในการคุมทีมของ เดวิด มอยส์ กันดีกว่าครับ แมนยูพ่ายทีมสิงห์ออลสตาร์ไปอย่างงงๆ 0-1 ผู้ที่ทำประตูชัยก็ไม่ใช่ใคร อดีตเด็กในสังกัดของเอฟเวอร์ตัน ลีซอ !!!!!!!
แต่ประตูชัยของลีซอดูไร้ค่า เมื่อเจอกับช็อตระดับโลกติดตาแฟนบอลไทยของ "เทพเวลเบซีอุส"
กลับมาตลาดการซื้อขายนักเตะกันอีกครั้ง เป้าหมายแรกถูกกำจัดออกไปแล้ว มาที่เป้าหมายต่อไปกันดีกว่า ทีมที่จองพื้นที่สุดท้ายโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นขาประจำ ทีมนั้นก็คือ "อาร์เซน่อล"
ถึงแม้ว่ารูปแบบการเล่นของอาร์เซน่อล จะละม้ายคล้ายคลึ่งของลิเวอร์พูล แต่อย่าลืมว่าอาร์เซน่อลเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบการเล่นแบบต่อบอลสั้น มาเป็นเวลายาวนานกว่าสิบปีแล้ว เรียกได้ว่าเอานักเตะคนไหนมายืนสิบเอ็ดตัวจริง รูปแบบการเล่นก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมมากนัก ฉะนั้นการที่จะทำลายอาร์เซน่อลอาจจะต้องวางแผนซับซ้อนกว่านั้น
สถิติที่ในฤดูกาลที่ผ่านๆมาของอาร์เซน่อล จะหลุดจากวงโคจรลุ้นแชมป์ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ มาตลอด สาเหตุหลักๆมาจากอาการบาดเจ็บของนักเตะ และเวนเกอร์มักจะหานักเตะมาเสริมทีมในช่วงเปิดตลาดนักเตะเดือนมกราคม วิธีที่จะหยุดการเสริมทัพของเวนเกอร์ใในช่วงเดือนมกราคมนั่นก็คือ "ปิดงบประมาณของอาร์เซน่อล ให้หมดตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์"
ตำแหน่งที่อาร์เซน่อลมีปัญหามาตลอด นั่นก็คือ กองหน้า และมอยส์จึงเห็นโอกาสที่จะยืงปืนนัดเดียว ได้ทั้งหงส์และปืน ก็คือยื่นข้อเสนอให้เวนเกอร์ ได้แก่
- ซื้อ หลุยส์ ซัวเรซ ไปร่วมทีมให้ได้
ถ้าทำตามข้อเสนอนี้ได้ มารับสามคะแนนที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เลย
ในขณะที่ดีลในตำนาน "40 ล้าน + 1 ปอนด์" กำลังดำเนินต่อไป เดวิด มอยส์ ก็ยังไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เพราะว่ายังเหลืออีกหนึ่งทีม ที่มีศักยภาพไม่ต่างจากสองทีมที่ว่ามา ถ้าปล่อยไปอาจจะกลายเป็นตาอยู่ขโมยอันดับสี่ของเอฟเวอร์ตันไปได้ ทีมนั้นก็คือ "สเปอร์ส"
หนทางในการกำจัดสเปอร์ส ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไร นักเตะที่แทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของสเปอร์สในฤดูกาลที่แล้ว ก็คงหนีไม้พ้น "แกเร็ธ เบล" ในแต่ละนัดที่สเปอร์สมีเบลกับไม่มี ส่งผลต่อรูปแบบเกมของสเปอร์สเป็นอย่างมาก แต่ค่าตัวของสเปอร์สคงไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์แน่นอน มีไม่กี่ทีมในโลกที่สามารถจ่ายค่าตัวในระดับนี้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือ "รีล มาดริด"
มอยส์ยื้นข้อเสนอที่เรียบง่ายให้ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้แก่
- ซื้อ แกเร็ธ เบล ไปร่วมทีมให้ได้
ถ้าทำตามข้อเสนอนี้ได้ แมนยูจะยอมแพ้ให้กับมาดริด ถ้าหากทั้งสองทีมเจอกันในรอบน็อกเอ้าท์
จากนั้นดีลที่กำลังจะกลายเป็นสถิติโลก ก็กำลังเกิดขึ้น...
