วันนี้ได้รับสายตรงจากพี่แปร๋นหัวหน้าแผนก....ซึ่งทำให้เรามึนๆ ปนดีใจ แล้วก็รู้สึกเหมือนงานเข้าไปในตัว โดยมีเนื้อหาประมาณว่า
พี่แปร๋น: พี่จะให้ไปช่วยคุมพนักงานที่จะไปฝึก Internship เป็นเวลา 1 เดือน เริ่มไปตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนา - 25 กรกฎา หนูจะไปไหม ตอนนี้หนูเป็น candidate ตัวเลือกแรกที่จะได้ไปนะ อีกคนคือพี่จ๊ะจ๋า ปกติทุกปีจะเป็นพี่ป้อแป้ไปคุม แต่ปีนี้พี่ป้อแป้เบื่อไม่อยากไปแล้ว และหนูเองจะ related กับทางพี่ป้อแป้มากกว่าแล้วหนูก็เป็นภาษาจีนด้วย พี่เลยมาถามหนู หนูอยากไปไหม
เรา: ห้ะ! อ๋ออ ค่ะ ไปทำอะไรบ้างคะ ไปอยู่เดือนนึงเลยใช่ไหมคะ (คือเริ่มเรียบเรียงที่พี่เค้าเล่ามาไม่ถูก) ((ใจเต้นตึกตัก))
พี่แปร๋น: ใช่จ่ะ ไปอยู่เลยกินนอนที่โน่น นี่ถือเป็นโอกาสเลยนะ
เรา: แล้วหนูต้องให้คำตอบเลยไหมคะ ขอปรึกษาที่บ้านก่อนได้หรือเปล่า (ต่างประเทศก็ไม่เคยไปอยู่อาศัย เคยแต่ไปเที่ยวไม่กี่วันก็กลับ)
พี่แปร๋น: ได้สิ บอกพี่วันพุธนี้ทันไหม อย่าลืมไปปรึกษาพี่ยอดยง (แฟนเรา) ด้วยนะ คงคิดถึงเราแย่ถ้าเราต้องไปตั้งเดือนนึง!
เรา: แหะๆ ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวหนูได้คำตอบแล้วจะรีบมาแจ้งให้ทราบค่ะ
ด้วยความงงๆ หลังจากวางสายไม่นานเราเลยเดินไปหาพี่จ๊ะจ๋าที่โต๊ะเพื่อจะถามเรื่องรายละเอียดทริปนี้ พี่จ๊ะจ๋าเล่าด้วยใบหน้านิ่งเฉยว่าพี่ป้อแป้มาชวนให้ไปทำแทน พี่เลยมาแจ้งพี่แปร๋น แต่พี่แปร๋นบอกว่าแก (หมายถึงเรา) น่าจะเป็นคนไปนะ ส่วนตัวเค้ายังไงก็ได้นะ เค้าว่างอยู่แล้วไปได้ แต่ถ้าแกอยากไปก็ไปเถอะ . . . ตะ ดึง ตึ่ง โป๊ะ! ((อาไรฟร่ะ))
คือเราและพี่จ๊ะจ๋า (เคยนั่งทำงานติดกัน เลยสนิทกัน)ได้เป็นหนึ่งในวันเดอร์ฟูลเกิร์ลผู้โชคดี (มั้ง) ที่ถูกเล็งจะให้ไปทำงานที่จีนเพื่อไปคุมพนักงานที่จะไปฝึก Internship เป็นเวลาหนึ่งเดือน เนื่องจากพี่ป้อแป้ที่เคยไปดูแลเป็นประจำเค้าไม่สะดวก เค้าเลยมาชวนพี่จ๊ะจ๋าไปแทน พี่จ๊ะจ๋าด้วยความดีใจตอบตกลงทันทีและไปบอกพี่แปร๋นหัวหน้าแผนก (หัวหน้าแผนกของเราด้วย) พี่แปร๋นกับพูดว่าทำไมไม่ใช่เราไปเพราะว่าตำแหน่งและ scope งานของเรามันจะใกล้เคียงกับพี่ป้อแป้มากกว่า แล้วเราก็พอมีพื้นฐานของภาษาจีน (งูๆ ไก่ๆ ปลาๆ) พูดจบดังนั้นพี่แปร๋นเลยต่อสายตรงหาเรา พี่จ๊ะจ๋าคงจะเสียอารมณ์นะเราเข้าใจ
เราเลยกลับโต๊ะทำงานโทรปรึกษาที่บ้าน มีแต่คนดีใจบอกว่าเป็นโอกาสอันงดงาม... ไปเถอะลูก เดือนเดียวไม่นาน เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก้าวไกลมีทั้ง skype, factime, tango, lines, และอื่นๆ อีก แยะเว่อร์
