สวัสดีค่ะ
ตอนนี้พี่เรียนอยู่ซอฟแวร์เกษตรค่ะ
คือภาคคอมมันจะเเบ่งเป็น 2 สาขานะ
คอม-คอม (ภาคปก) กับ คอม-ซอฟแวร์ (ภาคนานาชาติ)

ถ้าเป็นคอม เขาจะเน้นฮาร์ดแวร์มากกว่า ขึ้นปี 2 ก็เห็นนั่งบัดกรีกันอยู่ใต้ภาคอะไรงี้
และที่ Epic คือแมท 3 (ซึ่งซอฟไม่ต้องเรียน) ด้วยคณิตศาสตร์ระดับหนู พี่ว่าไปรอดอยู่แล้ว (แพทคณิตพี่ได้ 100 ปี๊ดๆ พี่ก็ยังผ่านสงครามมาได้)
และคอมจะไม่ได้เรียนเขียนโปรแกรมเยอะเท่าซอฟค่ะ
แต่ส่วนที่เป็นเขียนโปรแกรมก็มีนะ เช่นวิชาโปรแกรมมิ่งสกิล หรือที่พวกพี่ๆเรียกกันว่าแพนด้า
ซึ่งต้องเรียนทั้งคอมและซอฟ โจทย์ก็มีทั้งเดิมบ้าง เปลี่ยนบ้าง แล้วแต่ความน่ารักของแพนด้าในวันนั้น
และเป็นช่วงที่น้องจะเห็นหน้าเฟสบุ๊คเต็มไปด้วยรูปหมีแพนด้า ............................
และวิชาอื่นๆ ที่วิชามันคล้ายๆกันอย่างเช่น Computer Organization Computer Architecture
อันนี้ถ้าคอมก็เรียนว่าภายในคอมมันเป็นไง ทำงานยังไง ไอนี่มีไว้ทำอะไร ไอนี่ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ลงลึก (แต่พี่ก็ให้ข้อมูลเยอะไม่ได้ ไปถามเพื่อนคอมมาค่ะ 555555)
ส่วนถ้าเป็นซอฟก็จะเรียนแนวๆว่า มันทำงานอย่างนี้นะ แล้วเราจะเขียนโปรแกรมยังไงให้มันมีประสิทธิภาพมากสุด ใช้เวลาประมวลผลน้อยสุด หรือกินทรัพยากรน้อยสุด ไรงี้
หรือวิชา OS (Operating System) อันนี้ก็เรียนคล้ายๆกัน และน้องจะเข้าใจว่าไอเครื่องสี่เหลี่ยมๆนี่มันโคตรมหัศจรรย์มากกว่านั่งกดคีย์บอร์ด
พอขึ้นปี 3 พวกวิชาเลือกก็สนุก ถ้าเลือกตรงกับที่ตัวเองสนใจ มันจะมันส์มาก
พวกวิชาเลือก(ของซอฟนะ แต่จริงๆมันก็เหมือนกันหลายวิชา) อย่างเช่น Machine Learning, Data Mining, Computer Security, Software Testing, Data Warehouse และอีกเยอะะะะะะะะ ขออาจารย์เปิดวิชาที่สนใจก็ได้ แต่ต้องมีคนเรียนเยอะๆนิดนึง

วิชาที่คอมเรียน แต่ซอฟไม่เรียนก็มี Intro Elec ฯลฯ พวกที่เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ทั้งหลาย ไม่เคยแตะเลย
วิชาที่ซอฟเรียน คอมไม่เรียนก็มี OOP(เขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ), Software Specification(อันนี้ก็ได้รับ requirement จากลูกค้าจริงๆ เอามาใช้จริงๆ และเขียนโปรแกรมจนหัวฟูจริงๆ)
พี่อยู่ซอฟเลยมีข้อมูลของซอฟมากกว่าไม่ว่ากันเนาะ 555555555