พักเบรกการซื้อขายนักเตะ มาต่อกันที่นัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก แชมป์เก่าประเดิมนัดแรกสวยหรู ด้วยการบุกไปชนะสวอนซี 4-1 ส่วนทีมยักษ์ใหญ่ทีมอื่นๆก็เก็บชัยชนะกันได้ถ้วยหน้า จะยกเว้นก็แต่ อาร์เซน่อล ที่ยิ่งถูกแฟนบอลบีบบังคับให้ซื้อตัวนักเตะค่าตัวแพงมาร่วมทีมให้ได้
แต่ดีลของอาร์เซน่อลกับซัวเรซ ดูมีทีท่าว่าจะล่ม ประกอบกับชัยชนะนัดแรกของหงส์แดงในวันที่ไม่มีซัวเรซ เดวิด มอยส์ มองเห็นว่าการที่ลิเวอร์พูลขาดซัวเรซ อาจจะไม่มีส่งผลเท่าไรนัก จึงรีบแก้เกมโดยเฉียบพลัน ยื่นข้อเสนอให้กับ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งจะมีคิวมาเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดอีกไม่กี่วัน ได้แก่
1.ส่งกองกลางที่จ่ายบอลแย่ ไปให้หงส์แดง
2.ส่งนักเตะคุณภาพที่ไม่ได้ใช่งาน ไปให้เอฟเวอร์ตัน
ถ้าหากทำตามข้อเสนอข้อแรกได้สำเร็จ มารับสามคะแนนที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เลย และถ้าหากทำตามข้อเสนอครบทั้งสองข้อ เอาไปเลยสามแต้มเต็มใน สแตมฟอร์ด บริดจ์
แต่ว่ามูรินโญ่ซึ่งเป็นโค้ชที่เขี้ยวลากดิน ขอต่อรองกับมอยส์ว่า "ขอแต้มก่อน แล้วจึงทำตามข้อเสนอทั้งสองข้อ" มอยส์ตอบรับข้อเสนอ แต่ขอเปลี่ยนจากสามแต้มเหลือแค่แต้มเดียว และมูรินโญ่ก็ตอบตกลงข้อเสนอนี้ทันที
และเกมก็ผ่านไปด้วยการเสมอกันแบบน่าเบื่อ 0-0 ก่อนที่จะมอยส์จะต่อสายไปหา อาร์แซน เวนเกอร์ และบอกไปว่า "ยกเลิกดีลซัวเรซซะ สามแต้มที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นอันโมฆะ"
ก่อนเกมในศึกวันแดงเดือนจะเริ่มขึ้น รีล มาดริด สามารถตกลงค่าตัวของ แกเร็ธ เบล ได้เรียบร้อย แน่นอนว่าแผนการณ์ของมอยส์จะยังไม่จบแค่นี้
หลังจากผ่านเกมกับลิเวอร์พูล ซึ่งทางปิศาจแดงพ่ายต่อหงส์แดงไป 0-1 โค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะได้เริ่มขึ้น...
เดวิด มอยส์ ฉุกคิดได้ว่า เกิอบปล่อยอาร์เซน่อลลอยนวลไปแล้ว จะมีทีมไหนที่พร้อมจะปล่อยนักเตะค่าตัวระดับ 40 ล้านปอนด์ขึ้นไปออกจากทีมตอนนี้ได้บ้าง ก็ต้องมีอยู่ทีมเดียว ทีมที่ใช้เงินไปอย่างมหาศาลในช่วงที่ผ่านมา "รีล มาดริด" นั่นเอง นักเตะที่ดูมีแนวโน้มว่าจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของอันเช่ ก็คือ เมซุต เออซิล ที่น่าจะทับตำแหน่งกับ แกเร็ธ เบล และแล้วมอยส์ก็ยื่นข้อเสนอไปให้อันเชล็อตติอีกครั้ง ได้แก่
- ขาย เมซุต เออซิล ให้กับอาร์เซน่อล ในราคาสูงๆให้ได้
ถ้าทำตามข้อเสนอนี้ได้ แมนยูจะไม่มาเตะยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 ฤดูกาล
ถึงแม้ว่าเวนเกอร์จะไม่อยากทุ่มเงินซื้อนักเตะค่าตัวแพง แต่การแพ้คาบ้านต่อวิลล่า ทำให้สถานการณ์บีบบังคับให้เขาต้องทำอย่างนั้น และดีลซื่อขายทุกอย่างเป็นไปตามแผนของมอยส์ภายในวันเดียว เออซิลได้ยายไปอาร์เซน่อล โมเสสย้ายไปลิเวอร์พูล ส่วนเอฟเวอร์ตันได้สองนักเตะคุณภาพอย่าง ลูกากู และ แบร์รี่ ทีนี้ก็เหลือภารกิจสุดท้าย นั่นก็คือ หาเงินช้อปนักเตะก้อนใหญ่ ให้กับต้นสังกัดเก่า
เพื่อให้แผนการณ์เป็นไปอย่างแนบเนียน จะทุ่มซื้อ ทิม ฮาเวิร์ด ในราคา 20 ล้านปอนด์ ก็ดูจะโจ่งแจ้งเกินไป นักเตะระดับบิ๊กเนม ที่ไม่น่าจะเข้ากับระบบของเอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีม โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ จะไปใครไม่ได้นอกจาก "มาร์วาน เฟลไลนี่"
กับค่าตัว 27 ล้านปอนด์ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการตอบแทนให้กับต้นสังกัดเก่า..
