หากคุณตื่นนอนตอนเช้า แล้วมีอาการ เหล่านี้
ไอ , จาม , น้ำมูกไหล , คัดจมูก มีเสมหะ , ตาแดง, คันตา
คันเพดานปาก , คันศีรษะ , คันตามร่างกาย , เป็นหวัดบ่อยครั้ง
คุณกำลังอาศัยอยู่กับ “ไรฝุ่น”
และ มีความเสี่ยงต่อโรค “ภูมิแพ้”
“ไรฝุ่น” ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
เป็นสัตว์ขนาดเล็กเพียง 0.3 มิลลิเมตร ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มี 8 ขา จัดอยู่ในกลุ่ม แมงมุม เห็บ ตัวหิด
ชอบอาศัยอยู่ตามเฟอร์นิเจอร์ และ วัตถุที่ทำจากเส้นใย เช่น ที่นอน , หมอน , ผ้าห่ม , ตุ๊กตา , พรม , โซฟา , ผ้าม่าน ฯลฯ
“ไรฝุ่น” มาจากไหน ?
เนื่องจาก ไรฝุ่น มีขนาดเล็กมากจึงอาจจะติดมากับ นก , หนู , สัตว์เลี้ยง , ลมพัด , ติดมากับแขกที่มาเยี่ยมเยือน หรือ
ติดมากับเสื้อผ้าที่คุณใส่ไปบ้านคนอื่นที่มีไรฝุ่นอาศัยอยู่ ภายในระยะเวลา 6 เดือน ไรฝุ่นจะเข้ามาอาศัยในบ้านคุณ
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างแน่นอน
“ไรฝุ่น” กินอะไรเป็นอาหาร
ไรฝุ่น มีชีวิตอยู่ได้โดยการกิน ขี้ไคล รังแค และ เศษอินทรีย์สารจากสิ่งมีชีวิต โดยที่เศษผิวหนังของเรา 1 กรัม สามารถเลี้ยง
ไรฝุ่นได้ประมาณ 1,000,000 ตัว เป็นเวลา 1 สัปดาห์
ที่นอนสวรรค์ของ “ไรฝุ่น”
เนื่องจากเราต้องนอนอยู่บนที่นอน อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ทุกวัน ที่นอนจึงเป็นแหล่งสะสมเซลล์ผิวหนังของเราในทุกๆวัน
ทำให้พบ ไรฝุ่น จำนวนมากภายในที่นอน และ ไรฝุ่น มีขนาดเล็กกว่าช่องว่าง ระหว่างเส้นใย มันจึงสามารถปีนขึ้นมา
บนพื้นผิวของที่นอน หรือ เครื่องใช้ต่างๆเพื่อมากิน ขี้ไคล รังแค แล้วจะปล่อย “มูล” เอาไว้ และ จะมีการ “ลอกคราบ”
หลายครั้ง จนกว่าจะโตเต็มวัยเพื่อวางไข่ต่อไป
เราเป็น “ภูมิแพ้” ได้อย่างไร
สารก่อภูมิแพ้ จะอยู่ในรูปของ “มูล และ “คราบ” ของไรฝุ่น ซึ่งมีน้ำหนักเบา เมื่อเรา นั่ง นอน ลงบนเครื่องใช้นั้นๆ
สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้จะปลิวลอยขึ้นมาปะปนในอากาศ เมื่อเราสูดดมเข้าไป สารเหล่านี้จะกระตุ้นให้ร่างกายของผู้ที่แพ้เกิดอาการ
หอบหืด,ผิวหนังอักเสบ,เยื่อจมูกอักเสบ,ไอ,จาม,คันตามร่างกาย,คันตา,คัดจมูก,น้ำมูกไหล,เป็นหวัดบ่อยครั้ง
วิธีป้องกัน และ กำจัดไรฝุ่น
1 หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องนอน พรม และ เฟอร์นิเจอร์ ที่ทำจากเสนใย
2 ซักเครื่องนอนเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ ไรฝุ่นจะไม่ตายแต่สามารถชะล้าง ไปพร้อมกับมูลไรฝุ่นได้
3 นำที่นอน หมอน ตากแด ทุก 2 สัปดาห์ นานติดต่อกัน 5 ชั่วโง ไข่ไรฝุ่นจะฝ่อเพื่อลดจำนวนไรฝุ่นที่จะฟักออกมา
เนื่องจาก ความร้อนที่ 55-60 องศาเซลเซียส นาน 20 นาที สามารถฆ่าไรฝุ่นได้ แต่ไม่ทำลายสารก่อภูมิแพ้
อากาศกลางแดดเปรี้ยงๆหน้าร้อนจะอยู่ที่ประมาณ 40-41 องศาเซลเซียส และ ความร้อนสูงสุดของวันจะเป็น
ช่วงบ่าย 2 โมง อุณหภูมิภายในฟูกไม่สูงพอที่จะฆ่าไรฝุ่นได้ เพราะเมื่อพลิกที่นอนกลับอีกด้าน มันจะหนีลงไปอยู่ในที่ร้อนน้อยกว่า
4 จัดห้องนอนให้โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดความชื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโต ของไรฝุ่น
5 ทำความสะอาดบ้านด้วยเครื่องดูดฝุ่น และ ขยันเช็ดฝุ่นด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ อาทิตย์ละครั้ง
Dust Mite Clean
เพื่อสุขภาพของคุณ และ คนที่คุณรัก
สนใจบริการทดสอบปริมาณไรฝุ่น ฟรี
ติดต่อ
สอบถาม 087-307-0767 (คุณ โก้ )
Line id : p.ko
Email : komce04@hotmail.com
Facebook : www.facebook.com/Dustmiteclean
ไรฝุ่น ภัยร้ายใกล้ตัว ที่มองไม่เห็น
ไอ , จาม , น้ำมูกไหล , คัดจมูก มีเสมหะ , ตาแดง, คันตา
คันเพดานปาก , คันศีรษะ , คันตามร่างกาย , เป็นหวัดบ่อยครั้ง
คุณกำลังอาศัยอยู่กับ “ไรฝุ่น”
และ มีความเสี่ยงต่อโรค “ภูมิแพ้”
“ไรฝุ่น” ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
เป็นสัตว์ขนาดเล็กเพียง 0.3 มิลลิเมตร ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มี 8 ขา จัดอยู่ในกลุ่ม แมงมุม เห็บ ตัวหิด
ชอบอาศัยอยู่ตามเฟอร์นิเจอร์ และ วัตถุที่ทำจากเส้นใย เช่น ที่นอน , หมอน , ผ้าห่ม , ตุ๊กตา , พรม , โซฟา , ผ้าม่าน ฯลฯ
“ไรฝุ่น” มาจากไหน ?