เราเลยโทรหาพี่ยอดยง (แกก็กำลังทำงานเครียดๆ อยู่ด้วย)
เรา: พี่ยอดยง ที่ทำงานจะให้เค้าไปทำงานที่จีนแหล่ะ
พี่ยอดยง: หรอ ไปกี่วันละ
เรา: เดือนนึงอะ
พี่ยอดยง: ห้ะ! (น้ำเสียงอึ้งๆ ปนตกใจ)
เราเลยเล่าให้ฟังคร่าวๆ พี่ยอดเลยบอกว่าถ้าจ๊ะจ๋าอยากไปมากก็ให้จ๊ะจ๋าไปสิ ที่รักไม่ต้องไปหรอกนานเกินเค้าคิดถึง
อึ้ง.... (รอบที่เท่าไหร่แล้วฟร่ะ)
เรา: โอเครรรร เดี๋ยวคิดดูก่อนดีกว่า พี่ยอดยงไปทำงานต่อเถอะ เย็นนี้คุยกัน Love Love
และก็วางหูไป
เราเลยมานั่งถามใจตัวเอง แน่นอนชั้นก็อยากไปนะ แต่ก็เกรงใจพี่จ๊ะจ๋าเค้าด้วยอะ ถ้าเราตกปากรับคำพี่แปร๋นไปกลัวพี่เค้าจะเสียความรู้สึก ส่วนพี่ยอดนั้นไม่เป็นไรหากเราตัดสินใจไปก็จะเป็นการดูอะไรหลายๆอย่าง แค่เดือนเดียวเอง... แป๊ปเดียวก็กลับบ้านแล้ว (มั้ง)
คือเราคิดมากอะ ทั้งหมดที่เล่ามาอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆ คนอื่นอะ ว่าจะตัดสินใจไปไหม หรือว่าจะให้พี่จ๊ะจ๋าไปดี
****โอกาสมาก็ควรคว้า แล้วมิตรภาพละ จะปล่อยไปง่ายๆ หรอ****
Tag ไกลบ้านเพราะอยากทราบว่าถ้าเกิดได้ไปอยู่ที่จีน (เซี่ยงไฮ้) หนึ่งเดือน เราจะต้องปรับตัวอะไรเยอะมากไหม หรือมีอะไรที่อยากแนะนำก็บอกมาได้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ (กราบทรีไทมส์)
พี่ที่สนิทกับเราได้เป็น candidate ไปทำงานที่จีน 1 เดือน แต่สุดท้ายเค้าจะให้ไปแค่คนเดียว....งานเข้าาาาา
พี่แปร๋น: พี่จะให้ไปช่วยคุมพนักงานที่จะไปฝึก Internship เป็นเวลา 1 เดือน เริ่มไปตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนา - 25 กรกฎา หนูจะไปไหม ตอนนี้หนูเป็น candidate ตัวเลือกแรกที่จะได้ไปนะ อีกคนคือพี่จ๊ะจ๋า ปกติทุกปีจะเป็นพี่ป้อแป้ไปคุม แต่ปีนี้พี่ป้อแป้เบื่อไม่อยากไปแล้ว และหนูเองจะ related กับทางพี่ป้อแป้มากกว่าแล้วหนูก็เป็นภาษาจีนด้วย พี่เลยมาถามหนู หนูอยากไปไหม
เรา: ห้ะ! อ๋ออ ค่ะ ไปทำอะไรบ้างคะ ไปอยู่เดือนนึงเลยใช่ไหมคะ (คือเริ่มเรียบเรียงที่พี่เค้าเล่ามาไม่ถูก) ((ใจเต้นตึกตัก))
พี่แปร๋น: ใช่จ่ะ ไปอยู่เลยกินนอนที่โน่น นี่ถือเป็นโอกาสเลยนะ
เรา: แล้วหนูต้องให้คำตอบเลยไหมคะ ขอปรึกษาที่บ้านก่อนได้หรือเปล่า (ต่างประเทศก็ไม่เคยไปอยู่อาศัย เคยแต่ไปเที่ยวไม่กี่วันก็กลับ)
พี่แปร๋น: ได้สิ บอกพี่วันพุธนี้ทันไหม อย่าลืมไปปรึกษาพี่ยอดยง (แฟนเรา) ด้วยนะ คงคิดถึงเราแย่ถ้าเราต้องไปตั้งเดือนนึง!