ถึงแม้ว่าเขา จะต้องกลายเป็นแพะให้กับสาวกยูไนเต็ดรุมด่าทุกวัน
ถึงแม้ว่าเขา จะต้องกลายเป็นตัวตลกให้กับสาวกทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีกมากมาย
ถึงแม้ว่าเขา จะต้องเอาชื่อเสียงทั้งหมดมาทิ้งที่โอลด์แทรฟฟอร์ด
ถึงแม้ว่าเขา จะต้ทำให้ชายที่ชื่อ อเล็กส์ เฟอร์กูสัน ต้องผิดหวังเป็นอย่างมาก
แต่เขาก็ยอมรับมันไว้ เพราะความซื่อสัตย์และกตัญญูของเขาที่มีกับเอฟเวอร์ตัน จากชายที่ชื่อว่า "เดวิด มอยส์"
**** เรื่องราวยังไม่จบแค่นี้นะครับ ยังมีดีลปริศนาของ ฮวน มาต้า , ปรัชญาการทำทีมของมอยส์ และอื่นๆอีกมากมาย แต่ตอนนี้ขอตัวไปมโนก่อนนะครับ
****
ลับ-ลวง-พราง ! เปิดโปงแผนการณ์ชั่วร้ายของชายที่ชื่อ "เดวิด มอยส์"
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ล้วนมาจากแผนการณ์ชั่วร้ายของโคตรกุนซือสมองเพชร เดวิด มอยส์ ผู้ที่บงการเบื้องหลังของทีมเอาไว้หมดแล้ว วันนี้ผมจะมาเปิดโปงแผนการณ์ของ เดวิด มอยส์ ให้รับทราบกันครับ
ย้อนเหตุการณ์ไปในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว ทันทีที่ เซอร์ อเล็กส์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือลงจากตำแหน่ง มอยส์ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะได้คุมทีมปิศาจแดงต่อจากท่านเซอร์ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด โอกาสเดียวที่ เดวิด มอยส์ จะได้ตอบแทนให้กับต้นสังกัดเอฟเวอร์ตัน กำลังจะมาถึงแล้ว
เดวิด มอยส์ คุมทีมเอฟเวอร์ตันมายาวนานถึง 11 ปี ปราศจากถ้วยแชมป์ติดมือใดๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่างบประมาณซื้อตัวนักเตะที่เขาได้รับในแต่ละฤดูกาล ถือว่าน้อยมากๆถ้าเทียบกับทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ความสำเร็จสูงสุดของเขาในการคุมทีมเอฟเวอร์ตัน ก็คือการพาทีมจบอันดับสี่ในฤดูกาล 2004-2005 และได้สิทธิ์ลงเตะในรอบคัดเลือกรอบที่สามของศึกยูฟ่าแชมเปี่ยนส์ลีก ก่อนที่ทีมจะต้องตกรอบเพียงแค่รอบคัดเลือกเท่านั้น และในปีนี้ก็เป็นโอกาสอันดั ที่มอยส์จะพาเอฟเวอร์ตันกลับไปแก้ตัวในจุดนั้นอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าเขาจะคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตาม...
