เตือนภัย สมัครงานกับจัดหางานหรือฟรีแลนซ์

เคยเห็นเต้นท์รับสมัครงานที่มีบอร์ดแปะโบรชัวร์สมัครงาน
พร้อมกับพนักงานหลายคนที่นั่งรอสมัครงานมั้ยคะ หรือที่เรียกว่าพวกฟรีแลนซ์นั่นแหล่ะค่ะ
วันนี้มีเรื่องราว ที่โดนเอาเปรียบเรียกแบบนั้นก็ได้ ด้วยความที่คิดไม่ถึงบวกกับความสะเพร่า
ไม่รู้ไม่ใครเคยโดนบ้างรึเปล่าคะ เราไปเจอแถวๆปทุมธานีค่ะ

เมื่อต้นเดือนเราพาน้องสาวที่เพิ่งจบม.6 ไปหางานทำช่วงปิดเทอม เห็นว่าจะทำงานไม่กี่เดือนเลยคิดว่าน่าจะให้ทำโรงงานดีกว่า
เลยพาไปหางานตามเต้นท์ เข้าไปก็มีคนมาคอยให้คำแนะนำงานที่ติดไว้ที่บอร์ด จากนั้นก็เชิญให้นั่ง
เพื่อเลือกงานจากแฟ้ม เขาก็จะคอยแนะนำว่างานนี้สบายนะ สัวสดิการอย่างนู้นอย่างนี้ พอตกลงเลือกงานเสร็จสรรพ
ตัวเราเองก็ว่างงานแล้วเห็นว่าน้องยังไม่เคยเผชิญโลกภายนอกเลยอยากจะไปทำงานเป็นเพื่อนน้องก่อนค่อยหางานใหม่ไปพลาง
จากนั้นก็กรอกใบสมัคร ฟรีแลนซ์ก็มาตรวจสอบเอกสารเห็นว่าของเราเป็นวุฒิป.ตรีก็จะให้คีย์งานในโรงงานนั้นแทนไปทำในฝ่ายผลิต
หลังจากตกลงกันเสร็จเขาก็บอกว่าต้องตรวจร่างกายนะ แล้วพาเราไปตรวจร่างกายกับคลินิคแถวนั้น

พอเข้าไปในคลินิค สิ่งที่พบคือมีพนักงานใส่ชุดกราวน์สีขาวสามคน ไม่แน่ใจว่าใช่แพทย์หรือไม่
ลืมมองตรวจสอบใบอนุญาตตรวจโรค จากนั้นก็ให้ยื่นเอกสารกับพนักงานชุดกราน์ที่นั่งหน้าคอม
แล้วก็ให้วัดสายตาจากกระดานกับพนักงานชุดกราวน์อีกคน อ่านเสร็จพนักงานชุดกราวน์ที่หน้าคอมก็ถามว่าสายตาปกตินะ
เราก็ตอบว่าไม่ปกติค่ะ สั้น400 แต่สวมคอนแทคเลนส์ เขาบอกว่าไม่ได้นี่ต้องสายปกสั้นไม่เกิน 100 แล้วเขาก็เขียนลงไปว่าปกติ
แล้วบอกกับเราว่าถ้าเขาถามก็ตอบว่าสั้น 100 นะ จากนั้นก็ให้เราไปตรวจปัสสาวะโดยให้ปัสสาวะใส่แก้วแล้วเอามาตั้งพร้อมกับเขียนชื่อบนเศษกระดาษแล้วเอาถ้วยปัสสาวะทับไว้แต่ก็ไม่ได้มีการตรวจมันแต่อย่างใด ต่อมาให้เข้าไปในห้องตรวจ ตรวจวัดความดันอย่างเดียวระหว่างนั้นก็ถามข้อมูลเราไปพลาง
เป็นโรคประจำตัวอะไร ไม่ได้ป่วยอะไรใช่มั้ยมั้ย แล้วก็ปั๊มบนกระดาษผลตรวจว่าปกติซึ่งเอามาจากลที่เราให้ไป ปกติตรวจร่างกายจะต้องเอ๊กซเรย์ด้วยแต่นี่ไม่มี ผลปัสสาวะก็ไม่ได้ตรวจ สรุปว่า ค่าจ้องตัวเลข ค่าปัสสาวะ ค่าโดนเครื่องวัดความดันบีบบวกกับโดนซักไซร้นิดหน่อย
ต้องจ่ายเป็นเงิน 320 บาทถ้วน ซึ่งมันไม่มีใบเสร็จแล้วตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจ

