ความเชื่อ
เมื่อสิ้นสุดลมหายใจ คงไม่มีใครรู้ความจริงในโลกหลังความตายเป็นเช่นไร ถ้าคุณไม่ได้สัมผัสความตายด้วยตัวคุณเอง นรกหรือสวรรค์เป็นเช่นไรใครจะบอกได้ เรื่องพวกนี้มันเป็นเพียงความเชื่อที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้...
“ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่มันจะไปจบที่ตรงไหน แต่จะยังไงก็ต้องไปให้ถึงที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำว่าครั้งหนึ่งเคยก้าวไป
แค่คนที่เชื่อในความฝัน จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป” เฮ้ย!!!ไม่ใช่ นั้นมันเพลงของ เบอร์ดี้หนึ่งในใจคุณ เฮ้ย!!!ไม่ใช่ บอดี้สลัม เฮ้ย!!!ไม่ใช่ บอดี้สแลม เฮ้ย!!! ถูกแล้ว!!!
ไอข้างบนที่เขียนไปอย่าไปสนใจเลยครับ ผมแค่อยากเล่นมุขเฉยๆ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าจะช้าอยู่ทำไมกัน เข้าเรื่องเลยนะครับ ความเชื่อเรื่องต่างๆมามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของเราเสมอ เช่น ทำบุญใส่บาตรตอนเช้า ทำบุญเพื่อหวังจะได้บุญให้ส่งผลในชาตินี้ไม่ก็ ชาติหน้า นี้ก็เป็นความเชื่อในเรื่องของศาสนา ศาสนาสอนผมเชื่อในเรื่องบุญเรื่องกรรมเพราะอะไรผมไม่รู้ แต่ที่ผมรู้คือศาสนาสอนให้เราทำดีแล้วจะได้บุญ ทำชั่วก็จะได้รับผลกรรมที่ได้ทำ ทำดีขึ้นสวรรค์ทำชั่วตกนรก เด็ก 5 ขวบยังรู้เลย แต่ทำไมผู้ใหญ่ยังถึงติดคุกกันเป็นว่าเล่น นอนอยู่ในห้องสีเหลี่ยมที่ไร้อิสรภาพ
“มันชังน่าหดหู่ที่จิตใจส่วนดีของเราในตอนเด็กหายไปเหลือแต่กากของความเลวให้เราลิ้มลองเมื่อเติมโต”
จากตอน “ความเชื่อ” นี้สมองพังเพียงแค่อยากจะบอกจากใจ จริง จริง... ว่าท่านรู้อยู่ในใจแล้วว่าความเชื่อไหนมันเป็นความเชื่อที่ไร้สาระ ความเชื่องมงาย ความเชื่อไหนมันมีเหตุผลที่ควรเชื่อ ความเชื่อไหนที่ตัวเราควรมี คุณผู้อ่านแยกแยะออกได้อยู่แล้ว เพียงแต่คุณผู้อ่านบางท่านหลงลืม
ความมีเหตุผล...
ยอมแพ้ต่อจิตใจตัวเอง...
ไม่ยอมเชื่อตัวเอง...
หลงลืมความมีแหตุผลยังไง แพ้ต่อจิตใจยังไง ไม่ยอมเชื่อตัวเองยังไง ผมขอเขียนถึงสิ่งที่คุณผู้อ่านอาจมองว่าผมเป็นคนบาปก็ได้ ผมกลัวที่จะถูกมองว่าเป็นคนบาป แต่ว่าผมก็ยังอยากที่จะเขียนต่อไปให้คุณผู้อ่านได้คิดในสมองดีๆที่ไม่ได้คิดแบบสมองพังเหมือนหนังสือเล่มนี้
ครับ!!! ผมจะพูดถึงเรื่องความเชื่อเรื่อง บุญ... กรรม...
บุญเราจะเอาบุญไปทำอะไร!!! คนส่วนมากที่ทำบุญคงหวังที่จะได้รับผลบุญจากสิ่งที่กระทำไป บุญอาจจะแปรเปลี่ยนจากสิ่งที่มองไม่เห็นกลายเป็นทำให้เรารู้สึกได้และรู้สึกดีซะด้วย บุญที่เราใส่บาตรตอนเช้าสิ่งที่เราได้จริงๆคือความสุขในการให้ ความสุขที่ให้พระท่านได้อิ่มและเมื่อพระท่านอิ่มพระท่านก็จะมีแรงที่จะสอนคำสอนที่ดีๆต่อไป แต่บุญไม่อาจจะทำเช่นตัวอย่างนี้ได้ เช่นผลจากการที่ใส่บาตรหน้าบ้านทุกเช้าอาจจะได้บ้านหลังโตในอนาคต แอะ!!! แค่ทำบุญทุกเช้าแล้วบ้านหลังโตมาจากไหน... หรือทำบุญทุกเช้าแล้วลูกจากเด็กติดยามันจะกลายเป็นเด็กดีแล้วเลิกยาได้ หรือทำบุญทุกเช้าแล้วชีวิตนี้จะไม่เจอความทุกข์มีแต่ความสุข หรือทำบุญทุกเช้าเพื่อหวังว่าเราจะได้ในสิ่งที่เราอธิษฐาน
“คุณทำบุญเพราะต้องการในสิ่งเหล่านี้หรือเปล่า”
คำเตือน***
“อธิษฐานทั้งชีวิตก็ไม่ได้สิ่งที่อธิษฐาน เพราะคำอธิษฐานมันไม่มีจริง”
มีต่อนะครับ... ยังไม่จบครับ
ความเชื่อ โดย.เขียนฟ้า แบ่งปันความคิด...