ทันทีที่มอยส์ได้รับตำแหน่งที่แมนเชสเตอร์ เขาก็ได้วางแผนที่จะกำจัดคู่แข่งที่สำคัญที่จะมาแย่งพื้นที่โควต้าแชมเปี่ยน์ลีกของเอฟเวอร์ตัน ซึ่งคู่แข่งอันดับหนึ่งก็ไม่ใช่ทีมอื่นไกลที่ไหน ทีมบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง "ลิเวอร์พูล" นั่นเอง
ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลโดยเน้นการครองบอลเป็นหลัก เรื่องนี้แฟนบอลทุกคนรู้ดี การที่ำเกมของลิเวอร์พูลจะเริ่มต้นจากการต่อบอลจากกองหลัง จ่ายบอลสั้นมาที่กองกลาง และจ่ายทะลุไปให้กองหน้าทำประตู การที่จะหยุดลิเวอร์พูลไม่ใช่เรื่องยากนั่นก็คือ "ส่งกองหลังที่จ่ายบอลแย่ ไปทำลายระบบของลิเวอร์พูลซะ"
การแขวนสตั๊ดของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ส่งผลให้ลิเวอร์พูลต้องหาเซนเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่มาแทนเขาแน่นอน แต่การจะส่งนักเตะของแมนยูไปให้ทีมคู่อริตลอดกาลยืมตัว ดูจะเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นจะต้องยืมมือจากทีมที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลิเวอร์พูล และไม่ใช่ทีมคู่แข่งของเอฟเวอร์ตัน ทีมนั้นก็คือ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้"
มอยส์ยื่นข้อเสนอให้กับ มานูเอล เปเยกรินี 2 ข้อ ได้แก่
1.ส่งนักเตะกองหลังที่จ่ายบอลแย่ ไปให้ลิเวอร์พูล
2.ส่งนักเตะคุณภาพที่ไม่ได้ใช่งาน ไปให้เอฟเวอร์ตัน
ถ้าหากทำตามข้อเสนอข้อแรกได้สำเร็จ เอาสามแต้มเต็มที่ เอติฮัตต์ สเตเดี้ยม ได้เลย และถ้าหากทำครบทั้งสองข้อ ก็มารับอีกสามแต้มที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เลย
และนั่นก็เป็นเหตุให้ โคโล ตูเร่ ไม่ถูกต่อสัญญาจากต้นสังกัด..
พักเบรคการซื้อขายนักเตะ ไปชมการเตะปรีซีซั่นนัดแรกในการคุมทีมของ เดวิด มอยส์ กันดีกว่าครับ แมนยูพ่ายทีมสิงห์ออลสตาร์ไปอย่างงงๆ 0-1 ผู้ที่ทำประตูชัยก็ไม่ใช่ใคร อดีตเด็กในสังกัดของเอฟเวอร์ตัน ลีซอ !!!!!!!
แต่ประตูชัยของลีซอดูไร้ค่า เมื่อเจอกับช็อตระดับโลกติดตาแฟนบอลไทยของ "เทพเวลเบซีอุส"
กลับมาตลาดการซื้อขายนักเตะกันอีกครั้ง เป้าหมายแรกถูกกำจัดออกไปแล้ว มาที่เป้าหมายต่อไปกันดีกว่า ทีมที่จองพื้นที่สุดท้ายโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นขาประจำ ทีมนั้นก็คือ "อาร์เซน่อล"
ถึงแม้ว่ารูปแบบการเล่นของอาร์เซน่อล จะละม้ายคล้ายคลึ่งของลิเวอร์พูล แต่อย่าลืมว่าอาร์เซน่อลเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบการเล่นแบบต่อบอลสั้น มาเป็นเวลายาวนานกว่าสิบปีแล้ว เรียกได้ว่าเอานักเตะคนไหนมายืนสิบเอ็ดตัวจริง รูปแบบการเล่นก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมมากนัก ฉะนั้นการที่จะทำลายอาร์เซน่อลอาจจะต้องวางแผนซับซ้อนกว่านั้น
สถิติที่ในฤดูกาลที่ผ่านๆมาของอาร์เซน่อล จะหลุดจากวงโคจรลุ้นแชมป์ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ มาตลอด สาเหตุหลักๆมาจากอาการบาดเจ็บของนักเตะ และเวนเกอร์มักจะหานักเตะมาเสริมทีมในช่วงเปิดตลาดนักเตะเดือนมกราคม วิธีที่จะหยุดการเสริมทัพของเวนเกอร์ใในช่วงเดือนมกราคมนั่นก็คือ "ปิดงบประมาณของอาร์เซน่อล ให้หมดตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์"
ตำแหน่งที่อาร์เซน่อลมีปัญหามาตลอด นั่นก็คือ กองหน้า และมอยส์จึงเห็นโอกาสที่จะยืงปืนนัดเดียว ได้ทั้งหงส์และปืน ก็คือยื่นข้อเสนอให้เวนเกอร์ ได้แก่