เรา: แหะๆ ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวหนูได้คำตอบแล้วจะรีบมาแจ้งให้ทราบค่ะ
ด้วยความงงๆ หลังจากวางสายไม่นานเราเลยเดินไปหาพี่จ๊ะจ๋าที่โต๊ะเพื่อจะถามเรื่องรายละเอียดทริปนี้ พี่จ๊ะจ๋าเล่าด้วยใบหน้านิ่งเฉยว่าพี่ป้อแป้มาชวนให้ไปทำแทน พี่เลยมาแจ้งพี่แปร๋น แต่พี่แปร๋นบอกว่าแก (หมายถึงเรา) น่าจะเป็นคนไปนะ ส่วนตัวเค้ายังไงก็ได้นะ เค้าว่างอยู่แล้วไปได้ แต่ถ้าแกอยากไปก็ไปเถอะ . . . ตะ ดึง ตึ่ง โป๊ะ! ((อาไรฟร่ะ))
คือเราและพี่จ๊ะจ๋า (เคยนั่งทำงานติดกัน เลยสนิทกัน)ได้เป็นหนึ่งในวันเดอร์ฟูลเกิร์ลผู้โชคดี (มั้ง) ที่ถูกเล็งจะให้ไปทำงานที่จีนเพื่อไปคุมพนักงานที่จะไปฝึก Internship เป็นเวลาหนึ่งเดือน เนื่องจากพี่ป้อแป้ที่เคยไปดูแลเป็นประจำเค้าไม่สะดวก เค้าเลยมาชวนพี่จ๊ะจ๋าไปแทน พี่จ๊ะจ๋าด้วยความดีใจตอบตกลงทันทีและไปบอกพี่แปร๋นหัวหน้าแผนก (หัวหน้าแผนกของเราด้วย) พี่แปร๋นกับพูดว่าทำไมไม่ใช่เราไปเพราะว่าตำแหน่งและ scope งานของเรามันจะใกล้เคียงกับพี่ป้อแป้มากกว่า แล้วเราก็พอมีพื้นฐานของภาษาจีน (งูๆ ไก่ๆ ปลาๆ) พูดจบดังนั้นพี่แปร๋นเลยต่อสายตรงหาเรา พี่จ๊ะจ๋าคงจะเสียอารมณ์นะเราเข้าใจ
เราเลยกลับโต๊ะทำงานโทรปรึกษาที่บ้าน มีแต่คนดีใจบอกว่าเป็นโอกาสอันงดงาม... ไปเถอะลูก เดือนเดียวไม่นาน เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก้าวไกลมีทั้ง skype, factime, tango, lines, และอื่นๆ อีก แยะเว่อร์
เราเลยโทรหาพี่ยอดยง (แกก็กำลังทำงานเครียดๆ อยู่ด้วย)
เรา: พี่ยอดยง ที่ทำงานจะให้เค้าไปทำงานที่จีนแหล่ะ
พี่ยอดยง: หรอ ไปกี่วันละ
เรา: เดือนนึงอะ
พี่ยอดยง: ห้ะ! (น้ำเสียงอึ้งๆ ปนตกใจ)
เราเลยเล่าให้ฟังคร่าวๆ พี่ยอดเลยบอกว่าถ้าจ๊ะจ๋าอยากไปมากก็ให้จ๊ะจ๋าไปสิ ที่รักไม่ต้องไปหรอกนานเกินเค้าคิดถึง
อึ้ง.... (รอบที่เท่าไหร่แล้วฟร่ะ)
เรา: โอเครรรร เดี๋ยวคิดดูก่อนดีกว่า พี่ยอดยงไปทำงานต่อเถอะ เย็นนี้คุยกัน Love Love
และก็วางหูไป
เราเลยมานั่งถามใจตัวเอง แน่นอนชั้นก็อยากไปนะ แต่ก็เกรงใจพี่จ๊ะจ๋าเค้าด้วยอะ ถ้าเราตกปากรับคำพี่แปร๋นไปกลัวพี่เค้าจะเสียความรู้สึก ส่วนพี่ยอดนั้นไม่เป็นไรหากเราตัดสินใจไปก็จะเป็นการดูอะไรหลายๆอย่าง แค่เดือนเดียวเอง... แป๊ปเดียวก็กลับบ้านแล้ว (มั้ง)
คือเราคิดมากอะ ทั้งหมดที่เล่ามาอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆ คนอื่นอะ ว่าจะตัดสินใจไปไหม หรือว่าจะให้พี่จ๊ะจ๋าไปดี
****โอกาสมาก็ควรคว้า แล้วมิตรภาพละ จะปล่อยไปง่ายๆ หรอ****
Tag ไกลบ้านเพราะอยากทราบว่าถ้าเกิดได้ไปอยู่ที่จีน (เซี่ยงไฮ้) หนึ่งเดือน เราจะต้องปรับตัวอะไรเยอะมากไหม หรือมีอะไรที่อยากแนะนำก็บอกมาได้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ (กราบทรีไทมส์)