จากนั้นนำใบตรวจโรคกลับมาให้ที่ฟรีแลนซ์ เขาก้ถามว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่ เราขอหลังสงกรานต์ เขาก็ตอบตกลงแล้วขอเก็บเงินค่าบัตรพนักงาน 100 บาท ค่าล็อคเกอร์อีก 100 บาท ซึ่งไม่ได้ใบเสร็จอีกครั้ง จากนั้นก็นัดให้มาอีกทีวันที่ 18 เมษายนเพื่ออบรมก่อนเข้าทำงานให้ไปเจอกันที่นั่นแล้วจะส่งตัวไป


วันนี้เป็นวันที่นัดหมายไว้ เราก็ไปตามนัด พอเจอฟรีแลนซ์คนที่สมัครงานด้วยเขากลับบอกว่า คืออย่างนี้นะน้องงานที่โรงงานนั้นงานนั่งมันเต็ม
น้องเปลี่ยนงานมั้ย น้องเราไม่เคยทำงานมาก่อนเลย เราก็คิดว่ามันคงจะไม่ไหวถ้าต้องเริ่มงานด้วยการยืนทั้งวัน ก็คิดว่าควรเปลี่ยน เลยบอกว่างั้นเปลี่ยนก็ได้ค่ะ แต่ว่างานของเราคืองานคีย์ข้อมูลไม่เกี่ยวกับตรงนั้นเลยถามเขาว่าแล้วงานเราหล่ะ เขากลับเฉไฉบอกว่าเดี๋ยวจะส่งไปอีกบริษัทนึง ประเด็นของเราคือทำงานที่เดียวกับน้องให้มันพอรู้โลกภายนอกก่อนแล้วจะปล่อยมัน เราเลยบอกว่าพี่คะ ทำที่เดียวกันได้มั้ย เขาปัดความรับผิดชอบส่งเราไปหาฟรีแลนซ์อีกที่หนึ่งซึ่งอยู่แถวนั้น ดูจากการคาดการณ์แล้วน่าจะเป็นที่เดียวกันแต่แยกกันไปตามจุดเท่านั้น ฟรีแลนซ์คนใหม่ก้แนะนำงานให้แล้วบอกว่างานต้องรอนะ รอโทรตาม

แล้วบอกทิ้งท้ายว่าวันเริ่มงานต้องเตรียมเงินมานะ ค่ารองเท้าเซฟตี้ 180 บาท ค่าเสื้อตัวละ 180 บาท ซื้อก่อน 2ตัว ค่าล็อคเกอร์ค่าบัตรพนักงานอีก 200บาท ค่าเปิดบัญชีธนาคารอีกต่างหาก สรุปค่าใช้จ่ายประมาณ เกือบๆพัน แล้วต้องเสียค่าตรวจร่างกายใหม่ แล้วให้ตรวจร่างกายตั้งแต่แรกทำไมคะ ใบตรวจโรคก็ยังอยู่ส่วนค่าล็อคเกอร์กับบัตรพนักงานที่จ่ายไปครั้งแรก คาดว่าน่าจะเข้ากระเป๋าฟรีแลนซ์รายแรก เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาไปให้โรงงานเลยในเมื่อยังไม่ได้ส่งตัวพนักงานไป

ดูเหมือนทำกันเป็นขบวนการ ตั้งแต่เริ่มจากฟรีแลนซ์รายแรกที่ขอเก็บค่านู่นนี่ พอถึงเวลาก็บอกว่าพนักงานเต็มต้องเปลี่ยนแล้วเก็บเงินส่วนค่าล็อคเกอร์กับทำบัตรพนักงานไปกินฟรีก่อนต่อแรก จากนั้นต่อที่สองคือคลินิค มีการจ่ายค่าหัวให้จากคลินิคด้วย ต่อที่สามคือฟรีแลนซ์ด่านสุดท้ายที่ขอเก็บค่านู่นี่นั่น
ครั้นจะโทรไปถามที่โรงงานโดยตรงเบอร์ที่ให้มาตามโบรชัวร์บริษัทก็เป็นเบอร์เดียวกันกับคนที่นั่งรอคนมาสมัครงาน อีกอย่างพวกนี้ยังไงก็ได้เงินค่าหัวจากโรงงานอยู่แล้วกินกันจนอิ่มท้องจะแตกกันไปเลยทีเดียว


-ตามกฏหมายแรงงานถ้านายจ้างมีชุดยูนิฟอร์มต้องจัดหาให้ลูกจ้างก่อนอย่างน้อย 1 ชุด
-ไม่แน่ใจว่าคนตรวจเป็นแพทย์หรือแค่เจ้าหน้าที่ ไม่มีการออกใบเสร็จหลังตรวจโรค
-สมัครตำแหน่งหนึ่งถูกย้ายไปอีกตำแหน่งหนึ่ง

อย่าลืมรับใบเสร็จหลังจ่ายเงินทุกครั้งนะคะ จะได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดตามกฏหมายในกรณีที่เกิดปัญหา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่