- ซื้อ หลุยส์ ซัวเรซ ไปร่วมทีมให้ได้
ถ้าทำตามข้อเสนอนี้ได้ มารับสามคะแนนที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เลย
ในขณะที่ดีลในตำนาน "40 ล้าน + 1 ปอนด์" กำลังดำเนินต่อไป เดวิด มอยส์ ก็ยังไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เพราะว่ายังเหลืออีกหนึ่งทีม ที่มีศักยภาพไม่ต่างจากสองทีมที่ว่ามา ถ้าปล่อยไปอาจจะกลายเป็นตาอยู่ขโมยอันดับสี่ของเอฟเวอร์ตันไปได้ ทีมนั้นก็คือ "สเปอร์ส"
หนทางในการกำจัดสเปอร์ส ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไร นักเตะที่แทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของสเปอร์สในฤดูกาลที่แล้ว ก็คงหนีไม้พ้น "แกเร็ธ เบล" ในแต่ละนัดที่สเปอร์สมีเบลกับไม่มี ส่งผลต่อรูปแบบเกมของสเปอร์สเป็นอย่างมาก แต่ค่าตัวของสเปอร์สคงไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์แน่นอน มีไม่กี่ทีมในโลกที่สามารถจ่ายค่าตัวในระดับนี้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือ "รีล มาดริด"
มอยส์ยื้นข้อเสนอที่เรียบง่ายให้ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้แก่
- ซื้อ แกเร็ธ เบล ไปร่วมทีมให้ได้
ถ้าทำตามข้อเสนอนี้ได้ แมนยูจะยอมแพ้ให้กับมาดริด ถ้าหากทั้งสองทีมเจอกันในรอบน็อกเอ้าท์
จากนั้นดีลที่กำลังจะกลายเป็นสถิติโลก ก็กำลังเกิดขึ้น...
พักเบรกการซื้อขายนักเตะ มาต่อกันที่นัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก แชมป์เก่าประเดิมนัดแรกสวยหรู ด้วยการบุกไปชนะสวอนซี 4-1 ส่วนทีมยักษ์ใหญ่ทีมอื่นๆก็เก็บชัยชนะกันได้ถ้วยหน้า จะยกเว้นก็แต่ อาร์เซน่อล ที่ยิ่งถูกแฟนบอลบีบบังคับให้ซื้อตัวนักเตะค่าตัวแพงมาร่วมทีมให้ได้
แต่ดีลของอาร์เซน่อลกับซัวเรซ ดูมีทีท่าว่าจะล่ม ประกอบกับชัยชนะนัดแรกของหงส์แดงในวันที่ไม่มีซัวเรซ เดวิด มอยส์ มองเห็นว่าการที่ลิเวอร์พูลขาดซัวเรซ อาจจะไม่มีส่งผลเท่าไรนัก จึงรีบแก้เกมโดยเฉียบพลัน ยื่นข้อเสนอให้กับ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งจะมีคิวมาเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดอีกไม่กี่วัน ได้แก่
1.ส่งกองกลางที่จ่ายบอลแย่ ไปให้หงส์แดง
2.ส่งนักเตะคุณภาพที่ไม่ได้ใช่งาน ไปให้เอฟเวอร์ตัน
ถ้าหากทำตามข้อเสนอข้อแรกได้สำเร็จ มารับสามคะแนนที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้เลย และถ้าหากทำตามข้อเสนอครบทั้งสองข้อ เอาไปเลยสามแต้มเต็มใน สแตมฟอร์ด บริดจ์
แต่ว่ามูรินโญ่ซึ่งเป็นโค้ชที่เขี้ยวลากดิน ขอต่อรองกับมอยส์ว่า "ขอแต้มก่อน แล้วจึงทำตามข้อเสนอทั้งสองข้อ" มอยส์ตอบรับข้อเสนอ แต่ขอเปลี่ยนจากสามแต้มเหลือแค่แต้มเดียว และมูรินโญ่ก็ตอบตกลงข้อเสนอนี้ทันที
และเกมก็ผ่านไปด้วยการเสมอกันแบบน่าเบื่อ 0-0 ก่อนที่จะมอยส์จะต่อสายไปหา อาร์แซน เวนเกอร์ และบอกไปว่า "ยกเลิกดีลซัวเรซซะ สามแต้มที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นอันโมฆะ"
ก่อนเกมในศึกวันแดงเดือนจะเริ่มขึ้น รีล มาดริด สามารถตกลงค่าตัวของ แกเร็ธ เบล ได้เรียบร้อย แน่นอนว่าแผนการณ์ของมอยส์จะยังไม่จบแค่นี้
หลังจากผ่านเกมกับลิเวอร์พูล ซึ่งทางปิศาจแดงพ่ายต่อหงส์แดงไป 0-1 โค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะได้เริ่มขึ้น...