เนื่องจาก ไรฝุ่น มีขนาดเล็กมากจึงอาจจะติดมากับ นก , หนู , สัตว์เลี้ยง , ลมพัด , ติดมากับแขกที่มาเยี่ยมเยือน หรือ
ติดมากับเสื้อผ้าที่คุณใส่ไปบ้านคนอื่นที่มีไรฝุ่นอาศัยอยู่ ภายในระยะเวลา 6 เดือน ไรฝุ่นจะเข้ามาอาศัยในบ้านคุณ
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างแน่นอน
“ไรฝุ่น” กินอะไรเป็นอาหาร
ไรฝุ่น มีชีวิตอยู่ได้โดยการกิน ขี้ไคล รังแค และ เศษอินทรีย์สารจากสิ่งมีชีวิต โดยที่เศษผิวหนังของเรา 1 กรัม สามารถเลี้ยง
ไรฝุ่นได้ประมาณ 1,000,000 ตัว เป็นเวลา 1 สัปดาห์
ที่นอนสวรรค์ของ “ไรฝุ่น”
เนื่องจากเราต้องนอนอยู่บนที่นอน อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ทุกวัน ที่นอนจึงเป็นแหล่งสะสมเซลล์ผิวหนังของเราในทุกๆวัน
ทำให้พบ ไรฝุ่น จำนวนมากภายในที่นอน และ ไรฝุ่น มีขนาดเล็กกว่าช่องว่าง ระหว่างเส้นใย มันจึงสามารถปีนขึ้นมา
บนพื้นผิวของที่นอน หรือ เครื่องใช้ต่างๆเพื่อมากิน ขี้ไคล รังแค แล้วจะปล่อย “มูล” เอาไว้ และ จะมีการ “ลอกคราบ”
หลายครั้ง จนกว่าจะโตเต็มวัยเพื่อวางไข่ต่อไป
เราเป็น “ภูมิแพ้” ได้อย่างไร
สารก่อภูมิแพ้ จะอยู่ในรูปของ “มูล และ “คราบ” ของไรฝุ่น ซึ่งมีน้ำหนักเบา เมื่อเรา นั่ง นอน ลงบนเครื่องใช้นั้นๆ
สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้จะปลิวลอยขึ้นมาปะปนในอากาศ เมื่อเราสูดดมเข้าไป สารเหล่านี้จะกระตุ้นให้ร่างกายของผู้ที่แพ้เกิดอาการ
หอบหืด,ผิวหนังอักเสบ,เยื่อจมูกอักเสบ,ไอ,จาม,คันตามร่างกาย,คันตา,คัดจมูก,น้ำมูกไหล,เป็นหวัดบ่อยครั้ง
วิธีป้องกัน และ กำจัดไรฝุ่น
1 หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องนอน พรม และ เฟอร์นิเจอร์ ที่ทำจากเสนใย
2 ซักเครื่องนอนเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ ไรฝุ่นจะไม่ตายแต่สามารถชะล้าง ไปพร้อมกับมูลไรฝุ่นได้
3 นำที่นอน หมอน ตากแด ทุก 2 สัปดาห์ นานติดต่อกัน 5 ชั่วโง ไข่ไรฝุ่นจะฝ่อเพื่อลดจำนวนไรฝุ่นที่จะฟักออกมา
เนื่องจาก ความร้อนที่ 55-60 องศาเซลเซียส นาน 20 นาที สามารถฆ่าไรฝุ่นได้ แต่ไม่ทำลายสารก่อภูมิแพ้
อากาศกลางแดดเปรี้ยงๆหน้าร้อนจะอยู่ที่ประมาณ 40-41 องศาเซลเซียส และ ความร้อนสูงสุดของวันจะเป็น
ช่วงบ่าย 2 โมง อุณหภูมิภายในฟูกไม่สูงพอที่จะฆ่าไรฝุ่นได้ เพราะเมื่อพลิกที่นอนกลับอีกด้าน มันจะหนีลงไปอยู่ในที่ร้อนน้อยกว่า
4 จัดห้องนอนให้โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดความชื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโต ของไรฝุ่น
5 ทำความสะอาดบ้านด้วยเครื่องดูดฝุ่น และ ขยันเช็ดฝุ่นด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ อาทิตย์ละครั้ง
Dust Mite Clean
เพื่อสุขภาพของคุณ และ คนที่คุณรัก
สนใจบริการทดสอบปริมาณไรฝุ่น ฟรี
ติดต่อ
สอบถาม 087-307-0767 (คุณ โก้ )
Line id : p.ko
Email : komce04@hotmail.com
Facebook : www.facebook.com/Dustmiteclean