ความเชื่อ
เมื่อสิ้นสุดลมหายใจ คงไม่มีใครรู้ความจริงในโลกหลังความตายเป็นเช่นไร ถ้าคุณไม่ได้สัมผัสความตายด้วยตัวคุณเอง นรกหรือสวรรค์เป็นเช่นไรใครจะบอกได้ เรื่องพวกนี้มันเป็นเพียงความเชื่อที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้...
“ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่มันจะไปจบที่ตรงไหน แต่จะยังไงก็ต้องไปให้ถึงที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำว่าครั้งหนึ่งเคยก้าวไป
แค่คนที่เชื่อในความฝัน จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป” เฮ้ย!!!ไม่ใช่ นั้นมันเพลงของ เบอร์ดี้หนึ่งในใจคุณ เฮ้ย!!!ไม่ใช่ บอดี้สลัม เฮ้ย!!!ไม่ใช่ บอดี้สแลม เฮ้ย!!! ถูกแล้ว!!!
ไอข้างบนที่เขียนไปอย่าไปสนใจเลยครับ ผมแค่อยากเล่นมุขเฉยๆ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าจะช้าอยู่ทำไมกัน เข้าเรื่องเลยนะครับ ความเชื่อเรื่องต่างๆมามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของเราเสมอ เช่น ทำบุญใส่บาตรตอนเช้า ทำบุญเพื่อหวังจะได้บุญให้ส่งผลในชาตินี้ไม่ก็ ชาติหน้า นี้ก็เป็นความเชื่อในเรื่องของศาสนา ศาสนาสอนผมเชื่อในเรื่องบุญเรื่องกรรมเพราะอะไรผมไม่รู้ แต่ที่ผมรู้คือศาสนาสอนให้เราทำดีแล้วจะได้บุญ ทำชั่วก็จะได้รับผลกรรมที่ได้ทำ ทำดีขึ้นสวรรค์ทำชั่วตกนรก เด็ก 5 ขวบยังรู้เลย แต่ทำไมผู้ใหญ่ยังถึงติดคุกกันเป็นว่าเล่น นอนอยู่ในห้องสีเหลี่ยมที่ไร้อิสรภาพ
“มันชังน่าหดหู่ที่จิตใจส่วนดีของเราในตอนเด็กหายไปเหลือแต่กากของความเลวให้เราลิ้มลองเมื่อเติมโต”
จากตอน “ความเชื่อ” นี้สมองพังเพียงแค่อยากจะบอกจากใจ จริง จริง... ว่าท่านรู้อยู่ในใจแล้วว่าความเชื่อไหนมันเป็นความเชื่อที่ไร้สาระ ความเชื่องมงาย ความเชื่อไหนมันมีเหตุผลที่ควรเชื่อ ความเชื่อไหนที่ตัวเราควรมี คุณผู้อ่านแยกแยะออกได้อยู่แล้ว เพียงแต่คุณผู้อ่านบางท่านหลงลืม
ความมีเหตุผล...
ยอมแพ้ต่อจิตใจตัวเอง...
ไม่ยอมเชื่อตัวเอง...
หลงลืมความมีแหตุผลยังไง แพ้ต่อจิตใจยังไง ไม่ยอมเชื่อตัวเองยังไง ผมขอเขียนถึงสิ่งที่คุณผู้อ่านอาจมองว่าผมเป็นคนบาปก็ได้ ผมกลัวที่จะถูกมองว่าเป็นคนบาป แต่ว่าผมก็ยังอยากที่จะเขียนต่อไปให้คุณผู้อ่านได้คิดในสมองดีๆที่ไม่ได้คิดแบบสมองพังเหมือนหนังสือเล่มนี้
ครับ!!! ผมจะพูดถึงเรื่องความเชื่อเรื่อง บุญ... กรรม...
บุญเราจะเอาบุญไปทำอะไร!!! คนส่วนมากที่ทำบุญคงหวังที่จะได้รับผลบุญจากสิ่งที่กระทำไป บุญอาจจะแปรเปลี่ยนจากสิ่งที่มองไม่เห็นกลายเป็นทำให้เรารู้สึกได้และรู้สึกดีซะด้วย บุญที่เราใส่บาตรตอนเช้าสิ่งที่เราได้จริงๆคือความสุขในการให้ ความสุขที่ให้พระท่านได้อิ่มและเมื่อพระท่านอิ่มพระท่านก็จะมีแรงที่จะสอนคำสอนที่ดีๆต่อไป แต่บุญไม่อาจจะทำเช่นตัวอย่างนี้ได้ เช่นผลจากการที่ใส่บาตรหน้าบ้านทุกเช้าอาจจะได้บ้านหลังโตในอนาคต แอะ!!! แค่ทำบุญทุกเช้าแล้วบ้านหลังโตมาจากไหน... หรือทำบุญทุกเช้าแล้วลูกจากเด็กติดยามันจะกลายเป็นเด็กดีแล้วเลิกยาได้ หรือทำบุญทุกเช้าแล้วชีวิตนี้จะไม่เจอความทุกข์มีแต่ความสุข หรือทำบุญทุกเช้าเพื่อหวังว่าเราจะได้ในสิ่งที่เราอธิษฐาน
“คุณทำบุญเพราะต้องการในสิ่งเหล่านี้หรือเปล่า”
คำเตือน***
“อธิษฐานทั้งชีวิตก็ไม่ได้สิ่งที่อธิษฐาน เพราะคำอธิษฐานมันไม่มีจริง”
มีต่อนะครับ... ยังไม่จบครับ