ถามว่า เขียนโปรแกรมไม่เป็นเลย เรียนได้ไหม
เรียนได้ค่ะ พี่เพิ่งรู้จักว่ามันเขียนโปรแกรมยังไงก็เพิ่งตอนม.5 เอง 5555555
เคยเขียนหุ่นยนต์แบบโง่ๆตัวนึง แล้วก็มาฟาดใหม่ตอนปี 1 ซึ่งพี่จะบอกว่า มันไก่มาก
เหมือนต้องเรียนใหม่หมด เพราะพื้นฐานที่ตัวเองมี จะเรียกว่าไม่มีเลยก็ย่อมได้ 555555
และมีคนที่ไปเริ่มตอนปี 1 ใหม่เยอะ บอกเลย เยอะ ตอนนี้ก็พยุงกันไป
และมันจะมีพวกปรับพื้นฐานโดยรุ่นพี่อยู่แล้ว ถ้าเป็นภาคซอฟก็จะมีค่าย SOS (ปีหน้าก็ครั้งที่ 3 ล่ะมั้ง)
ฝึกให้น้องเขียนโปรแกรมพื้นๆให้ได้ ซึ่งรับผิดชอบโดยพี่ปี 2
และภาคคอมทุกๆปีจะมีติว C# รับผิดชอบโดยพี่ปี 2 เช่นกัน
(ซอฟปี 1 เปลี่ยนหลักสูตร เรียน Java อย่างเดียวแล้วนะ สมัยพี่เรียนทั้ง C# ทั้ง Java)

ถามว่า เด็กโอเยอะไหม
มีนะ เด็กโอ เด็กไม่โอ แต่เด็กเทพเจ้าก็มี
อารมณ์แบบเรานั่งเขียนอยู่ตั้ง 3 วัน บางคน 30 นาทีก็เสร็จแล้ว เราจะเรียกเค้าว่าเทพเจ้า
แต่รุ่นของพี่ เทพเจ้าก็มีเยอะ เทพเจ้าส่วนมากจะสามารถบรรลุได้แม้จะไม่เรียน ช่างเทพเจ้าจริงๆ
แต่เทพเจ้ามักใจดี คอยสอนเด็กไม่โอเคแบบพี่อยู่ทุกเทอม 555555 เป็นอารมณ์ รักนะ เทพเจ้า
เพราะงั้นอย่าไปหวั่น เทพเจ้าปกติเค้าน่ารักทุกคน มีปัญหาก็ถาม มีคำถาม สงสัยไปก็เท่านั้น หาคำตอบเลยดีกว่า
เพื่อนก็มี อาจารย์ก็มี หนังสือก็มี อากู๋ก็มี ไม่ต้องกลัว

ถามว่า มีแต่เด็กเนิร์ดใส่แว่นไหม
พี่เนิร์ดไหมละเนี่ย 55555555555555 คือพี่อยากจะบอกว่ามันเป็นอารมณ์ ศูนย์รวมอินดี้อ่ะน้อง
มีตั้งแต่เทพเจ้าอย่างที่บอก นักดนตรีที่เมพมากๆออกซิงเกิ้ลก็มี ตัวละครลับที่จะเห็นเฉพาะในห้องสอบ คนตามหาฝัน คนเพ้อเจ้อ(พี่เอง)
คนหลายประเภทมาก แต่สังคมดีนะ นี่พูดเลย รุ่นพี่รุ่นน้องเพื่อนพ้องสนิทกันหมดทั้งคอมทั้งซอฟ อยู่แล้วจะซึ้ง

ถามว่า เรียนยากไหม
นี่ซ้ำรึเปล่าเนี่ย เหมือนเดิมค่ะ เพื่อนก็มี อาจารย์ก็มี หนังสือก็มี อากู๋ก็มี ไม่ต้องกลัว
สังคมที่นี่ดีมาก เพื่อนคือเพื่อน เพื่อนงงก็สอน เพื่อนสอนก็เอาไปสอนคนอื่นต่อ เราไม่เห็นแก่ตัว ไม่มีกั๊ก ไม่รู้จะกั๊กทำไม เราชอบแชร์กันมากกว่า
นอกจากนี้ ถ้ามีโอกาส ควรจะลงเรียนกับอาจารย์ในตำนาน ถ้าเข้ามาก็จะเข้าใจ ดีจริงนะ นี่พูดเลย
และน้องสามารถเข้าไป Sit in นั่งเรียนวิชาอื่นๆที่ไม่ได้ลงทะเบียนเรียนได้ด้วย นั่งเอาความรู้ อะไรงี้