เดวิด มอยส์ ฉุกคิดได้ว่า เกิอบปล่อยอาร์เซน่อลลอยนวลไปแล้ว จะมีทีมไหนที่พร้อมจะปล่อยนักเตะค่าตัวระดับ 40 ล้านปอนด์ขึ้นไปออกจากทีมตอนนี้ได้บ้าง ก็ต้องมีอยู่ทีมเดียว ทีมที่ใช้เงินไปอย่างมหาศาลในช่วงที่ผ่านมา "รีล มาดริด" นั่นเอง นักเตะที่ดูมีแนวโน้มว่าจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของอันเช่ ก็คือ เมซุต เออซิล ที่น่าจะทับตำแหน่งกับ แกเร็ธ เบล และแล้วมอยส์ก็ยื่นข้อเสนอไปให้อันเชล็อตติอีกครั้ง ได้แก่
- ขาย เมซุต เออซิล ให้กับอาร์เซน่อล ในราคาสูงๆให้ได้
ถ้าทำตามข้อเสนอนี้ได้ แมนยูจะไม่มาเตะยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 ฤดูกาล
ถึงแม้ว่าเวนเกอร์จะไม่อยากทุ่มเงินซื้อนักเตะค่าตัวแพง แต่การแพ้คาบ้านต่อวิลล่า ทำให้สถานการณ์บีบบังคับให้เขาต้องทำอย่างนั้น และดีลซื่อขายทุกอย่างเป็นไปตามแผนของมอยส์ภายในวันเดียว เออซิลได้ยายไปอาร์เซน่อล โมเสสย้ายไปลิเวอร์พูล ส่วนเอฟเวอร์ตันได้สองนักเตะคุณภาพอย่าง ลูกากู และ แบร์รี่ ทีนี้ก็เหลือภารกิจสุดท้าย นั่นก็คือ หาเงินช้อปนักเตะก้อนใหญ่ ให้กับต้นสังกัดเก่า
เพื่อให้แผนการณ์เป็นไปอย่างแนบเนียน จะทุ่มซื้อ ทิม ฮาเวิร์ด ในราคา 20 ล้านปอนด์ ก็ดูจะโจ่งแจ้งเกินไป นักเตะระดับบิ๊กเนม ที่ไม่น่าจะเข้ากับระบบของเอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีม โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ จะไปใครไม่ได้นอกจาก "มาร์วาน เฟลไลนี่"
กับค่าตัว 27 ล้านปอนด์ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการตอบแทนให้กับต้นสังกัดเก่า..
ถึงแม้ว่าเขา จะต้องกลายเป็นแพะให้กับสาวกยูไนเต็ดรุมด่าทุกวัน
ถึงแม้ว่าเขา จะต้องกลายเป็นตัวตลกให้กับสาวกทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีกมากมาย
ถึงแม้ว่าเขา จะต้องเอาชื่อเสียงทั้งหมดมาทิ้งที่โอลด์แทรฟฟอร์ด
ถึงแม้ว่าเขา จะต้ทำให้ชายที่ชื่อ อเล็กส์ เฟอร์กูสัน ต้องผิดหวังเป็นอย่างมาก
แต่เขาก็ยอมรับมันไว้ เพราะความซื่อสัตย์และกตัญญูของเขาที่มีกับเอฟเวอร์ตัน จากชายที่ชื่อว่า "เดวิด มอยส์"
**** เรื่องราวยังไม่จบแค่นี้นะครับ ยังมีดีลปริศนาของ ฮวน มาต้า , ปรัชญาการทำทีมของมอยส์ และอื่นๆอีกมากมาย แต่ตอนนี้ขอตัวไปมโนก่อนนะครับ ****