ถามว่า รุ่นพี่น่ารักไหม
มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ใช่ละ 5555555


บางอย่างเท่าที่อ่านหลายๆคอมเม้นท์ ยังมีอะไรที่เข้าใจผิดไปบ้าง ในมุมมองของพี่นะ
สายคอมนี่ มันไม่ใช่สายท่องจำนะ อันนี้พี่พูดจริงๆ ท่องจำให้ตาย ถ้าไม่เข้าใจเลย มันไร้ประโยชน์มากๆ
อารมณ์ว่ารู้ว่าเลขอะไรเป็นเลขอะไร แต่เอาไปใช้งานไม่เป็น มันก็เท่านั้น
พี่ไม่อยากพูดว่า "ตอนสอบ" ท่องไปก็ทำไม่ได้ แต่คือข้อสอบของที่นี่โดยปกติแล้ว มันเป็นอะไรที่เอาไปใช้งานจริงแน่ๆ
พี่เงิบมาแล้ว กับวิชาที่ตัวเองคิดว่าทำได้ ถามอะไรตอบได้ เป๊ะมาก
แต่เอาเข้าจริง คือพี่ไม่ได้เข้าใจมัน ออกแนวท่อง มโนไปเองว่าเข้าใจ ก็มีปิ๋วบ้างอะไรบ้าง
ลงเรียนใหม่ ตั้งใจกว่าเดิม อารมณ์ว่าถ้าไม่ถ่องแท้ แม่จะไม่นอน 5555555 พอผลออกมาแล้ว รู้สึกถึงความแตกต่างเลย
มันต้องแบบนี้ดิ่ ถึงจะเรียกว่าเรียนเอาความรู้ ไม่ใช่เรียนแบบนกแก้วนกขุนทอง

ส่วนเขียนโปรแกรม เปิดเว็บมีเว็บสอนก็เขียนได้นะ อันนี้ไม่เถียงเลย
แต่เราเขียนอย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหนล่ะ เปลืองทรัพยากรไหม เปลือง Cache ไหม อะไรไหม
แบบนี้ถ้ามัน Duplicate ต้องจัดการยังไง ต้องทำยังไง
ซึ่งวิธีง่ายที่สุดที่จะเข้าใจก็คือต้องเรียน เพราะเค้ารวบรวมมาให้เราแล้ว บอกแนวทางเราแล้ว
ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเราที่จะศึกษาเพิ่มเติมจากในห้องอีก เราสนใจเรื่องไหนก็จัดเลย เรียนไปไม่เสียเปล่า


สรุป สุดท้าย ง่ายๆ
ถ้าน้องเป็นคนขยัน กระตือรือล้น ตั้งใจหาเรื่องใส่ตัวเสมอๆ
และก็พยายามค้นคว้าหาวิธีแก้เรื่องที่เอามาใส่ตัวนี่ มันไม่มีอะไรยากเกินความสามารถหรอกค่ะ
ถามตัวเองว่า ชอบที่จะเรียนรู้ไหม เพราะมันเป็นสายงานที่ต้องตามอะไรๆให้ทันเสมอๆ
สมมติ ถ้าน้องมาสายโปรแกรมนะ ภาษาที่น้องเขียนวันนี้อีก 3 ปีข้างหน้า มันอาจจะล้าสมัยแล้วก็ได้ น้องก็ต้องศึกษาใหม่เรื่อยๆ
เป็นสายงานที่ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต ถามตัวเองก่อนว่าชอบหรือเปล่า พร้อมจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ หาอะไรใหม่ๆใส่ตัวหรือเปล่า ขยันหรือเปล่า
ถ้าใช่ พี่ว่าที่นี่มันเป็นคำตอบของน้องค่ะ

พี่ก็จะจบแล้ว ปีหน้าก็ขึ้นปี 4 เพราะงั้นถ้าน้องเข้าปีนี้ เราคงได้เจอกันนะน้องนะ
หลังไมคค์มาคุยก็ได้นะคะ เฟสก็ได้ เพจก็ได้ แล้วแต่หนูสะดวก พี่สะดวก ALL (แต่หลังไมค์จะไม่ค่อยได้อ่านนะ)